..ใครที่กำลังมองหาคอนโดย่านบางโพ ที่มีราคาจับต้องได้ง่ายเพียงล้านกลางๆ วันนี้ผมมีโครงการ Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ แบรนด์ใหม่จากเสนามาฝากครับ โดยเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ภายในซอยไสวสุวรรณ ที่สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ 2 สาย และยังมีรถไฟฟ้าให้ใช้งาน 2 สายด้วยนะ ส่วนความน่าสนใจอื่นๆของโครงการผมก็สรุปมาให้แล้วดังนี้

  • เป็นคอนโดที่มีราคาจับต้องได้ง่ายกว่าเพื่อนบ้านย่านเดียวกัน โดยแลกกับทำเลที่ต้องเข้ามาอยู่ในซอยย่อย
  • ซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 13 (ซ.ไสวสุวรรณ) เป็นซอยลัดสำคัญของย่านที่เชื่อมต่อถนนใหญ่ 2 สาย ทำให้เดินทางได้สะดวก โดยเฉพาะการไปขึ้นทางด่วนศรีรัช หรือจะใช้ชีวิตแบบวน Loop ห้างและตลาดในย่านก็ทำได้ง่ายมาก
  • เน้นห้อง 1 Bedroom ที่เป็นสัดส่วน และได้ครัวปิดทุกยูนิต
  • ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ โดยเป็นดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ Made From Her ตามแบบฉบับของเสนา

ข้อมูลโครงการ

Flexi Taopoon Interchange (เฟล็กซี่ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์) ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566

 ชื่อโครงการ  Flexi Taopoon Interchange (เฟล็กซี่ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอย กรุงเทพ-นนทบุรี 13  (ประชาราษฎร์ สาย 1) เขต บางซื่อ
 ที่ดิน  6-0-65 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร
 จำนวนยูนิต  555 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  32 ยูนิต ที่อาคาร A
 ที่จอดรถ  253 คัน หรือคิดเป็น 45% แบบรวมจอดซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  Q2 ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q4 ปี 2566
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาด 27 – 28.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 36 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 54 – 54.5 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.4 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.59 ล้านบาท (Promotion)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 65,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://www.sena.co.th/project/flexi-taopoon-interchange/?utm_source=ThinkofLiving
 Call Center  1775 ต่อ 49

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • เป็นซอยลัดที่เชื่อมต่อถนนหลัก 2 สาย (ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และถนนประชาราษฎร์สาย 1)
  • ถึงแม้จะเป็นทาง One Way แต่ก็สามารถใช้ชีวิตแบบวน Loop ไปห้างหรือตลาดได้สบาย
  • ทำเลเดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้า 2 สาย และใกล้ทางด่วนศรีรัช
  • เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ภายในซอย จึงทำราคาออกมาได้น่าสนใจ จับต้องได้ง่ายกว่าเพื่อนบ้าน

พิกัด Google Maps : 13.813188, 100.525736
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ภายใน “ซอย กรุงเทพ-นนทบุรี 13” หรือคนในพื้นที่เรียกกันติดปากว่า “ซอย ไสวสุวรรณ” ซึ่งเป็นซอยลัดสำคัญของย่านบางโพ ที่หลายๆคนมักจะใช้เชื่อมต่อจากถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ไปยังถนนประชาราษฎร์สาย 1 ได้ครับ หรือบางคนจะรู้จักกันว่าเป็นซอยโรงไม้/ซอยค้าไม้ เพราะตลอดทั้งซอยนี้จะมีร้านค้าที่ขายพวกผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป และเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นสิบๆร้านเลยทีเดียว

และเนื่องจากย่านบางโพนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ จึงมีพวกตลาดและร้านค้าที่อยู่ตามถนนใหญ่เยอะมากครับ ที่ใกล้ๆกับโครงการก็จะมีทั้งตลาดศรีเขมา ตลาดบางโพ และตลาดเตาปูน รวมถึงยังมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Gateway บางซื่อ ให้ได้เดินช้อปปิ้งกันได้อีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ย่านนี้มีความน่าสนใจก็คือ รถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ซึ่งเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวก และทำให้การเข้าเมืองเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น หรือถ้าใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะมีทางด่วนอยู่ไม่ไกลครับ

จากเหตุผลต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้มี Developer มาเปิดโครงการใหม่ในย่านนี้กันเยอะขึ้น ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นคอนโดสูงที่อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า หรือเน้นชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก จึงทำให้โครงการส่วนใหญ่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90,000 – 100,000 บาท/ตร.ม. ในขณะที่โครงการ Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ จะเป็นคอนโด Low Rise ที่อยู่ภายในซอยย่อย และมีราคาเฉลี่ยที่จับต้องได้ง่ายกว่าเพียง 65,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ล้านกลางๆเท่านั้นครับ

ใช้ชีวิตแบบวน Loop ไปห้างหรือรถไฟฟ้าได้สบายๆ :

ซอย กรุงเทพ-นนทบุรี 13 (หรือ ซอยไสวสุวรรณ) เป็นถนนแบบ One Way ที่เชื่อมต่อจากถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ไปยังถนนประชาราษฎร์สาย 1 แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาในการเดินทางเลยครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วเราก็สามารถใช้ชีวิตวน Loop ได้ไม่ยาก

โดยจากลูกศรสีแดงจะเป็นเส้นทางการเดินรถ Shuttle Service ของโครงการ ที่จะไปส่งลูกบ้านตามรถไฟฟ้า 2 สถานีคือ MRT บางโพ และ MRT เตาปูน ที่จะเป็นสถานี Interchange กับสายสีม่วงได้อีกด้วย หรือถ้าใครมีรถยนต์ส่วนตัว จะใช้เส้นทางนี้ไปเดินตลาด/ห้างแถวนี้ก็ได้เหมือนกัน

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

สำหรับทางด่วนที่ใกล้กับโครงการก็คือ ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ทางพิเศษประจิมรัถยา ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.6 km. สามารถเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชที่เป็นเส้นหลักได้ครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

เนื่องจากทำเลตั้งอยู่ภายในซอยย่อย ดังนั้นบริบทรอบๆโครงการจึงค่อนข้างเงียบสงบ และไม่ค่อยวุ่นวายครับ โดยซอยนี้จะเป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้งานร่วมกันระหว่าง อาคารพาณิชย์ไม่กี่หลัง และคอนโดเพื่อนบ้านอีกแห่งหนึ่งเท่านั้น ส่วนรอบๆโครงการก็จะเป็นที่ว่างและบ้านแนวราบทั้งหมด สามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและบ้านพักอาศัย
  • ทิศใต้ : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับถนนภาระจำยอม และอาคารพาณิชย์ 3 – 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : ติดกับที่ว่างและบ้านพักอาศัย
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ บ้านพักอาศัยและ Fresh Condo สูง 8 ชั้น

นี่เป็นบรรยากาศหน้าปากซอยก่อนจะเข้าสู่โครงการ ซึ่งจะมีป้ายของ Fresh Condo เป็นจุดสังเกตหลัก และอาคารพาณิชย์ทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่ก็จะขายพวกไม้แปรรูป หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลักเหมือนที่บอกไปข้างต้นครับ

ส่วนภายในซอยนี้ก็จะมีการทำพื้นถนนเป็น Concrete Stamp และด้านข้างก็จะมีการปลูกแนวต้นไม้ประดับ เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สวยงามขึ้นด้วยครับ

เข้ามาด้านในประมาณ 150 m. เราก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่สุดซอย ซึ่งปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างกันอยู่เลยครับ

ส่วนสำนักงานขายตอนนี้เค้าจะมาเช่าอาคารพาณิชย์ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ซึ่งภายในก็จะมีทั้งห้องตัวอย่างและโมเดลให้ดูครบเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดศรีเขมา ~ 1.1 k.
  • ตลาดเตาปูน ~ 2.2 km.
  • Tesco Lotus บางซื่อ ~ 3.1 km.
  • Makro สามเสน ~ 3.5 km.
  • BigC วงศ์สว่าง ~ 4.2 km.
  • The Mall งามวงศ์วาน ~ 8.1 km.
  • Central ลาดพร้าว ~ 9.9 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลบางโพ ~ 1.3 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนโยธินบูรณะ ~ 950 m.
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ~ 3 km.
  • โรงเรียนราชินีบน ~ 3.3 km.

สถานที่ราชการ

  • รัฐสภาใหม่ ~ 2.4 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • อาคาร A จะมีความเป็นส่วนตัวสูงแยกออกจากอาคารอื่นๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย
  • อาคาร B และ C จะอยู่ใกล้กับ Facilities จึงทำให้มาใช้งานได้ง่าย และได้วิวส่วนกลางสวยๆ
  • มีตำแหน่งห้องที่น่าสนใจหลายจุด โดยเฉพาะห้องชั้น 1 ที่ได้เป็นห้องแบบ Garden Access และมีห้องที่ได้โถงทางเดินเป็น Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวดีครับ

“Flexi” เป็นหนึ่งในแบรนด์คอนโดใหม่ระดับ Economy ของเสนา ถัดจากแบรนด์รุ่นพี่ที่รู้จักกันดีอย่าง Sena Kith ที่เป็นคอนโดราคาต่ำล้าน-ล้านนิดๆ แต่สำหรับ Flexi จะเริ่มต้นที่ประมาณล้านกลางๆ และตั้งอยู่ในทำเลที่เข้ามาในเมืองมากกว่า สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น เหมาะกับ First Jobber หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ โดยมีราคาจับต้องได้ไม่ยากนัก

โครงการ Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และมีเพื่อนบ้าน 555 ยูนิต ดีไซน์ภายนอกใช้โทนสีเป็น Dark Brown ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของไม้ที่เป็นจุดเด่นของย่านนี้ และตัดกับสี Copper เพื่อเพิ่มความโดดเด่นครับ

Master Plan ด้วยลักษณะที่ดินโครงการรูปตัว L ทำให้สามารถแบ่งอาคารพักอาศัยออกได้เป็น 2 โซนหลักๆ โดยอาคาร A จะอยู่แยกออกมาเดี่ยวๆทางด้านขวา จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย ส่วนอาคาร B และ C จะอยู่ทางโซนด้านใน ซึ่งโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางหลักเอาไว้ จึงทำให้สามารถมาใช้งาน Facilities ต่างๆได้ง่าย อีกทั้งยังได้วิวบรรยากาศของสวนและสระว่ายน้ำสวยๆ ที่ทางโครงการจัดเอาไว้ได้อีกด้วย โดยที่จอดรถก็มีมาให้ประมาณ 45% แบบรวมซ้อนคัน ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร และส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจอดแบบกลางแจ้งครับ

ทางเข้า-ออกจะใช้สัญญาณ Bluetooth แบบ Easy Pass บนทางด่วน ที่ไม้กั้นกระดกจะเปิดให้อัตโนมัติ แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนตามปกตินะครับ

โดยถัดจากป้อม รปภ. เข้ามาก็จะเป็นถนน Main และลานจอดรถแบบกลางแจ้ง ซึ่งเราจะยังมองไม่เห็นส่วนอื่นๆภายในโครงการเลย จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากภายนอกพอสมควร

เรามาเริ่มกันที่อาคาร A ที่อยู่ด้านหน้าสุดกันก่อนครับ โดยนอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวแยกจากอาคารอื่นๆแล้ว ยังสามารถเข้า-ออกโครงการได้ง่ายด้วย ซึ่งถ้าใครที่พักอยู่อาคารนี้ก็อาจจอดรถที่หน้าอาคารได้เลย รวมถึงด้านในสุดก็จะมีพื้นที่สีเขียวเล็กๆ เป็นมุมให้มานั่งเล่นพักผ่อนกันได้อีกด้วยนะ

ภาพบรรยากาศจำลองของ Garden บริเวณอาคาร A จะมีการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงา พร้อมกับที่นั่งเล่นใต้ต้นไม้ครับ ซึ่งจะค่อนข้างเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่พักอาศัยในอาคารนี้มากๆเลยทีเดียว

แปลนชั้น 1 ของอาคาร A จะมีห้องพักอาศัยด้วยครับ โดยจะมีประตูที่ต้องใช้ Key Card Access กั้นแยกโซนเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกไม่ต้องขึ้น-ลงลิฟต์ให้ยุ่งยาก อีกทั้งยังได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor จึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อีกครับ

ส่วน Facilities หลักๆก็จะเป็น Lobby และพื้นที่ให้นั่งทำงานอย่าง Co-Working Space + Meeting Room ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ต้องใช้ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว จึงไม่ค่อยวุ่นวายหรือส่งผลต่อการพักอาศัย ดังนั้นอาคาร A จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากๆเลยนั่นเอง

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Co-Working Space ของอาคาร A จะเป็นบรรยากาศสบายๆ เน้นวัสดุลายไม้เป็นธรรมชาติ และมีชุดโซฟาตัวใหญ่ให้นั่งเล่น/อ่านหนังสือกันได้

แต่ถ้าอยากนั่งทำงานจริงจังก็อาจเข้าไปใช้โต๊ะตัวใหญ่ใน Meeting Room ก็ได้นะครับ (กรณีที่ห้องยังว่างอยู่) ซึ่งเค้าจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่เพื่อความเป็นสัดส่วน แต่ก็ยังได้ความโปร่งโล่งอยู่ด้วยนั่นเอง

แปลนชั้น 2 – 8 ของอาคาร A จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด โดยจะเป็นผังรูปตัว I แบบตรงๆ และมีเพื่อนบ้าน 32 ห้อง/ชั้น ซึ่งตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจส่วนตัวผมคิดว่ามีดังนี้

  • กรอบสีแดง : เป็นห้องที่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านแค่ด้านเดียว จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวดี ช่วยลดปัญหาเสียงไม่พึงประสงค์ที่อาจดังมาจากห้องข้างๆได้ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องมุมหรือห้องที่อยู่ติดกับบันไดหนีไฟครับ
  • กรอบสีส้ม : เป็นตำแหน่งห้องที่ประตูจะไม่ตรงกับใคร เพราะอยู่ตรงข้ามกับบันไดหนีไฟพอดี จึงได้ความเป็นส่วนตัวในตอนที่เปิด-ปิดประตูห้องครับ (ไม่มีห้องฝั่งตรงข้ามที่จะมองเข้ามาเห็นภายในห้องเราได้ง่ายๆ)
  • กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งห้องที่อยู่ตรงกับโถงลิฟต์พอดี จึงมีความเป็นส่วนตัวที่น้อยกว่าห้องอื่นๆ ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นห้องที่ทางโครงการอาจนำมาทำราคาพิเศษก็ได้ (แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ของผมเท่านั้น ใครสนใจก็ลองสอบถามกับทางโครงการดูอีกครั้งนะครับ)

สำหรับอาคาร B และ C จะมีที่จอดรถอยู่โดยรอบอาคารเลยครับ ซึ่งถ้าใครพักอยู่ตึกไหนก็สามารถเลือกหาจอดใกล้ๆได้สะดวกเลย หรือถ้าตอนดึกๆที่จอดรถเต็ม ก็อาจต้องมาจอดที่ลานกลางแจ้งด้านหน้าแล้วเดินเอาสักหน่อยนะครับ (ถ้าเป็นอาคาร C ก็อาจไกลสักนิดนึงเพราะอยู่ด้านในสุดเลย)

แปลนชั้น 1 ของอาคาร B จะมีห้องพักอาศัยที่กั้นโซนด้วยประตู Key Card Access แยกออกไปเหมือนเดิมครับ โดยที่จะมีความเป็นส่วนตัวเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น แถมยังสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำกับสวนตรงกลางได้ รวมถึงยังเป็นห้องแบบ Garden Access อีกด้วย

ส่วนฟังก์ชัน Facilities หลักๆจะเน้นเป็นห้อง Fitness ขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับบคนชอบออกกำลังกาย และสามารถเชื่อมต่อไปใช้งานสระว่ายน้ำด้านนอกได้อีกด้วย รวมถึงจะมี Main Lobby ให้ใช้เป็นพื้นที่รับรองแขก และมีห้องนิติบุคคลให้ติดต่อธุระต่างๆได้สะดวกครับ

ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness จะมีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ โดยเน้นเครื่อง Cardio ให้สามารถออกกำลังกายไปและมองวิวสระว่ายน้ำภายนอกไปด้วยได้ครับ

แปลนชั้น 2 – 8 ของอาคาร B จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่จะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ โดยหากใครที่อยากมองเห็นสระว่ายน้ำจากในห้องได้แบบสวยๆ ผมแนะนำไม่เกินประมาณชั้นที่ 4 – 5 เพราะถ้าสูงมากกว่านั้นก็จะต้องใช้การก้มลงมาดูเอานะ ส่วนตำแหน่งห้องอื่นๆที่น่าสนใจผมคิดว่ามีดังนี้

  • กรอบสีแดง : เป็นโซนของห้องพักที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากๆครับ เพราะจะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ไม่มีห้องเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามเหมือนโถงทางเดินหลัก
  • กรอบสีน้ำเงิน : เป็นห้องที่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านเพียงแค่ด้านเดียว จึงมีความเป็นส่วนตัว และลดปัญหาเสียงไม่พึงประสงค์จากเพื่อนบ้านห้องข้างๆลงได้ครับ
  • กรอบสีเขียว : เป็นห้องที่อยู่ตรงกับโถงลิฟต์ ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวที่น้อยกว่าเพื่อนบ้านห้องอื่นๆ และผมคาดการณ์ว่าอาจมีราคาที่น่าสนใจจับต้องได้ง่ายเช่นเดิมครับ

ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยอาคาร B และ C รวมถึงยังมีการปลูกต้นไม้รอบๆเพื่อความร่มรื่นอีกด้วยครับ โดยสระว่ายน้ำจะมีขนาด 15.9 x 5.7 m. ที่พอจะว่ายออกกำลังกายได้จริงจังระดับหนึ่ง

ภาพบรรยากาศจำลองของสวนเล็กๆที่อยู่ด้านข้างสระว่ายน้ำ ซึ่งจะมีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา พร้อมที่นั่งใต้ต้นไม้ให้มาพักผ่อนกันได้ตลอดทั้งวันครับ

แปลนชั้น 1 ของอาคาร C โซนพักอาศัยของชั้นนี้จะมีความพิเศษตรงที่ เค้าจะเป็นห้อง Garden Access ที่สามารถชมวิวสระว่ายน้ำตรงๆได้จากภายในห้องเลยครับ แต่ทั้งนี้ก็อาจต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัวที่ลดลงด้วย เพราะคนที่มาใช้งานส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส เค้าก็สามารถมองเข้ามาเห็นภายในห้องเราได้ง่ายเหมือนกัน จึงอาจต้องคอยปิดม่านเพื่อความเป็นส่วนตัวอยู่ตลอดนะ

ส่วนฟังก์ชัน Facilities ภายในก็จะมี Co-Working Space อีกจุดหนึ่งให้ใช้นั่งทำงาน/อ่านหนังสือกันตรงนี้ได้สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องเดินออกไปถึงอาคาร A ที่อยู่ด้านหน้าเลยครับ

แปลนชั้น 2 – 8 ของอาคาร C จะมีเพื่อนบ้านร่วมชั้นที่น้อยกว่าอาคารอื่นๆอยู่ที่ 21 ห้อง/ชั้น จึงทำให้มีความหนาแน่นในการใช้งานลิฟต์ที่น้อยกว่าด้วย (อัตราส่วน 77 : 1) นอกจากนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในอาคารที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำตรงกลางได้ดี แถมยังมีตำแหน่งห้องที่น่าสนใจหลายจุดดังนี้

  • กรอบสีแดง : เป็นห้องที่ได้วิวส่วนกลางดีสุด เพราะจะมองเห็นสระว่ายน้ำและสวนได้แบบตอนลึก รวมถึงจะไม่ต้องมองเห็นห้องฝั่งตรงข้ามให้เสียความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
  • กรอบสีน้ำเงิน : เป็นโซนของห้องที่ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor จึงได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างดีเลยทีเดียว
  • กรอบสีส้ม : เป็นห้องที่มีผนังอยู่ติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว ช่วยลดปัญหาเสียงอันไม่พึงประสงค์จากห้องข้างๆลงได้
  • กรอบสีเขียว : เป็นห้องที่อยู่ตรงกับหน้าโถงลิฟต์ มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าเพื่อนบ้านชั้นเดียวกัน ผมจึงยังคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นห้องที่ทำราคาออกมาดี และจับต้องได้ง่ายครับ

และนี่ก็เป็นภาพจากโมเดลที่แสดงให้เห็นว่า ห้องตรงมุมอาคาร C จะสามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางได้เป็นตอนลึกทั้งหมดแบบนี้เลยครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Tower A :

  • Lobby
  • Co-Working Space & Meeting Room

Tower B :

  • Main Lobby
  • Fitness

Tower C :

  • Lobby & Co-Working Space

Outdoor :

  • Garden
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 15.9 x 5.7 m.
  • EV Charger
  • Solar Cell
  • Shuttle Service

 

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 93 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 118 : 1 (จำนวนห้องพักทั้งหมด 235 ยูนิต)
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 83 : 1 (จำนวนห้องพักทั้งหมด 166 ยูนิต)
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 77 : 1 (จำนวนห้องพักทั้งหมด 154 ยูนิต)
  • ที่จอดรถ 253 คัน หรือคิดเป็น 45% แบบรวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access ระบบ Bluetooth ระยะไกล

 

แบบห้อง

Highlights :

  • ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ห้องครัวปิดทุก Type สามารถทำอาหารได้จริงจัง
  • Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Made From Her พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่
  • เน้นห้องนอนติดระเบียงหรือช่องแสง นอนชมวิวภายนอกไปด้วยได้
  • มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งาน สามารถทำเป็นมุมนั่งทำงาน และ Walk-in Closet แบบจริงจังได้เลย

แบบห้องของโครงการนี้จะมีหลักๆ 3 Type ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการจัดฟังก์ชันที่มีการใช้งานแตกต่างกันออกไป จึงเหมาะกับคนที่มี Lifestyle หรือความชอบไม่เหมือนกันครับ โดยจะขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ได้เลย ประกอบด้วย

  • 1 Bedroom ขนาด 27 – 28.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 36 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 54 – 54.5 ตร.ม.

จุดเด่นอีกอย่างของคอนโดเสนาก็คือ เฟอร์นิเจอร์แบบ “Made From Her” ที่ใส่ใจรายละเอียดให้เหมาะการใช้งานสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย และมีที่เก็บของกระจุกกระจิกเยอะนั่นเอง

เป็นหนึ่งในห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ จุดเด่นอยู่ตรงที่มี “Walk-in Closet” ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวแบบจริงจังได้สบาย หรือจะแบ่งพื้นที่ทำเป็นโต๊ะแต่งหน้า และโต๊ะนั่งทำงานริมหน้าต่างด้วยก็ได้ครับ คิดว่าคงจะเป็นฟังก์ชันที่ถูกใจสาวๆหรือคนชอบแต่งตัวมากๆเลยทีเดียว

ห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ จึงมีความกว้างขวางและโปร่งโล่ง โดยพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้าก็ยังได้รับแสงสว่างจากภายในห้องได้อยู่ รวมถึงเรายังได้เป็นครัวปิดที่สามารถอุ่นอาหารหรือทำครัวได้จริงจัง ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะฟุ้งกระจายเข้าสู่ตัวห้อง ส่วนบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมห้องตัวอย่างกันเลยครับ

อันนี้เป็นรายการเฟอร์นิเจอร์ของห้อง 1 Bedroom นะครับ ซึ่งเราจะได้ตามนี้เลย

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Living Area ซึ่งจะมีความโปร่งโล่งและมองเชื่อมต่อไปจนถึงระเบียงด้านในได้เลย จึงทำให้บริเวณหน้าห้องนี้จะได้แสงสว่างตอนกลางวันด้วยครับ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟตลอดเวลานั่นเอง

โดยห้องพักอาศัยจะได้ฝ้าเพดานสูง 2.4 m. และปูพื้นด้วย SPC (Stone Plastic Composite) ที่สามารถทนน้ำหรือรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต

บริเวณด้านหน้าสุดของห้องจะเป็นตู้เก็บรองเท้า และพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร

เริ่มจากด้านขวาของประตูจะเป็นตู้ที่ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ (ยกเว้นตู้ชั้นบน โดยเราอาจติดเพิ่มเองก็ จะได้ปิดตู้ไฟให้ดูเรียบร้อยและเพิ่มขึ้นที่เก็บของให้มากขึ้น)

ส่วนตรงกลางมีชั้นวางของที่เราอาจต้องหยิบใช้ก่อนออกจากห้องบ่อยๆ หรือจะแขวนกุญแจต่างๆก็ได้ และชั้นล่างจะเป็นตู้เก็บรองเท้าได้หลายคู่เลยครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งเราจะสามารถนั่งทานอาหารไปและดูทีวีไปด้วยได้สบายๆ รวมถึงยังใช้เป็นพื้นที่วางของให้หยิบจับจากที่นั่งโซฟาได้สะดวกอีกด้วยนะ

ระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.5 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ

โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้ประกอบด้วยโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง และชั้นวางทีวีที่มีลิ้นชักให้เก็บของได้ด้วย ส่วนโต๊ะกลางถ้าอยากได้ก็อาจต้องหาซื้อมาเพิ่มเองนะ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องครัว ซึ่งของจริงจะมีประตูบานเปิดติดตั้งมาให้ด้วยครับ เบื้องต้นผมได้ยินมาว่าจะมีดีไซน์ทำเป็นช่องกระจกด้านบน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เปิดประตูชนกัน

อีกทั้งยังช่วยป้องกันกลิ่นหรือควันจากการอุ่นอาหาร ไม่ให้ฟุ้งกระจายเข้ามาติดตามโซฟาหรือเตียงในห้องได้อีกด้วยครับ

ภายในครัวมีขนาดกว้าง 1.15 x 1.35 m. และเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ จึงสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ด้านข้างก็มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นกว้าง 65 cm. ส่วนด้านบนฝ้าเพดานจะติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยครับ

สำหรับเคาน์เตอร์ครัวทางโครงการจะ Built-in มาให้ครบชุดแบบนี้เลย มีพื้นที่เก็บของพอสมควร Top เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นเมลามีนที่อาจไม่ถูกกับน้ำมากนัก ดังนั้นจึงต้องคอยเช็ดทำความสะอาดให้แห้งอยู่เสมอนะ

แต่ที่ชอบก็คือเค้าจะมีที่แขวนพวกตะหลิวมาให้ด้วย และถ้าใครที่ชอบทำอาหารจริงจังก็อาจใช้เป็นเตา Indruction ที่ถอดเก็บได้ง่าย เพื่อจะได้ประหยัดพื้นที่ได้ดี รวมถึงอาจติดตั้ง Backsplash ที่ผนังเพื่อเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายด้วยก็ได้ครับ

บริเวณตรงกลางห้องจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่กั้นฟังก์ชันระหว่างห้องนอนและ Living Area ทำให้มีความเป็นสัดส่วนแต่ก็ยังได้ความโปร่งโล่งดี ซึ่งเราอาจติดม่านไว้เลื่อนปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนด้วยก็ได้นะครับ

เข้ามาภายในห้องนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างและระเบียง ซึ่งของจริงผมคิดว่าคงสว่างและโปร่งโล่งดีนะครับ (พอดีสำนักงานขายมีข้อจำกัดของพื้นที่ จึงไม่ได้เห็นวิวภายนอกแบบที่ควรจะเป็น)

ตรงกลางห้องจะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่รอบเตียงเหลือไม่มากนัก อย่างบริเวณปลายเตียงก็จะกว้างเพียง 35 cm. ให้เดินผ่านได้พอดีๆเท่านั้น

แต่ด้านข้างจะกว้างพอให้วางโต๊ะหัวเตียงเพิ่มสักฝั่งหนึ่งได้ รวมถึงยังทำให้สามารถก้มเก็บของใต้เตียงได้อีกด้วยครับ

ด้านขวาของเตียงจะเป็นระเบียงขนาด 1.35 x 1.1 m. กว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าใต้ Condensing Unit ได้พอดีๆ (ด้านหลังจะมีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ด้วย) ซึ่งเราสามารถตากผ้าตรงนี้ได้สบายๆ และถ้าได้ลมร้อนเป่าตรงๆแบบนี้ก็รับรองว่าผ้าแห้งไวแน่นอนครับ

ผนังปลายเตียงเราสามารถติดทีวีแขวนผนัง เพื่อนอนดูซีรีย์บนเตียงก่อนนอนได้สบายๆ และอีกมุมหนึ่งของห้องก็จะเป็น Walk-in Closet กว้างประมาณ 2 x 2 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ

โดยทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีหน้าบานมาให้แบบนี้เลยครับ (ซึ่งเราอาจติดตั้งหน้าบานตู้เอง เพื่อทำให้ดูเรียบร้อยมากขึ้นก็ได้นะ)

โดยภายในก็จะมีช่องเก็บของมาให้เยอะดีทีเดียว ส่วนพื้นที่ที่เหลือเราก็สามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะนั่งทำงานริมหน้าต่างได้สบายๆเลยครับ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.3 x 1.55 m. และได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเหมือนห้องตัวอย่างเลยครับ ยกเว้นอ่างล้างหน้าจะติดตั้งแบบลอยตัวปกตินะ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.15 x 0.7 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ โดยที่เราอาจติดฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านพลาสติกเพิ่มเติม เพื่อที่น้ำจะได้ไม่กระเด็นออกมาเลอะด้านนอกครับ ส่วนด้านบนก็จะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานเลย

จุดเด่นของห้องนี้คือจะมี Multi Purpose Room มาให้ใช้งาน โดยเราสามารถจัดเป็นฟังก์ชันอเนกประสงค์ต่างๆได้ตามต้องการ เช่น ห้องทำงาน หรือจะทำเป็นห้องนอนเล็กเพิ่มอีกสักห้องก็ยังได้ ซึ่งตำแหน่งจะอยู่ติดกับหน้าต่างและได้วิวสวยๆด้านนอก จึงเป็นหนึ่งในจุดที่น่าใช้งานมากที่สุดของห้องเลยทีเดียว นอกจากนี้เรายังได้ห้องนอนหลักที่กั้นด้วยผนังทึบเป็นส่วนตัว รวมถึงยังคงได้ครัวปิดให้ทำอาหารได้จริงจังเช่นเดิม ส่วนบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ

อันนี้เป็นรายการเฟอร์นิเจอร์ของห้อง 1 Bedroom Plus นะครับ ซึ่งเราก็จะได้ครบตามนี้เลย

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับส่วนครัวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งจะกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน จึงมีความเป็นสัดส่วนแต่ก็โปร่งโล่ง รวมถึงเคาน์เตอร์ครัวก็จะได้ Built-in มาเหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ

พื้นที่ครัวกว้างประมาณ 1.5 x 1.5 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ และปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

จึงเหมาะกับการใช้งานทั้งในส่วนของครัว และการเข้า-ออกห้องที่เราอาจต้องใส่รองเท้าแบบนี้มากๆครับ ส่วนด้านบนก็จะติดพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยนะ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.4 x 1.6 m. และพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1 x 0.8 m. ให้ใช้งานได้พอดีๆ แน่นอนว่าเราสามารถติดฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านพลาสติกเพิ่มเองได้ และพวกสุขภัณฑ์จาก Cotto เราก็จะได้ครบเช่นเดิม

ติดกับครัวเมื่อครู่ก็จะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารและตู้เก็บรองเท้า ที่ทางโครงการจะให้มาแบบนี้ครับ (ยกเว้นตู้แขวนผนังด้านบนเช่นเดิม)

ถัดเข้ามาด้านในห้องจะเป็น Living Area ซึ่งจะเห็นว่าผนังด้านข้างทั้งหมดจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน จึงมีความโปร่งโล่งเชื่อมต่อกันดี โดยพื้นห้องก็จะเป็น SPC และฝ้าสูง 2.4 m. ตามปกติ

พื้นที่วางโซฟาจะมีระยะดูทีวีกว้าง 2.7 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้สบายๆ และติดกันจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน จึงทำให้ภายในห้องนี้ได้แสงสว่างที่ส่องมาจากหน้าต่างด้วยครับ

ภายในห้องมีขนาดพื้นที่กว้าง 2.65 x 1.7 m. สามารถจัดเป็นฟังก์ชันตามที่เราต้องการได้หลากหลาย เช่น ห้องทำงาน หรือจะทำเป็นห้องนอนเล็กเพิ่มอีกสักห้องก็ได้

เพราะพื้นที่ก็กว้างพอที่จะวางเตียง 3.5 ฟุตได้พอดีๆ รวมถึงยังอยู่ติดกับช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ จึงทำให้เป็นห้องที่สว่างและมองเห็นวิวภายนอกสวยๆได้สบายๆครับ

ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยผนังทึบอยู่แยกออกไป ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากๆครับ

ภายในมีขนาดค่อนข้างใหญ่ อีกทั้งยังมีระเบียงส่วนตัวให้ใช้งานด้วย

ผนังปลายเตียงเราสามารถติดทีวีแขวนผนัง เพื่อนอนดูบนเตียงสบายๆครับ

พื้นที่ปลายเตียงจะกว้าง 40 cm. ให้เดินผ่านได้พอดีๆ แต่ข้างเตียงจะเหลือแค่ 20 cm ให้พอเปิด-ปิดม่านได้เท่านั้น จึงทำให้เดินออกไประเบียงได้ไม่สะดวกเท่าไหร่นัก

ซึ่งเราอาจต้องลองขยับเตียงมาทางซ้ายได้อีกนิดหน่อย แต่ก็ต้องระวังอย่าให้ขวางการเปิด-ปิดประตูห้องนอนด้วยนะ

ระเบียงภายนอกจะกว้าง 2.5 x 1.2 m. แน่นอนว่าเรายังสามารถใช้วางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้สบายๆ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ Condensing Unit จะหันหน้าเป่าลมร้อนออกไปด้านนอก จึงทำให้สามารถออกมาใช้งานระเบียงได้โดยไม่ต้องกลัวร้อนเลยครับ

ส่วนอีกด้านของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและตู้เสื้อผ้า (ของจริงจะไม่มีเสาตรงกลางนะครับ)

สำหรับตู้เสื้อผ้าของห้องนี้เราจะได้แบบมีหน้าบานปิดเรียบร้อยดี พร้อมมีกระจกเงาให้ส่องแต่งตัวได้ที่ด้านในด้วย

โดยพื้นที่แต่งตัวจะกว้าง 1.5 m. ให้ใช้งานได้สบายๆ รวมถึงจะมีพื้นที่ด้านข้างตู้เสื้อผ้าเหลือ 1.7 m. ให้เราสามารถทำเป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมเองได้อีกด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

แบบแปลน

สำหรับแบบห้องอื่นๆของโครงการ สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/9

ส่วนภาพบรรยากาศจำลองของห้องต่างๆ จะอยู่ภายใน Gallery นี้เลยครับ

Image 1/4
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.

ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.

ราคา

Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ราคา ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566

  • 1 Bedroom ขนาด 27 – 28.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท (Promotion)
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 36 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท (Promotion)
  • 2 Bedrooms ขนาด 54 – 54.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท (Promotion)

  •  รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปเมลามีน
  • มีรถ Shuttle Service ไป-กลับรถไฟฟ้า MRT สถานี บางโพ / MRT สถานี เตาปูน
  • จอง 2,990 บาท
  • ทำสัญญา 5,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยซอย กรุงเทพ-นนทบุรี 13 (ซ.ไสวสุวรรณ) ซึ่งเป็นซอยลัดสำคัญของย่านที่สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ 2 สายได้ และถึงแม้ว่าจะเป็นซอยแบบ One Way แต่ก็สามารถใช้ชีวิตวน Loop ไปใช้รถไฟฟ้าหรือขึ้นทางด่วนได้สะดวกมาก โดยความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะอยู่บนถนนใหญ่ ที่มีทั้งตลาดและห้างสรรพสินค้าครบเลยครับ

ความน่าสนใจจริงๆก็คือ “ราคา” ที่จับต้องได้ง่ายกว่าเพื่อนบ้านในย่านเดียวกัน แต่ก็แลกมากับการที่เราอาจไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดิน หรือไม่ได้เห็นวิวแม่น้ำสวยๆนะครับ ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากอยู่คอนโดในย่านบางโพที่เป็นฝั่งตัวเมือง และมีงบประมาณอยู่ที่ประมาณล้านกลางๆนั่นเอง

การเดินทางโดยใช้รถ : เป็นซอยลัดที่เชื่อมต่อถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซึ่งทำให้สามารถไปขึ้นทางด่วนศรีรัชได้ง่าย โดยมีระยะห่างจากโครงการเพียง 1.6 km. และตัวโครงการก็มีที่จอดรถประมาณ 45% แบบรวมซ้อนคัน ถือว่าเพียงพอในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เผลอๆคนที่อยู่จริงเค้าก็อาจใช้เป็นรถมอเตอร์ไซค์เดินทางใกล้ๆ ก็จะมีความสะดวกมากกว่าด้วยนะครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ทำเลในซอยย่อยและอาจไม่ได้มีวินมอเตอร์ไซค์ใกล้ๆเลย ก็อาจเรียกรถสาธารณะยากกว่าโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่สักนิดนึง (วินมอเตอร์ไซค์จะมีเฉพาะตรงปากซอย) ดังนั้นผมจึงแนะนำให้ใช้ Application เรียกมารับก็จะสะดวกกว่า หรือจะใช้บริการ Shuttle Service ของโครงการก็ได้ครับ ซึ่งจะไปส่งที่รถไฟฟ้า MRT บางโพ และ MRT เตาปูน อีกทั้งยังสามารถ Interchange กับสายสีม่วงได้อีกด้วยนะ

การออกแบบโครงการ : ด้วยลักษณะของที่ดินรูปตัว L จึงแบ่งอาคารพักอาศัยออกเป็น 2 โซน ซึ่งตัวอาคาร A จะอยู่แยกออกมาเป็นส่วนตัวเพียงอาคารเดียว ในขณะที่อาคาร B และ C จะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ นั่นจึงทำให้สามารถมาใช้ Facilities ได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังได้มองเห็นวิวส่วนกลางสวยๆที่อยู่ภายในได้อีกด้วย ส่วนห้องพักอาศัยก็เรียกได้ว่ามีตำแหน่งที่น่าสนใจให้เลือกหลายจุด เช่น ห้องที่อยู่ชั้น 1 ติดกับสระว่ายน้ำ / ห้องที่ได้ Single Corridor เป็นส่วนตัว และห้องที่มองเห็นวิวส่วนกลางทั้งหมดแบบตอนลึกก็มีครับ

การออกแบบห้องพักอาศัย : มีห้องหลายแบบให้เลือก แต่ส่วนใหญ่ก็จะเน้นเป็น 1 Bedroom ที่เหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คน จุดเด่นของแบบห้องคือจะได้ครัวปิดทั้งหมด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง เน้นฟังก์ชันห้องนอนให้อยู่ติดช่องหน้าต่างหรือระเบียง ทำให้สามารถชมวิวภายนอกสวยๆได้ รวมถึงยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดเป็นมุม Walk-in Closet หรือทำเป็นพื้นที่นั่งทำงานขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที โดยที่ตัวเฟอร์นิเจอร์ก็จะมีดีไซน์ Made From Her ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสมกับผู้หญิงตามแบบฉบับของเสนา ทำให้มีพื้นที่เก็บของกระจุกกระจิกค่อนข้างเยอะดี อีกทั้งยังได้พื้นเป็น SPC กับกระเบื้องแกรนิตโต้ที่ไม่กลัวน้ำหรือความชื้น และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งก็เหมาะสมกับการใช้งานดีครับ แต่จุดที่อาจต้องระวังคือ Top เคาน์เตอร์ครัวเมลามีนที่ไม่ถูกกับน้ำเท่าไหร่ กับเราอาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำ/ม่านพลาสติกเพิ่มเติมเองนะ

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ และเพียงพอต่อจำนวนยูนิต ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่อาคาร B เป็นหลัก โดยจะมีทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำให้ใช้งาน ส่วนอีก 2 อาคารที่เหลือก็จะเน้นเป็น Co-Working Space ให้นั่งเล่น/นั่งทำงานที่ใต้อาคารได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 65,000 บาท/ตร.ม., 10 มีนาคม 2566

  • ทำเล 7.75/10 – อยู่ภายในซอยย่อย ความอุดมสมบูรณ์ส่วนมากจะอยู่ตรงถนนใหญ่ แต่ได้เปรียบในเรื่องราคาที่จับต้องได้ง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ซอย One Way และเป็นทางลัดเชื่อมต่อถนนใหญ่ 2 สาย ใกล้ทางด่วนศรีรัช ที่จอดรถ 45% แบบรวมซ้อนคัน
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งที่รถไฟฟ้า 2 สาย อยู่ในซอยจึงเรียกรถสาธารณะอื่นๆยากหน่อย แนะนำให้ใช้ Application จะสะดวกกว่า
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ ดีไซน์ Made From Her ที่เก็บของเยอะ
  • แบบ 7.5/10 – ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดทุกยูนิต มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้สอยได้ตามต้องการ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ฟังก์ชันหลักๆครบ กระจายการใช้งานทุกอาคาร เพียงพอต่อจำนวนยูนิต

  • ECONOMY CLASS
  • 7.74 / 10.00

Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ เหมาะกับใคร

โครงการ Flexi เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด Low Rise ในย่านบางโพ ที่มีราคาจับต้องได้ง่าย และสามารถอยู่ถัดเข้าไปภายในซอยย่อยได้ โดยเป็นโครงการที่เน้นห้องพักสำหรับการอยู่ 1 – 2 คน ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ดีไซน์ Made From Her มีพื้นที่เก็บของเยอะ และมีฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานครบ มีงบประมาณระดับ 1.59 – 3.29 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 23,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc