รีวิวฉบับที่  1825 สวัสดีค่ะ วันนี้เราพามาชมโครงการ iCONDO -Green Space สุขุมวิท 77 อีกหนึ่งทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนถนนลาดกระบัง ติดกับ Paseo Mall หาของกินง่าย มีจุดเด่นด้านพื้นที่สีเขียว และมี Pool Access โดยโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.79 ล้านบาท ภายในจะเป็นอย่างไรไปชมบรรยากาศกันเลยค่ะ

Fact @ 28 February 2019

  • iCONDO -Green Space Sukhumvit 77 ( Phase 1 ) (ไอคอนโด กรีนสเปซ สุขุมวิท 77 เฟส 1 )
  • บริษัท เอสเตท เพอร์เฟ็คท์ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ลาดกระบัง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 470 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิตที่อาคาร A , B
  • ที่จอดรถประมาณ  32 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 5-0-31 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2562 สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 1 Bedroom 24.40-36.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 46.40-45.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.50 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 73,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Call Center : 1375

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.721711, 100.726234

แผนที่จากโครงการค่ะ

โครงการ iCONDO -Green Space สุขุมวิท 77 ถึงชื่อจะเป็นสุขุมวิท 77 แต่ตั้งอยู่บนถนนลาดกระบัง เป็นช่วงที่เชื่อมต่อมาจากถนนอ่อนนุชหรือซอยสุขุมวิท77 พอดีค่ะ ซึ่งเป็นถนนที่ตรงไปยังพระโขนง,อ่อนนุช หรือจะออกไปทางกิ่งแก้ว, สุวรรณภูมิได้ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากใช้เวลาเดินทางจากโครงการไปยังสนามบินไม่ถึง 20 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ถนนลาดกระบังเป็นถนนที่ขนานกับมอเตอร์เวย์ (ถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่) สามารถใช้ถนนมอเตอร์เวย์ซึ่งเป็นถนนที่คนนิยมใช้เดินทางเข้าเมืองทางพระราม 9, อโศก หรือเดินทางไปยังชลบุรีได้สะดวก จึงง่ายสำหรับคนที่ทำงานอยู่แถวพระราม9 หรือต้องเดินทางไปยังชลบุรีบ่อยๆด้วย นอกจากนั้นยังเดินทางไปยังมีนบุรีได้ผ่านทางถนนร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างมีนบุรีกับสุวรรณภูมิ ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆเลยก็คือทางด่วนวงเเหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ทางด่วนวงเเหวนกาญจาภิเษก) ที่ใช้เส้นทางไปยังโซนบางนาได้ค่ะ ซึ่งทำเลนี้จะเดินทางด้วยรถยนต์เองก็สะดวก หรือจะเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถทำได้

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถทำได้ไม่ยากนัก เนื่องจากด้านหน้าโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่ไกล หรือจะเรียก Taxi ก็มีผ่านอยู่เป็นประจำ นอกจากนั้นโครงการยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ สถานีลาดกะบังบัง ระยะห่างประมาณ 3.5 กิโลเมตร ทางโครงการมีรถรับ-ส่งที่โครงการไปสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ที่สนามบินเองก็เป็นปลายทางของสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางได้เช่นกันค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้มีค่อนข้างมาก และสามารถหาของกินง่ายในระยะที่เดินได้สบายๆ เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับ The Paseo Mall ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งและรวมร้านอาหารหลากหลายไว้ในที่เดียวเป็น Community Mall ขนาดใหญ่ที่คนแถวนี้นิยมมากันค่ะ แค่เดินออกจากโครงการมาก็สามารถเข้า The Paseo Mall ได้เลย นอกจากนั้นบริเวณถนนลาดกระบังเองก็มีอาคารแถวที่เป็นร้านค้า ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven , Family Mart อยู่ตามทาง มีร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลนักก็จะมีร้านโคขุนคุณทอง บุฟเฟต์เนื้อย่างราคาไม่แรงมาก และมีตลาด Market land ให้เลือกซื้อของสดกันได้ และอีกโซนที่เป็นแหล่งของกินไม่แพ้กันก็คือบริเวณถนนร่มเกล้า ซึ่งตลอด 2 ข้างทางจะมีร้านอาหาร เช่น Burger King, วราภรณ์ซาลาเปา, หมูกะทะ เป็นต้น และมีตลาดเปิดใหม่อย่าง Runway 3119 ที่เป็นตลาดนัดธีมเครื่องบิน เปิดมาสู้กับตลาดรถไฟด้วย  ถ้าไกลออกมาหน่อยก็จะมีห้างใหญ่อย่าง ซีคอนศรีนครินทร์ หรือ Mega บางนาได้ ซึ่งปัจจุบันมี Food Walk รวมร้านอาหารไว้เยอะแยะมากมายเลยค่ะ

นอกจากเรื่องของกินแล้ว แถวนี้ยังมีสถานศึกษาอย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า อยู่บริเวณถนนร่มเกล้า ถ้าเลยไปหน่อยก็จะถึงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ค่ะหรือถ้าไปยังโซนฝั่งกรุงเทพกรีฑาก็จะมีโรงเรียนนานาชาติ และเป็นทางไปยังมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วย เรื่องของสุขภาพในทำเลนี้สามารถไปยังโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 7, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ได้สะดวกค่ะ

เส้นทางที่เราจะพาไปวันนี้ก็คือ เส้นที่มาจากถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ หรือมอเตอร์เวย์ ออกทางไปถนนร่มเกล้า และเลี้ยวขวาขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟมาเข้าสู่ถนนลาดกระบัง ขับมุ่งหน้าไปทางอ่อนนุชจะเจอกับโครงการอยู่ทางซ้ายมือ รวมระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตรค่ะ

เมื่อเราออกจากมอเตอร์เวย์ ที่บริเวณทางออกไปถนนร่มเกล้า จะมีทางแยก 2 ทาง ให้เราอยู่ 3 ช่องทางขวาเพื่อรอสัญญาณไฟจราจรค่ะ

เมื่อไฟเขียว ให้เลี้ยวขวาที่ช่องทางขวาสุดเพื่อขึ้นสะพาน (ตามแนวสีเหลือง)

เมื่อขึ้นสะพานมาแล้วจะเจอกับทางแยกให้เรามุ่งหน้าไปยังถนนลาดกระบัง ตามป้ายบอกทางลาดกระบัง พระโขนงค่ะ

ลงสะพานมาแล้วจะเจอกับสัญญาณไฟจราจรอีกหนึ่งจุด ให้เราอยู่ 2 ช่องทางขวาเพื่อรอเลี้ยวขวาเข้าถนน ลาดกระบัง

ขับตรงมาตามถนนลาดกระบังเรื่อยๆ จนเจอป้ายบอกทางตรงไปถนนศรีนครินทร์และพระโขนง ให้เราตรงไปค่ะ

ผ่านแยกตัดกับถนนกิ่งแก้ว มีสัญญาณไฟจราจรอีกหนึ่งจุดให้ขับตรงไปเรื่อยๆค่ะ

ระหว่างทางไปโครงการจะเจอกับอาคารแถว ที่เป็นอาคารพาณิชย์บ้าง และร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven และ Family Mart อยู่ไม่ไกล ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ

ก่อนถึงโครงการมีจุดสังเกตคือ The Paseo Mall ทางซ้ายมือเป็น Community รวมร้านอาหารแหละเป็นแหล่งชอปปิ้งของคนในย่านนี้เลยค่ะ

ติดกับ The Paseo Mall จะเจอกับทางเข้าโครงการเลยค่ะ ปัจจุบันกำลังก่อสร้างเฟส 2 อยู่ ซึ่งเราจะไปดูเฟส 1 ที่อยู่ด้านในกันค่ะ

โครงการ iCONDO -Green Space สุขุมวิท 77 เฟสที่ 1 นั้นมีทางเข้า-ออกติดถนนลาดกระบังทางทิศเหนือ แต่จะเข้ามาด้านในประมาณ 140 เมตร ทางทศตะวันออกติดกับ The Paseo Mall ตลอดทั้งแนวฝั่งตะวันออก ด้านหลังโครงทางทิศใต้ ติดกับโครงการบ้านเดี่ยว Perfect Place สุขุมวิท 77 และด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกติดกับถนนทางเข้า-ออกโครงการ Perfect Place สุขุมวิท 77 ถัดไปเป็นพื้นที่โล่งปัจจุบันเป็นพื้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนลาดกระบัง, อาคารสำนักงาน, พื้นที่ก่อสร้างโรงแรม Courtyard Marriott
  • ทิศตะวันออก ติดกับ The Paseo Mall
  • ทิศใต้ ติดกับ โครงการ Perfect Place สุขุมวิท 77
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนทางเข้า-ออกโครงการ Perfect Place สุขุมวิท 77

ทางทิศตะวันตกของโครงการ ติดกับทางเข้า-ออกโครงการ Perfect Place สุขุมวิท 77 ค่ะ

ด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือติดกับ ถนนลาดกระบัง ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอาคารสำนักงาน สูงประมาณ 3 ชั้น และ พื้นที่ก่อสร้างโรงแรม Courtyard  ทางด้านขวามือ

ทางทิศตะวันออกติดกับทางเข้า The Paseo Mall ซึ่งด้านหน้าเป็น Paseo Food Park รวมร้านอาหารราคาไม่แพงสามารถเดินจากโครงการมาทานได้สบายๆค่ะ

บรรยากาศภายใน Paseo Food Park  มีที่นั่งจำนวนมาก พร้อมร้านอาหารที่สามารถซื้อกลับบ้านหรือทานที่นี่ได้ ด้านหน้ามี 7- Eleven เดินมาซื้อของได้ง่ายมากๆค่ะ

ถัดจาก Paseo Food Park  เข้าไปจะเป็นส่วนของ The Paseo Mall มีรวมร้านอาหารชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น ต๋อง เต็ม โต๊ะ, ร้านของพ่อ , Wine Connection Deli, Starbucks, Pizza รวมถึง Supermarket , ร้านแฟชั่น และร้านหนังสือ เป็นต้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Paseo Mall ~ 50 m
  • โรงพยาบาลสัตว์ ลาดกระบัง ~ 500 m
  • โคขุนคุณทอง  ~ 1.0 km
  • ตลาดลานบุญ ~ 1 km
  • Lotus Express ~ 1.4 km
  • ตลาด Marketland ~ 1.4 km
  • โรงพยาบาล จุฬารัตน์ 7 ~ 2.1 km
  • โรงพยาบาลสิรินธร ~ 2.5 km
  • สถานี แอร์พอร์ตเรลลิงก์ลาดกระบัง ~ 3.5 km
  • สถาบันเทคโนฯพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 6.7 km
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 7.1 km
  • ตลาด Runway 3119 ~ 9.2 km
  • Mega Bangna ~ 12 km
  • มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 18 km


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ iCONDO -Green Space สุขุมวิท 77 มีทางเข้า-ออกติดกับถนนลาดกระบัง ในส่วนของเฟส 1 ที่เราจะพามาดูกันวันนี้จะอยู่ด้านใน เข้ามาประมาณ 140 เมตรค่ะ ซึ่งจะแยกทางเข้า-ออก กับเฟสที่ 2 ชัดเจน ด้านในเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร บนพื้นที่ 5-0-31 ไร่ มีทั้งหมด 470 ยูนิต มีที่จอดรถที่ชั้น 1 รอบอาคารรวมทั้งสิ้น 32 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน

โครงการมีแนวคิดการออกแบบมาจาก “Live in Green Life” โดยนำเอาความเป็นธรรมชาติ เข้ามาผสมกับการใช้ชีวิต ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 หัวข้อ คือ

  • Green Design : ผ่านการออกแบบสวนสไตล์ Tropical Garden สไตล์รีสอร์ท
  • Green Function : จัดพื้นที่การใช้งานลงตัว
  • Green Facility : มีพื้นที่ Co-Working Space, Outdoor Activity
  • Green Living : มีความอุดมสมบูรณ์ล้อมรอบโครงการ

ผังของโครงการเฟสแรกนั้น เมื่อเข้ามาจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ เพื่อรับ-ส่งคนที่ Drop-Off ก่อนจะวนไปจอดรถรอบโครงการ ตามเข็มนาฬิกา ที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ Facility ส่วนกลาง และห้องพักอาศัยที่อาคาร A ทั้ง 2 อาคารจะมี Lobby แยกกัน ที่ด้านหน้าบริเวณ Drop-off จะมีห้องทำงาน หรือ Co-Working Space สำหรับนั่งทำงานชมวิวที่สวนส่วนกลางได้ ตรงกลางระหว่างทั้งสองอาคารจะเป็นพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำ ตัวสระว่ายน้ำยกระดับขึ้นมาประมาณ 1 เมตร เป็นสระขนาด 26 x 8 เมตร แบ่งสระเด็ก มีพื้นที่นั่งเล่นด้านข้าง ถัดมาด้านหลังจะเป็นสนามหญ้ามีเครื่องเล่นสำหรับเด็กค่ะ ที่บริเวณห้องใต้อาคาร A ด้านหลังโครงการเป็นห้อง Fitness เห็นวิวสนามเด็กเล่นและสวนได้

ภายในอาคารจะมีการวางผังเหมือนกันทั้งสองอาคาร เป็นรูปตัว L หันทางทิศตะวันออก-ตะวันตก ฝั่งตะวันออกจะได้รับแสงแดดเช้าความร้อนไม่มากนัก มองเห็นวิวทาง The Paseo Mall และฝั่งตะวันตกจะได้รับแสงแดดบ่ายทำให้ห้องมีความร้อน แต่จากการวางผังห้องก็ทำให้ไม่โดนแดดตรงๆในพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ โถงลิฟต์จะอยู่บริเวณจุดเลี้ยวของอาคารทำให้คนที่อยู่ห้องริมสุดตรงปลายตัว L จะต้องเดินไกลหน่อยค่ะ มีลิฟต์ทั้งหมด 2 ตัวต่ออาคาร โดยมีอัตราส่วนลิฟต์ตึก A อยู่ที่ 120 : 1 ถือว่าเยอะกว่ามาตรฐานหน่อย อาจจะมีรอลิฟต์กันบ้างในชั่วโมงเร่งด่วน และอัตราส่วนลิฟต์ตึก B 115 : 1 ซึ่งหนาแน่นน้อยกว่าเล็กน้อยค่ะ ผังของทั้งสองอาคารจะแตกต่างกันที่ชั้น 1  อาคาร A มีห้องพักที่สามารถเดินออกมาที่สวนได้เลย เป็นห้อง Pool Access 10 ห้อง ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ทำให้ไม่โดนรบกวนจากห้องฝั่งตรงข้ามซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นกันในคอนโดระดับราคานี้ค่ะ ตำแหน่งนี้สามารถเดินไปใช้งานยังพื้นที่ส่วนกลางสะดวก เวลากลับบ้านไม่ต้องรอลิฟต์ขึ้น-ลง แต่จะต้องแลกกับความเป็นส่วนตัว คนที่มาใช้งานที่สวนส่วนกลางจะสามารถมองเข้าไปด้านในห้องได้ และอาจมีเสียงรบกวนบ้าง ส่วนชั้น 1 ของอาคาร B จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นยังไงเราไปชมกันเลยค่ะ

ทางเข้าโครงการเป็นถนน 2 ทางเข้าออกวิ่งสวนกันสบายๆ แต่ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างโครงการในเฟสที่ 2 อยู่ จะมีรถและอุปกรณ์ก่อสร้างค่อนข้างเยอะหน่อยนะคะ ในอนาคตเมื่อสร้างเสร็จจะมีไม้พุ่มประดับตกแต่งบริเวณริมถนนทั้ง 2 ฝั่ง และมีต้นไม้ใหญ่แทรกเป็นระยะ ให้บรรยากาศสีเขียว

ก่อนเข้าโครงการในเฟส 1 จะมีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออก เป็นระบบ Key Card Access และไม้กั้นกระดก พร้อมติดกล้อง CCTV ช่วยบันทึกรถที่เข้า-ออกด้วยค่ะ

เครื่องอ่าน Key Card จะอยู่ทางด้านขวามือ แตะใช้งานสะดวก และมีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

เข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนเป็นจุดวนสำหรับรับ-ส่งคนที่จุด Drop-Off เข้าทั้ง 2 อาคาร มีห้อง Co-Working Space อยู่ตรงด้านหน้าสุดซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ Sale Gallery อยู่ค่ะ ถ้าสำหรับคนที่ต้องการไปจอดรถให้ขับตรงเข้าไปด้านในเลยค่ะ

ถนนด้านหน้าจะเป็นคอนกรีตแสตมป์ และด้านในบริเวณลานจอดรถเป็นพื้นคอนกรีตธรรมดาค่ะ ก่อนเข้าที่จอดรถจะมีตำแหน่งวางศาลพระภูมิอยู่ทางซ้ายมือ มีต้นไม้พุ่มกั้นระหว่างบริเวณ Drop-off และลานจอดรถด้วยค่ะ ช่วยบังสายตาทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีพื้นที่สีเขียวตามแนวคิดการออกแบบของโครงการ

ตรงมาแล้วจะเจอกับลานจอดรถที่สามารถจอดใด้ทั้งใต้อาคาร ซึ่งจะได้ร่มเงาจากอาคาร หรือจะจอดกลางแจ้งบริเวณริมแนวรั้วโครงการก็ได้ค่ะ รวมแล้วที่จอดรถจะมีทั้งหมด 32 %

รั้วรอบโครงการมีไม้พุ่มและไม้ประดับตกแต่งอยู่ตลอดทั้งแนว ช่วยให้บรรยากาศสดชื่นขึ้นมาค่ะ ถ้าต้นไม้โตก็จะช่วยให้ร่มเงากับรถได้บ้าง

วนมาฝั่งตะวันตกของโครงการก็เป็นพื้นที่ลานจอดรถกลางแจ้ง ด้านข้างมีต้นไม้ตกแต่งสวยงาม ในอนาคตเมื่อต้นไม่ใหญ่ริมรั้วเริ่มสูงจะให้ร่มเงากับลานจอดได้ค่ะ

บริเวณใกล้กับห้อง Fitness มีช่องจอดรถสำหรับผู้ใช้รถเข็นด้วยค่ะ ให้สามารถเดินเข้าอาคาร A ได้สะดวก

สำหรับอาคาร B พื้นที่ชั้น 1 เป็นลานจอดรถทั้งหมดไม่มีห้องพักอาศัยเลย โดยรถที่จอดใต้อาคารนี้จะได้ร่มเงาตลอดทั้งวันทำให้รถไม่ร้อนด้วยค่ะ

เรากลับมาดูพื้นที่ส่วนกลางจากด้านหน้ากันบ้าง จะเห็นว่ามีอาคารทั้ง 2 (อาคาร A ทางด้านซ้าย และอาคาร B ทางด้านขวา) โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้  โดยปัจจุบันพื้นที่สำนักงานขายด้านขวามือจะเป็นส่วนของ Co-Working Space ในอนาคต

ใต้อาคาร A เป็นห้องประชุม และห้องนิติบุคคล

ด้านในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางตกแต่งด้วยบรรยากาศสไตล์รีสอร์ท มีสวนไม้พุ่มหลากหลายชนิดและลานกรวด แทรกด้วยต้นไม้ใหญ่เป็นระยะ โดยทั้งสองอาคารจะสามารถมองลงมาเห็นพื้นที่ส่วนกลางได้

มีชุดเก้าอี้นั่งเล่นประมาณ 4 ชุด เข้ากับบรรยากาศ ด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำที่มีน้ำล้น ให้เสียงน้ำตกอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ดังมาก ให้ความรู้สึกผ่อนคลายน่ามานั่งเล่นตอนเย็นๆค่ะ

มีทางเดินไปยังสระว่ายน้ำซึ่งจะยกระดับสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณ 1 เมตร ช่วยให้แยกความเป็นส่วนตัวของคนที่มาว่ายน้ำ ทำให้ไม่รู้สึกว่าโดนมองเห็นชัดเจนเกินไปค่ะ

ด้านข้างสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่ลานหญ้าไปทางด้านหลัง ส่วนที่เป็นลานหินเชื่อมต่อกับทางออกของห้องพักชั้น 1 ซึ่งสามารถเปิดมายังพื้นที่ส่วนกลางได้เลย และมีต้นไม้ใหญ่ช่วยบังสายตาจากด้านนอก ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้พักอาศัยชั้นนี้ด้วยค่ะ

ด้านบนสระว่ายน้ำ มีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระทางด้านขวามือ หันไปมองทางสระว่ายน้ำและอาคาร A

ถัดมาเป็นพื้นที่ล้างตัวก่อนลงเล่นน้ำมีการตกแต่งสไตล์รีสอร์ท 1 จุด

ด้านหลังสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนอีก 1 จุด ที่สามารถมองเห็นทั้งบริเวณสระว่ายน้ำและสวนด้านหลังได้ทั้ง 2 ทาง

ที่นั่งเป็นชุดโซฟาเหลี่ยม มีโต๊ะกลางสำหรับวางของ อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านที่มาใช้สระว่ายน้ำ หรือมานั่งงอ่านหนังสือจิบกาแฟ ชิลล์ๆค่ะ

สระว่ายน้ำของที่นี่มีขนาดประมาณ 26.0 x 8.0 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร และสระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร

มีระยะเวลาเปิด-ปิดอยู่ที่ 6 โมงเช้า จนถึง 4 ทุ่ม

ถัดมาเมื่อลงมาจากสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่น เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กๆอยู่ในห้องซึ่งมีพื้นที่จำกัดก็พามาวิ่งเล่นที่สนามได้ค่ะ

มีเครื่องเล่นมาให้ 1 ชุด ด้านหลังเป็นห้อง Fitness ซึ่งมองออกมาเห็นสนามเด็กเล่นได้ สำหรับพ่อ-แม่ที่ลงมาออกกำลังกายก็ให้เด็กๆเล่นอยู่บริเวณสนามเด็กเล่นโดยยังอยู่ในสายตาได้ค่ะ

ห้อง Fitness อยู่บริเวณชั้น 1 ใต้อาคาร A สามารถเข้าใช้งานได้โดยไม่ต้องสแกนบัตร

ด้านในมีพื้นที่เก็บของมาให้ แยกเป็นสัดส่วน

ห้อง Fitness ขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีเครื่องเล่นหลากหลาย รวมแล้วประมาณ 7 เครื่อง ผนังทั้ง 2 ฝั่งมีช่องแสงมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำด้านนอกได้

บรรยากาศภายในห้อง Fitness มีเครื่องออกกำลังกายต่างกัน 5 ชนิด ให้ได้เลือก แต่ถ้ามีผู้มาใช้งานเยอะอาจจะต้องรอกันบ้างค่ะ

ด้านข้างห้องฟิตเนส เมื่อมองตรงไปจะเห็นทางเข้า Lobby ของอาคาร A ทางขวามือเป็นส่วนห้องน้ำส่วนกลาง สำหรับคนที่มาใช้สระว่ายน้ำและ Fitness สามารถมาเข้าได้ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิง สำหรับคนที่มาใช้สระว่ายน้ำและ Fitness สามารถมาเข้าได้ค่ะ

มาดูบรรยากาศภายใน Lobby อาคาร A กันค่ะ ทางเข้า Lobby จะไม่ต้องแตะ Key Card นะคะ เมื่อเพื่อนมาหาสามารถให้เพื่อนมานั่งรอที่ Lobby ได้เลย

ภายใน Lobby มีที่นั่งค่อนข้างเยอะสำหรับนั่งรอ  ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเขียวเข้ากับโครงการ

ทางเข้าโถงลิฟต์และส่วนพักอาศัยจะต้องใช้ Key Card แตะก่อนเข้าเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ

มาดูทางฝั่งอาคาร B กันบ้าง ทางเข้า Lobby จะไม่จำเป็นต้องแตะ Key Card เหมือนกันกับอาคาร A สามารถเข้าไปได้เลยค่ะ

Lobby ของอาคาร B จะมีความแตกต่างจากอาคาร A ตรงที่มี โถงสูง 2 ชั้น ให้ความรู้สึกโล่งกว่า แต่การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จะใช้แบบเดียวกันกับอาคาร A คือมีสีเขียว บรรยากาศธรรมชาติค่ะ

ส่วนของ Lobby ที่อาคาร B มีทางเข้า 2 ทาง สามารถเข้าจากทางสวนส่วนกลางได้โดยไม่ต้องเดินอ้อมตึกมาค่ะ

ส่วนทางเข้าโถงลิฟต์และพื้นที่พักอาศัยจะต้องใช้ Key Card แตะเข้าเพื่อคัดกรองความปลอดภัย แก่ลูกบ้านค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับส่วน Mail Box และด้านขวามือเป็นพื้นที่ไปยังห้องซักผ้าค่ะ

ห้องซักผ้าปัจจุบันยังทำไม่เสร็จ ถ้าเรียบร้อยแล้วในอนาคตจะมีเครื่องซักผ้ามาให้บริการลูกบ้านค่ะ

ส่วนโถงลิฟต์จะมีการตกแต่งเข้ากับ Lobby มีช่องแสงมองเห็นส่วนถนนทางออกและลานจอดรถ มีลิฟต์ทั้งหมด 2 ตัวต่ออาคาร มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 115-120 : 1 ถือว่าอยู่ในระดับที่พอดีค่อนข้างเยอะสำหรับคอนโด Low Rise อาจจะต้องรอลิฟต์สักหน่อยในชั่วโมงเร่งด่วนค่ะ

โถงทางเดินที่ชั้น 2 สามารถมองลงไปเห็นส่วนของ Lobby ได้จากผนังกระจก ตรงนี้จะได้แสงบริเวณทางเดินเพิ่มากขึ้น และช่วยให้รู่สึกสบายไม่อึดอัดด้วยค่ะ

โถงทางเดินมีความกว้างประมาณ 1.50 เมตร มีช่องแสงและช่วยระบายอากาศบริเวณทางเดินด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Co-working Space
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 26.00 x 8.00  เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 118 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 120 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 115 : 1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ  32 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

วันนี้เราจะพามาดูผังห้องกันทั้งหมด 2 แบบที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการนะคะ โดยโครงการขายแบบ Fully furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ มีข้อดีคือ ในพื้นที่ที่จำกัดจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเข้ากับพื้นที่โดยเฉพาะ ห้องแบบแรกที่เราจะพาไปดูคือ Type A ห้อง 1 Bedroom 24.50 ตร.ม. ผังห้องรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แม้จะมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ก็แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน เมื่อเข้ามาให้ห้องจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กที่สามารถนั่งกินบนโซฟาได้ช่วยในการประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ให้ดูอึดอัดค่ะ โดยห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจก ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น  ส่วนห้องนอนอยู่ติดกับริมหน้าต่างด้านนอกอาคาร ทำให้มองเห็นวิวภายนอกและรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทะลุผ่านไปยังส่วนห้องนั่งเล่นด้วยได้ ภายในห้องมีขนาดพอดีกับเตียงพร้อมกับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็กที่ทางโครงการติดตั้ง Built-in มาให้ ถัดมาอีกส่วนของห้องเป็นห้องน้ำและห้องครัว มีประตูกั้นจากห้องนั่งเล่นเป็นประตูบานเปิด พื้นที่ครัวติดกับระเบียง การวางผังแบบนี้ดีทำให้เวลาทำอาหารที่มีกลิ่นรบกวนก็เปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศออกไปได้ง่าย และไม่มีกลิ่นมารบกวนภายในห้อง ห้องน้ำจะอยู่ด้านในทำให้ต้องใช้เครื่องดูดอากาศเพื่อระบายอากาศแทน หรือจะเปิดประตูห้องน้ำและระเบียงเพื่อระบายอากาศก็สามารถทำได้โดยไม่รบกวนห้องนั่งเล่นและห้องนอน ห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้  ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว ชอบพื้นที่การใช้งานที่เป็นสัดส่วน ไม่เน้นพื้นที่มากนักค่ะ

ด้านหน้าห้องมีเลขห้องติดอยู่บริเวณผนังด้านขวามือ ประตูห้องเป็นประตูไม้ HDF ทาสีขาวและเขียว พร้อมตาแมว 1 จุด

ลูกบิดประตูและมือจับเป็นแบบธรรมดา ล็อคกุญแจ สามารถเปลี่ยนเป็น Digital Door Lock เองได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ผนังภายในห้องที่ได้จะเป็นผนังฉาบปูนทาสีขาวมาให้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.40 เมตร ภายในห้องนั่งเล่นจะได้รับแสงธรรามชาติเข้ามาจากหน้าต่างห้องนอน ผ่านประตูกั้นบานเลื่อนกระจก ทำให้ดูโปร่ง ไม่อึดอัดแม้พื้นที่จะค่อนข้างเล็กค่ะ

พื้นภายในห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ มีขอบยกต่างระดับเล็กน้อยไม่ให้ฝุ่นผงจากทางเดินเข้ามาภายในห้อง

ห้องนั่งเล่นสามารวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ แต่ไม่ควรไม่โต๊ะกลางค่ะ เนื่องจากจะทำให้ขวางประตู อาจจะเดินลำบากขึ้น แนะนำให้ใช้เป็นโต๊ะที่ใช้กับโซฟาได้ ห้องนั่งเล่นมีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร ซึ่งเหมาะสมกับ TV ขนาดประมาณ 30 นิ้วค่ะ

ทางโครงการจะได้โซฟา 3 ที่นั่งสีดำ โต๊ะนั่งรับประทานอาหารกระจกสีดำ และเก้าอี้เข้ากันกับชุดโซฟามาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่ในการวางโต๊ะกลางและชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้

อีกฝั่งหนึ่งทางโครงการได้ให้ชั้นวาง TV Built-in สีขาวมาให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆเช่นชั้นวางของ โครงการไม่ได้ให้มานะคะ ใครจะติดตั้ง Built-in ตู้เก็บของด้านบนก็สามารถทำเพิ่มเติมได้ แต่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศด้วยค่ะ

ชั้นวาง TV มีช่องเก็บของด้านล่างและด้านข้างมาให้ ใช้เก็บของทั่วไปอย่างกระดาษ เครื่องเขียน ของใช้ต่างๆ ส่วนชั้นที่ไม่มีบานปิดก็ใช้เก็บของที่หยิบมาใช้งานง่ายอย่างรีโมต หรือหนังสืออ่านเล่น เป็นต้น

ห้องนั่งเล่นติดกับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนมาให้ ด้านล่างเป็นกระจกขุ่นและด้านบนเป็นกระจกใจ ช่วยให้แสงจากระเบียงเข้ามในห้องนั่งเล่น และดูไม่อึดอัดเหมือนบานทั่วโป

ตัวบานกรอบเป็นแบบรางเลื่อนอยู่ด้านล่าง อาจจะเดินสะดุดได้ ต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ

ถักมาเป็นส่วนห้องนอน โครงการจะให้เตียง 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก), โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ พร้อมเข้าอยู่ ห้องนอนมีช่องแสงขนาดใหญ่ได้แสงเยอะ  มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะข้างเตียง 1 จุด

ฝั่งขวามือของเตียงจะเหลือพื้นที่ประมาณ 0.9 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ

ด้านปลายเตียง เหลือพื้นที่ประมาณ 70 เซนติเมตร จากปลายเตียงจนถึงชั้นวาง TV เหมาะ กับวาง TV ขนาดอยู่ที่ประมาณ 22-28 นิ้วค่ะ

ฝั่งปลายเตียงเป็นพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า โดยให้กระจกและโต๊ะ , เก้าอี้ภายในห้องนอนมาให้ด้วยค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งที่ได้ เมื่อต่อกับชั้นวางของที่โครงการให้มาแล้วกลายเป็นโต๊ะเล่นระดับ วางของสะสมหรือตั้งโชว์สวยงาม ได้กระจกเงาบานสูงและเก้าอี้ที่ขนาดความสูงพอดีกันมาด้วย เป็นข้อดี ของโครงการที่ขายแบบ Fully Furnished ที่ลูกบ้านได้ต้องไปหาเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับขนาดพื้นที่จำกัด ซึ่งหาค่อนข้างยาก

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นบานเปิดเลื่อน มีกระจกติดตั้งมาให้ที่หน้าบาน สะดวกในการแต่งตัว ไม่ต้องซื้อกระจกมาตั้งแยกเองค่ะ ภายในตู้เสื้อผ้ามีลิ้นชักและชั้นสำหรับใส่เสื้อผ้าพับ และด้านบนมีช่องสำหรับเก็บผ้าห่มได้

ถัดมาเป็นส่วนครัว ซึ่งแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เวลาทำอาหารจะไม่มีกลิ่นออกมารบกวนภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ

ภายในครัวมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นประมาณ 0.87 เซนติเมตร ติดตั้งเคาน์เตอร์ Built-in มาให้ มีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง ขนาดไม่ใหญ่นัก เหมาะกับการซื้ออาหารจากข้างนอกมาอุ่นกินที่ห้องมากกว่าทำอาหารเองค่ะ

ส่วนครัวกว้างประมาณ 1.00 เมตร สามารถใช้งานได้สะดวก พื้นที่ครัวติดกับระเบียง ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ ช่วยให้ครัวสว่าง และสามารถเปิดระบายอากาศได้

อุปกรณ์ครัวที่ได้จะได้ อ่างล้างจานมาให้ บน top ครัวลามิเนต มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารด้านข้างเล็กน้อย สำหรับคนที่ต้องการทำอาหารกินเองแนะนำให้ซื้อเตาไฟฟ้ามาใช้งานเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่มากกว่าเตาแก๊สค่ะ

อ่างล้างจานที่ได้เป็นอ่างสเตนเลส ก๊อกทรงโค้ง จาก Camar-tec

ชั้นเก็บของด้านบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และด้านข้างเป็นชั้นบานเปิดสำหรับเก็บจาน,ชาม ค่ะ ตัวหน้าบานปิดไม่ได้ Soft Close นะคะจะต้องปิดเบาๆเอง

ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน-ส้อมและช่องเก็บของด้านล่าง เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด ถังขยะ เป็นต้น

ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียม กระจกเขียวใส เปิด 2 ตอน รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก ตัวระเบียงติดตั้ง Condensing Unit แบบแขวนด้านบนทำให้พื้นที่ระเบียงออกไปใช้งานได้เต็มพื้นที่

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 12 x 12 นิ้ว ระเบียงกว้าง 0.82 x 1.75 เมตร สามารถตั้งราวแขวนผ้าสำหรับตากผ้า หรือวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ ขอบพื้นระหว่างระเบียงและภายในห้องยกสูงขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร ช่วยไม่ให้เวลาฝนตกแล้วน้ำเข้าสู่ห้องได้ค่ะ

พื้นระเบียงมีการเดินท่อสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย ตัวระเบียงมีไฟติดมาให้ 1 จุด สำหรับให้แสงสว่างเวลากลางคืน

ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กสีดำ สูงประมาณ 1.10 เมตร

Condensing Unit ติดตั้งแบบแขวนด้านบนและหันออกด้านนอกทำให้ลมร้อนออกสู่ด้านนอกไม่รบกวนกับคนใช้งานที่ระเบียงค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับระเบียงคือห้องน้ำ ซึ่งแยกส่วนเปียก-แห้ง เข้าไปแล้วจะเจอกับอ่างล้างหน้าตรงกลาง ฝั่งขวาเป็นพื้นที่โถสุขภัณฑ์ และด้านซ้ายมือเป็นพื้นที่อาบน้ำ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 12 x 12 นิ้ว ยกขอบธรณีสูงประมาณ 10 เซนนติเมตร ช่วยให้เวลาทำความสะอาดห้องน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกมายังด้านนอกได้ค่ะ

อ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัว พร้อมกระจกเงาทรงสูง

อ่างล้างมือที่ได้เป็นอ่างเซรามิคสีขาว จาก Cotto หรือ อะครีลิคสีขาวจาก Charmer หรือเทียบเท่า มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางของเพิ่มขึ้นมาด้วย

ส่วนสุขภัณฑ์ มาจาก Cotto หรือ American Standard หรือเทียบเท่า พื้นที่สุขภัณฑ์ประมาณ 80 เซนติเมตร นั่งได้สบายไม่อึดอัดค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำทางโครงการไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ แนะนำให้ติดตั้งเองเพิ่มเติม ช่วยให้เวลาอาบน้ำแล้วน้ำไม่กระเด็นมาเลอะส่วนแห้งได้ค่ะ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.20 x 0.80 เมตร สำหรับคนตัวใหญ่หน่อยก็อาบได้สบายค่ะ

ฝักบัวติดตั้งกับผนังพร้อมชั้นวางสบู่มาให้ 1 ชิ้น ถ้าใครคิดว่าไม่พอสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้แต่แนะนำเป็นแบบเข้ามุมจะช่วยประหยัดพื้นที่มากขึ้นค่ะ นอกจากนั้นทุกห้องทางโครงการจะเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ ลูกบ้านสามารถซื้อเครื่องมาติดตั้งได้เลยค่ะ

ฝักบัวจาก Hafele ดีไซน์จับถนัดมือ

ด้านบนมีพัดลมระบายอากาศ ช่วยระบายกลิ่นอับภายในห้องน้ำติดตั้งมาให้ค่ะ

มาถึงแบบที่ 2 Type C ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตารางเมตร เป็นห้องรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเช่นกัน แต่มีการจัดพื้นที่การใช้งานแตกต่างจากห้องแรก โดยที่ห้องนี้เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ซึ่งห้องนั่งเล่นของห้องนี้มีขนาดกว้างขึ้นมีระยะระหว่างโซฟากับ TV ยาวขึ้นสามารวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ และมีพื้นที่สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารเป็นสัดส่วน ห้องน้ำจะเข้าได้จากห้องนั่งเล่นเลย ไม่ต้องผ่านส่วนครัวก่อน ซึ่งเป็นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งมีพื้นที่อาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วน ห้องนอนกั้นเป็นส่วนชัดเจนด้วยประตูบานเปิด อยู่ติดหน้าต่างมองเห็นวิวด้านนอกได้ แต่ห้องครัวของห้องนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็ได้เป็นครัวปิดพื้นที่ติดกับระเบียงเช่นกัน มีข้อดีคือเวลาทำอาหารมีกลิ่นก็สามารถทำได้ โดยไม่มีกลิ่นมารบกวนภายในห้องค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่ 1-2 คน ชอบพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ชอบห้องนั่งเล่นกว้าง ไม่เน้นการทำครัวมากนัก  บรรยากาศภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

เข้าห้องมาแล้วจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน พื้นที่ห้องนั่งเล่นดูโปร่งโล่งกว่าห้องแรก แม้ว่ามีพื้นที่แตกต่างกันประมาณ 4 ตารางเมตรเท่านั้นเองค่ะ โดยห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนแจกไปยังห้องอื่นๆ มีห้องครัวอยู่ทางซ้ายมือ มีพื้นที่ด้านหน้าครัวสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้  มีห้องนอนตรงกลางเป็นประตูบานเปิด และฝั่งขวามือคือห้องน้ำค่ะ พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร เหมือนกับห้องแรก

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะได้โซฟา และชุดโต๊ะรับประทานอาหารมาด้วย ตรงผนังด้านหลังสามารถทำชั้นวางของเพิ่มเติมสำหรับโชว์ของสะสมหรือประดับตกแต่งได้

ฝั่งตรงข้ามทางโครงการก็ติดตั้งชั้นวาง TV มาให้ สามารถทำชั้นเก็บของด้านบนเพิ่มได้ แต่ต้องวัดระยะเผื่อเครื่องปรับอาการด้านบนด้วยนะคะ

ชั้นวาง TV ที่ได้เหมือนกับห้องแรกเลยค่ะ เก็บของด้านล่างและด้านข้างมาให้ พร้อมลิ้นชักและบานเปิด สำหรับใส่ของใช้ทั่วไป

ระยะดู TV ของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 3.20 เมตร สามารถวาง TV ขนาดที่เหมาะสมอยู่ที่ 40-46 นิ้ว ค่ะ ซึ่งสำหรับห้องนี้จะได้โต๊ะกลางสีขาวมาให้ด้วยค่ะ

ก่อนอื่นของพาแวะเข้ามาดูห้องน้ำกันก่อนนะคะ ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน เข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างหน้าก่อน ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ ตามการใช้งานทั่วไป พื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 12 x 12 นิ้ว โดยพื้นจะมีสีเข้มกว่าผนังค่ะ

ห้องน้ำยกขอบธรณีสูงประมาณ 10 เซนนติเมตร  ไม่ให้น้ำไหลออกมายังด้านนอกได้

อ่างล้างหน้าติดตั้งลอย มาพร้อมกับกระจกบานสูงเช่นเดียวกับห้องแรกค่ะ

อ่างล้างมือที่ได้เป็นอ่างเซรามิคสีขาว จาก Cotto หรือ อะครีลิคสีขาวจาก Charmer มีที่วางของด้านข้าง สะดวกในหารใช้งาน และ สุขภัณฑ์ มาจาก Cotto หรือ American Standard หรือเทียบเท่า  มีพื้นที่การใช้งานนั่งได้สบายค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็มีขอบยกขึ้นมาให้ แต่แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเช่นกัน พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้มีขนาด 0.9 x 0.9 เมตร สามารถอาบได้สบายๆ

ฝักบัวจาก Hafele ติดตั้งกับผนังพร้อมชั้นวางสบู่มาให้ 1 ชิ้น แนะนำให้ติดชั้นวางเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกในการใช้งานนะคะ ที่ผนังเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เช่นกัน

ถัดมาเราจะพาไปดูส่วนห้องครัวกันค่ะ ด้านหน้าห้องมีพื้นที่เป็นสัดส่วนสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารมาให้แล้ว โดยมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.00 เมตร จากระยะโซฟาจนถึงผนังห้องครัวค่ะ

สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2 ที่นั่ง ซึ่งทางโครงการก็ได้ให้มาด้วย ดีไซน์ดูทันสมัย เข้ากับโซฟา

ประตูห้องครัวเป็นประตูบานกรอบอลูมิเนียมกระจกใส บานเลื่อน 2 ตอน ทำให้รับแสงมาจากระเบียงผ่านครัว เข้ามายังห้องนั่งเล่นได้ ทำให้ห้องนั่งเล่นดูโปร่งไม่อึดอัดค่ะ

จากพื้นห้องนั่งเล่นปูด้วยลามิเนตลายไม้ พอเข้าครัวจะเปลี่ยนเป็นปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 12 x 12 นิ้ว มีความทนทานและทำความสะอาดง่ายกว่าผิวลามิเนตค่ะ

ห้องครัวมีพื้นที่ขนาดค่อนข้างเล็ก มีความกว้างเคาน์เตอร์อยู่ที่ 1.20 เมตร ลักษณะเคาน์เตอร์เหมือนกันกับห้องแรกเลยค่ะ

พื้นที่สำหรับวางตู้เย็นจะต้องวางตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ ซึ่งมีพื้นที่เหลืออยู่ 1.6 x 1.2 เมตร เมื่อวางตู้เย็นไปแล้วอาจเหลือพื้นที่เดินประมาณ 0.9 – 1.0 เมตร

เคาน์เตอร์ Top ลามิเนตมีขอบกั้นระว่างตัวเคาน์เตอร์และผนังมาให้ ช่วงให้ทำความสะอาดง่าย มีอ่างล้างจานมาให้ จาก Camar-tec สำหรับคนที่ต้องการทำอาหารกินเองแนะนำให้ซื้อเตาไฟฟ้ามาติตดั้งเพิ่มเติมค่ะ ด้านบนเป็นชั้นเก็บของมีพื้นที่วางเตาไมโครเวฟได้ (ช่องขวาล่าง) ผนังด้านหลังติดกระเบื้องมาให้ทำให้ทำความสะอาดง่าย

ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน-ส้อมและช่องเก็บของด้านล่างเช่นกันค่ะ

ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียม กระจกเขียวใส เปิด 2 ตอน ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาให้กับห้องครัวและห้องนั่งเล่น ตัวระเบียงติดตั้ง Condensing Unit แบบแขวนด้านบนเหมือนกับห้องแรก ทำให้พื้นที่ระเบียงออกไปใช้งานได้เต็มพื้นที่

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 12 x 12 นิ้ว ระเบียงกว้าง 2.10 x 0.75 เมตร จะยาวกว่าห้องแรก สามารถออกไปใช้งานได้จริง

มีการเดินท่อสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้ พร้อมกับติดตั้งไฟติดผนังมาให้ 1 จุด สำหรับออกมาใช้งานที่ระเบียงตอนกลางคืนได้ค่ะ

Condensing Unit ติดตั้งแบบแขวนด้านบนและหันออกด้านนอกทำให้ลมร้อนออกสู่ด้านนอกไม่รบกวนการใช้งานที่ระเบียง

มาถึงห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนเป็นห้องที่อยู่ติดกับหน้าต่างระเบียง มองเห็นวิวด้านนอกได้ ซึ่งทางโครงการมีเตียง ขนาด 5 ฟุต , ชั้นวาง TV, โต๊ะเครื่องแป้ง, เก้าอี้ และโต๊ะข้างเตียงมาให้

ห้องนอนได้หน้าต่างบานใหญ่ซึ่งเป็นบานเลื่อนเปิดระบายอากาศได้ ช่วยรับแสงและทำให้เห็นวิวได้กว้าง

พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายกว้างประมาณ 0.50 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ค่ะ

ส่วนฝั่งขวาพื้นที่ด้านหน้าตู้เสื้อผ้า กว้างประมาณ 0.6 เมตร สามารถยืนแต่งตัวได้ แต่ถ้าใครชอบพื้นที่กว้างขึ้นแนะนำให้เลื่อนเตียงไปชิดกับหน้าต่างและย้ายโต๊ะหัวเตียงมาฝั่งนี้แทนจะได้พื้นที่แต่งตัวที่กว้างขึ้นค่ะ

ส่วนปลายเตียงเมื่อวางชั้นวาง TV แล้วจะเหลือพื้นที่เดินประมาณ 30 เซนติเมตร สำหรับคนที่ชอบพื้นที่กว้างก็สามารถนำชั้นวางไปไว้ด้านนอกบริเวณตรงข้ามกับโต๊ะรับประทานอาหารได้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งจะได้กระจกบานสูง เคาน์เตอร์มีลิ้นชักเก็บของและ เก้าอี้เข้าชุดกันค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นบานเปิดเลื่อน มีกระจกติดตั้งมาให้ที่หน้าบาน สะดวกในการแต่งตัว ด้านในมีลิ้นชักและชั้นวางของมาให้แบบเดียวกับห้องแรก

ลิ้นชักภายในตู้เสื้อผ้ามีกุญแจล็อคได้ 1 ช่อง สำหรับใส่เครื่องประดับได้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 February 2019

  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 8 เนื้อที่ 24.83 ตารางเมตร ราคา 1.85 ล้านาท หรือ 74,500 บาท/ตารางเมตร
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 8 เนื้อที่ 28.72 ตารางเมตร ราคา 2.19 ล้านาท หรือ 76,300 บาท/ตารางเมตร
  • 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 8 เนื้อที่ 46.89 ตารางเมตร ราคา 3.78 ล้านาท หรือ 80,600 บาท/ตารางเมตร

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Shuttle Bus ไปกลับ สนามบินสุวรรณภูมิ
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา -30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล

โครงการ  iCONDO -Green Space สุขุมวิท 77 อยู่ติดกับ The Paseo Mall ซึ่งเป็นแหล่งที่คนในย่านนี้นิยมกันมาจับจ่ายใช้สอย การเดินทางด้วยรถสะดวกใกล้มอเตอร์เวย์ และสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ลาดกระบัง ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้สามารถเดินไปยัง The Paseo Mall ซึ่งเป็น Community Mall รวมร้านอาหารต่างๆมากมาย มีทั้ง Supermarket และร้านค้า คลีนิค อยู่ภายใน นอกจากนั้นบนถนนลาดกระบังเองก็หาของกินได้ง่าย มีร้านข้างทางอยู่ค่อนข้างเยอะ ถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ

การเดินทางโดยใช้รถทำได้สะดวกเนื่องจากโครงการตั้งอยู่บนนลาดกระบัง เดินทางไปยังอ่อนนุช, ศรีนครินทร์, หรือไปยังสุวรรณภูมิได้สะดวก ใกล้กับมอเตอร์เวย์ ใช้เดินทางไปยังพระราม 9 ได้โดยไม่เสียค่าผ่านทาง หรือตรงไปยังดินแดงได้เลย หากจะออกจากกรุงเทพฯไปยังชลบุรีก็ทำได้สะดวก อีกเส้นทางที่ไม่ไกลจากโครงการก็คือทางด่วนวงเเหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ทางด่วนวงเเหวนกาญจาภิเษก) ใช้ไปยังโซนบางนา, รามอินทราได้ ที่จอดรถภายในโครงการมีทั้งหมด 32 % เมื่อรวมซ้อนคันแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 40 % คือว่าอยู่ในระดับที่ประมาณไม่เยอะเกินไปแต่ก็ไม่น้อยไปค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถทำได้ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กับสถานี รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ลาดกระบัง และรถไฟสายตะวันออกสถานีลาดกระบัง เดินทางไปยังหัวลำโพงหรือฉะเชิงเทราได้ ด้านหน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ สามารถเรียกได้ง่าย แถวนั้นยังมีรถประจำทางและรถ Taxi ผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นทางโครงการมีรถรับ-ส่ง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งภายในสนามบินก็มีสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์สุวรรณภูมิด้วยค่ะ

วัสดุ

โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ วัสดุทั่วไปเหมาะสมกับระดับราคา พื้นห้องปูด้วยลามิเนต ส่วนระเบียงและห้องครัวปูกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างมือที่ได้เป็นอ่างเซรามิคสีขาว จาก Cotto หรือ อะครีลิคสีขาวจาก Charmer สุขภัณฑ์ มาจาก Cotto หรือ American Standard และฝักบัวจาก Hafele  ภายในครัวได้ Kitchen & Sink ติดตั้งกระเบื้องด้านหลังเคาน์เตอร์มาให้

การออกแบบ

การออกแบบโครงการวางผังการเดินรถ One Way รอบโครงการ ไม่วุ่นวาย ตัวอาคารเป็นรูปตัว L ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง หันทางทิศตะวันออก-ตะวันตก ห้องฝั่งตะวันออกจะได้รับแดดเช้า และห้องตะวันตกจะได้แดดบ่าย มีความร้อนแต่จะไม่โดนโดยตรงกับห้องนั่งเล่น โถงทางเดินอาคารมีช่องเปิดรับแสงและระบายอากาศมากกว่า 2 จุด ตัวห้องเน้นห้อง 1 Bedroom เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เข้ากับพื้นที่การใช้งาน ผังห้องจัดพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนลงตัว ได้ครัวปิดติดกับระเบียงช่วยเรื่องกลิ่นจากการทำอาหารได้ดี

สาธารณูปโภค

สาธารณูปโภคของโครงการมีให้ค่อนข้างเยอะ มี Co-working Space ส่วนส่วนกลางสไตล์ Tropical Garden มีสระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 26.00 x 8.00  เมตร  มีห้อง Fitness และสนามเด็กเล่นมาเล่นได้ทั้งครอบครัว มี Lobby แยก 2 อาคาร แต่ละอาคารมีลิฟต์ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 120 : 1 และอัตราส่วนลิฟต์ตึก B 115 : 1 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางหนาแน่น

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 50,000-60,000 บาท/ตร.ม., 28 February 2019

  • ทำเล 8.00/10 – ติดถนนใหญ่ ถนนลาดกระบัง มีความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ใกล้สุวรรณภูมิ ใกล้วงแหวน มีทางด่วนให้ใช้ จอดรถได้ 32%
  • ไม่ใช้รถ 8.00/10 – มีวินด้านหน้า มีรถรับ-ส่งสนามบินสุวรรณภูมิ (รถไฟฟ้าสถานีสุวรรณภูมิ)
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ วัสดุตามมาตรฐาน
  • แบบ 8.00/10 – พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน ห้องมีพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนลงตัว มีเฟอร์นิเจอร์เข้าชุดและขนาดพอดี
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีค่อนข้างครบ Co-working Space, Swimming Pool, Fitness และพื้นที่สีเขียว

  • MAIN CLASS
  • 7.90 / 10.00

BOTTOM LINE

iCONDO -Green Space สุขุมวิท 77 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ มีรถรับส่งที่สนามบิน ทำเลหาของกินง่าย ชอบพื้นที่ส่วนกลางเน้นธรรมชาติ ได้ห้องแบบเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ มีงบประมาณระดับ  1.8 – 3.7 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ  12,600 – 25,900 บาท/เดือน