สวัสดีแฟนเพจ Thinkofliving ที่น่ารักทุกท่าน.. พอดีวันนี้ว่างๆ เราเลยนั่ง BTS ไปหาเพื่อนแถวสถานีบางจากมาแหละ พอถึงสถานีปุ๊บเราก็เห็นคอนโด IDEO สุขุมวิท 93 จาก อนันดา ที่อยู่ใกล้สถานีแบบแทบจะติดกันเลยแค่ประมาณ 90 ม. แถมมี Skywalk ให้เดินไปลงใกล้ๆ หน้าโครงการด้วย ถ้าเวลากลับบ้านกลางคืนดึกๆ เนี่ยเดินกลับโครงการได้ไม่เปลี่ยวเลยนะ ได้ข่าวว่าตึกเพิ่งเสร็จไม่นาน ว่าแล้วเราลอง Walk-in เข้าไปดูกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

15 January 2020

  • IDEO Sukhumvit 93 (ไอดีโอ สุขุมวิท 93)
  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง
  • ที่ดินประมาณ 8-3-59.6 ไร่
  • คอนโด High Rise 1 อาคาร 3 Tower 1,332 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 60 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 40 % (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 52%)
  • สร้างเสร็จพร้อมอยู่ : ปี 2018
  • Studio 25-28 ตร.ม. ราคา Resale เริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 31-47 ตร.ม. ราคา Resale เริ่มต้น 4.5 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 51-69 ตร.ม. ราคา Resale เริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 130,000-170,000 บาท/ตร.ม.
  • โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Ananda โทร  : 02-316-2222
  • The Agent โทร : 02-056-2333

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.698662, 100.604998
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

IdeoS93_Official_Map

สำหรับ IDEO สุขุมวิท 93 ทีมงานเคยพาไปชมทำเลกันไว้แล้วเมื่อตอนเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในช่วงปลายปี 2016 ซึ่งเราสามารถคลิกเข้าไปอ่านรีวิวทำเลฉบับเต็มได้ที่นี่เลย ..เราขอสรุปทำเลแบบสั้นๆ ตามความเห็นส่วนตัวนะว่า ทำเลโครงการนี้ถือว่าเป็นทำเลที่ดีตัวนึงเลย ทั้งในแง่การเดินทางแบบใช้รถกับไม่ใช้รถ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 ไม่ต้องกลับรถไกล จะใช้ BTS ก็มีระยะเดินประมาณ 90 เมตร แถมมี Skywalk ให้เดินไปใกล้โครงการได้มากขึ้น แบบว่าลงจากสะพานลอยมา 20 ม. ก็ถึงโครงการแล้ว ช่วยได้เยอะตอนกลางคืนที่ไม่อยากเดินเปลี่ยวๆ ริมถนนและตอนกลางวันที่แดดเปรี้ยงๆ ก็หลบขึ้นสะพานลอยมาได้เลย ส่วนอาหารการกินอยู่ก็จัดว่าสะดวกสุดๆ เพราะลงมาจากตึกก็มีของกินรอบด้านในราคาย่อมเยา

ส่วนร้านอาหารที่มีราคา มีแบรนด์ขึ้นมาอีกระดับต้องกระเถิบไปสถานีข้างเคียงจะมี Community Mall ให้เลือกเดินกันเยอะเลยหละ ไล่มาจากสถานีอ่อนนุชจะมี T77, Phyll สุขุมวิท 54 และ Century the movie plaza ถัดมาที่สถานีปุณณวิถีมี Whizdom 101 & True Digital Park และไม่ไกลกันจะมี Bangkok Mall ตรงแยกบางนาเรียกว่าถ้าเปิดครบก็มีให้เลือกเดินไม่เบื่อหละกัน

ตั้งแต่วันที่เปิดตัวโครงการจนผ่านมา 3 ปีตอนนี้คอนโดสร้างเสร็จแล้ว (เสร็จปี 2018) เราจะพาไปอัพเดททำเลกันสักนิด ซึ่งเราว่าความอุดมสมบูรณ์ก็ยังคึกคักเหมือนเดิมนะ เป็นพวกร้านอาหาร ร้านค้า ราคาย่อมเยาซะส่วนใหญ่ สำหรับสิ่งที่เราชอบที่สุดของทำเลคอนโดนี้คือ ใกล้รถไฟฟ้าแบบที่เดินกลับบ้านตอนกลางคืนแล้วไม่เปลี่ยว เพราะพอออกจากสถานีก็จะมีสะพานลอยให้เดินต่อมาได้อีกหน่อย ไม่ต้องรีบลงไปเดินริมถนนนะ แล้วพอลงจากสะพานลอยปุ๊บ ก็แค่เดินผ่านตึกแถวอีก 2 ห้อง ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ

Image 1/8
เราลง BTS ที่สถานีบางจาก แล้วเค้ามีทางเดินเชื่อมให้เดินไปจนแทบจะถึงโครงการเลย

เราลง BTS ที่สถานีบางจาก แล้วเค้ามีทางเดินเชื่อมให้เดินไปจนแทบจะถึงโครงการเลย

ถ้าใครคิดจะซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ก็เป็นปกติที่จะลองเอาคอนโดของสถานีใกล้เคียงมาพิจารณาด้วย ทีนี้เราเลยจะพามาดูภาพรวมของคอนโดมิเนียมของ 3 สถานี คือ อ่อนนุช, บางจาก และ ปุณณวิถี ค่ะ

สถานีอ่อนนุช : เป็นทำเลที่อยู่อาศัยแรกๆ ที่อยู่ใกล้เมืองที่สุด ตั้งแต่ช่วงปี 2011 ที่ราคาคอนโดในเมืองเริ่มแพงขึ้น Developer ก็เริ่มมาเปิดขายคอนโดที่สถานีนี้ก่อน เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของอาหารการกิน เพราะมีทั้งตลาดเดิมๆ มีร้านค้าแผงลอยตามซอย, Lotus, Big C ครบ และไม่กี่ปีมานี้ก็มี Community มาเปิดเพิ่มอีก เราจึงจะเห็นว่ามีคอนโดกระจุกตัวรอบๆ สถานีอ่อนนุชเยอะมากทีเดียว ถ้านับคอนโดในระยะเดิน 500 ม. รอบสถานีก็มีเป็น 10 โครงการ และยังไม่นับคอนโดตามซอยย่อยต่างๆ อีก ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีทยอยมาเปิดตามซอยเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ นะคะ เราลองสำรวจราคาคอนโดในย่านนี้  ก็มีช่วงราคาที่กว้างตั้งแต่ 70,000- 180,000 บาท/ตร.ม. เลยทีเดียว แต่คอนโดใกล้สถานีนี้จะสร้างเสร็จมาหลายปีหน่อยนะ

สถานีบางจาก : เป็นสถานีที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารสำนักงาน และไม่ได้มี Hypermarket ใหญ่ๆ แบบสถานีอ่อนนุชนะคะ ส่วนใหญ่แล้วความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้จะเป็นในลักษณะร้านค้าตามตึกแถว และตลาดในซอยซะมากกว่า จึงไม่ได้คึกคักมากนัก ข้อดีคือได้ความสงบ คนไม่พลุกพล่านเท่าอ่อนนุช คอนโดในย่านนี้ก็มีช่วงราคาที่หยิบจับง่ายขึ้นเริ่มตั้งแต่ 50,000 บาท/ตร.ม. เป็นพวกคอนโดเก่าหน่อยในซอย ไปจนถึงคอนโดใหม่ๆ ติดริมถนนสุขุมวิทที่ทำให้ราคาพุ่งไปถึง 170,000 บาท/ตร.ม.

สถานีปุณณวิถี : เป็นสถานีที่เพิ่งโดดเด่นขึ้นมา หลังจากมีการทุบปิยะรมย์สปอร์ตคลับทิ้ง แล้วสร้างโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่อย่าง Whizdom 101 ที่มีทั้งคอนโด, ศูนย์การค้า, True Digital Park ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ราคาคอนโดใหม่ๆ ในย่านนี้พุ่งขึ้นไปแตะ 200,000 บาท/ตร.ม. เลยทีเดียว สรุปช่วงราคาของคอนโดในย่านนี้ก็มีให้เลือกตั้งแต่ 70,000-200,000 บาท/ตร.ม. ค่ะ

สำหรับตัวโครงการ IDEO สุขุมวิท 93 ต้องยอมรับว่าโครงการเราอยู่ที่สถานีที่ไม่ได้คึกคักเท่า 2 สถานีข้างเคียง เพราะเป็นสถานีที่ไม่ได้มีศูนย์การค้า หรือ Hypermarket ให้ช้อปปิ้งอย่างใครเขา ซึ่งทางโครงการก็ได้สร้างจุดแข็งทางด้านทำเลขึ้นมาด้วยการที่มีระยะห่างจากทางขึ้น Skywalk รถไฟฟ้าแค่ 20 ม. เท่านั้น ส่วนตัวเราว่าเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้าจริงๆ กลับบ้านมืดได้ ไม่เปลี่ยว ไลฟ์สไตล์แบบซื้ออาหารทานง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องร้านในห้าง หรือถ้าอยากไปห้างก็ยอมต่อรถไปอีก 1 สถานี

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ถ้ามองภาพรวมของพื้นที่โดยรอบโครงการ จะเห็นว่าเป็นชุมชนพักอาศัยในลักษณะของทาวน์เฮ้าส์และตึกแถวเป็นส่วนใหญ่ ทำให้วิวของโครงการไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าห่วงสักเท่าไหร่ จากแปลนของโครงการ (กรอบสีเหลือง) จะมีห้องพักที่หันออก 2 ฝั่งเท่านั้น คือห้องพักทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (สีแดง) และห้องพักทิศตะวันออกเฉียงใต้ (สีน้ำเงิน)

  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้วิวเมืองที่หันไปทางสถานีบางจาก เป็นวิวของกลุ่มคอนโดหน้าเก่าที่กระจุกตัวอยู่บริเวณสถานี และในอนาคตจะมีคอนโดใหม่ขึ้นมาอีก 1 โครงการ คือ Siamese สุขุมวิท 87 ที่สูง 25 ชั้น มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 330 ม. ไม่ได้อยู่ติดโครงการในระยะที่จะรู้สึกอึดอัด แต่ก็มาบังวิวเมืองไปบางส่วนเหมือนกัน
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะได้วิวเมืองฝั่งที่หันไปทางสถานีปุณณวิถี ส่วนตัวรู้สึกว่าฝั่งนี้วิวโล่งกว่า ตึกสูงที่อยู่ใกล้สุดคือ M Tower อาคารสำนักงาน 21 ชั้น แต่ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ไม่ได้บังวิวตรงๆ ส่วนคอนโด The Line 101 ก็ห่างกันประมาณ 1 กม. แต่ที่ไม่แน่ใจคือมีแปลงที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ที่ห่างโครงการประมาณ 500 ม. ก็ต้องรอดูอีกทีว่าในอนาคตจะถูกพัฒนาเป็นอะไรต่อไปค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS สถานี บางจาก 90 m. (Skywalk BTS บางจาก 20 m.)
  • The Phill 1.3 km.
  • จุดขึ้นทางด่วนขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ด่านสุขุมวิท 62) 1.4 km.
  • Tesco Lotus อ่อนนุช 1.6 km.
  • Wells International School 1.8 km.
  • Anglo-Singapore International School 1.8 km.
  • One Udomsuk 2.6 km.
  • Kluay Nam Thai 2 Hospital 2.7 km.
  • Century Movie Plaza 3 km.
  • Berkeley International School 3.8 km.
  • Sukhumvit Hospital 4.5 km.
  • Gateway เอกมัย 4.6 km.
  • Central บางนา 5.9 km.
  • Bangkok Pattana School 6.7 km.
  • Mega Bangna 12 km.

รายละเอียดโครงการ

ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ก่อนที่เราจะเข้าไปดูบรรยากาศภายในโครงการ เราได้หาข้อมูลคอนโดในละแวกมาให้ดูเปรียบเทียบกัน ซึ่งเราเลือกโครงการ High Rise ที่มีขายทั้งมือ 1 และมือ 2 โดยเราขอเลือกเป็นตึกเสร็จพร้อมเข้าอยู่ที่มีระยะห่างจากสถานีไม่เกิน 200 ม. เพื่อให้ใกล้เคียงกับทำเลของโครงการที่เดินจาก BTS ได้สบายๆ ไปดูกันเลยค่ะ

จุดเด่นแรกเลย คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ทำเล ที่ทั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้าในระยะ 90 ม. แถมมี Skywalk ให้ขึ้นในระยะ 20 ม. ด้วย โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทำให้เรียกรถสาธารณะง่าย

ถัดมาคือเรื่องของราคา Package ต่อห้อง เป็นโครงการที่มีห้องราคา 3 ล้านปลายๆ ในแบบ Studio และห้องราคา 4 ล้านกว่าๆ ในแบบห้อง 1 Bedroom ให้หยิบจับได้ เพราะเค้าทำห้องออกมาหลายขนาด และมีหลายแบบให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย แต่ราคาแบบนี้ก็แลกมากับทำเลของสถานีด้วย โครงการนี้อยู่ที่สถานีบางจาก ราคาก็คงไม่ไปเท่ากับคอนโดที่สถานีอ่อนนุชหรือปุณณวิถีอยู่แล้ว เพราะสภาพความอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อมก็แตกต่างกันค่ะ

สุดท้ายคือเรื่องของส่วนกลางที่ทำออกมาได้ครบครัน น่าใช้งาน โดยให้สระว่ายน้ำมา 2 สระ แต่ส่วนที่ต้องพิจารณาคือจำนวนยูนิตที่มาแชร์กันใช้งานจะเยอะหน่อย เพราะโครงการมีจำนวนห้องถึง 1,300 กว่าๆ ยูนิตทีเดียว

โครงการ IDEO สุขุมวิท 93 เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 3 Tower (A 38 ชั้น, B 27 ชั้น และ C 17 ชั้น) มีจำนวนยูนิต 1,332 ยูนิต ถือว่าเยอะอยู่นะเมื่อเทียบกับคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในละแวกเดียวกัน Tower A, B และ C จะเรียงกันเข้าไปด้านในตามแนวที่ดิน โดย Tower ที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิทที่สุดคือ TowerA และอาคารที่อยู่ลึกสุดคือ Tower C มีระยะของอาคารทั้งหมดยาวประมาณ 150 ม. ถ้าใครอยู่ตึก C ก็ถือว่าต้องเดินเข้าไปลึกเหมือนกันนะคะ

จุดเด่นของโครงการเลยคือทำเลที่มีทางเข้าออกติดถนนสุขุมวิทเลย และติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีบางจากในระยะเดินสบายแค่ 90 ม. ก็ถึงบันไดเลื่อนขึ้นสถานี หรือถ้าไม่อยากเดินริมถนนก็มี Skywalk ให้ขึ้นไปเดินสบายๆ มีทางขึ้นอยู่ใกล้โครงการระยะเพียง 20 ม. ภายนอกโครงการตัวอาคารตกแต่งด้วยสีเทาอ่อนและเข้ม มีการตกแต่งเส้นสีส้มเพิ่มรายละเอียดให้ตัวอาคาร

ผัง Master Plan ของโครงการ IDEO สุขุมวิท 93 ไล่ตั้งแต่ถนนใหญ่เข้ามาจะเจอร้านกาแฟ Starbucks และ 7-11 ที่มาเปิดเพื่ออำนวยความสะดวกให้โครงการ พื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้นนี้จะเป็นที่จอดรถ คือเราสามารถจอดรถชั้นล่างได้รอบโครงการ ส่วนที่จอดรถในอาคารจะอยู่บน Podium ของอาคารตั้งแต่ชั้น 1-4 รวมจอดที่จอดรถซ้อนคันเป็น 52% ส่วนด้านในสุดของโครงการจะมีสวนหย่อมพร้อมลานกิจกรรมอเนกประสงค์ที่โครงการตั้งชื่อว่า Play Scape ซึ่งมาจากคำว่า Play + Landscape ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นสนามบาสเก็ตบอล, วอลเล่ย์บอล และแบดมินตันค่ะ

เข้ามาด้านในอาคารจะเจอกับ Lobby ต้อนรับที่ได้วิวสวนภายในโครงการ สำหรับ Lift Lobby จะมี 2 ตำแหน่ง แยกกันระหว่าง Tower A กับ Tower B, C โดย Lift Lobby ของ Tower A จะอยู่ใกล้กับ Lobby เลย มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และ Service Lift 1 ตัว ส่วน Lift Lobby ของ Tower B, C จะต้องเดินผ่านเข้าไปด้านในอาคารอีกหน่อย มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และ Service Lift 1 ตัว เช่นกัน

บรรยากาศบริเวณทางเดินเข้าโครงการ จะเปิดเป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่ได้มีประตูกั้น เพราะบริเวณด้านหน้ามี Starbucks และ 7-11 ที่เปิดให้ทั้งลูกบ้านและคนภายนอกเข้ามาใช้บริการได้ ส่วนตัวเราชอบให้มีร้านกาแฟอยู่หน้าโครงการแบบนี้นะ เผื่อเวลานัดเจอเพื่อนๆ ก็สามารถนัดที่ร้านกาแฟได้ ไม่ต้องขึ้นไปห้องเรา

ติดกับ Starbucks เลยคือ 7-11 สาขานี้มีขนาดใหญ่อยู่นะ มีของให้เลือกช้อปปิ้งเยอะดี มีน้ำแบบยกแพ็คขายด้วย ไม่ต้องไปโลตัสก็ได้นะแบบนี้

ข้ามถนนไปก็จะเจอทางเข้าอาคารแล้วค่ะ ประตูตรงนี้ยังไม่ต้องใช้ Key Card นะคะ เราสามารถเปิดเข้าไปได้เลย วันนี้เราก็จะมาถามราคาห้องที่ขาย Resale อยู่กันค่ะ

เข้ามาใน Lobby แล้ว บรรยากาศดูโปร่งโล่งดีมากๆ เพราะผนังอาคารเป็นกระจก เปิดให้เห็นวิวและรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้

ติดกับ Reception จะมีบูธของ The Agent ตั้งอยู่ เราสามารถสอบถามราคาห้อง Resale ได้จากที่นี่แหละ และขอติดต่อดูห้องจริงตามชั้นและทิศต่างๆ ที่เราสนใจได้เลย ตอนนี้มีห้อง Resale ทั้งแบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom เลยนะคะ

ปิดท้ายบรรยากาศที่ชั้น 1 ด้วยรูปบริเวณ Play Scape ที่ด้านในสุดของโครงการ ลักษณะเป็นหลายๆ สนามทับซ้อนกัน เพื่อให้เราปรับตามกิจกรรมที่ต้องการเล่นได้ รอบข้างก็ดูเขียวชอุ่มดี มีต้นไม้ให้ร่มเงาอยู่ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นชั้นที่รวม Facilities ส่วนกลางหลักๆ ของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นสวนหย่อม, สระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส พร้อม Social Club, ห้องเด็กเล่นและห้องซาวน่าและเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วย

จุดเด่นของ Facilities โครงการนี้คือ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ โดยสระฝั่งหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือ และสระอีกฝั่งหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ เราจึงมีตัวเลือกอย่างในช่วงเช้าๆ ที่แดดอยู่ทางทิศเหนือเราก็หนีมาเล่นน้ำทางทิศใต้ และช่วงบ่ายก็สลับกัน ซึ่งเป็นสระขนาดใหญ่ทั้งคู่นะคะ มีความยาว 25 ม. และ 45 ม. พร้อมพื้นที่รอบสระ ให้นั่งรับลม ชมวิว แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่อยู่แค่ชั้น 5 ทำให้เรามองเห็นหลังคาของอาคารรอบๆ ที่สูงประมาณ 4-5 ชั้นเท่าๆ กัน ไม่ได้เห็นวิวเมืองโล่งๆ หน่ะสิ และต้องแชร์กันใช้กับเพื่อนๆ ร่วมคอนโดจำนวนเยอะหน่อยถึง 1,300 กว่าๆ ห้องค่ะ

ในส่วนของห้องพักอาศัยที่ Tower A จะมีขนาดห้องที่ใหญ่กว่า Tower B และ C นะคะ เป็นห้องขนาด 51 ตร.ม. 10 ห้อง (สีเทา) และมีห้องขนาดประมาณ 25 ตร.ม.จำนวน 5 ห้อง (สีเทาอ่อน) ส่วน Tower B และ C นั้นเปิดทางเดินให้เชื่อมต่อกันได้และใช้โถงลิฟต์เดียวกัน มีความหนาแน่นของห้องพักต่อชั้นของ Tower A อยู่ที่ 15 ห้อง

จากการจัดผัง Tower B จะอยู่ใกล้โถงลิฟต์ ทำให้เดินไปสระว่ายน้ำหรือฟิตเนสได้สะดวกมาก คนที่ชอบออกกำลังกายน่าจะถูกใจนะ แต่ก็ต้องแลกกับเสียงรบกวนจากการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนTower C คือต้องเดินห่างจากโถงลิฟต์มาหน่อย แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า B ห้องพักของทั้ง 2 Tower จัดมาเป็นยูนิตขนาด 31-43 ตร.ม. และมีห้องพิเศษที่เป็นห้อง+สวนส่วนตัว จำนวน 9 ห้อง รวมห้องพักในชั้นนี้ของทั้ง 2 Tower ได้ 26 ห้อง

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำฝั่งทางทิศใต้ที่อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ชอบตรงที่มีพื้นที่นั่งเล่นด้านข้าง เผื่อใครไม่ได้อยากว่ายน้ำหนักๆ ก็มานั่งเล่นได้

ส่วนนี้คือบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำทางฝั่งทิศเหนือ ที่เป็นสระยาว 45 ม. พร้อมที่นั่งเล่นริมสระแบบมีหลังคากันแดดให้ด้วย

ภาพรวมของสระว่ายน้ำทางฝั่งทิศเหนือ มีการออกแบบลายภายในสระให้เป็นรูปเสือกำลังวิ่ง ตาม Concept “Energetic” คือการอยู่อย่างมีพลัง ด้านข้างสระเป็นห้อง Fitness ที่เราสามารถออกกำลังไปชมวิวสระไปได้ด้วย

ถัดมายังห้อง Social Club ออกแบบมาเป็นขั้นบันได เพื่อเชื่อมต่อกับ Library ที่ชั้น 6

บรรยากาศภายใน Library ที่ชั้น 6 เป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านมานั่งทำงาน ทำการบ้านกันได้

ขึ้นมาที่ชั้น 6 ชั้นนี้จะมีการจัดผังของห้องพักและความหนาแน่นของยูนิตต่อชั้นแทบไม่แตกต่างจากชั้น 5 เลยค่ะ โดย Tower A จะเน้นเป็นห้องใหญ่ 51 ตร.ม. เหมือนเดิม ส่วน Tower B, C จะเน้นห้อง 31-43 ตร.ม. แต่ห้องพัก+สวนส่วนตัวจะไม่มีแล้วนะคะ มีเฉพาะที่ชั้น 5 เท่านั้น รวมความหนาแน่นต่อชั้นของ Tower B+C อยู่ที่ 25 ห้อง

ห้องพักในชั้นนี้มี Value มากขึ้น ก็คือห้องพัก Tower B ทางทิศเหนือที่มองลงไปจะได้วิวสระว่ายน้ำนะคะ และห้องพักของ Tower B ยังอยู่ใกล้กับ Library ด้วย เอาใจใครที่ชอบเอางานมานั่งทำ หรือเปลี่ยนบรรยากาศในการอ่านหนังสือ ก็เดินมาใช้งานง่าย สะดวกดีค่ะ

ขึ้นมาที่ผังชั้น 7, 9, 11, 12, 15, 17 เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นและมี Typical Floor Plan ที่จะเหมือนๆกันหมดตั้งแต่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 17 นะคะ ในชั้นนี้โถงทางเดินจะเชื่อมต่อถึงกันหมดทั้ง Tower A, B, C โดยโครงการยังคงจัดห้องขนาดใหญ่ไว้ใน Tower A เหมือนเดิม เป็นห้องขนาด 51 – 57 ตร.ม. 11 ห้อง (สีเทา) และสตูดิโอขนาด 25 – 26 ตรม. 8 ห้อง (สีเทาอ่อน) รวม Tower A มียูนิต 19 ห้อง

ส่วน Tower B มีห้องขนาด 31 – 35 ตร.ม. 18 ห้อง (สีครีม) และห้องขนาด 26 – 26.5 ตร.ม. จำนวน 2 ห้อง (สีเทาอ่อน) รวมความหนาแน่นต่อชั้นของ Tower B อยู่ที่ 20 ห้อง

สำหรับ Tower C เป็นห้องขนาด 31 – 35 ตร.ม.ทั้งหมด 21 ห้องเลย (สีครีม) รวมความหนาแน่นยูนิตทั้งชั้นอยู่ที่ 60 ห้อง โถงทางเดินของทุก Tower จะมีช่องหน้าต่างที่ปลายอาคารทางทิศตะวันออกและตะวันตก โดยส่วนตัวคิดว่าแสงธรรมชาติน่าจะยังไม่พอให้สว่างได้ตลอดโถงทางเดินนะคะ คงต้องเปิดไฟเพิ่มความสว่างด้วยค่ะ

ผังชั้น 19, 21, 23, 25 เป็น Typical Floor Plan ของ Tower A และ B ที่จะจัดผังเหมือนๆกันหมดตั้งแต่ชั้น 18 ไปจนถึงชั้น 27 สำหรับชั้นนี้จะเหลือแค่ Tower A และ B แล้วนะคะ เพราะเจอระยะถอยร่นอาคารทางด้านหลังโคงการมา ผังก็จะคล้ายๆ ชั้น 17 นั่นแหละ แค่ตัด Tower C ออกค่ะ รวมความหนาแน่นยูนิตทั้งชั้นอยู่ที่ 39 ห้อง

ผังชั้น 29, 31, 33 เป็น Typical Floor Plan ของ Tower A ที่จะจัดผังเหมือนๆกันหมดตั้งแต่ชั้น 28 ไปจนถึงชั้น 34 นะคะ ชั้นนี้จะเหลือแค่ Tower A อย่างเดียวแล้วค่ะ ยังเน้นเป็นห้องใหญ่ขนาด 51 – 57.5 ตร.ม. 11 ห้อง และสตูดิโอขนาด 25 – 26 ตรม. 8 ห้อง รวม Tower A มีความหนาแน่นยูนิตต่อชั้น 19 ห้อง

ผังชั้น 35 – 38 จะจัดผังคล้ายๆ ชั้น 33 เลยค่ะ แต่จะมีจำนวนยูนิตลดลงเหลือ 17 ห้อง

ดาดฟ้าจะอยู่บน Tower A ซึ่งไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรพิเศษนะคะ แค่มีทางเดินในสวน ให้ขึ้นาชมวิวกันได้ และข้อดีของดาดฟ้าอีกอย่างคือ ทำให้ห้องพักชั้นบนสุดไม่ต้องมารับแสงแดดตรงๆ จึงช่วยให้ห้องเย็นขึ้นนั่นเอง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สวนหย่อมที่ชั้นดาดฟ้า
  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบ เกลือคลอรีน ขนาด 25 x4.8 เมตร ขนาด 45 x5.7 เมตร  มีการแบ่งสระเด็กแยกไว้ให้อีก 1 สระ
  • Jacuzzi
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 8 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 167 :  1
  • Service Lift 2 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 52% (รวมซ้อนคัน)

แบบห้อง

โครงการ IDEO สุขุมวิท 93 มีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้

  • Studio ขนาด 25 – 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 31 – 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 51 – 69 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท

โครงการขายแบบ Fully Fitted คือให้เฉพาะชุดครัว ตู้เสื้อผ้า Built-in และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ โดยห้องพักทั้งหมดทางอนันดาได้ Soldout หมดแล้ว ถ้าใครสนใจห้อง Resale สามารถติดต่อ The Agent ได้เลย เค้ามาตั้งบูธอยู่ที่ชั้น 1 ใน Lobby เลย จากที่เราเข้าไปคุยๆ ดู ก็มีคนมาฝากขายและปล่อยเช่าห้องเยอะอยู่นะคะ เราเก็บเบอร์ของ The Agent มาฝากกันด้วย 02-056-2333 ค่ะ

ห้อง Studio ขนาด 26.5 ตร.ม. ถือว่ามีพื้นที่ใช้สอยพอดีๆ กับการอยู่อาศัยคนเดียว รูปแบบห้องหน้าแคบลึกและวางฟังก์ชันของพื้นที่ครัวและห้องน้ำให้อยู่ด้านหน้าห้อง (ในอาคาร) เพื่อให้พื้นที่ส่วนเตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่นได้อยู่ด้านในติดหน้าต่าง ได้วิวและแสงธรรมชาติจากภายนอกทำให้ห้องดูโปร่ง แลกมากับประสิทธิภาพการใช้งานครัวและห้องน้ำที่ลดลง เพราะครัวและห้องน้ำจะต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศของตัวอาคารล้วนๆ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำครัวเยอะ ใช้พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่เตียงนอนเป็นหลัก

แต่ห้องลักษณะนี้จะมีปัญหาเหมือนกันอย่างนึงคือ ไม่มีพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารแหละ เราต้องเลือกเอาว่าจะนั่งทานที่โซฟา หรือทานบนโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง และข้อจำกัดสำหรับห้อง Studio ก็คือ พื้นที่ทานข้าวอยู่ในบริเวณเดียวกับเตียงนอน ก็จะมีกลิ่นอาหารติดเตียงและเฟอร์นิเจอร์บ้าง ต้องเปิดหน้าต่างระบายอากาศเอา หรือใช้พวกวิธีกำจัดกลิ่นต่างๆ เข้าช่วยค่ะ

ถัดมาคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. ห้อง Type นี้เน้นพื้นที่ทำอาหารที่เป็นแบบครัวปิด ติดระเบียง เหมาะกับคนที่อยากได้ครัวไทยแบบเป็นสัดส่วนระบายอากาศได้ดี และชอบห้องนอนที่มีช่องหน้าต่างในตัว ทำให้ได้ช่องรับแสงธรรมชาติแบบเต็มๆ แลกกับพื้นที่นั่งเล่นและห้องน้ำที่อยู่ด้านในอาคาร ในเวลากลางวันหากไม่เปิดไฟ ก็ต้องอาศัยแสงที่ลอดผ่านห้องครัวมาแทน ห้องนั่งเล่นของแปลนนี้มีข้อดีตรงที่มีระยะระหว่างชั้นวางทีวีถึงโซฟาค่อนข้างกว้าง ทำให้ชุดโซฟาจะไม่อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องจนเกินไป ส่วนห้องน้ำที่อยู่ด้านในอาคารจึงต้องอาศัยระบบระบายอากาศของอาคารล้วนๆ ค่ะ

สำหรับคนที่อยากได้ห้อง 1 Bedroom แบบครัวเปิด ก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน มีขนาด 33.5 ตร.ม. ส่วนตัวเราชอบห้องแปลนนี้ที่สุด เพราะทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนมีประตูหน้าต่าง ให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั้งคู่ ทำให้พื้นที่ในห้องทั้งหมดดูโปร่งโล่ง ไม่ต้องพึ่งแสงจากหลอดไฟทั้งวัน ครัวที่ได้เป็นครัวเปิด ตำแหน่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย เหมาะกับเตรียมอาหารอาหารเบาๆ หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง การวางตำแหน่งครัวอยู่ด้านหน้าดีตรงที่ ถ้าวันไหนไปช้อปปิ้งของกินของใช้เข้าบ้านมาหนักๆ พอมาถึงห้องปุ๊บก็เอามาวางพักไว้ตรงนี้ได้ หรือเก็บของสดเข้าตู้เย็นได้เลย ติดกันเป็นโต๊ะอาหาร 2 ที่นั่ง ที่เราสามารถนั่งทานไปดูทีวีไปได้ด้วยนะ ส่วนที่ชอบอีกส่วนหนึ่งคือ พื้นที่วางตู้เสื้อผ้า ดูเป็นสัดส่วนดี และอยู่หน้าห้องน้ำเลย ก็สามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก แต่ข้อจำกัดของแปลนนี้เลยคือห้องน้ำ ที่อยู่ด้านในสุดของห้องนอน หากเพื่อนที่มาเยี่ยมขอเข้าห้องน้ำ ก็ต้องเดินผ่านห้องนอนเราด้วยนะ จะเสียความเป็นส่วนตัวไปเหมือนกัน หรือบางคนก็อาจจะชอบ >< ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยค่ะ

ห้องแปลนนี้คือ ห้อง 1 Bedroom Type B2 ที่มีพื้นที่สวนส่วนตัวเพิ่มขึ้นมา ทั้งโครงการมีอยู่ 9 ยูนิต และมีเฉพาะชั้น 5 เท่านั้น

อีกห้องหนึ่งคือแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นอีกเท่าของห้องแบบ Studio เลยนะคะ จึงได้พื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนที่เราชอบของ Layout นี้เลยคือ ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะมีช่องรับแสงธรรมชาติเป็นของตัวเองทุกห้อง ทำให้ทุกห้องดูโปร่งและได้วิวภายนอก ห้องนอนมี 2 ห้อง ห้องหนึ่งเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว ได้พื้นที่ฝั่งขวาของห้องตลอดแนว อีกห้องนอนหนึ่งมีขนาดเล็กลงมา ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ จะแชร์ห้องน้ำร่วมกับพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่เวลาเพื่อนๆ มาหา ก็สามารถเข้าห้องน้ำจากทางห้องครัวได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนค่ะ

ส่วนครัวจะได้ครัวแบบครัวเปิด ตำแหน่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเหมือนห้องแบบแรก เหมาะกับเตรียมอาหารที่ไม่ที่มีกลิ่นแรงๆ ซึ่งทางโครงการจะ Built-in ชุดครัวมาให้พร้อมโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง แบบในแปลนเลยนะ บริเวณนี้จะเชื่อมเป็นพื้นที่เดียวกับห้องนั่งเล่น จึงเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สมาชิกในบ้านจะมานั่งดูทีวี ทานข้าว พูดคุยกันได้สะดวก

ราคา

ราคา @ 15 January 2020

โครงการเริ่มเปิดตัวประมาณ : ปี 2016
โครงการสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2018
สถานะโครงการ Sold Out

เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดและโอนกันหมดแล้วนะคะ ดังนั้นต้องซื้อต่อจากเจ้าของเดิม ทำให้ราคาก็จะค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งมากหรือน้อยครบแค่ไหน ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย ราคาต่อตารางเมตรในปัจจุบันต้นปี 2020 จะอยู่ที่ประมาณ 130,000 – 180,000 บาท/ตร.ม. (หมายเหตุ – เป็นการเก็บข้อมูลโดยผู้เขียนเองเท่านั้น)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ ทำเลบางจากเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ไม่ไกลจากตัวเมือง แม้จะไม่ได้มีศูนย์การค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพอย่างสถานีอ่อนนุชหรือปุณณวิถี แต่นั่นก็ทำให้สถานีนี้เป็นสถานีใกล้เมืองที่ยังมีความสงบ และไม่ไกลจากแหล่งความเจริญเลย ส่วนอาหารการกินอยู่ก็จัดว่าสะดวกสุดๆ เพราะลงมาจากตึกก็มีของกินรอบด้านในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารตามตึกแถว หรือร้านค้าแผงลอยในตลาดทั้งในซอยสุขุมวิท 93 และ 95 รวมถึงริมถนนสุขุมวิท ใต้สถานีรถไฟฟ้าบางจากก็มีให้เลือกเพียบเลย

ส่วนร้านอาหารที่มีราคา มีแบรนด์ขึ้นมาอีกระดับต้องกระเถิบไปสถานีข้างเคียงจะมี Community Mall ให้เลือกเดินกันเยอะเลยหละ ไล่มาจากสถานีอ่อนนุชจะมี T77, Phyll สุขุมวิท 54 และ Century the movie plaza ถัดมาที่สถานีปุณณวิถีมี Whizdom 101 & True Digital Park และไม่ไกลกันจะมี Bangkok Mall ตรงแยกบางนาเรียกว่าถ้าเปิดครบก็มีให้เลือกเดินไม่เบื่อหละกัน

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ ถ้ามองในแง่การเดินทาง..ทำเลนี้ถือว่าสะดวกมาก เพราะใกล้จุดขึ้นลงทางเฉลิมมหานครด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 ไม่ต้องไปกลับรถไกล ถ้าเดินทางขาออกเมืองไปทางถนนบางนา-ตราด ก็ไม่ต้องไปกลับรถเลย สำหรับที่จอดรถคิดเป็น 52% (รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าให้มากลางๆ พอๆ กับคอนโดอื่นในละแวกนี้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็ไม่ยากเพราะอยู่เกือบติด BTS บางจากในระยะ 90 ม. แถมมี Skywalk ให้เดินไปใกล้โครงการได้มากขึ้น แบบว่าลงจากสะพานลอยมา 20 ม. ก็ถึงโครงการแล้ว ช่วยได้เยอะตอนกลางคืนที่ไม่อยากเดินเปลี่ยวๆ ริมถนนและตอนกลางวันที่แดดเปรี้ยงๆ ก็หลบขึ้นสะพานลอยมาได้เลย เรื่องการใช้รถไฟฟ้าเข้าเมืองในย่านคนทำงานอย่างพร้อมพงษ์-อโศกก็ประมาณ 5-6 สถานีเท่านั้น / อีกทั้งโครงการติดถนนใหญ่สุขุมวิท สามารถเรียก Taxi, เรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ได้สะดวก

วัสดุ ขอเทียบกับตร.ม.ละประมาณ 140,000 ในตอนนี้ถือว่าให้วัสดุตามมาตรฐาน ที่นี่ขายแบบ Fully Fitted คือให้มาเฉพาะเคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จึงต้องเผื่องบซื้อของเพิ่มเข้าห้องไว้ด้วยนะ วัสดุพื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต ท็อปครัวให้หิน Quartz พร้อม Hob & Hood ของ Mex ในห้องน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำให้ สุขภัณฑ์ของ American Standard ค่ะ

การออกแบบโครงการ มีแนวคิดในการวางอาคารได้ไม่อึดอัดดี โดยจะมีพื้นที่สีเขียววางไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคาร จึงสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับการอยู่อาศัยมากขึ้น ภายในอาคารมีการแบ่งพื้นที่ส่วนพักอาศัย และส่วน Facility ไว้เป็นสัดส่วนชัดเจนไม่รบกวนกัน โดยจัดวางพื้นที่ส่วนกลางไว้ที่ชั้น5 และ 6 สำหรับห้องพักที่อยู่ใกล้ส่วนกลางก็จะเป็นห้องรูปแบบพิเศษที่เพิ่มพื้นที่สวนส่วนตัว ไม่ให้ห้องพักติดกับส่วนกลางโดยตรง โครงการจัดห้องไว้ 1,322 ยูนิต จัดเป็นคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ จึงมีการแยก Lift Lobby ไว้ 2 ส่วน เพื่อให้ห้องพักอาศัยทุกห้องอยู่ไม่ไกลจากลิฟต์มากนัก

การออกแบบห้องพักอาศัย เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการที่ทำแบบออกมาให้เลือกค่อนข้างเยอะ หลายขนาดและหลายรูปแบบ ทั้งแบบห้อง Studio ที่ทำขนาดเล็กสุดเริ่มต้นที่ 25 ตร.ม. แต่ก็ยังวางแปลนได้เป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดด้วยนะ ถัดมาที่ห้องขนาดใหญ่ขึ้นคือแบบ 1 -2 Bedroom ขนาด 31-69 ตร.ม. ก็มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นห้องครัวปิดและครัวเปิดด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค ทำออกมาได้ครบครันและน่าใช้งาน จุดเด่นเลยคือได้สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ พร้อม Jacuzzi มีห้อง Fitness ที่ได้วิวสระ, มี Social Club ที่เชื่อมกับ Library แต่น่าเสียดายที่อยู่เพียงชั้น 5-6 เท่านั้น จึงไม่ได้เป็นส่วนกลางที่เห็นวิวเมืองแบบโล่งๆ ทางโครงการจึงทำดาดฟ้าไว้ให้สามารถขึ้นไปชมวิวได้ และทั้งหมดนี้ต้องแชร์ร่วมกันกับลูกบ้าน 1,322 ยูนิต จากที่ไปเยี่ยมชมโครงการก็ผ่านมาประมาณ 1 ปี สภาพดูเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน น่าใช่งาน เทียบกับค่าส่วนกลางประมาณ 45บาท/ตร.ม./เดือน ก็สมเหตุสมผลดี

Judgement

เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการขายเปลี่ยนแปลงเป็นแบบซื้อต่อกันเอง(มือสอง) ซึ่งค่อนข้างมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของวัสดุ การตกแต่งภายในห้อง รวมทั้งเรื่องของราคาที่ค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งครบ ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้คะแนนในรีวิวนี้ได้ค่ะ

BOTTOM LINE

IDEO สุขุมวิท 93 เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ สถานะมือ 2 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดย่านบางจากแบบที่ติด BTS และใกล้ทางด่วน อยากได้ทำเลติดถนนใหญ่ เดินถึงคอนโดได้ไม่เปลี่ยว มีร้านค้าร้านอาหารราคาย่อมเยาอยู่รอบๆ ไม่จำเป็นต้องมีห้างฯ อยู่ใกล้ๆก็ได้ มีงบประมาณ 3.8-7 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 26,600 – 49,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving