รีวิวฉบับที่ 1911 .. ถนนเพชรบุรีตัดใหม่เป็นถนนที่ขนานกันกับถนนสุขุมวิท จึงเป็นเรื่องไม่ยากที่จะเชื่อมต่อไปยังทำเลสำคัญหลายแห่งทั้ง อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ… Cloud ทองหล่อ – เพชรบุรี คอนโด High Rise บนถนนเพชรบุรี ไม่ไกลพร้อมพงษ์-ทองหล่อ จัดห้องพักอาศัยมาหลากหลายแบบ และพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มกระจายอยู่ทั้งอาคาร รวมถึงสระว่ายน้ำตัว U ที่ชั้นดาดฟ้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.5 ล้านบาท เข้าไปอ่านรายละเอียดภายในกันได้เลยครับ

Fact @ 23 July 2019 

  • CLOUD Thonglor – Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี)
  • บริษัท พีบีอาร์ 49 จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง
  • ที่ดินประมาณ 3-0-60 ไร่
  • คอนโด High Rise 55 ชั้น 1 อาคาร 661 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 334 คัน คิดเป็น 50.5%
  • เริ่มก่อสร้าง : 2019
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2022
  • Studio 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 31.5 – 32.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 37.5 – 38 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.17 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 54.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • Penthouse 80.5 – 102.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 135,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 136,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-026-6888

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.7403334 , 100.5709966
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

ทำเลของโครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีในช่วงระหว่างซอยเพชรบุรี 38 (สุขุมวิท 39) ที่เป็นซอยพร้อมพงษ์ กับท้ายซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ซึ่งถนนเพชรบุรีเป็นถนนที่ขนานกับถนนสุขุมวิท มีซอยลัดเลาะเข้าไปได้ง่าย ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังอโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ และเอกมัยได้สะดวก โดยมีซอยเพชรบุรี 38 (สุขุมวิท39) ที่สามารถลัดเลาะเข้าไปเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่างๆเหล่านี้ได้ ส่วนอีกฝั่งก็อยู่ในช่วงที่ขนานกับถนนพระราม 9 สามารถเดินทางได้ค่อนข้างหลากหลายเลย มีถนน RCA อยู่ไม่ไกล ข้อดีของการติดถนนใหญ่คือจะสามารถเข้าถึงได้สะดวก เรียกรถสาธารณะง่าย และเป็นที่สังเกตได้ไม่ยากในกรณีของการบอกเส้นทาง แต่ผลกระทบที่มักจะตามมาด้วยนั้นก็คือเสียงและฝุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการตั้งอยู่ใกล้แหล่งงานสำคัญก็คงจะหลีกหนีปัญหารถติดได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ก็พอจะมีซอยเล็กให้ลัดเลาะเลือกใช้กันได้หลายจุดเหมือนกัน

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือเป็นการเดินทางหลักของเรา เพราะตัวโครงการไม่ได้ตั้งอยู่บนแนวรถไฟฟ้า บริเวณถนนเพชรบุรีหน้าโครงการมีจุดกลับรถขนาบข้างในระยะไม่ไกลนักใช้งานได้สะดวกทั้งสองฝั่ง นอกจากนั้นก็มีทางด่วนให้ใช้งานกันได้ไม่ยาก และพื้นที่จอดรถภายในโครงการให้มาทั้งหมดประมาณ 334 คัน คิดเป็น 50.5%

อีกหนึ่งจุดเด่นคือมีจุดขึ้นลงทางด่วนไม่ไกลจากตัวโครงการนัก เป็นทางพิเศษศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าไปบางนา ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพระราม 9 จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 กิโลเมตร หรือใช้เวลาขับรถจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 20-30 นาที

ส่วนอีกจุดที่ใกล้กับตัวโครงการคือทางพิเศษศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าไปทางดินแดง ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอโศก 2 มีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.1 กิโลเมตร. หรือใช้เวลาขับรถจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 10-15 นาที

ส่วนการเดินทางสาธารณะก็จัดว่าเป็นตัวเลือกให้ใช้งานได้ดีเช่นกัน เพราะหนึ่งคือตัวโครงการตั้งติดถนนเพชรบุรี ทำให้สามารถเรียกรถสาธารณะได้ง่าย รวมถึงขากลับเข้าโครงการก็ไม่ต้องเข้าซอยเปลี่ยวด้วย มีรถประจำทางให้ใช้ไม่ไกลจากตัวโครงการ (สาย 11, 23, 38, 58, 60, 72, 99, 113, 206, ปอ.12, ปอพ.3) ส่วนรถไฟฟ้าจะห่างจาก MRT สถานีเพชรบุรีประมาณ 1.6 กิโลเมตร เป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับ Air Port Rail Link สถานีมักกะสัน และหากนั่งไปสถานีสุขุมวิทที่ห่างออกไป 1 สถานีก็สามารถไปเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกได้ครับ ซึ่งทางโครงการก็มี Shuttle Service รับส่งให้ที่ MRT เพชรบุรี นะครับ ส่วนทางน้ำก็เป็นอีกตัวเลือกที่โครงการสามารถใช้เดินทางได้ เพราะตัวโครงการติดกับคลองแสนแสบทางด้านหลัง สามารถไปใช้ท่าเรือใกล้ๆได้มีท่าเรือ วัดใหม่ช่องลม ประมาณ 350 เมตร ครับ เป็นอีกการทางเลือกในการเดินทางที่น่าสนใจ เพาะสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องกังวลปัญหารถติดบนท้องถนนเลย

ทำเลอโศก-เพชรบุรี เป็นแหล่งที่รายล้อมด้วยอาคารสำนักงานชื่อดังหลายแห่ง เช่น Italthai Tower, Thai Summit Tower, สหพัฒน์พิบูลย์, Bangkok Tower เป็นต้น ทำให้บริเวณอาคารสำนักงานจะมีร้านอาหารหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ร้านค้าข้างทาง Avenue ที่กระจายอยู่โดยรอบ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า เช่น Singha Complex, Terminal 21, EmQuartier, Emporium

ตัวโครงการห่างจากแยกอโศก-เพชรบุรีประมาณ 1.5 กิโลเมตร สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในบริเวณรอบๆโครงการนี้ ต้องบอกก่อนว่าอาจจะไม่ได้คึกคักมากนักเหมือนทางบริเวณใกล้แยกอโศก-เพชรบุรี ทำให้ในระยะเดินของโครงการอาจจะไม่ได้มีของกินมากนัก จะมีบ้างประปรายตามแนวอาคารสำนักงานต่างๆที่เรียงรายอยู่บนถนนเพชรบุรี แต่จะเน้นที่จุดเด่นในการเข้าถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่ง่ายและหลากหลาย พูดง่ายๆคืออิงความเจริญกับพื้นที่โดยรอบซะมากกว่า เช่นการใช้ซอยเพชรบุรี 38 (หรือสุขุมวิท 39) เชื่อมต่อไปยังพร้อมพงษ์ เชื่อมต่อไปทางฝั่งอโศกได้ หรือจะเป็นทางฝั่งทองหล่อ-เอกมัย ก็มีระยะห่างจากปากซอยทองหล่อประมาณ 2.7 กิโลเมตรรวมระยะกลับรถ ที่มี Avenue เจ๋งๆ รวมถึงร้านค้าร้านอาหารและแหล่งสังสรรค์มากมาย หรือจะไปทางฝั่งด้านบนที่ถนนพระราม 9 ที่มี Show DC ซอย RCA หรือถนนรัชดาภิเษกที่มีตั้งแต่ Central พระราม 9 บริเวณแยกพระราม 9 ไล่ขึ้นไปจนถึง Esplanade, Big C, The Street ครับ

วันนี้เราจะเริ่มการเดินทางไปโครงการจากแยกอโศก-เพชรบุรี นะครับ ผมขับรถมาจากถนนอโศก-ดินแดงเลี้ยวซ้ายที่แยกอโศก-เพชรบุรี จากนั้นตรงต่อไปเรื่อยๆประมาณ 1.5 กิโลเมตร พบกับจุดกลับรถ ระหว่างทางจะเห็นตัวโครงการแล้วอยู่ทางขวามือ ให้เรากลับรถที่จุดกลับรถ จากนั้นตรงมาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะพบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ

เริ่มต้นที่แยกอโศก-ดินแดง นะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรีกันเลย

ตรงไปเรื่อยๆเลยนะครับ ถนนช่วงนี้จะแคบนิดนึง เพราะมีการก่อสร้างทางยกระดับข้ามแยก

ตรงต่อมาเรื่อยๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ ให้ตรงต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร เพื่อกลับรถ

หลังจากตรงมาแล้วก็เลี้ยวขวากลับรถกันเลย

จากนั้นตรงต่อมาจากจุดกลับรถประมาณ 500 เมตร จะพบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้าง ตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ หน้าทางเข้าออกโครงการอยู่บนถนนเพชรบุรี ส่วนด้านหลังจะติดกับคลองแสนแสบ พื้นที่โดยรอบโครงการบริเวณริมถนนเพชรุบรีจะเป็นอาคารตึกแถวซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนด้านในก็จะมีทั้งพื้นที่ว่าง และเป็นอาคารสำนักงาน ซึ่งจะสูงไม่เกิน 5 ชั้น ซึ่งห้องพักอาศัยของเราก็เริ่มที่ชั้น 5 เช่นกัน หน้าโครงการจะมีจุดกลับรถ 2 จุดซ้ายขวาประกบ ทางฝั่งแยกอโศก-รัชดา จะมีจุดกลับรถระยะประมาณ 200 เมตร ส่วนฝั่งแยกเอกมัยเหนือจะกลับรถเข้าโครงการระยะประมาณ 500 เมตร มาดูพื้นที่รอบๆโครงการทีละฝั่งกันครับ

  • ทิศเหนือ – เป็นทิศที่เป็นทางเข้าออกโครงการ ห้องพักอาศัยในส่วนนี้จะเห็นสวนของโครงการที่ถูกจัดไว้ด้านหน้าด้วย ส่วนวิวจะได้เป็นวิวถนนเพชรบุรี แนวรถไฟฟ้า Airport Rail Link และยาวไปจนถึง RCA พระราม 9 จัดว่าเป็นวิวที่มีความเคลื่อนไหวเยอะที่สุด และด้วยระยะ Set Back ของตัวอาคาร ทำให้ช่วยลดเสียงและฝุ่นที่มักจะมากับถนนใหญ่ไปได้บ้างในบางส่วน
  • ทิศตะวันออก – เป็นฝั่งที่มีวิวค่อนข้างโล่ง จะหันหน้าไปทางแยกเอกมัยเหนือ เห็นทองหล่อ เอกมัยได้ชัดเจน มีแนวคลองแสนแสบให้ดูด้วยเช่นกัน อาคารสูงทางฝั่งนี้ในระยะประชิดจะยังไม่มีในช่วงนี้ ห่างออกไปประมาณ 650 เมตร จะมีโครงการใหม่ของ Sansiri ที่กำลังจะขึ้นในอนาคต
  • ทิศใต้ – จะติดกับคลองแสนแสบ ส่วนใหญ่วิวฝั่งนี้จะเห็นอาคาร Low Rise ภายในซอยสุขุมวิท 49 ถ้าชั้นสูงหน่อยก็จะเห็นไปถึงแนวถนนสุขุมวิท และรถไฟฟ้า BTS ทางฝั่งอโศก พร้อมพงษ์ครับ ไกลๆ จะมีอาคารสูงให้เห็นเป็น City View
  • ทิศตะวันตก – เป็นฝั่งที่หันไปทางแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งจะมีแนวอาคารสูงหลายโครงการบริเวณนั้น แต่ในระยะประชิดจะยังไม่มีอาคารสูงให้หันไปชนสักเท่าไหร่ ใกล้สุดก็คงจะเป็นอาคาร Italthai ที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร

มาเริ่มดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้าง เป็นพื้นที่ติดกับถนนเพชรบุรี เริ่มจากทางฝั่งหันหน้าไปยังแยกเอกมัยเหนือกันก่อนนะครับ ลองเดินไปดูกัน

พื้นที่ข้างโครงการที่ติดๆกันจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เป็นแปลงขนาดใหญ่พอๆกับพื้นที่ของเราเลย ดังนั้นวิวฝั่งนี้ในปัจจุบันจึงจะค่อนข้างโล่งนะ ในระยะประชิด

เลยถัดมาจะเป็นอาคาร 6 ชั้นติดถนนเพชรบุรี ด้านในเป็นอาคารประมาณ 4-5 ชั้นเช่นกัน

เป็นแนวตึกแถวของอาคารเมื่อสักครู่จะมีอยู่ประมาณ 5 ห้อง

ถัดมาจะเป็นศูนย์ Ferrari แห่งเดียวในประเทศไทยนะครับ ขนาดใหญ่ทีเดียว

ฝั่งตรงข้ามจะมีทางเข้า RCA ที่สามารถทะลุไปยังถนนพระราม 9 ได้

ย้อนกลับมาที่หน้าโครงการ ลองเดินไปดูอีกฝั่งกันบ้าง

ติดพื้นที่โครงการจะมีอาคาร 5 ชั้น เป็นตึกสำนักงานที่ขายเกี่ยวกับอุปกรณ์ตกแต่งที่ให้แสงสว่าง

ถัดไปจะมีอาคาร 4 ชั้นติดถนน เป็นสำนักงานเช่นกันครับผม

เลยแนวตึกแถวเมื่อสักครู่มาจะมีธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งอยู่ สะดวกต่อการทำธุรกรรมต่างๆ

ถัดมาจะเป็นเวิ้งอาคารสำนักงาน Carpets Inter เป็นบริษัทขายเกี่ยวกับพรมครับ ด้านในก็มีอาคารหลากหลายพร้อมที่จอดรถให้ด้วย มีรถเข้าออกเป็นประจำเช้าเย็น

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สำนักงานร้านค้าทั่วไปครับ จะเห็นว่าในระยะเดินจะหาของกินยากหน่อย เพราะมีแต่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ว่างเปล่า แต่ถ้าขับรถออกไปใกล้ๆนี้ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจหลายจุดเลย ทั้งทางฝั่ง พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย หรือจะขึ้นไปแถบ พระราม 9 รัชดาฯ ก็มีสถานที่ให้เดินเล่นรับประทานอาหารกันเยอะเลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์ ~ 300 m.
  • Shinsen Fish Market ~ 800 m.
  • Thai Summit ~ 1.2 km.
  • รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี ~ 1.5 km.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 1.9 km.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว.) ~ 1.9 km.
  • Sino-Thai ~ 2.5 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช(สุขุมวิท) ~ 2.6 km.
  • Shrewsbury International School City Campus ~ 2.8 km.
  • โรงเรียนสาธิต มศว. ประสานมิตร ~ 2.8 km.
  • Interchange Tower ~ 2.8 km.
  • จุดขึ้นลงทางด่วน ด่านเพชรบุรี ~ 2.9 km.
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 2.9 km
  • Rain Hill ~ 3 km.
  • Exchange Tower ~ 3 km.
  • ดิ เอ็มควอเทียร์ ~ 3.1 km.
  • UFM Fuji Super ~ 3.1 km.
  • ดิ เอ็มโพเรียม ~ 3.2 km.
  • J Avenue ทองหล่อ ~ 3.2 km.
  • The Common ทองหล่อ ~ 3.2 km.
  • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ~ 3.2 km.
  • โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 3.3 km.
  • โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 3.3 km.
  • อาคารเสริมมิตร ~ 3.4 km.
  • รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ~ 3.5 km.
  • Bangkok Prep School ~ 3.5 km.
  • โอเชียนทาวเวอร์ ~ 3.6 km.
  • Terminal 21 ~ 4.1 km.
  • โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 4.1 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ ติดถนนเพชรบุรี มีทางเข้าออกทางเดียวบนถนนเพชรบุรี ตัวอาคารมีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยม สูง 55 ชั้น ซึ่งจัดว่าสูงที่สุดในระแวกถนนเพชรบุรีช่วงระหว่างแยกอโศก-เพชรบุรีกับแยกเอกมัยเหนือนี้แบบไม่ต้องสงสัยเลย ดังนั้นจึงเห็นวิวรอบด้านในทุกทิศของอาคารได้เป็นอย่างดีจึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ..  “Cloud” ที่แปลว่า ก้อนเมฆ นั่นเอง

ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury โดย Tandem Architects (2001) ซึ่งออกแบบคอนโดชื่อดังในกรุงเทพมาหลายแห่ง เช่น The Bangkok ทองหล่อ, The Bangkok สาทร, Wish Nignature Mid Town Siam และอีกหลายๆโครงการ โดยตัวโครงการนี้จะดูเรียบง่ายแต่หรูหรา Timeless คือไม่ได้หวือหวาจนเกินไป แต่ดูสวยงามทุกยุคทุกสมัย

ตัวอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ทั้งตัวอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1 ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่จอดรถระบบ Automatic และจะเริ่มที่พื้นที่ส่วนกลางอีกที่ชั้น 4 ซึ่งจะมีห้องพักอาศัยบ้างบางส่วนทางฝั่งด้านหลังอาคาร จากนั้นห้องพักอาศัยจะเริ่มเต็มทั้งชั้นที่ชั้น 5 ไปจนถึงชั้น 28 และมีพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดที่ชั้น 29 และเป็นห้องพักอาศัยต่อขึ้นไปที่ชั้น 30-51 ส่วนชั้น 52-53 จะเป็นชั้นห้องพักอาศัยเช่นกัน แต่สำหรับห้อง Penthouse เท่านั้น จากนั้น 2 ชั้นด้านบนสุด 54 และ 55 จะเป็นส่วน Main Facilities ของโครงการ รวมถึงยังมีชั้น Roof Top เป็นสวนดาดฟ้าให้ใช้บริการได้ด้วย การกระจายพื้นที่ส่วนกลางลักษณะนี้จะช่วยให้ในแต่ละพื้นที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้งานน้อยลง ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงจะได้มุมมองที่หลากหลายด้วยเช่นกัน

สำหรับทางเข้าออกโครงการจะตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีมีรั้วรอบโครงการเป็นรั้วโปร่งที่มีแนวต้นไม้ช่วยบังสายตาในระดับนึง ได้ลมพัดเข้าออกได้ดี เพราะมีระยะ Set Back เข้าไปค่อนข้างลึก จึงไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวมากนัก ด้านหน้ามีประตูรั้วกั้นพร้อมป้อมรปภดูแล ส่วนด้านในจะมีรั้วกั้นไม้กระดกอีกชั้นหนึ่งครับ

ทางเข้าออกส่วนนี้จะมีระยะประมาณ 50 เมตร พื้นปูด้วยคอนกรีตพิมลาย ขนาบข้างด้วย Landscape  ทั้งสองฝั่ง ที่จัดไว้ทั้ง Hardscape และ Softscape ให้สามารถเดินเล่นใช้งานกันได้ ออกแบบโดย บริษัท 1819 Landscape ซึ่งออกแบบพื้นที่ Landscape ให้คอนโดดังๆหลายที่เช่น The Room อารีย์, Wish Signature Mid Town Siam 1 และ 2 และอีกมากมาย โดยสำหรับโครงการนี้จะจัดรูปแบบ Landscape ออกมาเป็นลักษณะ Free Form โดยมีแนวคิดในการออกแบบมาจากรูปทรงของก้อนเมฆ ที่ดูพริ้วไหวและมีความหลากหลายให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตา ดูเป็นธรรมชาติ

ภายในมีมุมนั่งเล่นใต้ร่มไม้หลายจุดที่จัดให้มาใช้งานกันได้ครับ

ด้านหน้าแนวอาคารจะมีพื้นที่สำหรับ Drop Off ด้านในใต้ชายคา ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกทั้งช่วงเวลาแดดแรงๆหรือฝนตก โดยจะเริ่มใช้น้ำเข้ามาช่วยตกแต่งในพื้นที่นี้ทั้งนอกอาคารและภายในอาคาร เพื่อให้เกิด Movement มีความเคลื่อนไหวดูมีชีวิตชีวา และเกิดเสียงที่เป็นธรรมชาติช่วยให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

Grand Lobby ภายในจะเน้นไปที่สีขาวทอง ตกแต่งลายหินอ่อน หรูหรา พื้นที่ภายในจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบ Symmetry (สมมาตร) ซึ่งจะช่วยให้ดูโอ่โถง สง่างาม จะยกฝ้าเพดานสูงลักษณะ Double Volume ด้านข้างจะมีแนวกระจกรับแสงและเห็นความเคลื่อนไหวของพื้นที่ภายนอก โดยจะโอบล้อมด้วยน้ำที่จัดไว้รอบตัว Grand Lobby นี้เลย

สำหรับใครที่ไม่ได้วนเข้าไปในส่วนของ Drop Off ก็สามารถวนอ้อมอาคารเลยเข้าไปจอดรถได้เลยนะ

ด้านหลังแนวอาคารจะติดกับคลองแสนแสบ มีรั้วทึบและแนวต้นไม้กั้นความเป็นส่วนตัวไว้ให้

พื้นที่ภายในส่วนด้านหลังนี้ก็มีการจัด Landscape ให้เช่นกัน เป็นลักษณะเดียวกันกับฝั่งด้านหน้า ส่วนด้านข้างแนวอาคารฝั่งนี้จะมีพื้นที่ให้จอดรถของ visitor และ พื้นที่จอดรถ Automatic Parking ของโครงการ

บริเวณนี้จะมีช่องสำหรับจอดรถ Automatic Parking ทั้งหมด 4 ช่อง สามารถเลือกใช้งานได้เลยแล้วแต่ชอบ ด้านข้างจะมี Lobby สำหรับเข้าออกตัวอาคารรวมถึงนั่งคอยรถด้วยเช่นกัน ภายในจะมี Monitor บอกสถานะรถ โดยจะรอประมาณ 2-3 นาที โดยจะจอดได้ทั้งหมดประมาณ 334 คัน คิดเป็น 50%

ขยับขึ้นมาที่ชั้น 4 จะมีพื้นที่ Landscape มาให้เช่นกัน หันหน้าออกหน้าโครงการเห็นถนนเพชรบุรี จัดเป็นรูปแบบ Free Form เช่นเดิม มีพื้นที่นั่งเล่นกระจายอยู่แต่ละส่วน

ขึ้นมาอีกทีที่ชั้น 29 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง กลางอาคารนั่นเอง ภายในจัดเป็นพื้นที่รับวิวหลายส่วน จะเน้นไปที่พื้นที่ลักษณะการทำงาน นั่งเล่น อ่านหนังสือ เช่น Working Bar, Sky Library และ ห้อง Meeting Room รับวิวหลักๆ 3 ฝั่ง ทิศเหนือ ตะวันออกและตะวันตก

นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางด้านบนอีกส่วนนะ เรียกว่าเป็น Main Facilities ของโครงการเลยล่ะ จัดเต็มมาให้ที่ชั้นดาดฟ้า ข้อดีคือได้รับวิวสูงในระดับ 55 ชั้น ของโครงการ เห็นวิวรอบๆได้ค่อนข้างชัดเจน (เพราะโครงการเราสูงสุดในระแวกนี้) อีกอย่างคือการยกพื้นที่ส่วนกลางขึ้นมาด้านบนอาคารลักษณะนี้จะมีค่าก่อสร้างที่ค่อนข้างสูง แต่เขาก็จัดมาให้เยอะและครบเหมือนกันนะสำหรับด้านบนนี้

ภายในมี Sky Lounge เป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งคุย หรือนำเครื่องดื่มขึ้นมาจิบรับวิวเมืองรอบด้าน

Sky Active Fitness เป็นอีกส่วนที่เปิดรับวิวเมืองรอบด้านเช่นกัน พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ส่วนนี้มีทั้ง Cardio และ Weight Training ให้ใช้งาน

นอกจากนั้นยังมีส่วนของ Sky Theater , Sauna และ Golf Simulator ด้วยเช่นกัน

ตัวอาคารจะมีการเจาะช่อง Void ทางฝั่งทิศตะวันตก ตรงกลางเป็นโถงลิฟต์ในแต่ละชั้น รับวิวโล่ง และมีช่องระบายอากาศระหว่างแต่ละชั้น ให้ภายในเกิดการ Ventilation รวมถึงได้รับแสงตลอดแนวทางเดิน โดยระยะช่องตรงกลางจะห่างกันประมาณ 10 เมตร

มาดูที่ผังกันบ้างครับตัวโครงการมีทางเข้าออกทางเดียวนะครับ ตัวอาคารร่นมาจากแนวถนนประมาณ 50 เมตร ซึ่งจะช่วยลดมลภาวะเรื่องเสียงและฝุ่นควันจากถนนใหญ่ได้ดีทีเดียว ระหว่างทางเข้ามาจะมีแนวสวนประกบซ้ายขวาให้ไปเดินเล่นใช้งานกันได้ และยังเป็นพื้นที่รับสายตาสำหรับการเข้าถึงอีกด้วย สร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่น สบาย เหมาะกับการเป็นที่พักอาศัยตั้งแต่เลี้ยวเข้าโครงการมาเลย

การเดินรถภายในโครงการ – ทางเข้าออกโครงการจะมีการเดินรถสวนกัน จากนั้นจะวนรอบตัวอาคาร มี Drop Off ตรงกลางให้วนรับส่งได้นะ สำหรับคนที่ต้องการเข้าไปจอดรถจะต้องวนอ้อมตัวอาคารไปจอดที่ Automatic Parking ทางฝั่งทิศตะวันตก จะมีทั้งหมด 4 ช่องจอดให้เลือกได้ตามใจ ใช้เวลารอรถประมาณ 2-3 นาที ขาออกก็สามารถวนออกนอกโครงการได้เลย จะมีพื้นที่รับรองที่เป็นทางเข้าออกอยู่ด้านข้าง (ในภาพตำแหน่งหมายเลข 5) บริเวณส่วนนี้จัดไว้สำหรับรอรถด้วยเช่นกัน

พื้นที่ส่วนกลาง – ภายในชั้น 1 เองก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้หลายจุดเหมือนกัน เริ่มที่ภายนอกจะมีสวนสองฝั่งขนาบข้างถนนเข้าออกโครงการ ภายในจะมีส่วนของ Lobby ขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยน้ำก่อนจะเชื่อมต่อไปยังโถงลิฟต์ ด้านข้างจะมีส่วนที่แยกไปยังห้องพักคอยรถสำหรับเป็นพื้นที่รอรถ หรือจอดรถเสร็จแล้วเข้ามาภายในอาคาร ส่วนด้านหลังจะมีห้องสำหรับซักรีดและจุดบริการแลกเหรียญ

สำหรับโครงการนี้จะเริ่มต้นชั้นพักอาศัยที่ชั้น 5 ซึ่งชั้น 1 จะเป็นพื้นที่รับรองการเข้าออก ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ Automatic Parking งั้นเราข้ามขึ้นมาดูกันที่ชั้น 4 เลย ชึ้นนี้จะเริ่มมีห้องพักอาศัยบ้างแล้วจำนวน 7 ยูนิต รับวิวฝั่งด้านหลังโครงการทั้งหมด จะแบ่งเป็น 2 Bedroom 1 ยูนิต ที่มุมฝั่งตะวันตกได้วิวยังไม่โล่งนักเพราะมีแนวอาคารข้างเคียง และ 1 Bedroom Plus 2 ยูนิต ที่มุมฝั่งตะวันออกจะเป็น Type ห้องมุมก็ยังได้วิวไม่โล่งนักเช่นกัน ส่วนอีกห้องจะอยู่ข้างห้อง 2 Bedroom นอกนั้นจะเป็นห้อง 1 Bedroom กระจายอยู่อีก 4 ยูนิต วิวที่ได้ส่วนใหญ่ฝั่งด้านทิศใต้จะเป็นวิวคลองแสนแสบและอาคาร Low Rise จากชั้นนึงจึงจะยังไม่โล่งนัก ห้องพักอาศัยในชั้นนี้อาจจะได้วิวไม่ได้เต็มที่นัก แต่มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ใช้งานได้ง่ายนะ เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้

โถงลิฟต์และโถงทางเดิน – เป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เพราะโถงลิฟต์ที่ตั้งอยู่กลางอาคารได้แนวกระจกตรงหน้า ได้ช่องแสงเต็มๆ รวมถึงวิวด้วยเช่นกัน แบ่งห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 2 ฝั่งของชั้นนี้ทำให้ได้พื้นที่โถงทางเดินเป็น Single Corridor Loaded ทั้งหมด

พื้นที่ส่วนกลาง – ของชั้นนี้จะมีทั้ง Indoor และ Outdoor โดยภายในอาคารจะแยกออกเป็นสองฝั่งคือพื้นที่สำหรับเด็ก และพื้นที่ ​Co-Kitchen ให้มาใช้พื้นที่ประกอบอาหาร จัดปาร์ตี้กันได้ ส่วนภายนอกจะมีสวนที่จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับวิวหันรับวิวฝั่งถนนเพชรบุรี

ขึ้นมาจะเป็นชั้นส่วนใหญ่ของโครงการ ตั้งแต่ชั้น 5-28 และ 31-51 นั่นเอง จะมีทั้งหมด 14 ยูนิต/ชั้น รับวิว 3 ทิศหลัก

  • โถงลิฟต์และโถงทางเดิน – อย่างที่บอกไปว่าโถงลิฟต์อยู่กลางอาคาร มีลิฟต์ 4 ตัว ได้รับช่องแสงทางด้านหน้าลิฟต์ (ทิศตะวันตก) ซึ่งเป็นช่องแสงขนาดใหญ่พอที่จะทำให้โถงทางเดินได้แสงธรรมชาติทั้งหมด แต่ละชั้นจะมีช่องอากาศบริเวณด้านล่างของช่องเปิดเหล่านี้ที่จะช่วยให้พื้นที่ภายในระบายอากาศได้ นอกจากนั้นโถงลิฟต์เป็นตัวแบ่งพื้นที่ภายในอาคารทั้งหมดที่ทำให้ห้องพักอาศัยได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor Loaded ทุกห้อง ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนั้นช่อง Void ตรงกลาง จะช่วยทำให้ห้องมุมเป็นห้องที่รับวิวได้ 3 ฝั่ง ระบายอากาศและได้รับช่องแสงจากหลายช่องมากยิ่งขึ้น

ขึ้นมาต่อที่ชั้น 29 จะเป็นชั้นที่เรียกได้ว่าอยู่กลางอาคาร ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกชั้น ซึ่งผังของชั้นนี้จะคล้ายกับชั้น 4 คือจะมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย 6 ยูนิต และพื้นที่ส่วนกลางด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย Working Bar พื้นที่นั่งทำงาน และ Sky Library ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้จะเน้นไปที่พื้นที่ทำงานอ่านหนังสือจะมีบรรยากาศค่อนข้างสงบ ชั้นนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นห้องทำงานรับวิว จะทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าชั้นอื่นๆ และมีจำนวนยูนิตภายในชั้นน้อยกว่าชั้นอื่นๆเช่นกัน

ขึ้นมาที่ชั้น 30 ชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตน้อยเหมือนกัน แต่จะไม่มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการห้องพักอาศัยที่มียูนิตร่วมชั้นน้อย ได้ความสงบ

ต่อมาที่ชั้นพักอาศัย 2 ชั้นบนสุดของอาคาร จะกลายเป็นชั้นสำหรับห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ที่เป็นห้อง Penhouse ขนาด 80.5 -102.5 ตร.ม. จำนวนชั้นละ 6 ยูนิต เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว ได้วิวจากมุมสูงและได้ช่องสองแสงเยอะ

ขึ้นมาที่ชั้น 54 ซึ่งสองชั้นบนจะเป็นชั้น Main Facilities มีพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้นรับวิวรอบด้าน และไม่มีห้องพักอาศัยแล้ว ภายในจะประกอบไปด้วยฝั่งด้านหน้า Fitness, Yoga Room, Golf Simulator อีกฝั่งจะเป็น Sky Lounge, Sky Theater และตรงกลางจะเป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่ Sauna แยกชายหญิงภายใน

ขึ้นมาที่ชั้น 55 จะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำตัว U ล้อมรอบโถงลิฟต์ มีขนาด 24 x 8 เมตร ลึก 1.2 เมตร สำหรับพื้นที่ว่ายน้ำออกกกำลังกาย ภายในยังมีสระเด็กและ Jacuzzi รวมถึงพื้นที่รอบสระให้ใช้งาน จุดเด่นคือจะรับวิวได้รอบด้านจากมุมสูง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1: Grand Lobby , พื้นที่อ่านหนังสือ, พื้นที่สวน, Outdoor Active Area
  • ชั้น 4: ห้องครัวส่วนกลาง, ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก, สวนหย่อม
  • ชั้น 29: พื้นที่ทำงาน Co-Working Space, Sky Working Bar, ห้องสมุด และห้องประชุม
  • ชั้น 54: ฟิตเนส, ห้องโยคะ, สกาย เลาจน์, ห้องชมภาพยนตร์, Golf Simulator, ห้องซาวน่า,
  • ล็อคเกอร์
  • ชั้น 55: สระว่ายน้ำ, จากุซซี่, สระเด็ก, พื้นที่พักผ่อนรอบสระว่ายน้ำ
  • ชั้น 56: สวนหย่อมชั้นดาดฟ้า
  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟต์ดับเพลิง 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 1 : 165.25 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 334 คัน คิดเป็น 50.5%


Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยของที่นี่มีทั้งหมดหลายรูปแบบ ซึ่งแบบที่เราจะยกกันมาให้ดูคือห้อง 1 Bedroom 1 ขนาด 31.5 – 32.5 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 37.5 – 38 ตร.ม. ทั้งโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ได้เฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ Built-in มากับตัวห้องบางส่วนเท่านั้น นั่นก็คือครัวกับตู้เสื้อผ้าครับ จะมีการ Drop รางม่านไว้ให้ (ซ่อนไว้หลังฝ้า) ส่วนเครื่องปรับอากาศจะได้เป็น Daikin Inverter 12,000 BTU. ครับ จำนวนแล้วแต่ขนาดห้อง

  • Studio 24 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 31.5 – 32.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 37.5 – 38 ตร.ม. 
  • 2 Bedrooms 54.5 ตร.ม. 
  • Penthouse 80.5 – 102.5 ตร.ม.

มาดูที่ห้องแรกกันครับ จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.5-32.5 ตร.ม. จะอยู่ช่วงกลางอาคาร ของทั้ง 3 ทิศหลัก เหนือ ตะวันออก และใต้ สำหรับชั้นที่มีห้องพักอาศัยเต็ม Floor จะมีจำนวน 6 ห้อง/ชั้น เป็นห้องที่มีจุดเด่นในเรื่องของการเชื่อมต่อกันในหลายๆพื้นที่ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เช่นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทาง เพื่อความสะดวกและรักษาความเป็นส่วนตัวของห้องนอน ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกันด้วยประตูบานสไลด์ ทำให้สามารถเลือกใช้พื้นที่ได้ค่อนข้างหลากหลาย และระเบียงที่เข้าออกได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ได้ความสะดวกในการใช้งาน

ขอแบ่งพื้นที่ภายในออกเป็น 5 ส่วน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ระเบียง และห้องนอน เมื่อเข้ามาจะพบกับพื้นที่ครัวและห้องน้ำก่อน ครัวที่เราจะได้จะเป็นครัวเปิด ทำให้ห้องดูโล่ง และมีแสงส่องเข้ามาถึงบริเวณหน้าประตู แต่จะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเป็นประจำ เพราะกลิ่นและควันจะไปรบกวนกับพื้นที่อื่นๆได้ง่าย ส่วนห้องน้ำด้านข้างจะมีทางเข้าออกสองทาง และได้เป็น Sexy Bathroom ภายในจะมีผนังกระจกที่เชื่อมต่อกับภายนอกได้ ทำให้ห้องดูโล่ง และภายในห้องน้ำเองก็จะได้แสงธรรมชาติไปด้วย ส่วนห้องนั่งเล่นจะมีขนาดใหญ่ที่สุดติดผนังได้ช่องแสง และมีประตูเชื่อมไปยังระเบียงได้ นอกจากนั้นส่วนที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนยังเป็นประตูบานเลื่อนใหญ่ที่สามารถเปิดโล่งได้ในกรณีต้องการพื้นที่ภายในเยอะๆ ห้องนอนติดระเบียงได้รับช่องแสงเต็มๆ ส่วนด้านในมี walk-in closet ให้ที่หน้าทางเข้าห้องน้ำครับ

เริ่มที่ประตูห้องกันก่อนเลย เป็นประตูไม้สำเร็จรูปสีน้ำตาลมาพร้อม Digital Door Lock ของ Samsung ใช้ได้ทั้ง กุญแจ รหัส และ Keycard

เปิดประตูเข้ามาภายในจะมีความสูงที่พื้นถึงฝ้าที่ 2.7 เมตร พื้นห้องเป็นกระเบื้องลามิเนต หนา 8 มม. ส่วนครัวและพื้นหน้าห้องจะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ได้ไฟ Downlight ทั้งห้อง ส่วนเครื่องปรับอากาศจะเป็นระบบ Wall Type ที่จะได้เป็น Daikin Invertor 12,000 BTU.

ส่วนแรกของห้องที่เปิดประตูมาพบจะเป็นส่วนของครัว ที่เป็นเคาน์เตอร์แนวยาวติดผนัง เป็นครัวเปิด จะทำให้ห้องดูโล่ง และได้แสงเข้ามาถึงหน้าประตู เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ประกอบอาหารจริงจังมากนัก แต่จะควบคุมกลิ่นและควันไม่ให้ไปรบกวนพื้นที่ส่วนอื่นในห้องได้ยากสักหน่อย

บริเวณนี้มีข้อดีที่เขาเลือกใช้พื้นเป็นกระเบื้อง Porcelain ที่มีผิวที่เรียบและมันทำให้ง่ายแก่การทำความสะอาด เพราะพื้นที่หน้าห้องอาจจะมีสิ่งสกปรกติดเข้ามาได้ง่าย และพื้นที่ครัวก็อาจจะสกปรกจากการประกอบอาหารได้ จึงเหมาะกับพื้นที่ทำความสะอาดง่ายแบบนี้

ส่วนฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นห้องน้ำของห้อง เป็นตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายจากห้องนั่งเล่นและครัว และก็ไม่ใช่แค่นั้นเพราะภายในยังสามารถเข้าได้จากห้องนอนด้วย ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกและได้ความเป็นส่วนตัวภายในห้องนอน แต่การมีห้องน้ำในตำแหน่งนี้จะระบายความชื้นได้ยากหน่อย ต้องเปิดประตูและใช้พัดลมดูดอากาศช่วย บริเวณนี้จะมีระยะจากเคาน์เตอร์ครัวถึงผนังประมาณ 1.2 เมตร เดินถือของเข้าออกสะดวก

มาดูส่วนครัวกันก่อนนะครับ เป็นครัวเปิดแบบที่บอกไป ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้เลือกกัน ส่วนวัสดุและอุปกรณ์ครัวที่ได้มาก็ถือว่าดีเลยนะ

เคาน์เตอร์ด้านบนเป็นหน้าบานเปิดเก็บของได้หลากหลาย ปิดผิวด้วยกระจกเงาสีทองสวยงาม

ส่วนชั้นกลางจะมีขนาดประมาณ 1.7 เมตร Top เป็นหิน Quatz ผนังกันเปื้อนด้านหลังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายเดียวกับพื้น มีเตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน และพื้นที่ปรุงอาหารตรงกลางขนาดค่อนข้างกว้างเลย

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ทั้งหมด

อ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยวขนาดประมาณ 0.4 x 0.4 เมตร จาก TEKA เช่นกัน

ด้านล่างจะมีช่องขนาดใหญ่ใต้อ่างล้างจาน และลิ้นชักสำหรับเก็บของแบ่งตามประเภท ส่วนตรงกลางจะเป็นช่องเก็บเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าครับ

ก่อนจะเข้าไปภายในห้องน้ำ ผนังด้านหน้ามีช่องสำหรับทำตู้รองเท้าไว้ให้ด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่สำคัญของห้องนะครับ ส่วนนี้จะไม่ได้ให้มานะ จะเว้นช่องไว้ให้ตกแต่งกันเอง ซึ่งจะดูจากห้องตัวอย่างไปเป็นไอเดียก็ได้ครับ

บริเวณนี้จะมีไฟ Downlight ให้มา 2 ดวงครับ

เข้ามาดูภายในห้องน้ำ อย่างที่บอกไปว่าห้องน้ำห้องนี้สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง จากทางหน้าประตูห้องและจากห้องนอน ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวก และเวลามีแขกมาก็จะยังรักษาความเป็นส่วนตัวของห้องนอนไว้ได้อย่างดีทีเดียว ที่สำคัญคือเป็นประตูบานสไลด์ทั้งสองฝั่ง ข้อดีคือช่วยลดพื้นที่วงสวิงของบานเปิด ทำให้ไม่เกิดการกระแทก และทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น ซึ่งบานประตูจะมีรางอยู่ฝั่งด้านในห้องน้ำนะ อาจจะต้องระวังเปียกกันด้วย เพราะจะทำให้บวมได้

ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินทั้งพื้นและผนัง เน้นโทนสีขาวดูสะอาด สบายตา

ขนาดพื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างเลย ถึงจะไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาแต่ก็แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนแยกกันไว้คนละฝั่ง ซึ่งไฮไลท์ของโครงการนี้คือในห้องน้ำจะให้อ่างอาบน้ำมาในทุกห้องเลย ยกเว้นรูปแบบ Studio เท่านั้น

ฝั่งด้านในของห้องจะเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเก็บของด้านล่างได้ ที่มาพร้อมกับกระจกเงาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

อ่างล้างหน้าทรงกลมจะวางบนเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีดำ มีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์ต่างๆด้านข้างเยอะเลย

ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบ 2 ชิ้นจาก Kohler พร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระสเตนเลส ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำอีกฝั่งจะเป็นแบบ Sexy Bath มีอ่างอาบน้ำที่มาพร้อมแนวกระจกสูง 1.7 เมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วง กว้าง 0.9 และ 0.4 เมตร ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน และมองเห็นห้องนั่งเล่นด้วยเช่นกัน  สามารถนอนแช่น้ำดูทีวีได้เลยนะ มี Hand Shower ติดผนังมาให้ใช้งานได้ด้วยอีกส่วนนึง

อ่างอาบน้ำแบบฝังลงไปบนฐาน ขนาด 1.55 x 0.8 เมตร จาก Kohler

มี Hand Shower จาก Kohler ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน เป็นลักษณะแท่ง น้ำหนักเบา จับถนัดมือ เครื่องทำน้ำอุ่นต้องติดตั้งเอาเองนะครับ ซ่อนไว้ได้ใต้อ่างล้างหน้า

ห้องน้ำจะได้ไฟ Downlight 2 ดวง พร้อมพัดลมระบายอากาศ

เดินเข้ามาภายในห้อง จะเห็นส่วนของห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้าง ด้วยระดับพื้นถึงฝ้าที่ 2.7 เมตร และแนวประตูบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับห้องนอนที่สามารถเปิดได้กว้าง

มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันก่อน ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่สำหรับทำโต๊ะรับประทานอาหารหันเข้าผนังครับ ด้านในสุดเป็นพื้นที่นั่งดูทีวีเข้าพื้นที่ติดกับผนังรับแสงธรรมชาติ

พื้นที่ดูทีวี มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.5 เมตร จัดวางทีวีขนาดใหญ่ได้เลย ประมาณ 55-60 นิ้ว ที่ริมผนังจะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ช่วยทำให้พื้นที่ภายในห้องมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงหน้าประตูห้องเลยทีเดียว เป็นกรอบบานอลูมิเนียมกระจกสีตัดแสงหนา 14 มม. โดยจะมีบาน Fixed ขนาดใหญ่ 2.3 x 1.25 เมตร และบาน Fixed เล็กด้านล่างขนาด 0.70 x 0.65 เมตร ด้านบนมีบานกระทุ้งขนาด 1.55 x 0.65 เมตร ช่วยเปิดรับลมระบายอากาศได้

ถึงจะไม่มีม่านให้มา แต่จะ Drop รางม่านไว้ให้ใต้ฝ้าแบบนี้นะ แค่หาม่านมาติดก็เรียบร้อยเลยครับ

บริเวณนี้จะได้ไฟ Downlight 4 ดวง

ผนังฝั่งที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ดูเผินๆอาจจะไม่มีอะไรมาก แต่ที่ริมผนังอาคารมีประตูอีกบานหนึ่งครับ เป็นประตูเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ระเบียงนั่นเอง ทำให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้จากทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลย

เป็นประตูบานเปิดออกด้านนอกไปยังระเบียงขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 2.4 x 1 เมตร ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ ที่สำคัญคือเก็บ Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้พื้นที่ระเบียงมีมากขึ้น

มาดูฝั่งห้องนอนกันบ้างครับ บริเวณนี้เป็นประตูบานสไลด์สูงถึงฝ้าเลย โดยมีระยะเปิดอยู่ที่ประมาณ 1.4 เมตร

โดยจะเป็นแบบรางแขวนด้านบน ทำให้ไม่ต้องกังวลเดินสะดุดเลย

ห้องนอนภายในจัดมาหลายส่วนเหมือนกัน พื้นที่ไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็พอดีกับการใช้งานสำหรับ 1-2 คน

สามารถวางเตียง 5 ฟุต แล้วมีพื้นที่รอบเตียงที่สามารถเดินได้รอบ แต่ช่วงปลายเตียงหากปิดประตูจะค่อนข้างแคบสักหน่อยครับ

ห้องนอนห้องนี้จะเชื่อมต่อไปยังระเบียงได้ อย่างที่เราเห็นกันในส่วนของห้องนั่งเล่น ข้อดีคือมีขนาดพื้นที่ให้ใช้งานกว้าง เพราะเก็บ Condensing Unit ไว้ด้านบน แต่ข้อเสียคือทำให้พื้นที่ด้านบนไม่สามารถเจาะช่องแสงได้ จึงเหลือช่องแสงที่เป็นประตูเข้าออกสูง 2 เมตร

พื้นที่ปลายเตียงเมื่อเปิดประตูจะสามารถเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้อย่างดีทีเดียว เพราะเปิดได้กว้าง สามารถนอนดูบนเตียงแล้วทีวีได้แต่เป็นเพียงฝั่งเดียวเท่านั้น

หากปิดประตูแล้วจะเหลือระยะปลายเตียงประมาณ 30 เซนติเมตร

ภายในห้องนอนจะได้ฝ้าฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวงครับ

พื้นที่ด้านในห้องนอนจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่เป็น Sexy Bathroom และพื้นที่ Walk-in Closet ด้านข้าง

พื้นที่ระหว่างเตียงถึงผนังห้องน้ำมีระยะอยู่ประมาณ 0.6 เมตร เดินได้สบายๆ

พื้นที่ส่วนนี้จะให้ตู้เสื้อผ้าด้านในมาให้นะ เป็นตัว L เข้ามุม จะมีระยะจากหน้าบานตู้ถึงผนังห้องน้ำอยู่ที่ประมาณ 0.85 เมตร ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งจะเว้นที่ว่างมาไว้ให้สำหรับตกแต่งเองนะครับ

ตู้ด้านในสุดจะเป็นหน้าบานเปิด ภายในมีช่องเก็บของค่อนข้างหลากหลาย

ส่วนตู้ด้านหน้าจะเป็นบานสไลด์สามารถเปิดได้ทีละฝั่ง

บริเวณนี้จะมีไฟ Downlight ให้หนึ่งดวงนะ

มาดูอีกห้องกันบ้าง เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ซึ่งจะมีตำแหน่งเป็นห้องมุม สำหรับชั้นที่มีห้องพักอาศัยเต็มทั้งชั้นจะมีห้องประเภทนี้อยู่เพียง 2 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น จุดเด่นของห้องนี้คือเป็นห้องหน้ากว้างที่ได้รับวิวถึง 2 ฝั่ง ภายในแบ่งสัดส่วนพื้นที่ได้ค่อนข้างดี ด้วยการจัด ห้องนอนไว้ด้านในสุดได้ความเป็นส่วนตัว แต่ยังสะดวกที่จะใช้ห้องน้ำได้ง่าย เพราะสามารถเข้าออกได้ถึงสองทาง อีกทั้งห้องน้ำยังติดกับผนังอาคารระบายอากาศได้ง่าย พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะรวมครัวและพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยเลย ส่วนห้องอเนกประสงค์จะมีระเบียงให้ใช้งาน ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่นด้วยเช่นกัน

แบ่งพื้นที่ภายในออกเป็น 7 ส่วน Foyer ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ ระเบียงซักล้าง ห้องน้ำ และห้องนอนหลัก เมื่อเข้ามาด้านหน้าห้องจะมี Foyer ไว้สำหรับเก็บ-ใส่รองเท้า รวมถึงเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้าด้วยเช่นกัน เข้ามาภายในจะเจอพื้นที่โล่งที่มีเคาน์เตอร์ครัวยาวติดผนัง และพื้นที่รับประทานอาหาร จากนั้นจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งการที่เป็นครัวเปิดจึงสามารถจัดพื้นที่โล่งแบบนี้ได้ แต่ก็เช่นเดิมกับการต้องระวังกลิ่นและควันในการประกอบอาหารที่จะไปรบกวนพื้นที่อื่นๆ ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนแบ่งห้องออกเป็นซ้ายและขวา ฝั่งแรก(ฝั่งทางเข้า) จะเป็นห้องอเนกประสงค์และระเบียงที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทางเช่นเดิม ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำที่มีทางเข้าออกสองทาง ภายในมีกระจกรับแสงและระบายอากาศออกสู่ภายนอกได้ และห้องนอนที่จะได้วิวสองฝั่งและเชื่อมต่อเข้าห้องน้ำได้ง่าย

ประตูเข้าห้องจะเป็น HDF พร้อม Digital Door Lock เช่นเดิม พื้นที่ส่วนแรกของห้องนี้จะมี Foyer จัดมาให้ ซึ่งจะเป็นพื้นแกรเบื้อง Porcelain อย่างที่บอกไปกับห้องที่แล้วว่า พื้นที่ส่วนเข้าออกห้องนี่เหมาะกับการใช้พื้นที่มีผิวเรียบมัน และรอยต่อน้อยเพื่อง่ายแก่การทำความสะอาด เพราะการเข้าออกห้องรวมถึงเป็นพื้นที่ถอดรองเท้าอาจจะทำให้มีสิ่งสกปรกสะสมได้

พื้นที่ผนังด้านข้างที่เราเห็นเป็นชั้นรองเท้าและที่วางเครื่องซักผ้า จะไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แต่จะเว้นช่องไว้ให้สำหรับตกแต่งเอง ขนาดพื้นที่ประมาณ 1.5 x 0.65 เมตร เป็นระยะลึกที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ เก็บของขนาดใหญ่ หรือวางรองเท้าได้สองแถวเลย

ส่วนด้านหน้านี้จะได้ไฟ downlight 1 ดวงครับ

หันมาดูภายในห้องกันบ้าง จะเห็นว่าจะมีพื้นที่ Common Area อยู่ตรงกลาง และแยกพื้นที่พักอาศัยออกเป็น 2 ฝั่ง ส่วนติดผนังด้านข้างคือเคาน์เตอร์ครัวแนวยาว ถัดออกมาเป็น พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นติดหน้าต่าง ซึ่งจะช่วยทำให้ห้องนี้ได้แสงธรรมชาติิเข้าสู่ภายในสำหรับทุกพื้นที่การใช้งานในส่วนนี้เลย

เรามาดูครัวกันก่อนเลยครับ โดยรวมส่วนใหญ่จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ทั้งหมดเลย ทั้งหน้าบานกระจก และหน้าบานตู้ด้านล่าง รวมถึงจำนวนตู้ด้านบน แต่จะต่างที่ขนาดเคาน์เตอร์ตรงกลาง ของห้องนี้จะได้ประมาณ 2 เมตร (ห้องที่แล้ว 1.7 เมตร) และพื้นที่เก็บของด้านล่างจะได้เยอะขึ้น เพราะไม่ต้องเก็บเครื่องซักผ้าแล้ว จะไปอยู่ในส่วนของ Foyer หน้าประตูห้องเมื่อสักครู่แทน

ช่วงกลางที่ยาวขึ้นเป็น 2 เมตร ยังคงจะได้อุปกรณ์ครัวเท่าเดิม จะได้พื้นที่ในส่วนเตรียมอาหารมากขึ้น ซึ่งจะเป็นวัสดุเดิมทั้งหมด ทั้ง Top ครัวหิน Quatz เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก อ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยว จาก TEKA ทั้งหมด รวมถึง Back Splash กระเบื้องแกรนิตโต้ลายเดียวกับพื้นส่วนหน้าห้องครับ

พื้นที่ตรงกลางจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถวางได้ถึง 4 ที่นั่งเลยนะเอาจริงๆแล้ว แต่ถ้าอยากสบายๆ เหลือพื้นที่ไว้เดินที่ไม่ดูให้ห้องอึดอัดและแคบจนเกินไป ก็อาจจะจัดแบบห้องตัวอย่างก็ได้ ในกรณีที่มีแขกค่อยนำเก้าอี้มาเสริม

ถัดมาจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ส่วนนี้ก็จะติดกับผนังอาคารซึ่งจะเจาะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ไว้ให้ด้วย ขนาดพื้นที่ก็จัดว่ากำลังดี เลือกวางโต๊ะกลางได้หลายขนาด มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.4 เมตร เหมาะกับการใช้ทีวีขนาดกลาง-ใหญ่ ประมาณ 55-60 นิ้ว

พื้นที่ฝั่งดูทีวีจะติดทีวีแขวนผนังไม่ได้ เพราะด้านหลังเป็นกระจกที่เชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ ทำให้ต้องวางทีวีกับชั้นวาง แนวกระจกที่ให้มามีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยจะมีบาน Fixed ขนาด 2.3 x 1.7 เมตร บานกระทุ้งขนาด 1.55 x 0.65 เมตร และ บาน Fixed ด้านล่าง ขนาด 0.7 x 0.65 เมตร ได้แสงเข้าเต็มๆ

บริเวณห้องตรงกลางนี้จะให้ฝ้าฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight ให้มาทั้งหมด 6 ดวง

ริมผนังยังมีประตูที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงได้ เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลย เน้นการเข้าถึงที่หลากหลาย ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ได้ง่าย

ระเบียงส่วนนี้จะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1.9 x 1 เมตร ซึ่งจะเก็บ Condensing Unit ไว้ด้านบนเช่นเดิม มีไฟกิ่งติดผนังมาให้หนึ่งดวงครับ

มาต่อกันด้วยห้องข้างๆระเบียงกันเลย เป็นห้องที่ทำให้ห้องนี้กลายเป็นห้อง 1 Bedroom Plus นั่นเอง โดยประตูของห้องอเนกประสงค์ของเรานั้นจะเป็นบานสไลด์กระจก ที่มีระยะเปิดอยู่ที่ 0.75 เมตร

เป็นแบบรางแขวนด้านบนด้วย ไม่ต้องกลัวจะสะดุด นอกจากนั้นทางโครงการจะดร็อปรางม่านไว้ให้แบบนี้เลยนะ หาม่านมาติดตั้งก็สามารถแบ่งความเป็นส่วนตัวกันได้แล้วล่ะ

ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน ภายในห้องมีขนาดประมาณ 2.1 x 1.9 เมตร ซึ่งถ้าจะวางเตียงก็คงจะแน่นเลยล่ะ ต้องวางเป็นเตียง 3.5 ฟุต ชิดผนังเอา หรือเราสามารถจัดเป็นห้องอื่นๆแล้วแต่ลักษณะการใช้งานได้เลยนะ จะเป็นห้องทำงานหรือห้องเก็บของก็ว่ากันไป

ด้านในมีประตูบานเลื่อนที่สามารถเชื่อมกับระเบียงได้ด้วย ทำให้ภายในห้องนี้ได้แสงธรรมชาติเต็มๆ

ด้านบนยังคงให้ร่างมาซ่อนในฝ้ามาให้ ประตูกรอบบานอลูมิเนียมกระจกตัดแสงหนา 14 มม. พร้อมรางที่พื้นครับ

ภายในห้องนี้จะให้ฝ้าฉาบเรียบทาสี มีไฟ Downlight มา 1 ดวงนะครับ

ไปดูฝั่งตรงข้ามกันบ้าง ซึ่งจะมีห้องนอนทางฝั่งซ้ายมือ และห้องน้ำทางขวามือ เราเข้าไปดูห้องน้ำกันก่อนนะครับ

ห้องน้ำของห้องนี้มีจุดเด่นหลายข้อเลย มีตำแหน่งติดภายนอกอาคารทำให้สามารถระบายอากาศและความชื้นได้ แถมยังได้แสงธรรมชาติในเวลากลางวันด้วย และก็เช่นเคยครับได้อ่างอาบน้ำมาด้วย พื้นที่ภายในตกแต่งลักษณะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินทั้งพื้นและผนัง พื้นที่ภายในกว้างใช้งานสบาย

จุดเด่นอีกข้อคือสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน สะดวกต่อการใช้งานและช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยมที่ห้อง ขนาดพื้นที่ภายในก็ใช้งานสบายเลย นั่งโถสุขภัณฑ์แล้วเหลือพื้นที่รอบๆเยอะ ไม่อึดอัดครับ

ส่วนแรกจะได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามาพร้อมกระจกเงาขนาด 1.2 x 1.1 เมตร ซ่อนไฟด้านหลังไว้ให้ด้วย แถมด้านล่างยังมีช่องสำหรับเก็บของได้อีก

ส่วนตัวอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler จะวางอยู่บน top หินสังเคราะห์ขนาด 1.1 x 0.6 เมตร วางของได้เยอะดี

โถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นของ Kohler เช่นเคย มาพร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระสเตนเลส ติดตั้งพร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำจะเป็นอ่างอาบน้ำเช่นเคย ตั้งติดผนังใกล้กับหน้าต่างขนาดบาน Fixed ใหญ่ 1.8 x 0.9 เมตร มีบานกระทุ้งขนาด 1.25 x 0.5 เมตร มาให้ระบายอากาศรับลมกันได้ด้วย ที่สำคัญด้านบนเว้นที่ไว้สำหรับติดมู่ลี่เพื่อบังสายตาได้ด้วย

อ่างอาบน้ำ Kohler แบบฝังบนฐาน ขนาด 1.5 x 0.95 เมตร พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำด้านข้าง

มี Hand Shower จาก Kohler มาให้เช่นเดิมครับ เครื่องทำน้ำอุ่นต้องติดตั้งเอาเองนะครับ ซ่อนไว้ได้ใต้อ่างล้างหน้า

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight 2 ดวงพร้อมพัดลมดูดอากาศ

มาต่อกันที่ห้องนอนของเราครับ เป็นห้องที่มีตำแหน่งมุมอาคารจึงได้รับวิว 2 ฝั่ง ภายใน การจัดพื้นที่ภายในก็ถือว่าลงตัวนะครับ

พื้นที่ภายในไม่ได้กว้างนัก แต่วางเตียง 5 ฟุตแล้วสามารถเดินได้รอบ พร้อมทั้งวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง

ที่ปลายเตียงจะมีผนังให้สามารถติดทีวีนอนดูได้ รวมถึงมีประตูห้องน้ำให้เข้าใช้งานได้เลย ไม่ต้องวนออกไปด้านนอก

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งถ้าติดทีวีแล้วใครที่ตัวใหญ่อาจจะเดินได้ยากสักหน่อย

ด้านข้างจะมีแนวกระจกให้เช่นเคย ขนาด บาน Fixed ใหย่ประมาณ 2.55 x 1.3 เมตร ส่วนบานกระทุ้งขนาดประมาณ .065 x 1.55 เมตร สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ดีทีเดียว

ด้านในฝั่งทางเข้าห้องจะมีตู้เสื้อผ้าแบบ 3 บานสไลด์ให้มาด้วยครับ

การใช้บานสไลด์มีข้อดีที่ใช้พื้นที่หน้าตู้น้อย ใช้งานสะดวก แต่สามารถเปิดได้ทีละบาน ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างจะต้องทำเองนะครับ ไม่ได้ให้มาด้วย มีข้อดีที่ได้ช่องแสงเข้าส่วนนี้ แต่ข้อเสียคือจะไม่มีกระจกเงาไว้ส่อง อาจจะต้องหามาติดเองเพิ่มนะครับ จะติดตรงด้านข้างตู้เสื้อผ้าส่วนนี้ก็ได้

พื้นที่บริเวณนี้ก็ดูอาจจะแคบๆ แต่ยังสามารถใช้งานได้ โดยจะมีระยะจากเตียงถึงหน้าบานตู้เสื้อผ้าประมาณ 0.7 เมตร

บริเวณภายในห้องนอนนี้ให้ไฟ Downlight มา 2 ดวงครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 July 2019

  • Studio เลขที่ PBR-1805 ชั้นที่ 18 ขนาดห้อง 24.05 ราคา 3.36 ล้านบาท หรือ 139,768 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom เลขที่ PBR-2804 ชั้นที่ 28 ขนาดห้อง 32.28 ราคา 4.48 ล้านบาท หรือ 138,792 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus เลขที่ PBR-2802 ชั้นที่ 28 ขนาดห้อง 37.26 ราคา 5.25 ล้านบาท หรือ 141,029 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms เลขที่ PBR-2314 ชั้นที่ 23 ขนาดห้อง 54.34 ราคา 7.19 ล้านบาท หรือ 132,374 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหิน Quatz
  • Hob & Hood แบบต่อท่อออกภายนอก / ของยี่ห้อง TEKA
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ MRT เพชรบุรี
  • จอง 20,000/30,000/50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% บาท
  • ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 39 งวด
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล : ที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนเพชรบุรีในช่วงระหว่างซอยเพชรบุรี 38 (สุขุมวิท39) กับซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ทำให้เดินทางเข้าสู่ทำเลสำคัญบนถนนสุขุมวิทได้ง่าย ทั้งอโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ และเอกมัย หรืออีกฝั่งทางพระราม 9 และรัชดาภิเษกก็เชื่อมต่อไปไม่ยาก ใกล้อาคารสำนักงานชื่อดังหลายแห่ง โดยทำเลบริเวณนี้จะอิงความเจริญจากทำเลโดยรอบเป็นส่วนใหญ่ มีช่องทางการเดินทางที่หลากหลาย ทั้งซอยให้ลัดเลาะ รวมถึงไปการใช้รถไฟฟ้าและเรือที่คลองแสนแสบ ซึ่งถ้าลองมองกับราคาที่ดินของทำเลแล้ว ก็จัดว่าเป็นโครงการที่ราคาหยิบจับได้ง่ายขึ้น กับการใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์เมือง

การเดินทางโดยใช้รถ : ตัวโครงการสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่สำคัญๆได้หลากหลาย อย่างที่บอกไป ทั้งทองหล่อ, พร้อมพงษ์, เอกมัย, อโศก, พระราม 9, รัชดาฯ หน้าโครงการมีจุดกลับรถในระยะไม่ไกลใช้งานได้สะดวก แถมยังมีทางด่วนให้ใช้งานได้ไม่ยาก ภายในโครงการให้พื้นที่จอดรถมาประมาณ 50.5% ซึ่งก็ถือว่าไม่เยอะ ถ้าเทียบกับทำเลที่ต้องใช้รถเป็นส่วนใหญ่

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการเดินทาง ตัวโครงการติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะได้ง่าย ทั้งรถประจำทาง แท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงห่างจากรถไฟฟ้าจะห่างจาก MRT สถานีเพชรบุรีประมาณ 1.6 กิโลเมตร ทางโครงการมี Shuttle Service ไปรับไปส่ง เป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับ Air Port Rail Link สถานีมักกะสัน และหากนั่งไปสถานีสุขุมวิทที่ห่างออกไป 1 สถานีก็สามารถไปเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกได้ หรือจะไปขึ้นที่ BTS พร้อมพงษ์เลยก็มีระยะประมาณ 2.4 กิโลเมตร ส่วนทางน้ำสามารถไปใช้ท่าเรือใกล้ๆได้มีท่าเรือวัดใหม่ช่องลม ประมาณ 350 เมตรครับ

วัสดุ : จัดมาให้ค่อนข้างดี ขายแบบ Fully Fitted ซึ่งต้องเผื่องบไว้ตกแต่งเองด้วยนะ เริ่มที่ได้ ประตู HDF มาพร้อม Digital Door Lock เข้ามาภายในห้องจะแยกส่วนพื้นหน้าห้องและครัวให้เป็น Porcelain ลายหิน ส่วนพื้นในห้องจะเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight ทั้งห้อง ชุดครัวจะได้เป็น Top หิน Quatz หน้าบาน High Gloss ได้ Back Splash เป็นกระเบื้อง ส่วนเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจะเป็นแบบต่อท่อออกด้านนอกจาก TEKA ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้อง Porcelain ทั้งพื้นและผนัง สุขภัณฑ์ของ TOTO และ Kohler ที่สำคัญคือทุกห้องจะได้อ่างอาบน้ำ ยกเว้น Studio เท่านั้น ส่วนอื่นๆที่จะได้จะเป็นตู้เสื้อผ้า ฝ้าเพดานจะ Drop รางม่านไว้ให้แต่ไม่ได้ให้ตัวผ้าม่านมานะ และเครื่องปรับอากาศ Daikin Invertor 12,000 BTU.

การออกแบบ : ผังอาคารถ้าเข้าจากด้านหน้าจะเห็นถึงความเป็น Symmetry เพื่อให้ดู Grand และสง่างาม ออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury เน้นความเป็น Timeless ที่จะอยู่อีกสักสิบยี่สิบปีก็ดูไม่ล้าสมัย ภายในจะตกแต่งด้วยหินอ่อนและกระจกดูหรูหรา ที่ชอบคือให้ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ตั้งที่กลางอาคาร แยกโถงทางเดินออกเป็น 2 ฝั่ง มีการเจาะช่อง Void ตรงกลางขนาด 10 เมตร ที่เอาจริงๆก็เสียพื้นที่ที่สามารถนำไปทำเป็นห้องพักอาศัยได้ไปเยอะเหมือนกัน เพื่อให้ตัวอาคารดูโปร่ง ได้ช่องแสงสู่โถงลิฟต์และโถงทางเดินทุกชั้น ห้องมุมรับวิวได้มากขึ้นรวมถึงได้ Single Corridor Loaded ทั้งโครงการ เหมาะกับการอยู่อาศัยที่ดีและได้ความเป็นส่วนตัว เขาเลือกใช้การกระจายพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นหลายๆจุด เพื่อลดจำนวนผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็แบ่งประเภทลักษณะการใช้งานของกิจกรรมไว้ค่อนข้างชัดเจน จึงทำให้แต่ละส่วนไม่รบกวนกันและกัน และยังใช้ประโยชน์จากความสูงของอาคารได้เต็มที่ด้วยการยกพื้นที่ Main Facilities ส่วนใหญ่ไปไว้ด้านบนสุดทั้งหมด ทำให้สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางรับวิวจากมุมสูงรอบด้านได้แบบจัดเต็ม

การออกแบบห้องพักอาศัยก็ทำได้ค่อนข้างดีนะ เริ่มที่มีหลากหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ Studio จนถึง Penthouse ซึ่งภายในห้องจะเน้นการรับวิว ดูโปร่งโล่ง ด้วยการยกพกดานขึ้นที่ 2.7 เมตร อีกจุดที่สังเกตได้ชัดๆจากทุกผังห้องคือการเชื่อมต่อกันของแต่ละพื้นที่เน้นความสะดวกในการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการเข้าถึงได้หลายช่องทาง การแบ่งส่วนพื้นที่ที่สามารถรวมกันได้ และการคำนึงถึงช่องแสงที่จะเข้าถึงพื้นที่ภายในห้องได้มากที่สุด

สาธารณูปโภค : ถือว่าจัดมาให้เต็มรูปแบบเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ภายนอกที่แทบจะเป็นสวนที่จัดไว้ให้นั่งเล่นได้รอบโครงการเลย มีการออกแบบ Landscape มาอย่างดี ใช้น้ำในการสร้างบรรยากาศในการเข้าถึงตัวอาคารและล้อมรอบ Grand Lobby ตรงกลางได้น่าสนใจ เป็นภาพที่เข้ามาก็น่าจะทำให้ประทับใจได้ไม่น้อย ส่วนภายในอาคารมีการกระจายอยู่หลายจุดตั้งแต่ชั้น 1, ชั้น 4, ชั้น 29, ชั้น 54 และ 55 ส่วนพื้นที่ภายในก็จัดมาให้หลากหลายเรียกได้ว่าทุกช่วงวัย ทั้งพื้นที่สำหรับเด็ก ครัว ห้องดูหนัง ห้องตีกอล์ฟ ห้องทำงาน ห้องประชุม ที่ผมชอบคือเขาเลือกกิจกรรมไว้แต่ละพื้นที่ได้เข้ากันดี การกระจายไปแต่ละชั้นจะเป็นกรุ๊ปกิจกรรมที่ใกล้เคียงกัน สอดคล้องและไม่รบกวนกัน ที่สำคัญคือทุกพื้นที่สามารถรับวิวภายนอกได้ทั้งหมด รวมไปถึงพื้นที่หลักอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนสที่ก็จัดมาให้แบบอลังการด้านบน เป็นอีกจุดที่น่าจะทำให้ให้ใครหลายๆคนร้องว้าวออกมาได้เลยล่ะครับ ส่วนอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 1 : 165.25 ยูนิต ค่อนข้างเยอะไปสักหน่อย


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 136,000 บาท/ตร.ม., 23 July 2019

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ เชื่อมต่อกับสุขุมวิทและพระราม9 ได้ง่าย ใช้ทางด่วนสะดวก
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ มีจุดกลับรถไม่ไกลทั้งสองฝั่ง ใช้งานทางด่วนง่าย
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ เรียกรถง่าย มี Shuttle Service MRT เพชรบุรี ใช้ท่าเรือได้
  • วัสดุ 8/10 – Fully Fittedให้มาตามมาตรฐานค่อนข้างดี ได้อ่างอาบน้ำทุกห้องยกเว้น Studio
  • แบบ 8.5/10 – Single Corridor ทั้งโครงการ มี Void ตรงกลางรับแสง รับลม ห้องหลายขนาด
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ส่วนกลางจัดเต็มกระจายอยู่หลายจุด Main Facilities ดาดฟ้า รับวิวมุมสูงรอบทิศ อัตราส่วนลิฟต์เยอะไปหน่อย

  • HIGH CLASS
  • 8.025 / 10.00

BOTTOM LINE

The Cloud ทองหล่อ – เพชรบุรี เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดติดถนนใหญ่สามารถเดินทางไปย่านพร้อมพงษ์-ทองหล่อได้สะดวก หาของกินพื้นที่ใกล้เคียงง่าย ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก มีห้องให้เลือกหลายขนาด ชอบใช้ Facilities เป็นประจำ ชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่สูงนัก ขายแบบ Fully Fitted ต้องเผื่องบไว้ตกแต่งห้องด้วยนะ โดยเบื้องต้นต้องมีงบประมาณ 3.5 – 8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 25,000 – 56,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving