cover2 3-4 review

รีวิวฉบับที่ 992 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างของโครงการคอนโด Low-rise ที่มีชื่อว่า FYNN Aree สูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต บนทำเลที่เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากๆอย่างอารีย์ พื้นที่โครงการอยู่ในซอยอารีย์ 2 เข้าได้จากถนนพหลโยธิน ห่างจากทางลง BTS อารีย์ในระยะเดินประมาณ 850 เมตร

Facts @ 25 November 2015

  • FYNN Aree (ฟินน์ อารีย์)
  • Yellowfynn Development Co.,ltd
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : พญาไท
  • ประเภทคอนโด : Low Rise 8 ชั้น 79 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด : 12 ยูนิต
  • ที่จอดรถ : ประมาณ 30 คันคิดเป็น 38% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 47%
  • ที่ดิน : ประมาณ 0-2-73 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : มกราคม 2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กลางปี 2560
  • 1 Bedroom 27 – 31.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 131,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด : 125,900 – 138,500 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 095-367-1800

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.777908, 100.540264

800 MAP proj

แผนที่โครงการ คอนโด FYNN aree อยู่ในซอยอารีย์2 ที่เป็นซอยเดินรถทางเดียวจากซอยพระราม6 ซอย30 หรือที่เรียกว่าราชครู ไปยังฝั่งซอยพหลโยธิน7 หรือที่เรียกว่าซอยอารีย์ ส่วนถ้าจะเดินเท้าก็สามารถเดินจากสถานี BTS อารีย์ ในระยะ 850 เมตร

MAP1 road

การเดินทางในพื้นที่ซอยอารีย์ถือว่าสะดวกทั้งในส่วนของระบบขนส่งสมัยใหม่อย่างรถไฟฟ้าสถานี BTS อารีย์ที่อยู่บนถนนใหญ่พหลโยธินและการใช้รถส่วนตัวเดินทางเพราะมีถนนใหญ่ขนาบข้างหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธินที่ใกล้ที่สุด ถนนวิภาวดีรังสิตที่ขนาดกันมา สามารถเดินทางจากถนนพหลโยธินไป-กลับถนนวิภาวดีได้ด้วยซอยพหลโยธิน2 ที่เป็นทางยกระดับติดกับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เหนือถนนวิภาวดีก็จะเป็นโทลล์เวย์เข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิตก็ได้ ถนนใหญ่อีกเส้นที่ขนาดกันคือถนนพระราม6 ที่สามารถใช้เข้า-ออกเมืองได้เหมือนกัน จากถนนพหลโยธินไป-กลับถนนพระรามหกก็สามารถใช้ซอยราชครูตรงไปเรื่อยๆข้ามคลองประปาพอดี ความสำคัญคือเป็นที่ตั้งของทางขึ้น-ลงทางด่วนทั้งฝั่งเข้าเมืองที่ฝั่งคลองประปา และฝั่งออกนอกเมืองที่ข้างๆโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และสามารถไปฝั่งธนได้จากถนนเทอดดำริที่ขนานกับเส้นทางรถไฟบนดิน ที่ไปได้ทั้งวังพญาไท เกาะรัตนโกสินทร์และข้ามสะพานไปฝั่งธน

ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัว ที่นิยมที่สุดคือรถไฟฟ้าด้วยสถานี BTS อารีย์ จากตัวสถานีเดินเข้าซอยราชครูแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์2 อยู่ที่ระยะ 850 เมตร เส้นทางนี้ใช้ได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและเดินเท้า แต่ก็จะมีอีกวิธีหนึ่งที่เหมาะกับคนที่อยากซื้อของกินหรือเข้าร้านอาหารเจอเพื่อนก่อนเข้าคอนโดคือเดินเข้าทางลัดตรงอาคารปิยวรรณทาวเวอร์ใกล้กับสถานีเลย จะมีทางลัดไปออกที่ซอยอารีย์1 ซึ่งเป็นแหล่งของกิน ทั้งในส่วนของอาหารรถเข็นจนถึงร้านอาหารหรู แล้วค่อยเดินไปฝั่งถนนพหลโยธิน7 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอารีย์2 ที่มีทางเท้าเดินได้

MAP2 places

มาถึงจุดเด่นของความเป็นอารีย์ คือความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ที่สูงมาก ทั้งในส่วนของสิ่งปลูกสร้างในชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาลเอกชนอย่างวิชัยยุทธตรงพระรามหก โรงพยาบาลเปาโลที่อยู่แถวสะพานควาย และโรงพยาบาลพญาไท2 แถวสนามเป้า โรงเรียนมัธยมสามเสนวิทยาลัย โรงเรียนประถมฝั่งตรงข้ามซอยโครงการอย่างโรงเรียนสวนบัว นอกจากนั้นก็จะมีสถานที่ราชการ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ ใครที่อยู่ในพื้นที่หน่อยก็จะรู้มาบ้างว่าจะมีการประท้วงนิดหน่อยที่ข้างพื้นที่กระทรวงตรงคลองประปา ตึกออฟฟิสอย่างธนาคารออมสิน ททบ5 SM tower อาคารทิปโก้ และอาคารสำนักงานใหม่อย่าง Pearl Bangkok ที่อยู่ข้างตึก Exim Bang ใกล้กับสถานี BTS อารีย์

นอกจากนั้นปัจจุบันในทำเลอารีย์ ถ้ามาเดินเล่นเดือนละครั้งจะเห็นว่าพื้นที่จะมีร้านอาหาร ร้านขายของ หรือคาเฟ่ต่างๆ รวมถึง Event รายอาทิตย์เปิดใหม่และปิดตัวลงเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่ราคาเช่าจะสูงมากโดยเฉพาะฝั่งซอยพหลโยธิน 7 หรือซอยอารีย์ที่เดินง่ายกว่า ส่วนซอยราชครูตรงข้ามกับกระทรวงการคลังจะน้อยหน่อย Community Mall ขนาดใหญ่หน่อย เช่น La Villa ที่มี Supermarket อยู่ชั้นล่าง ด้านบนเป็นร้านอาหารและบริการต่างๆ, Aree Garden ที่มี Hobs เป็นร้านเรียกลูกค้า และที่เปิดใหม่ใกล้แยกสะพานควายอย่าง Aqua นอกจากนั้นก็จะมีร้านเดี่ยวๆอยู่ตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ในซอย

นอกจากนั้นในระยะใกล้ของซอยอารีย์ที่อยู่ในระยะเดินได้สบายๆก็ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ร้านขายของ และคาเฟ่อีกเยอะมากๆ *ภาพกราฟฟิกจากโครงการ FYNN aree

MAP4 routewalk

การเดินทางวันนี้จะเดินจากสถานี BTS อารีย์ที่อยู่บนถนนพหลโยธิน เดินบนทางเท้าเข้าซอยราชครู เลี้ยวซ้ายที่สามแยกแล้วเลี้ยวขวาอีกทีเข้าซอยพระราม6 ซอย 30 ซอยอารีย2 จะอยู่ทางขวามือ เดินเข้าไปในซอยประมาณ 50 เมตร ที่ดินโครงการ FYNN อารีย์ จะอยู่ทางซ้ายมือ

เริ่มจากภาพกว้างๆกันที่ถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งซ้ายคือฝั่งเข้าเมืองมุ่งหน้าพญาไท ฝั่งขวาคือออกนอกเมืองมุ่งหน้าแยกสะพานควาย สิ่งปลูกสร้างทางซ้ายมือก็จะเป็นโชว์รูมรถและ La villa ส่วนทางขวาก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ มีสหกรณ์ มีอาคารปิยะวรรณ์ ตึก Exim bank โดยมีตัวสถานี Bts อารีย์อยู่ตรงกลาง

เรามาเริ่มกันที่ทางลงของสถานี BTS อารีย์ที่ใกล้กับซอยราชครูมากที่สุด ลงบันไดมาก็จะเจอโชว์รูมรถ

หันกลับมามุ่งหน้าซอยราชครูเดินเข้าเมือง ทางซ้ายยังเป็นโชว์รูมรถอยู่ ทางเท้าอยู่ในสภาพค่อนข้างดี อาจจะมีไม่เรียบบ้าง แต่ก็เรียกว่าดีกว่าที่อื่นๆเยอะ ซึ่งเราจะเดินไปบนทางเท้านี้กันนะคะ

ฝั่งตรงข้ามกับโชว์รูมรถก็จะมีทาง U-turn ได้จากทั้งฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้าและออก

กลับมาเดินบนทางเท้าก็จะเจอกับอาคาร Exim bank เป็นตึกออฟฟิสสูง

ข้างๆกันก็จะเป็นตึกออฟฟิสกำลังสร้างมีชื่อว่า Pearl Bangkok นั่งร้านเยอะมาก กำลังเร่งก่อสร้างกันทุกครั้งที่เห็นและขึ้นเร็วมากด้วย

ระหว่างอาคารออฟฟิสทั้งสองก็จะมีทางเดินลัดจากถนนพหลโยธินไปยังซอยอารีย์1 ได้ ชื่อว่า Banana Family Park แต่ตรงนี้พอตัดเข้าไปที่ซอยอารีย์1 แล้วก็จะไม่เจอแหล่งขนาดนั้น ตัดตรงอาคารปิยะวรรณ์ข้างๆตัวสถานี BTS จะใกล้แหล่งมากกว่า

เดินมาเรื่องๆก็จะเจอปั้มน้ำมัน มีร้านสะดวกซื้อข้างๆเรียบร้อย ระวังรถเข้า-ออกด้วยนะคะ

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นปั้มน้ำมันอีกเจ้าหนึ่งอยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายจะเป็นร้าน Kaffe by Library ที่พึ่งเปิดใหม่ไม่นาน มีร้านสาขาแรกอยู่แถวพร้อมพงษ์

ระหว่างทางเดินเข้าซอยราชครูหรือซอยพหลโยธิน5 ก็จะมีร้านอาหารเป็นชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ประมาณ 3 ร้าน ดึกๆหิวๆก็แวะกินก่อนเข้าคอนโดได้

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบอกทางซอยพหลโยธิน5 หรือซอยราชครูทางขวามือ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาเดินตามทางเท้าเข้าซอยกัน

การเข้าซอยราชครูถ้าขับรถมาจากถนนพหลโยธินขาออก ก็สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย ส่วนใครมาจากฝั่งขาเข้า ก็สามารถเลี้ยวขวาที่จุด U-turn นี้เลี้ยวเข้าซอยได้พอดีเป๊ะ

สภาพด้านในซอยราชครูรถจะติดนิดนึง ทางเท้ายังสภาพดีอยู่ แต่สองข้างทางค่อนข้างเงียบลง

เดินมาเรื่อยๆในซอยก็จะเจอกับเวิ้ง Community mall เล็กๆ ด้านในก็จะมีร้านอาหารอย่าง T.house ที่ขายทั้งอาหารไทย เวียดนาม ฝรั่งและญี่ปุ่น มีอีกหลายสาขาตรงพระรามหก วิภาวดีและอีกหลายจุดอาจจะมีการใช้ชื่ออื่นบ้าง นอกจากนั้นก็ยังมีร้านปิ้งย่าง ร้านบริการต่างๆด้านใน

เดินต่อมาก็จะเจออีกเวิ้งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้จะเน้นเป็นสายการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นคลีนิกร่างกาย คลีนิกทำฟัน คลีนิกเสริมความงาม มีที่จอดรถให้พร้อม

เดินตรงมาอีกก็จะเจอกับสามแยก โดยแยกทางซ้ายมือคือจากปากซอยราชครูที่มาจากถนนพหลโยธิน แยกทางขวามือที่มีรถออกมาคือจากซอยอารีย์1 จากฝั่งซอยอารีย์ที่เป็นทาง one-way ส่วนแยกทางซ้ายมือที่อยู่ไกลๆคือจากซอยราชครูจากฝั่งถนนพระรามหก

ถ่ายให้ดูซอยทางขวามือเป็นซอยอารีย์1 One way ที่วิ่งจากฝั่งซอยอารีย์ไปยังซอยราชครู ด้านในซอยอารีย์1 ก็จะมีคอนโด High rise อยู่จำนวนหนึ่ง และมีร้านกาแฟ ร้านอาหารอีกเพียบ

ตรงสามแยกก็จะมีทาวน์โฮม 3 ชั้นรุ่นเก๋า ตกแต่งสไตล์ยุโรป จะมีพี่ยามค่อยดูและอยู่หน้าโครงการ แต่ความจริงด้านในบางยูนิตมีร้านอาหารและบริการด้วยนะคะ

เราข้ามฝั่งเดินมาทางซ้าย เดินไปเรื่อยๆบนทางเดินเท้า สภาพยังพอใช้ได้

ขวามือมีร้านซูชิที่เปิดมาได้ประมาณ 1 ปีชื่อว่า Hiso sushi โดยมีที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วค่อยเดินข้ามไปยังร้าน

ข้างๆมีร้านอาหารเช่นกันเป็นบรรยากาศทานข้าวในบ้านหน่อย

เดินมาอีกนิดจะเห็นว่ามีทางเข้าโรงเรียนสวนบัวจากฝั่งซอยอารีย์1 ซึ่งพื้นที่ของโรงเรียนสวนบัวจะใหญ่มาก กินยาวไปถึงซอยอารีย์2 ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเลย

ส่วนทางซ้ายมือก็จะเป็น Fab cafe ฮิตมากในหมู่วัยรุ่น มีที่จอดรถด้านใน

เราก็ยังคงเดินตรงตามทางซอยราชครูไปเรื่อยๆ ทั้งสองฝั่งก็จะมีอพาร์ตเม้นท์ให้เช่ารุ่นเก๋า ทั้งชั้นน้อยๆและชั้นสูงประมาณ 8 ชั้น เป็นแบบ Private Apartment

อย่างที่เห็นมานานมากก็จะเป็นอย่าง Baan Rajcharu สูงประมาณ 7 ชั้น ภายในมีห้องพักให้เช่า ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเป็นอพาร์ตเม้นท์ให้เช่าในพื้นที่ซอยอารีย์จะมีเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่สร้างมาเวลานานประมาณหนึ่งแล้วทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ซอย 1 ไปจนถึงซอย 5 ก็จะมีอยู่เรื่อยๆสลับกับที่อยู่อาศัยแนวราบ

เดินตรงมาอีกนิดก็จะเจอกับทางเลี้ยวขวาเข้าซอยอีกจุดหนึ่ง ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้รถค่อนข้างติดเนื่องจากซอยแคบมาก สวนกันได้แบบพอดีเกินไปนิดนึง

สภาพซอยตรงนี้ไม่มีทางเดินเท้านะคะ อาศัยวิชาเดินเร็วล้วนๆ รถเดินได้ทั้งสองฝั่ง แต่ถ้ารถใหญ่มาสวนกันก็จะค่อนข้างชะลอหน่อย

ผ่านช่องแคบมาได้ทางขวามือก็จะเป็นร้านอาหารเปิดใหม่อย่างคั่วกลิ้งผักสด ที่มีสาขาแรกอยู่แถวทองหล่อง มีที่จอดรถหน้าร้านอีกเช่นกัน

ข้างๆกันเป็นร้านชาบู แต่ก่อนเคยเป็นร้านอาหารจีนที่อร่อยมาก แต่ปิดตัวไป มีที่จอดทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคาร

ต่อมาเป็นทางเข้า-ออกของโรงเรียนสวนบัวอีกจุดหนึ่ง

ซอยขวามือซอยแรกจะเป็นซอยอารีย์2 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ เราจะเดินเข้าไปกัน ส่วนถ้าตรงไปบนซอยราชครูก็จะมีร้านอาหารทั้งร้านสวนกุหลาบ มีห้องคาราโอเกะ และมีเบเกอรี่ขาย ตรงไปอีกหน่อยก็จะเป็นร้านปลาดิบ ร้านอาหารฟิวชั่น เลยไปหน่อยก็จะเจอกับกระทรวงการคลังทางขวามือ และฝั่งตรงข้ามคือ Aree garden ข้ามคลองประปาไปก็จะเจอกับถนนพระรามหก ที่มีทางขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ไม่ไกล

เลี้ยวขวาเข้ามาในซอยอารีย์ 2 เรียบร้อย ความกว้างของถนนกว้างพอรถสองคันจะสวนกันได้สบายๆ แต่เป็น One way จากฝั่งซอยราชครูไปยังซอยอารีย ทางฝั่งขวายาวไปเรื่อยๆตั้งแต่หัวมุมก็จะเป็นพื้นที่ของโรงเรียนสวนบัว บนถนนมีรถอนุญาตให้จอดได้ฝั่งหนึ่ง

ส่วนฝั่งซ้ายมือจากปากซอยก็จะเป็นอาคารสำนักงานที่อยู่มานานแล้ว และพื้นที่จอดรถข้างๆ

ประมาณแปลงที่ 3 จากปากซอยก็จะเป็นแปลงที่ดินโครงการ ปัจจุบัน ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลยังไม่มีการรื้อถอนของสิ่งก่อสร้างเดิม แต่คาดว่าจะเริ่มต้นปี 2559

ฝั่งขวาของแปลงที่ดินเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น โดยชั้นล่างของบางยูนิตปรับเป็นร้านอาหาร แต่บางยูนิตก็ยังเป็นที่พักอาศัยอยู่เหมือนเดิม ในซอยอารีย์2 ถ้าตรงเข้าไปก็จะเจอกับสำนักงานเขตพญาไท มีร้านอาหารบ้าง

MAP5 surrounding

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ ที่ดินโครงการรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบลึกเข้าไปอยู่ในซอยอารีย์2 ใกล้ฝั่งซอยราชครูที่ทะลุไปทางกระทรวงการคลังจะมีความคึกคักน้อยหน่อยและพื้นที่ในซอยต่างๆยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนการใช้งานจากที่อยู่อาศัยเป็นเชิงพาณิชย์มากนัก

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : ทางเข้า-ออกโครงการเป็นซอยอารีย์2 ที่เป็นทางเดินรถทางเดียวจากฝั่งซอยราชครูไปยังฝั่งซอยอารีย์ ส่วนถ้าคนเดินจะมีทางเดินเท้ายกระดับทั้งสองฝั่ง ภายในซอยไม่วุ่นวายมาก มีรถจอดฝั่งใดฝั่งหนึ่งบ้าง

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : เป็นทางเข้าซอยอารีย์2 จากฝั่งซอยราชครู ข้างๆกับแปลงที่ดินเป็นอาคารออฟฟิสขนาดเล็กและพื้นที่จอดรถข้างๆ

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นขนาดใหญ่พึ่งสร้างเสร็จ พื้นที่เยอะ ตามสไตล์บ้านแถบซอยอารีย์

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : ทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นเรียงกันประมาณ 3-4 ยูนิต ชั้นล่างเปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆและร้านอาหาร มีรถจอดหน้าร้านบ้าง

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนสวนบัว 50 เมตร
  • อาคาร Exim bank 700 เมตร
  • BTS อารีย์ 800 เมตร
  • Villa Ari 1 กิโลเมตร
  • กรมประชาสัมพันธ์ 1.9 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • Aree Garden 2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • กระทรวงการคลัง 2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล 2.1 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • ททบ.5 2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • ธนาคารออมสิน สาขาใหญ่ 2.2 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • SM Tower 2.3 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • โรงพยาบาลวิชัยยุทธ 2.4 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • สวัสดิการทหารบก 2.4 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย 2.6 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)
  • โรงพยาบาลพญาไท 2 2.6 กิโลเมตร (ระยะขับรถ)

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โมเดลจำลองภายนอกของโครงการ FYNN Aree คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 79 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว I ตอนลึก หันหน้าโครงการออกซอยอารีย์2 ตัวอาคารใช้โทนสีน้ำตาล-เทาเข้มตกแต่ง ชั้น 1 เป็นชั้นจอดรถใต้อาคาร ห้องนิติบุคคล และ Lobby ที่อยู่ด้านหน้าเป็นแบบ Double Volume สูงกินพื้นที่ชั้น 2 ด้วย และมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 โดยพื้นที่ชั้น 8 จะแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นส่วนกลางดาดฟ้า ชั้น 2 ก็ยังมีห้องฟิตเนสและพื้นที่โยคะ รวมถึง Mailbox area ชั้น 8 ส่วน Facility ก็จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 12 เมตร ข้างๆตัวอาคารมีพื้นที่สีเขียวเดินเล่นได้

หน้าโครงการจากซอยด้านหน้าจะเป็นซอยอารีย์2 เดินรถทางเดียวจากซอยราชครูไปยังฝั่งซอยอารีย์ ด้านหน้าจะเป็นส่วนแคบกว่า มี Lobby ที่มี Facade ตกแต่งด้วยกระจกเปิดโล่งหน่อย เข้าได้จากทั้งประตูเล็กด้านหน้าและคนที่จอดรถด้านในอาคารก็จะต้องเดินอ้อมมาเข้าอาคารที่จุดเดียวกัน มีความสูงขึ้นไปถึงชั้น 2 ด้านในมีบันไดสามารถเดินขึ้น-ลงได้

ภาพบรรยากาศจำลองทางเข้าโครงการ เป็นการออกแบบที่โครงการเรียกว่าสไตล์ Modern Comtemporary

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby ที่จะมีชุดโซฟาไว้ให้นั่งพักผ่อนหรือนั่งรอ เป็นแบบ Double Volume และมีบันไดขึ้น-ลงชั้น1-2 ด้านหลัง

Facade ฝั่งที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะเป็นห้องพักทั้งหมด ฝั่งอาคารด้านนี้ข้างๆอาคารจะมีพื้นที่สีเขียวสำหรับเดินเล่นได้ประมาณหนึ่ง

จากหน้าอาคาร พื้นที่การใช้งานคือ Lobby ลึกเข้ามาหน่อยคือโถงลิฟท์ และที่ชั้น 1 จะเป็นห้องนิติบุคคล แต่ข้างๆอาคารจะมีทางเชื่อมจาก Lobby เดินมาสวนข้างๆได้ และที่ชั้นสองที่ยื่นออกมาก็จะเป็นห้องฟิตเนสที่เดินจากโถงลิฟท์ชั้น2 ได้

ภายในห้องฟิตเนสชั้น 2

ข้างๆอาคารฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือก็จะมี Jogging Track แบบเปิดหรือ Outdoor หรือว่าจะใช้เป็นพื้นที่เดินเล่นได้ตลอดวัน เพราะอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือแดดจะไม่แรงมาก

ต่อมาเป็นพื้นที่ด้านหลังโครงการ ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือที่ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น Facade ด้านนี้ก็จะปิดทึบซะเป็นส่วนใหญ่

ชั้น 8 ฝั่งด้านหลังก็จะเป็นพื้นที่ของส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่ออกมาจากโถงทางเดินเข้าห้องพักจะมีประตูออกมาที่พื้นที่เดินเล่นเล็ก เดินบันไดขึ้นมาหน่อยจะเจอกับพื้นที่ข้างสระที่มีเก้าอี้นอนวางให้ และสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 13 เมตร ความลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก วิวที่ได้ก็จะเป็นวิวบ้านพักอาศัยของย่านอารีย์

บรรยากาศส่วนกลางชั้น 8 ที่เป็นแบบเปิดโล่ง จากส่วนเดินเล่นระดับปกติ ต้องเดินขึ้นบันไดไปยังพื้นที่ข้างสระ ซึ่งการเดินบันไดใกล้กับพื้นที่ที่มีน้ำมาเกี่ยวข้องก็จะต้องระวังลื่นกันหน่อย

ตัวสระเป็นแบบ Infinity edge pool พื้นที่นั่งข้างสระก็จะมีส่วนบังแดดด้วยนิดหน่อย แต่ก็ยังเหมาะกับการว่ายน้ำช่วงเย็นๆที่แดดร่มๆแล้วมากกว่า

ต่อมาเป็น Facade ส่วนตะวันตกเฉียงใต้ ก็จะเป็นห้องพักเหมือนปกติ แต่สังเกตดีๆจะมีการเว้าตัวตึกเข้าไป 2 จุด เป็นการเว้นระยะของแต่ละยูนิตให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกหน่อย

มองจากอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นได้ชัดเจนถึงตำแหน่งของการเว้นระยะมากกว่า ซึ่งการเว้นระยะก็จะส่งผลถึงการออกแบบช่องเปิดของแต่ละยูนิต ที่จะมีแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวห้องได้มากกว่าด้านระเบียงฝั่งเดียว

จากภาพ Perspective ส่วนที่เว้นร่องก็จะจัดเป็น Vertical garden พื้นที่เปิดส่วนระเบียงก็จะดูเปิดโล่งมากขึ้น มีช่องแสงธรรมชาติเข้าส่วนพื้นที่ทานข้าวที่อยู่ด้านในอีกจุด

เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ FYNN aree เข้า-ออกได้จากซอยอารีย์2 แปลงที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างที่ดินคือตัว I ตัวคอนโดสูง 8 ชั้นเป็นอาคาร Low rise จากทางเข้าจะมีทั้งทางเข้ารถที่เข้ามายังพื้นที่จอดรถชั้น 1 และประตูเล็กที่สามารถเข้า Lobby ได้เลย สัดส่วนพื้นที่จอดรถอยู่ที่ประมาณ 30 คันคิดเป็น 38% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 47% ตามข้อมูล โดยทางเข้าอาคารจก็จะเข้าได้จาก Lobby ด้านหน้า มีโถงลิฟท์ด้านในประกอบไปด้วยลิฟท์ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 40:1 เป็นระบบแบบล็อกชั้น ข้างๆมีทางเดินออกไปยัง Jogging track ด้านนอกได้ หรือจะเดินจากพื้นที่จอดรถเลยก็ได้ พื้นที่อื่นก็จะเป็นส่วน Service เช่นห้อง CCTV ห้องนิติบุคคล และบันไดหนีไฟ 2 จุดตามข้อกฎหมาย

ที่ชั้น 2 เริ่มเป็นชั้นที่มีส่วนของห้องพัก แต่ก็จำนวนน้อยอยู่ที่ 11 ยูนิต เพราะพื้นที่ส่วนหน้ามีการแบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างส่วน Double volume ของ Lobby และส่วนที่เป็น Mailbox และห้องฟิตเนสที่ภายในก็จะมี Yoga area ด้วย ส่วนห้องพักก็จะมีการจัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัว I  หันหน้าชนกัน โดยห้องพักมี 3 แบบ คือ 1 ห้องนอนขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้องอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ , แบบ 1 ห้องนอนขนาด 31.5 ตารางเมตรที่เป็นห้องพักส่วนใหญ่ จำนวน 7 ห้อง อยู่ทั้งสองฝั่ง และ 2 ห้องนอน จำนวน 2 ห้อง อยู่ด้านหน้าโครงการติดกัน

ห้องพักชั้น 3 คล้ายกันกับชั้น 2 จำนวนยูนิตอยู่ที่ 12 ห้อง ที่เพิ่มเข้ามาคือยูนิตพิเศษที่ข้างๆโถงลิฟท์ เป็นห้องที่จะมีพื้นที่ระเบียงใหญ่กว่ายูนิตอื่นๆ คือได้ส่วนลานด้านบนของห้องฟิตเนสชั้น 2 เพิ่มเข้ามา

ชั้น 4และ6 จะมีผังที่เหมือนกันคือมีห้องพักทั้งหมด 12 ยูนิต แบ่งออกเป็น 1 ห้องนอนขนาด 27 ตารางเมตร 3 ยูนิต, 1 ห้องนอนขนาด 31.5 ตารางเมตร 7 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอนตำแหน่งเดิม 2 ยูนิต โดยชั้นนี้ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้จะมีการเว้นพื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องพัก 2 จุดปลูกต้นไม้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องแสงด้านข้างได้ทุกห้องของฝั่งนี้ แทนที่จะมีช่องแสงแค่ส่วนที่เป็นบานประตูจากระเบียง แต่ก็มีช่องแสงจากพื้นที่ทานข้าวเพิ่มขึ้นมา ซึ่งการเลือกที่จะเว้นช่องฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นทิศที่มีปริมาณแสงเยอะอยู่แล้ว อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่อยู่ห้องในช่วงบ่าย 3 ไปจนถึงมืดๆ เนื่องจากทั้งปริมาณแสงและความจ้าจะทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น อาจจะต้องเปิดแอร์สู้นิดหน่อย แต่ด้วยตัวทิศก็เป็นทิศที่มีลมเข้าอยู่บ้าง

ส่วนฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่มีการเว้นระยะระหว่างห้อง เนื่องจากมีการบีบของบันไดหนีไฟอยู่แล้ว 2 จุด และห้องฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือก็มักจะเป็นฝั่งที่มีปริมาณแสงพอดีๆ มีลมพอสมควร ไม่ต้องเพิ่ม Value ด้วยการดีไซน์ก็จะน่าสนใจอยู่แล้วด้วยตัวทิศ

ชั้น 5และ7 ก็จะมีผังชั้นเหมือนกับชั้น 4และ6 แต่ว่าจะเป็นส่วนของชั้นบนที่มีการปลูกต้นไม้ ดังนั้นถ้าความสูงของชนิดต้นไม้สูงถึงก็จะได้ต้นไม้สีเขียวๆ แต่ถ้าดูและไม่ดีวิวที่ได้ก็อาจจะเป็นวิวกิ่งไม้ธรรมดา อยากให้โฟกัสที่ชั้น 7 ส่วนด้านล่างของสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้น 8 กันหน่อย อาจจะเป็นส่วนที่ต้องระวังในการเลือกตำแหน่งห้อง เพราะว่าจะมีน้ำหนักของสระว่ายน้ำเพิ่มเข้ามา

ชั้น 8 แบ่งพื้นที่ห้องพักซะเป็นส่วนใหญ่คือ 8 ยูนิต และส่วนท้ายโครงการที่สงบกว่าด้านหน้าทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถเดินได้จากโถงทางเดินตรงกลาง เปิดประตูออกไปก็จะเจอกับพื้นที่เดินเล่นปลูกต้นไม้นิดหน่อย แล้วต้องขึ้นบันไดต่อไปยังพื้นที่ข้างสระและสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool ระบบเกลือขนาด 5 x 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร โดยมีที่ล้างตัวอยู่ที่พื้นที่ข้างสระ แต่จากแปลนไม่เห็นห้องน้ำแยกชาย-หญิงนะคะ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควร

 

พามาดู Sales Office ที่มีห้องตัวอย่างอยู่ด้านในนะคะ จะอยู่ที่ Site ตรงซอยอารีย์1 ระหว่างอาคารปิยะวรรณและร้านกาแฟ เป็นการปรับอาคารพาณิชย์ให้เป็น Sales Office โดยมีการตกแต่ง Mood and Tone ของทั้งภายนอกและภายในอาคารให้เข้ากับคอนเสปของโครงการ

บรรยากาศด้านในของ Sales Office

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Double Volume Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 13 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้อง Fitness + Yoga area
  • สวนและที่นั่งพักผ่อน
  • ห้อง Laundry
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร 40 : 1
  • ที่จอดรถ : ประมาณ 30 คันคิดเป็น 38% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 47%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

Fynn_Unit Plan

เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกกัน คือแบบ 1 ห้องนอน ความจริงแล้วแบบ 1 ห้องนอนจะมีด้วยกัน 2 ขนาดคือ 27 ตารางเมตร และ 31.5 ตารางเมตรที่ทำเป็นห้องตัวอย่างอยู่ภายใน Sales Office ซอยอารีย์1

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอนห้องนี้เป็น Type B2 พื้นที่ห้องขนาด 31.5 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่ Living และห้องนอนประมาณอย่างละครึ่ง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนครัวอยู่ทางขวามือก่อน ด้านในเป็นโต๊ะทานเข้าแบบ 3 ที่นั่งแน่นหน่อย ลึกเข้าไปอีกคือส่วนนั่งเล่น ด้านหนึ่งจะเป็นโซฟาและโต๊ะเข้าชุดกัน ฝั่งตรงข้ามของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี ลึกสุดคือบานประตูเลื่อนสูง 2.45 เมตร เป็นแบบเข้ามุมออกไปยังระเบียงด้านนอก ทางซ้ายของห้องครัวคือห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากทั้งห้องครัวและห้องนอนด้านใน ตัวห้องนอนจะกั้นพื้นที่ด้วยประตูบานทึบแบบเลื่อน สามารถเปิดโล่งให้พื้นที่ต่อกับห้องนั่งเล่น หรือว่าปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว

เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดมาให้เป็นปกติ แต่ตามรายการขายจะเป็นประตูเป็นบาน HDF เปิดด้วยผิวลามิเนต ความสูงภายในห้อง 2.45 เมตร และตาแมว พร้อมประตูมือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Doorlock

Digital Doorlock มีแบบมาให้ดูจาก Samsung

พื้นห้องคือลามิเนต มีตัวกั้นระหว่างพื้นที่ปูตรงระเบียงทางเดินและในห้องพัก

ส่วนแรกจากทางเข้าคือห้องครัวอยู่ด้านหน้า กว้าง 2.4 เมตร มีเคาท์เตอร์ครัวล่าง-บน และโต๊ะทานข้าวอยู่ข้างๆ ด้านในเป็นห้องนั่งเล่นที่ต่อเนื่องไปยังประตูบานเลื่อนออกระเบียง ส่วนทางซ้ายจากครัวสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้เลย และเข้าได้อีกทางจากห้องนอนด้านในที่อยู่ตรงกับห้องนั่งเล่น

รายการการขายที่ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลจะเป็นไปแบบ Fully Furnished คือให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่เห็นภายในห้องตัวอย่าง แต่ก็จะมีบางชิ้นเล็กๆน้อยๆที่เป็นชิ้นตกแต่ง เดี๋ยวก็จะบอกเป็นชิ้นๆไป พร้อมทั้งยังมีแอร์ให้ทุกห้อง แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างทีวี ตู้เย็น หรือไมโครเวฟนะคะ

เคาทเตอร์ครัวเป็นแบบเคาท์เตอร์บนและล่าง มีอ่างล้างจานสำเร็จจาก Teka มี Hob and Hood แบบ 2 หัว ให้เรียบร้อย ด้านล่างก็จะมีช่องเก็บของใต้อ่างล้างจาน และช่องเว้นไว้ใส่เครื่องซักผ้าประมาณ 8 กิโลกรัม ทางที่ดีควรจะวัดขนาดด้วนนะคะ ว่าที่มีอยู่ใส่ได้หรือไม่หรือต้องซื้อใหม่ ด้านบนก็เป็นช่องเก็บของ บานเปิด-ปิดเป็นแบบ Soft close จาก Hafele ทางขวามือมีช่องวางตู้เย็นกว้าง 65 เซนติเมตร บานปิดและช่องใส่ไมโครเวฟ ด้านบนเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิด ผนังส่วนครัวจะกรุด้วยกระเบื้อง ทำให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นหน่อย

เคาท์เตอร์บนและล่างกว้าง 1.25 เมตร มี 2 การใช้งานคืออ่างล้างจานและ Hob and Hood โดยมีวัสดุปิดผัวเคาท์เตอร์คือหินเทียมสีออกขาวๆ มีปลั๊กสามตาติดให้ที่ผนัง แต่ไม่มีฝากันน้ำครอบ

ตัวดูดควันเป็นการใช้งานปกติคือดึงออกมาเมื่อใช้งาน และกดปิดเข้าไปเมื่อไม่ใช้

ตำแหน่งโต๊ะทานข้าวจะอยู่ใกล้กับครัว นั่งได้สบายๆก็ 2 คน แต่ถ้าจะเอาแน่นหน่อยตอนเพื่อนมาก็ 4 ที่นั่ง สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารด้วยได้ เพราะเคาท์เตอร์ครัวไม่มีเว้นพื้นที่ตรงกลางมาให้ ซึ่งตำแหน่งโต๊ะทานข้าวจะตรงกับช่องแสงข้างๆพอดี ซึ่งเป็นห้องฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เท่านั้นที่จะมีช่องแสงเพิ่มตรงนี้นะคะ

มุมทางเข้าฝั่งซ้ายมือก็จะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บของเล็กๆได้ หรือวางตู้เก็บรองเท้า แขวนหมวก แขวนกระเป๋าได้

ฝั่งตรงข้ามกับครัวก็จะเป็นทางเข้าห้องน้ำ โดยห้องน้ำห้องนี้จะเข้าได้ 2 ทางคือจากทั้งฝั่งห้องครัวและห้องนอนด้านใน ซึ่งถ้าอยู่ๆไปแล้วไม่ชอบก็สามารถล็อกฝั่งใดฝั่งหนึ่งให้ใช้ได้ประตูเดียวก็ได้ ประตูห้องน้ำเป็นบาน HDF ปิดด้วยผิวลามิเนต ไม่ได้ติดมาให้ดู แต่ตามหลักของห้องน้ำแล้วน่าจะมีช่องระบายอากาศด้านล่างด้วย

พื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 60 เซนติเมตรสีอ่อน แทบจะไม่ลดระดับพื้นห้องน้ำจากห้องครัวเลย

ภายในห้องน้ำขนาด 1.5 x 2.6 เมตร สุขภัณฑ์สีขาวจาก Mogen (หรือเทียบเท่า) แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่มาก โถสุขภัณฑ์ตรงกลาง และพื้นที่เปียกแบบยืนอาบน้ำด้านใน มาพร้อมกับกั้นด้วยฉากแบบ Tempered glass แบบประตูเปิดผลักเข้าไป ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีน้ำตาลอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

เร่ิมกันจากอ่างล้างหน้าเดี่ยวๆ มีตู้ด้านล่างมาให้เป็นแบบบานดึงเปิด เวลาย้ายเข้าอยู่จริงนอกจะวางของข้างอ่างล้างหน้าทางซ้ายได้แล้วก็ยังสามารถวางในตู้ด้านล่างด้วย มาพร้อมกระจกส่องหน้าบานไม่ค่อยใหญ่มากนัก

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard (หรือเทียบเท่า) พร้อมสายฉีดชำระ และที่ใส่ม้วนทิชชู ด้านหลังมีการก่อปูนยื่นออกมาให้พอวางของได้เพิ่ม

ส่วนริมซ้ายสุดเป็นพื้นที่เปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีฉากกั้นอาบน้ำสูงประมาณ 2 เมตร ทำให้มีช่องว่างด้านบนเหลือ เป็นแบบบานเปิดผลักเข้าไป วัสดุคือ Tempered glass มีราวจับทั้งด้านในและด้านนอก

ส่วนพื้นที่เปียกขนาด 0.9 x 1.0 เมตร ปูกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นที่แห้งในห้องน้ำ คือกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร ไม่ลดระดับลงไป แต่ก็จะมีตัวคั่นสูงประมาณ 7 เซนติเมตรขึ้นมากั้นการกระเด็นของน้ำ

ฝักบัวจาก American Standard เป็นแบบหัวก๊อก มีทั้งแบบ Shower ด้านบน และแบบฝักบัวถือ มาพร้อมกับช่องวางของข้างๆลึกประมาณ 15 เซนติเมตร วางข้าวของเครื่องใช้ทรงสูงอย่างขวดแชมพูได้สบายๆ

รูปร่างหน้าตาของฝักบัวถือ เบาตามขนาด บางคนที่ถัดทรงเหลี่ยมๆก็อาจจะชิน แต่ทรงกลมๆแบบปกติดูจะเข้ามือมากกว่า

ก๊อกน้ำไม่ได้เป็นแบบหมุนปกติ แต่ะจะเป็นแบบอัปเกรตดึงเปิดออก แล้วหมุนปรับอุณหภูมิเอา

ภาพรวมจากส่วนหน้าของห้องพัก

ต่อมามาถึงส่วนด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นกว้าง 2.4 เมตร ผนังเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ไม่มี Wallpaper มาให้ มีโซฟาให้อยู่ทางซ้ายมือ แต่โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีไม่ได้อยู่ในรายการการขาย มีตำแหน่งแอร์ติดผนังอยู่ด้านขวาจากมิสซูบิชิ ลึกเข้าไปอีกเป็นประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกเป็นแบบเข้ามุม

โซฟาเป็นแบบธรรมดานั่งได้ประมาณ 2 คนสบายๆ

ประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนทางซ้ายมือ กรอบคืออลูมิเนียมสีดำเลื่อนได้ทั้งสองฝั่ง ส่วนทางขวาเป็นกระจกแบบ Fix เข้ามุม

ด้านบนมีพื้นที่เว้นร่องม่านมาให้ด้วย ในห้องตัวอย่างเป็นม่านแบบ 2 ชั้น คือแบบโปร่งแสงและแบบทึบไปเลย รางม่านจะได้มาด้วยในห้อง แต่ม่านจะไม่ได้นะคะ

ที่เปิด-ปิดประตูบานเลื่อนเป็นแบบล็อกขึ้น-ลงได้จากด้านใน

กรอบประตูเป็นแบบฝังลงไปในพื้น แต่ก็จะมีนูนๆบ้างตอนเดินนิดหน่อย

 

ระเบียงขนาด 0.65 x 2.4 เมตร ปูด้วยกระเบื้องสีเทาเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีราวกันตกสูงประมาณ 1.1 เมตร ที่เห็นเป็นที่บังสายตาด้านนอกจะไม่มีมานะคะ คงเป็นข้อจำกัดของ Sales Office มากกว่า

ฝั่งด้านในก็จะมีจุดท่อน้ำทิ้งที่มุมสุด และที่เสียบปลั๊กได้ แต่ก็ควรจะมีกล่องกันน้ำให้ด้วย พื้นที่ตรงนี้ก็จะใช้ได้เต็มที่เพราะเครื่องซักผ้าก็ย้ายไปอยู่ใต้เคาท์เตอร์ครัวแล้ว และ Com-air สำหรับห้องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็จะมีตำแหน่งวางอยู่ด้านนอกใกล้กับโต๊ะทานข้าว ทำให้ไม่มีปัญหา แต่ความกว้างของระเบียงถือว่าแคบไปหน่อย ทำให้การใช้งานไม่เต็มเท่าที่ควร

จากระเบียงมองเข้ามายังในห้องพัก

ต่อมาเราจะเริ่มเข้าสูงห้องนอนกันบ้าง โดยห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะกั้นด้วยบานประตูทีบ 2 ตอน มีแค่รางบน ไม่มีรางล่าง ทำให้การเดินเรียบดี สามารถเปิดให้ห้องกว้างขึ้นได้ถ้าต้องการ หรือปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว

รางบนก็จะเป็นแบบฝั่งเข้าไปในฝ้าเรียบร้อย ตัวบานไม่หนักมากแต่ก็จะมีติดๆขัดๆนิดหน่อยตอนเลื่อน

การเปิด-ปิดเป็นแบบล็อกด้วยกุญแจจากห้องนั่งเล่น และแบบหมุนปิดจากในห้องนอน

ภายในห้องนอนขนาด 2.6 x 3 เมตร ไม่นับรวมพื้นที่ Walk-in Closet ทางซ้ายมือ ส่วนห้องนอนก็จะมีเตียงตรงกลาง เหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งพอจะวางโต๊ะข้างเตียงได้พอดี ผนังจะเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีขาว มีตำแหน่งแอร์อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนช่องแสงจะมาจากบานกระทุ้งและบาน Fix ฝั่งขวามือข้างระเบียง

พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือพอให้เดินได้

แต่พอเลื่อนประตูเข้ามาปิดแล้วก็รู้สึกค่อนข้างอึดอัดนิดนึงนะคะ โดยความกว้างของห้องนอนอยู่ที่ 2.6 เมตร อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นบานทึบหมดก็ได้

ส่วนถ้าเวลาเปิดก็จะรู้สึกโล่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสามารถดูทีวีได้จากตอนนอนเลย แต่ขนาดทีวีอาจจะต้องใหญ่หน่อย เพราะถ้าจะติดทีวีให้ห้องนอนก็น่าจะทำได้ยากเนื่องจากเป็นบานประตูเลื่อน

ช่องแสงห้องนอนก็เป็นแบบบาน Fix ขนาดใหญ่ ข้างซ้ายมีบานกระทุ้งข้างๆแบบเปิดออก อยู่จริงก็จะต้องติดม่านด้วยนะคะ

 

หันกลับมาอีกด้านจะเป็นทางเข้าห้องน้ำจากห้องนอน ระหว่างระยะตรงกลางก็จะมี Walk-in closet ทั้งสองฝั่ง ฝั่งซ้ายจะเป็นตู้บานใหญ่หน่อย ส่วนฝั่งขวาจะเป็นบานเล็กหน่อย แต่มาพร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้ง

ฝั่งขวามือเป็นตู้แบบปิด ซึ่งเป็นสีออกเทาๆ ซึ่งความเห็นว่าติดเป็นบานทึบ แล้วด้านในเปิดออกมาเป็นกระจกเต็มตัวจะใช้งานคุ้มค่ากว่า

การเปิด-ปิดก็ต้องใช้มือดึงออกมา

ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นบานใหญ่ขึ้นมา เปิดดึงทั้งสองฝั่งซ้ายขวา ด้านในมีราวแขวนและตู้เก็บของแบ่งเป็นสัดส่วนให้เรียบร้อย

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @25 November 2015

  • 1 Bedroom เนื้อที่ 27 – 31.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท หรือ 125,000 บาท/ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms เนื้อที่ 47 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท หรือ 126,550 บาท/ตารางเมตร

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% 
  • *** เมื่อจองพร้อมทำสัญญาเลือกรับส่วนลด 10,000 บาท หรือ apple watch
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 15 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลซอยอารีย์ถือว่าเป็นทำเลทองของความอุดมสมบูรณ์ในตัวเอง โดยที่ไม่ได้เกิดจากการวางผังเมืองเหมือนทำเล CBD แต่เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมในการใช้ชีวิตประจำวันที่ครบถ้วนในเกือบจะทุกๆด้าน เริ่มจากการเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการอย่างกระทรวงต่างๆ รวมถึงสถานที่ของทหาร อาคารสำนักงานใหญ่ และเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยบ้านหลังใหญ่ในแปลงพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้มีพื้นฐานทำเลที่ดีระดับหนึ่ง ประกอบกับสถานี BTS อารีย์ บนถนนพหลโยธินมาเกยอยู่ตรงหน้าระหว่างซอยอารีย์และซอยราชครู ทำให้พื้นที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากคนรุ่นใหม่ จากทำเลร้านอาหารชื่อดังก็มี Community mall อย่าง La villa เข้ามาเปิดพื้นที่สมัยใหม่เป็นเจ้าแรกๆ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยร้านกาแฟ ร้านขายของตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ที่ปรับปรุงสวยงาม ทำให้ Layer ความน่าสนใจในพื้นที่มีเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่คนรุ่นที่อยู่มานาน คนทำงานในพื้นที่ และคนรุ่นใหม่ที่แวะเวียนมา

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว โครงการอยู่ซอยอารีย์2 เป็น one-way จากซอยราชครูไปฝั่งซอยอารีย์ ทำให้ความสะดวกน้อยลงนิดนึง เข้าได้จากทั้งถนนพหลโยธินและถนนพระราม6 โดยถนนทั้งสองสายเป็นถนนที่ขนานกันแถวจตุจักร อตก.ไปจนถึงในเมืองยาวเชื่อมไปถึงถนนสายอื่นๆเช่นถนนพระราม1 แถวสยามและถนนรองเมืองแถวบรรทัดทอง นอกจากนั้นก็ยังมีเส้นที่ขนานกันอีกอย่างถนนวิภาวดีรังสิตที่ด้านบนเป็นโทลล์เวย์วิ่งออกนอกเมืองไปยังปทุมได้ รวมถึงถนนเทอดไทที่ขนานกับเส้นทางรถไฟอีกฝั่งหนึ่ง สามารถไปยังแถวเกาะรัตนโกสินทร์และฝั่งธน ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอยู่บนถนนพระราม6 โดยจะอยู่เยื้องๆกันแถวโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยและฝั่งตรงข้ามริมคลองประปา

ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถ ที่นิยมสุดๆคือสถานี BTS อารีย์ ที่ตั้งแต่บนสถานีก็จะมีร้านขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ขายของหวานกันเต็มไปหมด ลงมาริมถนนพหลโยธินใต้ตัวสถานีก็สามารถเรียกพี่แท๊กได้เลย มีอยู่ตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับว่าจะไปหรือไม่ไป ทางลงบันไดตรงหน้าอาคารปิยะวรรณจะมีพี่วินกลุ่มนึงคอยให้บริการอยู่ หรือเดินลงฝั่งซอยอารีย์เข้ามาที่ซอยอารีย์1 ก็จะมีพี่วินอยู่อีกจุดและมีตุ๊กๆด้วย ส่วนการเดินเข้าโครงการที่สั้นที่สุดจะต้องเดินเข้าทางซอยราชครูแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์2 ระยะ 850 เมตร แต่สภาพทางเดินไม่ค่อยน่าเดินเท่าไร ส่วนถ้าใครจะแวะเจอเพื่อนก่อนก็สามารถเดินทางลัดตัดเข้าที่ตรงอาคารปิยะวรรณจะไปทะลุที่ซอยอารีย์1 ได้ ของกินเพียบ แล้วค่อยเดินเข้าซอยอารีย์2 จากฝั่งซอยอารีย์ไปยังซอยราชครูจะมีทางเดินเท้าที่สภาพดีกว่า

วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว ตัวอาคารเป็นแบบก่ออิฐ ไม่ใช่แบบ Pre-cast จะมีความคงทนมากกว่า ภายในมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบชุดตามรูปแบบการขายอย่าง Fully Furnished พร้อมแอร์ครบทุกห้อง แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นไม้ลามิเนตเกือบทั้งหมด ยกเว้นห้องน้ำที่ปูด้วยกระเบื้องแกรนิดโต้ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร ฝ้าสูง 2.45 เมตร ผนังเป็นฉาบปูนเรียบ ห้องครัวเคาท์เตอร์ครบพร้อม Hob and Hood ไม่ได้กั้นห้องแยกออกมาเป็นสัดส่วนทำให้ไม่เหมาะกับการประกอบอาหารอย่างจริงจังอุปกรณ์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen และ American Standard มี Digital Doorlock ให้ภายในห้องนอนมี Built-in ตู้เสื้อผ้าที่เป็นประตูบานเปิดแบบดึงออก และการแบ่งพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยบานประตูเลื่อน 3 ตอนขนาดใหญ่ มีรางบนไม่มีรางล่าง ภายในห้องตัวอย่างยังเก็บรายละเอียดระหว่างรอยต่อและการจบงานได้ไม่เนี๊ยบมาก

ออกแบบตัวอาคารเป็นรูปตัว I อยู่บนพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันออกไปทางซอยอารีย์2 ทั้งอาคารมี 79 ยูนิตซึ่งอยู่ในข้อจำกัดไม่ต้องยื่นแบบของ EIA จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ 12 ยูนิต มีลิฟท์ 2 ตัว ชั้น 1 เป็นชั้นจอดรถ ที่ชั้น 2-8 จะเป็นห้องพัก การวางผังห้องภายในชั้นๆหนึ่งเป็นแบบ Double Corridor มีห้องทั้งหมด 3 แบบ ขนาดห้องตั้งแต่ 27-47 ตารางเมตร แต่เน้นไปที่ห้องขนาดกลางที่ 31.5 ตารางเมตรซะเป็นส่วนใหญ่ จุดที่การออกแบบทำได้แตกต่างจากอาคาร Low rise อื่นๆจำนวนยูนิตเพียง 79 ยูนิต ทำให้สามารถเว้นระยะ Facade ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้ 2 จุด ทำให้ห้องฝั่งนี้ดีไซน์ให้มีช่องแสงธรรมชาติเยอะขึ้น และได้ประตูกระจกตรงระเบียงเป็นแบบเข้ามุม มี Com-air เป่าไปทางข้างๆ ไม่วางอยู่ตรงระเบียงให้เสียพื้นที่

สาธารณูปโภคส่วนกลาง ถ้าตามการใช้งานทั่วไปก็จะมีตามมาตรฐานคอนโด Low rise ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ครบเท่าคอนโด High rise แต่ถ้าตามความพยายามในการออกแบบ โครงการนี้ถือว่าทำได้ดี จาก Double Volume Lobby ที่ข้างลิฟท์ รอบๆคือที่จอดรถ ที่มีสัดส่วนที่ 47% แบบนับรวมจอดซ้อนคัน ชั้น Facility แบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือชั้น 1,2 และ 8 โดยกระจายกันไปอย่างชั้น 1 ก็จะมี Lobby มีสวนข้างอาคาร ชั้น 2 มีห้องฟิตเนส และชั้น 8 มีสระว่ายน้ำขนาด 5 x 13 เมตร ความลึกเฉพาะผู้ใหญ่ แต่จากแปลนไม่มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 131,000 บาท/ตร.ม., 25 November 2015

  • ทำเล 8.25/10 – ความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ไม่ต้องพูดถึง แต่ว่าจะอยู่ไกลจากแหล่งหน่อยในระยะเดิน ราคาค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับคอนโดสร้างเสร็จในพื้นที่เดียวกัน
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวกจากทุกๆถนนใหญ่ แต่ในซอยอารีย์2 เป็น one-way ทำให้อาจจะไม่สะดวกมาก
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – จาก BTS อารีย์เดินทางซอยราชครูประมาณ 850 เมตร มีทางเท้าบ้าง ไม่มีบ้าง ดึกๆก็มืดพอสมควร ถ้าเดินทางซอยอารีย์จะระยะไกลกว่าหน่อย พี่วิน พี่แท๊กหาง่าย
  • วัสดุ 7.25/10 – Fully Furnished แต่จากห้องตัวอย่าง การจบงานยังไม่เรียบร้อยดี
  • แบบ 7.5/10 – แบบอาคารถือว่าทำได้ดีมีลูกเล่นเทียบกับคอนโด Low rise จำนวนยูนิตน้อย แบบห้องก็มีให้เลือกพอประมาณ
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – แบ่งเป็น 3 ชั้นคือ f1, 2 และ 8 แต่ละชั้นก็มีอย่างละนิดอย่างละหน่อย ที่จอดรถน้อยเทียบกับระดับราคาและความห่างจากรถไฟฟ้า

  • HIGH CLASS
  • 7.74 / 10.00

BOTTOM LINE

FYNN Aree เหมาะกับคนนอกพื้นที่ที่มองหาคอนโดในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงในระยะเดินประมาณ 1 กิโลเมตร พร้อมขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า BTS อารีย์ อยู่ในซอยหน่อย ใช้รถส่วนตัวบ้าง จำนวนยูนิตน้อย หรือเป็นคนในพื้นที่ที่อยากมีคอนโดในทำเลเดิมเพิ่ม มีงบประมาณระดับ 3.4 – 6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 24,000 – 42,000 บาท/เดือน 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )