รีวิวฉบับที่ 1552 … สวัสดีค่ะ ช่วงนี้กระแสฮอตฮิตบนทำเลย่านลาดพร้าวก็ไม่ได้ห่างหายไป ยังคงมีโครงการเปิดใหม่อยู่เรื่อยๆ นะคะ สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดขนาดเล็ก เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตไม่มาก มาพร้อมกับ Facilities หลากหลายให้ใช้งาน ในราคาที่หยิบจับง่าย ต้องไม่พลาดมาอ่านรีวิวโครงการ Groove รัชดา-ลาดพร้าว ในซอยลาดพร้าว 48 นะคะ รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไร ตามอ่านกันเลยค่ะ

Fact @ 27 February 2018

  • Groove Condo Ratchada-Ladprao (กรู๊ฟ คอนโด รัชดา-ลาดพร้าว)
  • บริษัท ดีวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ห้วยขวาง (ซอยลาดพร้าว 48 แยก 6 ถนนลาดพร้าว)
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 29 คันคิดเป็น 37% ไม่รวมจอดซ้อนคัน และ 55% รวมซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 0-2-60 ไร่ (260 ตร.วา)
  • เริ่มก่อสร้าง : Q3 ปี 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 ปี 2562
  • 1 Bedroom 23.5 ตร.ม. จำนวน 55 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท* (ราคาโปรโมชั่น)
  • 1 Bedroom Plus 35.5 ตร.ม. จำนวน 12 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 47 ตร.ม. จำนวน 5 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
  • Loft 24 ตร.ม. (พื้นที่ใช้สอยตามโฉนด) จำนวน 7 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.44 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 80,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • ลงทะเบียนรับส่วนลด : คลิกที่นี่
  • โทร  : 095-141-5566

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.797044, 100.585216

โครงการ Groove รัชดา-ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว48 แยก 6 โดยภาพรวมของทำเลในย่านนี่ จัดเป็นย่านพักอาศัยที่มีคนอาศัยอยู่เยอะพอสมควร สังเกตได้จากจำนวนบ้านและชุมชนเดิมในพื้นที่ ตลอดจนหอพักและอพาร์เม้นต์ ที่มีอยู่มากมายตามซอยหลักและซอยย่อยต่างๆ ด้วยเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างถนนสายหลัก 2 สาย คือ ถนนลาดพร้าว และ ถนนสุทธิสาร จึงทำให้การเข้า-ออก เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆได้สะดวก ทำให้มีรถเข้า-ออกซอยเพื่อลัดไปยังถนนต่างๆ เยอะพอสมควรนะคะ บรรยากาศในซอยจึงคึกคักดีทีเดียว ในส่วนของที่ตั้งโครงการจะอยู่ในแยกย่อยของซอยลาดพร้าว 48 อีกที โดยอยู่ในแยก 6 ลึกจากซอยลาดพร้าว 48 ประมาณ 50 ม. และห่างจากถนนลาดพร้าวประมาณ 350 เมตร ทำให้บรรยากาศโดยรอบของโครงการสงบมากขึ้น ส่วนใหญ่โดยรอบยังเป็นบ้านพักอาศัย เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น

ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์เรียกได้ว่าสบายมาก สามารถเดินจากโครงการมาหาของกินในซอยได้เลย ที่คึกคักมาก จากปากซอยจะมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย โดยเฉพาะตลาดเมืองไทยภัทรที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งของกินของใช้ให้เลือกเยอะ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นแหล่งออฟฟิศ มีออฟฟิศใหญ่ของเมืองไทยประกันชีวิตอยู่ ดังนั้นช่วงเช้า ๆ สาย ๆ อาหารการกินไม่ต้องห่วงค่ะ แถมมีตลาดนัดเสื้อผ้าให้จับจ่ายกันอีกด้วย ถ้ามาทางถนนสุทธิสารยังมี Lotus Express ให้ซื้อของ และนอกจากนี้สำหรับใครที่อยากช็อปปิ้งห้างช่วงวันหยุดใกล้ๆ ก็จะมี Central ลาดพร้าว Union Mall บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หรือมาทางเส้นประดิษฐ์มนูธรรมอย่าง Central East Ville, CDC, Crystal ก็ไม่ยากค่ะ อาศัยขับรถกันไปก่อน แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าเสร็จแล้วนั่งไปรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้วต่อ MRT สายสีน้ำเงินอีกไม่กี่สถานีก็ถึง Central ลาดพร้าว หรือ Union Mall แล้วค่ะ

จุดเด่นของซอยนี้ที่สำคัญและช่วยให้มีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น ก็คือเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายทาง หลักๆ คือเป็นซอยที่เชื่อมเข้า ถนนลาดพร้าว และถนนสุทธิสาร ซึ่งถนนสุทธิสารนี้สามารถไปทะลุออกได้อีก 2 ทางด้วยกัน คือถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกสุทธิสาร และซอยลาดพร้าว 64 ที่สามารถกลับรถ วิ่งไปยังบางกะปิ แยกลำสาลีได้

อีกหนึ่งจุดเด่นทำเลโครงการ สำหรับใครที่ต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้า เพราะในอนาคตบนถนนลาดพร้าวนี้จะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดผ่าน โดยจะเริ่มต้นสายจากสถานีรัชดา ซึ่งเป็นสถานีที่ Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีรัชดา ยาวไปตลอดเส้นลาดพร้ามและเลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์บริเวณแยกลำสาลี ตรงไปยาวๆ และสิ้นสุดที่สถานีสำโรง Interchage กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก

สำหรับสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดก็คือสถานีภาวนา โดยมีตำแหน่งอยู่บริเวณแยกภาวนาเลย โดยห่างจากโครงการประมาณ 900 ม. อาจจะต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นนะคะ

เส้นทางในการเดินทางวันนี้เราเริ่มต้นกันบนถนนลาดพร้าวเลย บริเวณช่วง Imperial World ลาดพร้าว วิ่งผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม จากนั้นวิ่งตรงต่อไปซักระยะประมาณ 2.5 กม. ก็จะเห็นซอยลาดพร้าว 48 แล้วค่ะ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงไปประมาณ 300 ม. เลี้ยวขวาเข้าซอยลาดพร้าว 48 แยก 6 อีกที เมื่อเลี้ยวมาแล้วจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นที่หน้าห้าง Imperial World ลาดพร้าว อย่างวันที่โครงการจะเป็นวันธรรมดาเลยช่วงเวลาเร่งด่วนไปแล้วเล็กน้อย ปริมาณรถฝั่งขาเข้า (มุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าว) ก็ยังมีปริมาณหนาแน่นพอสมควร แต่ยังขยับได้เรื่อยๆ ในเรื่องของการจราจรบนเส้นลาดพร้าวเดิมเป็นที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องรถติดนะคะ ปัจจุบันที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็ยิ่งเพิ่มความติดให้กับเส้นลาดพร้าวในช่วงนี้นะคะ อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้น แต่เมื่อรถไฟฟ้าเสร็จแล้วการเดินทางจะสะดวกเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลย ยังไงก็อดทนรอหน่อยนะคะ อีกประมาณ 3 ปีบวกลบเล็กน้อย

เลยจากห้าง Imperial World ลาดพร้าว ก็เจอจุดตัดกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ ซึ่งทางด่วนนี้ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนะคะ โดยคิดระยะห่างจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนจริงๆ จะอยู่ที่ประมาณ 7 กม. ถ้ารถไม่ติดมากก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ ส่วนเส้นทางขับรถเราจะขับตรงกันต่อมุ่งหน้าไปทางโชคชัย 4 ตามป้ายเขียว

สำหรับเส้นทางบนถนนลาดพร้าวนี้จะมีซอยลัดไปออกถนนได้หลากหลายเส้นมากๆ อย่างซอยลาดพร้าว 64 ที่เราผ่านก็เป็นอีกซอยที่สามารถลัดไปออกถนนรัชดาภิเษกได้เช่นกันค่ะ ใครที่ทำงานหรือวิ่งเส้นรัชดาภิเษกเป็นประจำก็มาเข้า-ออกเส้นทางนี้ได้

ตรงมาอีกหน่อยผ่านแยกโชคชัย 4 เป็นแยกที่ตัดกับถนนโชคชัย 4 และด้านในก็จะแยกออกมาเป็นถนนลาดพร้าววังหิน จัดเป็นย่านในซอยใหญ่ที่มีร้านอาหารและคาเฟ่เยอะมากๆ อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารการกินตั้งแต่เช้า-ดึก สามารถไปฝากท้องกันได้ประจำ นอกจากไม่ไกลจากโครงการมากแล้ว ยังมีร้านให้เลือกหลากหลายในราคาสบายกระเป๋า

จากนั้นตรงมาอีกหน่อยข้ามคลองลาดพร้าวลงมาก็จะเจอกับโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ฝั่งซ้ายมือ เป็นโรงเรียนใหญ่ที่เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายเลยค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยก็ถึงซอยลาดพร้าว 48 แล้ว ก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ สังเกตว่าหน้าปากซอยนี้มีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยบริการอยู่ด้วยนะคะ ใครขี้เกียจเดินก็พึ่งพาพี่วินได้เลย

ในซอยนี้แม้ทางเข้าจะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่เป็นซอยที่บรรยากาศคึกคักพอสมควรเลยนะคะ ช่วงหน้าปากซอยมีร้านค้า ร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารตามสั่งหลายร้านทีเดียว นอกจากนี้ก็มี 7-11 อีกด้วย สามารถแวะซื้อข้าวเข้าโครงการได้

จากหน้าปากซอยตรงเข้ามาประมาณ 300 ม. ก่อนถึงทางโค้งที่ 2 ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยลาดพร้าว 48 แยก 6

เลี้ยวเข้ามาในซอยก็จะเจอ Sale Office โครงการแล้วนะคะ ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินโครงการเลย

ขนาดของที่ดินโครงการจะยาวขนานไปกับถนนซอยนะคะ บรรยากาศรอบๆ ที่ดินโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย ทำให้โครงการไม่ถูกบล็อกวิวระยะใกล้

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจัดว่ามีความสงบระดับนึงนะคะ เนื่องจากอยู่ในซอยย่อยของซอยลาดพร้าว 48 มาอีกที จัดว่าเหมาะกับเป็นพื้นที่พักอาศัยที่มีความสงบแต่ก็ไม่ไกลจากความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์ในซอยลาดพร้าว 48 เพราะอยู่ลึกเข้ามาเพียง 30 ม. เท่านั้นเองค่ะ

ในเรื่องวิวทิศที่ได้เปรียบ ไม่มีอาคารบล็อกวิวในระยะใกล้คือทิศตะวันตกและเหนือนะคะ ส่วนทิศตะวันออกนั้นจะอยู่ตรงข้ามกับอาคารสำนักงานที่มีความสูงประมาณ 4-5 ชั้น ซึ่งอาจทำให้บางห้องในชั้นไม่เกินชั้น 5 ของทิศนี้ถูกบังวิวระยะไกลไปบ้าง แต่ถึงจะไม่ได้วิวระยะไกลมากนัก ก็ยังไม่ถึงกับเสียความเป็นส่วนตัวไป เพราะมีระยะห่างระหว่างอาคารถึงอาคารสำนักงานประมาณ 30 ม. ส่วนทิศใต้อยู่ใกล้กับอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น ฝั่งนี้ไม่มีห้องพักอาศัยที่หันมาด้านนี้ ก็จะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนักค่ะ ส่วนของอาคารที่ได้วิวทิศนี้จะเป็นส่วน Facilities โครงการเป็นหลัก

เข้ามาดูภายใน Sale Office กันนะคะ ปัจจุบันทางโครงการเปิดให้เข้าชมและจองห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่สนใจโครงการสามารถเข้าไปดูห้องตัวอย่างและสอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C Extra ~3.1 กม.
  • สวนลุมไนท์ บาซ่าร์รัชดาฯ ~3.7 กม.
  • Imperial World ลาดพร้าว ~4.4 กม.
  • Union Mall ~5.1 กม.
  • Central Plaza ลาดพร้าว ~6.3 กม.

  • รพ.เปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 ~2.1 กม.

  • ตลาดสดภาวนา ~1 กม.
  • ตลาดโชคชัย 4 ~1.4 กม.
  • ตลาดสดทรัพย์จันทร์ผัน (ตลาดสะพาน 2) ~ 1.6 กม.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร ~ 3.4 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ GROOVE รัชดา-ลาดพร้าว คอนโด Low Rise 8 ชั้น เพียง 79 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 260 ตร.วา มาพร้อมสไตล์การตกแต่งและรูปลักษณ์โครงการ Modern ด้วยการใช้กระจกขนาดใหญ่ เฟรมสีดำ ดูเรียบง่าย ผสานกับวัสดุไม้เทียมเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านมากขึ้น

จุดเด่นของโครงการเลยคือ Facilities ที่ให้มาร่วม 500 ตร.ม. ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด Live Work Play เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ชื่นชอบการใช้ Facilities ในโครงการ นอกจาก Facilities หลักๆ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส แล้ว ก็มี Facilities ที่เพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนสมัยใหม่ที่มักทำงานอิสระกันค่อนข้างเยอะ หรือมีธุรกิจเล็กๆ ส่วนตัว (SME) ด้วยพื้นที่ทำงานในโครงการเลย เช่น Co-Working Space, Library, Meeting Room และ Facilities ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การผ่อนคลายของคนรุ่นใหม่อย่าง Game Room, Theater Room Sky Pool Sky Lounge เป็นต้น ในแง่ของความสะดวกสบายก็มีพร้อม เช่น Home Automation, Digital Door Lock และฟังก์ชันใหม่ที่น่าสนใจไม่ค่อยเห็นในโครงการขนาดเล็กอย่าง Laundry Lounge ซึ่งบรรยากาศจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวไปดูใน Perspective กันต่อนะคะ

มาดูภาพและบรรยากาศจำลองภายในส่วน Laundry Lounge ซึ่งอยู่ในส่วน Facilities Building นะคะ บริเวณนี้นอกจากจะมีเครื่องซักผ้า อบผ้าต่างๆ ไว้บริการแล้ว ก็จัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานได้ (Free Seaters Table) รอเวลาซักผ้าเสร็จได้แบบชิลๆ ไม่น่าเบื่อ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จัดให้เป็นพื้นที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะเลยค่ะ โดยจัดให้มีพื้นที่ส่วน Co-Working Space ทำเป็นโต๊ะที่นั่งริมหน้าต่าง ให้นั่งทำงานพร้อมมองวิวภายนอกได้ ส่วนด้านในก็มีห้อง Meeting Room 2 ห้องด้วยกัน ลูกบ้านสามารถจองพื้นที่มาประชุมงานได้เลยค่ะ

สำหรับชั้น Facilities หลักนั้นทางโครงการยกให้ไปอยู่ในชั้นบนสุด เพื่อสามารถมองวิวมุมสูงสุดของโครงการได้ และยังมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วยนะคะ ชั้นนี้จะประกอบไปด้วย Sky Lounge, Sky Pool และ Panoramic Sky Fitness

เริ่มต้นที่ส่วน Sky Lounge กันก่อนนะคะ บริเวณนี้ออกแบบให้เป็นส่วน Semi-Outdoor มี Pantry เตรียมอาหาร โต๊ะรับประทานอาหารและชุดโซฟาไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน หรือจัดงานปาร์ตี้กับเพื่อนแบบส่วนตัวก็ได้นะคะ บริเวณนี้นอกจากเราจะได้วิวภายนอกแล้วก็ยังได้วิวอีกฝั่งเป็นวิวสระว่ายน้ำด้วยนะคะ

ส่วน Sky Pool จัดเป็นจุดเด่นของโครงการอีกจุดนึงเลยทีเดียว เพราะให้ความยาวมาถึง 20 ม. ด้วยกัน สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้เต็มที่ ขณะชมวิวภายนอกได้ดี ด้วยรูปแบบสระ Infinity Edge Pool

บรรยากาศด้านข้างสระว่ายน้ำจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor อีกจุด สามารถมานั่งชิลริมสระว่ายน้ำกันได้เลยค่ะ โดยทางโครงการจัดเฟอร์นิเจอร์เป็นชุดโซฟาถึง 3 ชุดด้วยกัน

ปิดท้ายด้วยภาพและบรรยากาศจำลองส่วน Panoramic Sky Fitness ที่ล้อมรอบด้วยกระจกทรงสูงจากพื้นถึงฝ้าทั้ง 2 ฝั่ง ให้สามารถชมวิวภายนอกพร้อมออกกำลังกายได้

มาดูที่ส่วนแปลนอาคารกันต่อนะคะ เริ่มจากชั้น 1 เลย แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วน Lobby และที่จอดรถค่ะ การเข้า-ออกแบ่งเป็น 2 รูปแบบ เริ่มจากการเข้า-ออกสำหรับคนเดิน ก็สามารถเดินเข้า Lobby ได้เลยจากถนนซอย ส่วนที่จอดรถจะอยู่อีกฝั่งโดยให้ช่องจอดมาทั้งหมดประมาณ 29 คันนะคะ คิดเป็น % จะอยู่ที่ประมาณ 37% แบบไม่รวมซ้อนคัน และเพิ่มเติมพื้นที่จอดรถขึ้นมาอีก 10 คัน โดยการใช้เครื่องจอดรถอัตโนมัติ  Auto Parking แบบ Bi Directional Parking (BDP) ชนิด 2 ชั้นด้วยระบบ Hydraulic ควบคุมการทำงานโดยใช้ RFID Card และ/หรือกดปุ่ม รวมทั้งหมดแล้วจะสามารถจอดได้ประมาณ 44 คัน (รวมซ้อน) คิดเป็น 55% ซึ่งจัดว่าให้มาพอสมควรนะคะ ไม่น้อยมากไป ผนวกกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะสะดวกด้วยก็คิดว่าที่จอดรถน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานค่ะ และนอกจากนี้ที่พิเศษขึ้นมาและไม่เหมือนใครคือทางโครงการมีจัดพื้นที่ Bike Sharing ให้ลูกบ้านสามารถยืมจักรยานส่วนกลางที่ทางโครงการให้ไว้ ปั่นไปซื้อของหรือออกกำลังกายใกล้ๆ โครงการได้ด้วย โดยให้ไว้ประมาร 3-5 คัน ซึ่งการบริการจัดการทางโครงการจะให้ทางนิติบุคคลเป็นผู้ดูแลต่อไปค่ะ

ในส่วน Lobby นี้จัดให้เป็นได้ทั้งพื้นที่พักผ่อน หรือจะเป็นพื้นที่ต้อนรับแขกของลูกบ้านก็ได้เช่นกันนะคะ บริเวณนี้แขกสามารถเข้ามานั่งรอได้ ส่วนใครที่จะขึ้นไปใช้งาน Facilities ด้านบนก็สามารถเดินขึ้นบันไดบริเวณ Lobby ได้เลย ถัดมาที่ส่วนโถงลิฟต์นะคะ ก่อนจะเข้าสู่โถงลิฟต์ได้จะต้องสแกนบัตรผ่านทุกครั้ง โดยลูกบ้านโครงการจะได้บัตรเพื่อสแกนอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อกันบุคคลภายนอกเข้ามาด้านในอาคารและความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในโครงการที่มากขึ้นด้วย

ชั้น 2 แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ด้วยกันคือส่วน Facilities และห้องพักอาศัย เริ่มจาก Facilities ในชั้นนี้ประกอบด้วย Laundry Lounge, Free-Seaters Table และ Board Game Arena, Mini Theater ส่วนห้องพักอาศัยในชั้นนี้มีจำนวนทั้งหมด 11 ยูนิตด้วยกัน โดยยูนิตที่มีจำนวนเยอะสุดคือห้อง 1 Bedroom 23.5 ตร.ม. (สีเขียว) ซึ่งจะอยู่ใกล้กับลิฟต์โดยสารและส่วน Facilities ส่วนห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่าง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom จะอยู่ตำแหน่งห้องมุม หรืออยู่ถัดจาก Facilities และโถงลิฟต์มาหน่อยเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หากใครกำลังมองหาห้องขนาดใหญ่แนะนำให้เลือกห้องมุมก่อนนะคะ เพราะมีผนังด้านนึงของห้องที่ไม่ติดกับเพื่อนข้างห้องทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า

ชั้น 3 ในส่วน Facilities จัดให้เป็น Co-Working Space, Meeting Room, Library & Inspiration Corners ซึ่งแนะนำว่าใครที่ตั้งใจจะมาใช้พื้นที่ส่วนกลางเพื่อนั่งทำงานอยู่แล้ว และไม่ซีเรียสเรื่องวิว ว่าต้องเป็นห้องชั้นสูงเท่านั้น ก็จะแนะนำให้เลือกห้องในชั้นนี้เลยเพราะจะสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ส่วนห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะมีการเพิ่มห้อง 1 Bedroom 23.5 ตร.ม. มากขึ้น 2 ห้องและลดห้อง 2 Bedroom ลง 1 ห้อง

ชั้น 4-6 เป็นชั้น Typical Floor Plan โดยชั้นนี้จะเป็นเพียงชั้นพักอาศัยทั้งหมด ไม่มี Facilities ด้านข้างแล้วนะคะ ซึ่งก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ความคึกคักน้อยลง ส่วนห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะมีทั้งหมด 14 ยูนิตด้วยกัน โดยเป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ไม่มีห้อง 2 Bedroom ในชั้นนี้ค่ะ สำหรับความหนาแน่นโครงการนี้จัดว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่หนาแน่นมากด้วยจำนวนห้องต่อชั้น 14 ยูนิตและอัตราส่วนลิฟต์ที่ 79 : 1 ค่ะ

ชั้น 7 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน แต่พิเศษขึ้นมาคือฝั่งทิศตะวันตกทั้งหมด จัดให้เป็นห้อง Loft (ห้องฝ้าเพดานสูง) ทั้งหมด 7 ห้องด้วยกัน ส่วนฝั่งทิศตะวันออก หรือด้านหน้าโครงการก็เป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เช่นเดิมค่ะ

ชั้น 8 เป็นชั้น Facilities ทั้งชั้นนะคะ ที่เราเห็นว่ามีห้อง Loft ในชั้นนี้คือเป็นชั้นบนของห้อง Loft นั่นเองแต่ไม่สามารถเปิดประตูห้องออกมายังส่วน Facilities ได้ ทำให้ส่วนนี้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลูกบ้านสามารถใช้ Facilities ในการพักผ่อน ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ โดยมีฟังก์ชันดังนี้ Sky Lounge, Sky Pool พร้อม Jacuzzi และ Panoramic Sky Fitness โดยรวมออกแบบผังมาได้ดีนะคะ ติดอยู่หน่อยคือห้องน้ำที่ดูจากผังแล้วไม่ได้แยกชาย/หญิงให้

ปิดท้ายก็เข้าไปชมห้องตัวอย่างของโครงการด้วย VDO Presentation ของโครงการค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1

  • Lobby
  • Bike Sharing

  • ชั้น 2
    • Free-seaters Table
    • Board Games Area
    • Mini-Theater
    • Laundry Lounge

  • ชั้น 3
    • Co-Working Space
    • 2 Meeting Rooms
    • Library and Inspiration corners

  • ชั้น Rooftop
    • Sky pool
    • Sky Lounge
    • Panoramic Sky Fitness

  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 79 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 29 คันคิดเป็น 37% ไม่รวมจอดซ้อนคัน และ 55% รวมซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card
  •  


    Product Walkthrough

    โปรดักส์ห้องพักอาศัยที่นี่ทำออกมาหลากหลายทีเดียวนะคะ มีตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom และห้อง Loft (ฝ้าเพดานสูง) ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มคนหลายแบบทั้งอยู่คนเดียว และอยู่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก

    รูปแบบการขายของที่นี่จะเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง โดยแต่ละ Type ก็มีลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ใช้สอยของห้องนั้นๆ แต่จะใช้เฟอร์นิเจอร์ของ Index Living Mall ทุก Type ห้องค่ะ นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้วทางโครงการก็จะมีเครื่องปรับอากาศ Digital Door Lock และ Home Automation ครอบคลุมเรื่องแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ และ TV ที่สามารถเปิด-ปิดการใช้งานผ่าน Smart Phone ได้เลย เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ให้เป็นมาตรฐานทุกห้อง รวมในราคาห้องเรียบร้อยแล้วค่ะ

    สำหรับห้องที่เราพาไปชมนั้นคือ ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.5 – 24 ตร.ม. เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ ลักษณะแปลนห้องจะเป็นแบบหน้าแคบลึก ภายในจัดฟังก์ชันได้ลงตัวเข้ามาเจอกับส่วน Common Area ก่อน ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร ถัดมาเป็นส่วนห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้น ในขณะที่แสงสว่างจากภายนอกที่ส่องเข้ามายังห้องนอนแล้วสามารถเข้าถึงส่วน Common Area ที่อยู่ด้านในสุดได้อีกด้วย ช่วยให้ส่วน Common Area ไม่มืดมากนัก และดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ถัดมาที่โซน Service นั้นมีโถงขนาดเล็กตรงกลาง ไว้สำหรับแจกไปยังห้องน้ำ และห้องครัวได้ พร้อมทั้งมีพื้นที่ให้ Built-in ชั้นวางของได้อีกด้วย เพิ่มเติมสำหรับใครที่ชอบทำครัว ทำอาหาร สามารถติดตั้งประตูบานเปิดเพิ่มเติมบริเวณโถงก่อนเข้าถึงส่วนครัวได้นะคะ (ตามเส้นประ) เพื่อให้ครัวเป็นรูปแบบครัวปิด กันกลิ่นอาหารฟุ้งออกไปยังส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้ดี

    เริ่มจากประตูทางเข้าห้องใช้วัสดุเป็น HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ขนาดมาตรฐาน (2 x 0.9 ม.) จากแบรนด์ Doric หรือ New Techwood หรือเทียบเท่านะคะ ลักษณะของประตูเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ

    สำหรับ Digital Door Lock นั้นใช้ยี่ห้อง Epic เป็นมาตรฐานในทุกห้อง

    เข้ามาภายในเจอกับส่วน Common Area ก่อนเลย ซึ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร และด้านในสุดจะเป็นส่วนห้องนอนนะคะ แม้พื้นที่ Common Area จะไม่ได้อยู่ติดหน้าต่าง สามารถมองเห็นวิวได้ แต่ก็ไม่ได้มืดเกินไปเพราะได้แสงสว่างจากหน้าต่างที่ส่องผ่านมาทางห้องนอน พร้อมทั้งฝ้าเพดาน 2.55 ม. ซึ่งจัดว่าสูงกว่ามาตรฐาน (2.4 ม.) เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวห้องมากขึ้น

    สำหรับวัสดุพื้นบริเวณ Common Area, ห้องนอน จะได้เป็นพื้น Smart Vinyl หนา 3 มม. จากแบรนด์ Rectango หรือเทียบเท่า โดยข้อดีของพื้น Smart Vinyl นั้นคือสามารถทนรอยขีดข่วนต่างๆ ได้พอสมควร รวมไปถึงสามารถทนน้ำ/ความชื้นได้มากกว่าพื้นลามิเนตมาตรฐานทั่วไป และตัวพื้นเองมีความนุ่มเล็กน้อยเวลาเดินแล้วสบายเท้าค่ะ

    เรามาดูในส่วน Common Area กันต่อนะคะ บริเวณนี้สิ่งที่ได้คือชุดโซฟา โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว และชุด Built-in วางทีวีค่ะ สำหรับขนาดของทีวีที่เหมาะสมกับความกว้างของพื้นที่นี้จะอยู่ที่ประมาณ 32″ กำลังดีค่ะ

    ชุดโซฟาที่ได้เป็นแบบบุผ้าสีเทาขนาดสำหรับ 2 ที่นั่ง และโต๊ะกินข้าวแบบยาวหันหน้าเข้าหากำแพง พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ซึ่งหน้าตาของเฟอร์นิเจอร์จะได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ สำหรับผนังและฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ ไม่ได้ซ่อนไฟหรือกรุกระเบื้องให้

    หันกลับมาที่ส่วนชั้น Built-in วางทีวี ที่ได้จะได้ครบทั้งชุดตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ สามารถเก็บของต่างๆ ได้พอสมควรเลยทีเดียว และชั้นเก็บของด้านขวาล่างนั้นออกแบบให้เป็นชั้นวางรองเท้า เป็นระเบียบดี เงยหน้าขึ้นไปจะเห็นตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศนะคะ เฉพาะบริเวณนี้ของห้อง Type นี้จะไม่ได้เครื่องปรับอากาศนะคะ แต่จะมีเตรียมงานระบบต่างๆ ไว้ให้สำหรับลูกบ้านที่ต้องการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติมได้ค่ะ โดยเครื่องปรับอากาศของห้อง Type นี้ จะอยู่ที่ห้องนอน เป็นแบบ Wall Type 9,000 BTU ซึ่งหากเปิดประตูบานเลื่อนระหว่างห้องนอนและ Common Area แล้ว 9,000 BTU ก็เอาอยู่นะคะ ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่ม

    ถัดมาที่ส่วนห้องนอนกันต่อนะคะ บริเวณห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบเล่นลายวงกบให้เข้ากับสไตล์โครงการที่เน้นรูปแบบ Modern Loft ดูวัยรุ่นมากขึ้น ลักษณะของประตูบานเลื่อนกระจกนี้จะเป็นแบบ 3 ตอน ซึ่งสามารถเปิดพื้นที่ระหว่างห้องนอนและ Common Area ได้กว้างขวางมากขึ้นกว่าแบบ 2 ตอน ทำให้สามารถใช้พื้นที่ตรงกลางระหว่าง 2 ฟังก์ชันได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน รวมไปถึงเรื่องความโปร่งโล่งที่มากขึ้นอีกด้วยนะคะ

    ภายในห้องนอนประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าและเตียงนอน โดยทั้ง 2 เฟอร์นิเจอร์นี้ก็จะได้เป็นมาตรฐานตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ โดยเตียงนอนนี้ด้านล่างจะมีชั้นวางของเพิ่มเติมให้สามารถใช้งานได้ด้วยนะคะ ส่วนฟูกจะไม่ได้มีให้มีเฉพาะตัวเตียงเท่านั้นนะคะ มาพูดถึงขนาดห้องแม้จะไม่ได้ใหญ่มากนักตามขนาดของห้องพักอาศัยที่ค่อนข้างกะทัดรัดพอสมควร แต่ด้วยความที่ได้ชุดหน้าต่างที่สูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเพดานด้านบนก็ช่วยส่งเสริมให้ภายในตัวห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว

    สำหรับตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านข้างเตียงขนาดกะทัดรัด แต่ได้ความสูงถึงฝ้าเพดานเลย บานกระจกใช้เป็นสีชาดำสวยงาม ด้านในประกอบด้วยลิ้นชักวางเสื้อผ้าขนาดเล็ก ราวแขวนเสื้อ และชั้นวางของด้านบน มีติดตั้งหลอดไฟให้ด้วยค่ะ

    ขนาดเตียงที่ได้คือเตียง 5 ฟุต กำลังดีกับพื้นที่ มีทางเดินรอบเตียงได้แต่ไม่ได้กว้างมากนักนะคะ ไม่สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ แต่พอจะวางโคมไฟอ่านหนังสือแบบตั้งพื้นได้พอดีๆ

    ถัดมาที่โถงขนาดเล็กที่แจกไปยังห้องน้ำด้านขวามือและครัวด้านซ้ายมือ บริเวณนี้หากใครอยากจะทำเป็นครัวปิดก็สามารถกั้นประตูเพิ่มเติมได้นะคะ ส่วนด้านในสุดของโถงมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้ไว้สำหรับเก็บของต่างๆ ได้ หรือจะทำเป็นชั้นวางของก็ได้เช่นกัน

    มาดูห้องน้ำกันต่อนะคะ สำหรับห้องน้ำนี้แบ่งโซนเปียกและแห้งให้เป็นสัดส่วนชัดเจนดี ด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3  ตอน พื้นห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้อง Duragress ขนาด 60×60 ซม. ลักษณะจะเป็นกระเบื้องแบบด้าน กันลื่นได้ระดับนึงนะคะ

    มาเจาะลึกสุขภัณฑ์ห้องน้ำกัน บริเวณอ่างล้างมือได้กระจกเงาติดตั้งที่ผนังตรงกับอ่างล้างมือเป็นมาตรฐาน

    ส่วนอ่างล้างมือจาก Cotto พร้อม Built-in ชั้นวางของใต้อ่างให้เรียบร้อย สามารถวางของได้พอสมควรนะคะ

    สำหรับสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Cotto (โถสุขภัณฑ์+อุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมด)

    ในส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกเทมเปอร์แบบ 3 ตอน มีกรอบเฟรมเล่นลายเหมือนประตูบานเลื่อนกระจกของห้องนอน

    สำหรับพื้นที่อาบน้ำในห้องจริงจะลดระดับลงเป็นเล็กน้อยจากพื้นโซนแห้งนะคะ เพื่อกันน้ำไหลย้อน ที่ห้องตัวอย่างเราอาจจะเห็นว่าพื้นเท่ากันเนื่องจากข้อจำกัดของการสร้างห้องตัวอย่างเท่านั้นเองค่ะ ส่วนขนาดของพื้นที่อาบน้ำสามารถดูจากห้องตัวอย่างได้เลยมีขนาดเท่ากันอยู่ที่ประมาณ 1 x 0.7 ม. จัดเป็นขนาดกะทัดรัดสามารถอาบน้ำได้พอดีๆ

    ฝักบัวขนาดใหญ่จาก Cotto เช่นเดียวกัน ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ แต่มีการเดินท่อต่างๆ ไว้ให้เป็นมาตรฐานให้ลูกบ้านติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ง่าย

    ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำเป็นพื้นที่ครัวนะคะ ประกอบไปด้วยส่วน Pantry และที่ว่างสำหรับวางตู้เย็น ส่วนความกว้างของทางเดินอยู่ที่ประมาณ 70 ซม. ค่อนข้างกะทัดรัดพอสมควรแต่ไม่ถึงกับแคบ สามารถใช้งานได้ค่ะ ว่ากันต่อในส่วนของตำแหน่งครัวถือว่าจัดมาให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงนะคะ เพราะอยู่ติดกับระเบียงด้านนอกได้แสงสว่างจากภายนอกได้ดี จึงช่วยลดความชื้นในครัว กลิ่นอาหารและกลิ่นอับต่างๆ ได้ดีตามไปด้วย

    สำหรับชุด Pantry ที่ได้ก็จาก Index Living Mall เช่นเดียวกัน ประกอบด้วยชั้นวางของด้านบนและเคาน์เตอร์ครัวด้านหลัง เริ่มจากชั้นวางของด้านบนก่อนนะคะ มีพื้นที่ไว้สำหรับวางเครื่องปรุงต่างๆ และมีที่แขวนอุปกรณ์ทำครัวให้ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นส่วน Hood ที่ได้ตามมาตรฐานเช่นกัน

    เคาน์เตอร์ครัว ท็อปใช้วัสดุเป็น Particle เคลือบเมลามีน ด้านบนประกอบด้วยเตาเซรามิกพร้อม Hood และ Sink ล้างจานหลุมเดี่ยว ทั้งหมดจาก Hafele ด้านล่างมีลิ้นชักวางช้อมส้อมต่างๆ และวางของจุกจิกด้านล่าง พร้อมช่องว่างสำหรับวางไมโครเวฟ อีกฝั่งเป็นบานเปิดไว้สำหรับเก็บของขนาดใหญ่ได้เช่น หม้อ กะทะ เป็นต้นค่ะ

    ติดกับครัวเป็นส่วนระเบียงซักล้างซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 ตอน

    ระเบียงที่ได้มีขนาดพอสมควรนะคะ ถือว่าใช้งานได้จริง เช่นซักล้างหรือตากเสื้อผ้าต่างๆ ได้ระดับนึง ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งพ่นสีดำเล่นลาย ส่วนด้านข้างระเบียงออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งมีปลั๊กไฟกันน้ำและก็อกสนามให้เป็นมาตรฐาน

    ด้านบนติดตั้งดวงโคมดาวน์ไลท์ พร้อมหลอดไฟ LED ทั้งภายในและภายนอก แขวน CDU เครื่องปรับอากาศด้านข้าง ซึ่งใครไม่อยากร้อนเวลาใช้งานส่วนระเบียงสามารถติดตั้งกริลล์เบี่ยงทิศทางลมร้อนได้เหมือนห้องตัวอย่างนะคะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @27 February 2018

    • 1 Bedroom ห้อง 207 ชั้น 2 เนื้อที่ 23.46 ตร.ม. ราคา 2.02 ล้านบาท หรือ 86,104 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom ห้อง 713 ชั้น 7 เนื้อที่ 23.46 ตร.ม. ราคา 2.14 ล้านบาท หรือ 91,219 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Plus ห้อง 509 ชั้น 5 เนื้อที่ 35.49 ตร.ม. ราคา 3.07 ล้านบาท หรือ 86,503 บาท/ตร.ม.
    • Loft ห้อง 701 ชั้น 7 เนื้อที่ 23.5 ตร.ม. ราคา 3.54 ล้านบาท หรือ 150,638 บาท/ตร.ม.

     

    • Fully Furnished
    • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • จอง 10,000 – 20,000 บาท
    • ทำสัญญา 20,000 – 30,000 บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 19 งวด
    • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล – โครงการ Groove รัชดา-ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 48 แยก 6 ห่างจากถนนลาดพร้าวประมาณ 350 ม. ตัวทำเลแม้จะอยู่ไม่ติดถนนใหญ่เหมือนโครงการ High Rise ขนาดใหญ่นะคะ แต่แลกมากับราคาที่หยิบจับง่ายกว่าเดิม ยอมขยับเข้ามาในซอยเล็กน้อยในระยะที่ยังสามารถเดินเข้า-ออกเองได้สะดวก และนอกจากนี้ทำเลในซอยลาดพร้าว 48 นั้นจัดว่าเป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควรทีเดียว เพราะเป็นซอยย่อยที่รถมักจะใช้เป็นทางลัดไปออกถนนสุทธิสารเพื่อไปทะลุออกถนนรัชดาภิเษกอีกที รวมไปถึงเป็นทำเลชุมชน จึงมีร้านค้าร้านอาหารเปิดค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว เรียกว่าเดินออกจากโครงการก็หาข้าวกินได้เลยค่ะ  เข้ามาที่ที่ตั้งโครงการจริงๆ จะอยู่ในซอยย่อยจากซอยลาดพร้าว 48 อีกที คือแยก 6 ลึกมาเพียง 50 ม.เท่านั้น แต่ได้บรรยากาศที่สงบมากขึ้นจากภายในซอยลาดพร้าว 48 หลักๆ เอง ซึ่งเหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้นอีกด้วย

    การเดินทางโดยใช้รถ – แม้จะไม่ได้ติดถนนใหญ่ แต่การเดินทางโดยใช้รถก็จัดว่าสะดวกนะคะ ด้วยความที่เป็นซอยลัดอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า สามารถเชื่อมเข้าถนนสุทธิสารและลาดพร้าวได้ จึงมีตัวเลือกเส้นทางในการเดินทางมากขึ้น ลัดเลาะไปออกถนนต่างๆ ได้ ซึ่งดีมากในช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถติด ส่วนจำนวนที่จอดรถนั้นให้มาทั้งหมดประมาณ 55% รวมซ้อนคัน ซึ่งจัดว่าให้มาโอเคนะคะ ไม่น้อยจนเกินไป น่าจะเพียงพอในการใช้งานเนื่องจากมีตัวเลือกในการเดินทางนอกจากรถค่อนข้างหลากหลาย

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – จัดว่าสะดวกพอสมควรนะคะ เพราะในซอยลาดพร้าว 48 มีวินมอเตอร์ไซค์เยอะหลายจุดทีเดียว เรียกไปลงหน้าปากซอยลาดพร้าว หรือทางสุทธิสาร รวมไปถึง MRT สถานีสุทธิสารก็ได้ หลักๆ ในซอยนี้พึ่งวินมอเตอร์ไซค์จะสะดวกสุดค่ะ ส่วนในอนาคตอันใกล้ประมาณ 3 ปีกว่า คนในย่านลาดพร้าวก็จะได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองกันแล้ว ซึ่งโครงการนี้ก็อยู่ในรัศมีของรถไฟฟ้านี้เช่นเดียวกันนะคะ โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการจะมีอยู่ 2 สถานีด้วยกัน คือ สถานีภาวนา และสถานีโชคชัย 4 ระยะห่างจากโครงการประมาณ 900 ม. ถึง 1 กม. บวกลบตามขาขึ้น-ลงสถานีนะคะ แม้จะหลุดระยะเดินไปหน่อยแต่ด้วยความที่ในซอยเรียกวินมอเตอร์ไซค์ง่ายก็สามารถเรียกไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่ยากค่ะ

    การออกแบบ – โครงการนี้จัดเป็นโครงการยูนิตน้อย เพียง 79 ยูนิต ซึ่งใครที่ชอบโครงการขนาดเล็ก จำนวนยูนิตไม่มาก รักความเป็นส่วนตัวก็จะตอบโจทย์กับตัวโครงการนะคะ โดยรวมแล้วนอกจากเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้ว ความหนาแน่นของโครงการที่ให้มาก็จัดว่าหนาแน่นไม่มากนะคะ โดยจำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ 14 ยูนิต และอัตราส่วนลิฟต์ 79:1

    ส่วนการออกแบบห้องค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลายรูปแบบทั้งอยู่คนเดียว เป็นคู่ เป็นครอบครัว หรือแม้กระทั้งคนที่ชอบห้องฝ้าเพดานสูง (Loft) ก็มีจัดมาให้ โดยเฉพาะห้อง Loft ที่มักไม่ค่อยเห็นในโครงการขนาดเล็กเท่าไหร่นักค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างที่โครงการจัดมาให้ดูคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.5 – 24 ตร.ม. ถือว่าเป็นห้องขนาดเล็กที่สามารถจัดห้องนอนได้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่ครัวแยกชัดเจน สามารถจัดสรรพื้นที่ให้เป็นครัวปิดเองได้ด้วย ส่วนห้องน้ำให้มาขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่มีการจัดฟังก์ชันแยกโซนเปียกและแห้งได้ลงตัวดีค่ะ

    วัสดุ – ถือว่าให้มาโอเคกับราคาขายในปัจจุบัน ไม่ถูกมากนักแต่ก็ไม่แพงจนเกินไป ให้มาในรูปแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์จาก Index Living Mall สุขภัณฑ์จาก Cotto เป็นมาตรฐาน Pantry ครัวท็อปลามิเนตเคลือบเมลามีน มี Sink และ Hob&Hood จาก Hafele พร้อมเทคโนโลยีที่ทำให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น เริ่มจาก Digital Door Lock, ระบบ Home Automation ครอบคลุมเรื่องระบบแสงสว่าง TV และเครื่องปรับอากาศ

    สาธารณูปโภค – จัดเป็นจุดเด่นตัวชูโรงของโครงการเลยทีเดียว ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาถึง 500 ตร.ม. ซึ่งค่อนข้างมากและหลากหลายสำหรับโครงการขนาดเล็ก ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบและมักจะใช้พื้นที่ส่วนกลางเป็นประจำ โดย Facilities ที่ได้ก็จะมีครบครัน แบ่งเป็นโซนใหญ่ๆ คือ พื้นที่สำหรับทำงาน นั่งเล่น และทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจัดให้อยู่ตั้งแต่ชั้น 1-3 ได้แก่ Free-seaters Table, Board Games Area, Mini-Theater, Laundry Lounge, Co-Working Space, 2 Meeting Rooms, Library and Inspiration corners อีกโซนอยู่ชั้นดาดฟ้าของโครงการ เน้นเป็นพื้นที่ผ่อนคลาย ได้วิวมุมสูงอีกด้วย โดยจะประกอบไปด้วย Sky Lounge, Sky Pool + Jacuzzi, Panoramic Sky Fitness และ wifi แบบ highspeed internet ทั่วทั้งตึก

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคา 80,000 บาท/ตร.ม., 27 February 2018

    • ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอย แต่มีความอุดมสมบูรณ์ และคึกคัก
    • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ซอยสามารถลัดไปออกถนนได้หลากหลาย ให้ที่จอดรถ 55%
    • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – เรียกรถสาธารณะสะดวก ส่วนรถไฟฟ้าในอนาคตอยู่เลยระยะเดินง่าย ใช้ต่อมอเตอร์ไซค์อีกที
    • วัสดุ 7.5/10 – ให้ครบครัน เกรดเหมาะสมกับราคา
    • แบบ 7.5/10 – ฟังก์ชันลงตัว
    • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาร่วม 500 ตร.ม. มีหลากหลายให้ใช้งาน

    • MAIN CLASS
    • 7.59 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ Groove รัชดา-ลาดพร้าว เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ชอบโครงการขนาดเล็ก เป็นส่วนตัว ต้องการใช้ Facilities หลากหลาย ได้ห้องราคาหยิบจับง่าย พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม อยู่ในซอยที่ลัดไปออกถนนต่างๆ ได้สะดวก ไม่เปลี่ยว มีงบประมาณตั้งแต่ 1.79 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 13,000 – 32,000 บาท