Chapter One Midtown ลาดพร้าว24 1

รีวิวฉบับที่ 756 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโดที่เปิดขายรับต้นปี 2558 กับ Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 by พฤกษา เรียลเอสเตท โครงการคอนโดมิเนียม High Rise 37 ชั้น ติดถนนลาดพร้าว ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว 130 เมตร หลังจากที่ Mr.Oe พาไปดูทำเลกันมาแล้วคราวนี้มาดูรายละเอียดตัวโครงการกับห้องตัวอย่างกันต่อดีกว่าครับ

Fact @ 14 January 2015

  • Chapter One Midtown Ladprao 24 (แชปเตอร์วัน มิดทาวน์ ลาดพร้าว 24)
  • Developer : พฤกษา เรียลเอสเตท
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ระหว่างซอย ลาดพร้าว 24-26 ถนน ลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
  • คอนโด High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร 514 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต
  • พื้นที่โครงการประมาณ 2-3-31.9 ไร่
  • จำนวนที่จอดรถ 45% (รอตรวจสอบอีกครั้งว่ารวมซ้อนคันหรือไม่)
  • Studio ขนาด 23.71-24.15 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 29.61 – 38.66 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 58.64 ตร.ม.
  • ราคาห้องเริ่มต้นประมาณ 2.4 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นประมาณ 104,000 บาท /ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 115,000 บาท / ตร.ม.
  • คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ: 2560
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • โทร : 1739
  • www.stylishresidences.com

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.806471,100.572747

แผนที่โครงการ … ตัวโครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าวนะครับ อยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 24 และ ลาดพร้าว 26 อยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับอาคารจอดแล้วจร..โดยมีระยะห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลาดพร้าวตรงทางออกที่ 2 มีระยะห่างราว 130 เมตร

แผนที่ Google แสดงตำแหน่งและระยะจริงของโครงการ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับแยกรัชดาตัดลาดพร้าวนะครับ โดยอยู่ก่อนถึงแยกราวๆ 250 เมตร ซึ่งใช้เป็นจุดกลับรถได้ .. ทำเลโครงการเรียกว่าอยู่ในระยะเดินไปจุดขึ้นลงรถไฟใต้ดินสะดวกมาก โดยอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงที่ใกล้ที่สุดของสถานีลาดพร้าวคือ Exit2 ราว 130 เมตร

การเดินทางโดยรถยนต์มีทางเลือกมาก เพราะหากลาดพร้าวรถติด สามารถเลี่ยงใช้ซอย 26 (ขากลับคอนโด) ซึ่งเป็นเครือข่ายทางเชื่อมมาจากวิภาวดี และรัชดาได้.. หรือสามารถใช้ซอย 20,18 (ขาออกจากคอนโด) ในการเลี่ยงรถติดไปออกวิภาวดี หรือรัชดาได้ด้วย… ส่วนคนไม่ใช้รถ นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว มีป้ายรถเมล์และพี่วินอยู่ไม่ไกลเดินไม่กี่ก้าว และความที่อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้แยก จึงมีรถ Taxi ให้เรียกใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัยและไม่เปลี่ยว

ความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการในระยะเดินไม่เกิน 400 เมตร ก็คงต้องพึ่งพิง Minimart ที่อยู่ใกล้ๆ มีร้านอาหารให้พึ่งพิงเยอะมากโดยเฉพาะตรงปากซอย 18 และฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ปากซอย 15-19 ที่มีให้กินเกือบ 24 ชั่วโมง ส่วน Big C อยู่ไม่ไกลก็จริงแต่ระยะ 600 เมตร นี่ออกจะเหมาะกับคนขยันเดินสักหน่อย

โครงการอยู่ระหว่างจุดขึ้นลงรถไฟใต้ดินสถานีลาดพร้าว Exit1 และ Exit2 ในระยะที่ใกล้เคียงกันคือ 150 และ 130 เมตร ตามลำดับ ถือเป็นจุดแข็งสำหรับคนไม่ใช้รถ

ป้ายโฆษณาโครงการ ที่ติดอยู่บนถนนลาดพร้าว

ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ จะอยู่ติดถนนลาดพร้าวนะครับ ไม่ได้เข้าซอย

สำนักงานขายโครงการ อยู่ที่หน้าที่ตั้งโครงการเลย

วันที่ 12/01/15 สำนักงานขายยังไม่เสร็จนะครับ จะเสร็จพร้อมเปิดให้ชม 15/01/15

ตำแหน่งที่ตั้งโครงการ จะอยู่ระหว่างปากซอย 24 กับ 26 นะ โดยอยู่ก่อนถึงปากซอย 26 ราวๆ 33 เมตร

ฝั่งตรงข้ามโครงการคือซอยลาดพร้าว 19นะครับ มีโครงการรุ่นน้าอย่าง Ideo ตั้งอยู่ แถวๆด้านซ้ายมือของ Ideo ตอนกลางคืนจะมีร้านค้าตั้งขายอาหารกันเกือบตลอดคืนครับ

ฟุตบาททางเดินฝั่งหน้าโครงการ พี่คนนี้เห็นแกนั่งๆนี่ขยันนะครับ กวาดซะเรียบ ใบไม้สักใบยังไม่มี

บริเวณปากซอยลาดพร้าว 26 ใกล้ๆหน้าโครงการ จะมี 7-11 และร้านค้าร้านอาหารอยู่ 3-4 ร้านครับ … ซอย 26 นี้เป็นซอยที่ใช้เป็นทางลัดได้ เวลาเรามาจากวิภา หรือรัชดา ไม่ต้องมาปวดหัวกับรถติดตรงห้าแยกลาดพร้าวที่ตอนเย็นๆค่ำๆ ติดนรกแตก … ถ้าเรามาจากวิภาวดี ลัดเข้ามาโผล่ตรงซอย 26 นี้ ก็เกือบจะถึงหน้าโครงการแล้วครับ ซึ่งนี่คือข้อดีของทำเลลาดพร้าวซอยเลขคู่ (แต่ต้องอยู่ถูกที่ถูกซอยด้วยนะ)

เดินเลย ปากซอย 26 มานิดเดียว ก็ถึงทางลงสถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว Exit1 แล้วครับ…

ChapterOneMidtownLP24_Map_Site

ลองเอาแปลนมาลงใน Google Map ดูขอบเขตที่ดินจะติดบ้างดีกว่า ด้านหน้าส่วนใหญ่จะติดกับอาคารพาณิชย์ส่วนด้านในๆจะเป็นบ้านพักและอพาร์ทเม้นท์ที่สูง 6 – 8 ชั้น หากใครนึกภาพตึกแถวๆนี้ไม่ออกเดี๋ยวผมจะพาเข้าไปดูด้านในที่ดินจริงเลยดีกว่า

เดินเข้ามาด้านในที่ดินหันไปทางทิศใต้นะครับ ด้านซ้ายจะเป็นตึกที่คิดกับซอยลาดพร้าว 26 ช่วงต้นซอยจะเป็นอาารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้นและด้านในลึกเข้าไปจะเป็นที่อพาร์ทเม้นท์สูง 6 – 8 ชั้น เนื่องจากโครงการนี้แบ่งตัวตึกจอดรถแยกออกไปต่างหากทำให้พื้นที่ตรงที่ติดอพาร์ทเม้นท์ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะน่าจะอยู่ในระยะอาคารจอดรถพอดี

ทางด้านขวาหรือทิศตะวันตก จะเเป็นบ้านเดี่ยวเกือบทั้งหมดสูงประมาณ 2 – 3 ชั้น

เดินเข้ามาจนสุดเขตที่ดินพื้นที่ด้านหลังจะติดกับบ้านพักสูง 3 ชั้น

หันกลับไปดูด้านหน้าหรือทาทิศเหนือบ้าง ด้านนี้จะเป็นด้านที่หันไปทางถนนลาดพร้าว ทิศที่น่าเป็นห่วงคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพราะมีอาคารสำนักงานสูง 8 ชั้นในระยะประชิด แล้วชั้นพักอาศัยของที่นี่เริ่มจากชั้น 4 ด้วยดังนั้นห้องที่หันไปด้านนี้ต้องเลือกชั้น 9 หรือ 10 ขึ้นไปถึงจะพ้นระยะบังวิว

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Union Mall ~ 1.4 km. จากโครงการ
  • Central ลาดพร้าว ~ 1.9 km. จากโครงการ
  • Big C ~ 600 m. จากโครงการ
  • Major รัชโยธิน ~ 3.1 km. จากโครงการ
  • สวนลุมไนท์ฯ ~ 240 m. จากโครงการ
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 3.2 km. จากโครงการ

 

 


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูผังโครงการกันต่อนะครับ เนื่องจากชิ้นที่ดินของโครงการนี้เป็นเส้นยาวๆ หน้าแคบ ทำให้การวางตัวอาคารก็ต้องวางตรงๆตามลักษณะรูปร่างของที่ดิน ตึกของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ตึกโดยตึกหน้าจะเป็นตึกพักอาศัย 37 ชั้นและชั้นล่างจะมีร้านค้า 2 ร้านและเป็นร้านอาหาร 1 ร้านโดยทางโครงการจะเป็นคนคุมร้านที่มาเปิดเองเพื่อให้เข้ากับ Concept ของโครงการ ด้านหลังจะเป็นตึกจอดรถสูง 7 ชั้น จุด Drop-off จะไปอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ตึก ลูกบ้านที่ใช้รถอาจจะไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานเท่าไหร่เพราะต้องเดินข้ามตึกทุกครั้งที่ใช้รถ ยิ่งถ้าตอนฝนตกอาจจะเปียกหน่อย

ผังชั้น 4 – 29 จะเหมือนกันทั้งหมดโดยมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 17 ยูนิตต่อชั้น มีลิฟท์โดยสารให้ทั้งหมด 3 ตัวเป็น Service Lift 1 ตัว ดังนั้นอัตราส่วนลิฟท์จะอยู่ที่ 171:1 ถือว่าค่อนข้างหนานแน่นมากเหมือนกันสำหรับคอนโดในเรทราคานี้ แต่ปัญหาเรื่องรอลิฟท์นานจะไม่หนักหนามากนักถ้าโครงการเลือกใช้ลิฟท์ที่มีความเร็วสูงหน่อย อันนี้ก็ต้องรอดูตอนสร้างโครงการเสร็จแล้วนะครับ

ลักษณะการวางห้องเค้าจะเอาห้อง 1 Bedroom ไว้ที่ด้านทิศตะวันออกทั้งหมดและห้อง Studio อยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนด้านทิศเหนือเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ที่รับวิวทั้ง 3 ด้านเลย และท้ายอาคารที่เป็นทิศใต้จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่กว่าห้องปรกติจาก 30 ตร.ม.เป็น 31 เป็น 38 ตร.ม.

ผังชั้น 30 และ 31 จำนวนยูนิตจะหายไป 2 ห้องตามระยะร่นของอาคารทำให้ยูนิตต่อชั้นเหลือ 15 ห้องและชั้นนี้จะพิเศษกว่าชั้นอื่นๆตรงที่มีสวนหย่อมอยู่ที่ด้านหน้าอาคาร ตำแหน่งของลิฟท์จะไม่ได้อยู่ตรงกลางแบบเป๊ะๆแต่จะอยู่ค่อนไปทางด้านหลังอาคารนิดหน่อย ดังนั้นห้องที่อยู่ด้านทิศใต้จะสงบกว่าห้องที่อยู่ด้านทิศเหนือหน่อยเพราะมียูนิตอยู่ที่ด้านนี้แค่ 5 ยูนิตเท่านั้นเอง

พอมาถึงชั้น 32 ยูนิตพักอาศัยด้านทิศเหนือจะหายไปอีก 1 ยูนิตและมีสวนหย่อมแบบ Pocket มาให้อีกจุด

ทีนี้มาถึงชั้นบนสุดของอาคารจะเป็นแหล่งรวม Facilities หลักๆของโครงการมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 19.8 ม. อยู่ที่ชั้น 36 ตัวสระจะวางเฉียงๆออกจากตึกเพื่อให้รับได้เพิ่มมากขึ้น ตัวสระถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นแบบ island สำหรับนั่งชมวิว และมีห้อง Steam อยู่ในชั้นเดียวกันด้วย ส่วน Fitness จะอยู่ที่ชั้นลอยหรือชั้น 37 ส่วนชั้นบนสุดตึกที่จอดรถจะมี Facility มาให้อีกอย่างคือสนามเทนนิสมาให้ 1 สนามด้วย

หน้าตาของตัวอาคารจะไม่ได้มีอะไรหวือหวามากนักแต่เน้นเรื่องโทนสีต่างๆตาม Concept Industrial Loft Design ที่เน้นสีวัสดุปูน, เหล็ก, ไม้ และ อิฐ ด้านหน้าตึกรอบๆทางเข้าจริงๆมีอาคารพาณิชย์บังอยู่นะไม่ได้โล่งๆเขียวๆแบบนี้นะ

รูป Lobby ของโครงการจะเป็นแนว Industrial Loft Design เช่นเดียวกันสังเกตจากการโชว์แนวโครงเหล็กที่หน้าต่างด้านข้าง

ตัวผนังก็โชว์แนวอิฐอย่างที่เห็น

รูป Facility ที่อยู่ด้านบนสุดชั้น 36 ตัวสระและเฉลียงที่ทำแนวเฉียงยื่นออกมาถือว่าหวือหวาพอสมควรเลย ตัว Fitness จะอยู่ที่ชั้น 37 และมี Home Theater อยู่ด้าน

รูป Sky Lounge ส่วนที่ติดกับ Island และห้อง Steam Room

ส่วนสระว่ายน้ำจะเป็นแบบ Infinity edge pool แต่จะมีพื้นที่สวนรอบๆนะครับไม่ใช่ตัวสระว่ายน้ำยื่นออกมา

S__14909579_resize_WM

ส่วนสนามเทนนิสบนอาคารจอดรถจะมีมาให้ 1 สนามและเท่าที่ดูในรูปจะมีตะแกรงเหล็กกั้นมาให้ครบทุกด้านเลย

ก่อนจะไปดูห้องตัวอย่างขอพาไปดูสำนักงานขายกันก่อน เพราะตัวสำนักงานเองจะเป็นตัวบอกถึงสไตล์การตกแต่งของโครงการได้เป็นอย่างดี

สไตล์การตกแต่งแนว Industrial จะเน้นให้วัสดุเหล็กเป็นสีดำ หรือสีเข้มๆ และตัดกับสีวัสดุปูนเปลือยหรือ โชว์แนวอิฐแบบนี้แหละครับ

ทีนี้ถ้ารวมเอาแนว Loft ที่เน้นเรื่องการเอางานระบบหรือโครงสร้างมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ ก็จะได้อารมณ์ประมาณนี้นะครับ

ทางโครงการแจ้งว่าการออกแบบ Lobby ของจริงก็จะคล้ายๆกับการตกแต่งในสำนักงานขายนี่แหละครับ

สำหรับห้องตัวอย่างจะมีให้ดู 3 ห้อง โดยห้องแบบ Studio จะอยู่ห้องซ้ายมือ และห้องแบบ 1 Bedroom อยู่ขวามือ

สำหรับ 2 Bedroom จะอยู่ที่ชั้น 2 ครับทางขึ้นก็อยู่ฝั่งตรงข้ามห้อง Studio นี่แหละครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ Sky Pool ชั้น 36 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 19.8 เมตร แบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่
  • ห้อง Steam ชั้น 36
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องชั้น 37 ขนาด N/A ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ N/A เครื่อง
  • Home Theater ชั้น 37
  • สวนหย่อมที่ชั้น 30 และ 32
  • Passenger Lift 3 ตัว
  • Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 171 : 1
  • Proxy Lift
  • ที่จอดรถประมาณ N/A คันคิดเป็น N/A% รวมจอดซ้อนคัน 231 คันคิดเป็น 45%
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • ร้านค้า 3 ยูนิตที่ชั้น G
  • สนามเทนนิสที่ชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถ
  • ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถ

 


Product Walkthrough

 

ผังแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.05 ตร.ม. จะแยกสัดส่วนของแต่ละฟังก์ชั่นไว้อย่างชัดเจน โดยจะวางโซนห้องครัวและห้องน้ำไว้ด้านหน้าสุด และพื้นที่ของการวางตู้เย็นกับอ่างล้างหน้าในห้องน้ำจะแชร์กันอยู่ แต่การเข้าห้องน้ำจะเข้าได้จากห้องนอนทางเดียวดังนั้นถ้ามีแขกมาก็เก็บของให้เรียบร้อยก่อนครับเผื่อเค้าเข้าห้องน้ำจะได้ต้องเขิล >_< เสริมให้หน่อยว่าตำแหน่งของห้องครัวยังพอที่จะกั้นประตูทำเป็นโซนปิดได้เพราะแนวกำแพงเอื้อให้ทำได้ไม่ยาก

ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่โซนตรงกลางและเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งทำงานที่ติดกับระเบียง สำหรับห้องนอนดูจะเป็นห้องที่โครงการให้น้ำหนักในการวางผังพอสมควรเพราะวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆให้เดินได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 3 บานเปิดหน้าห้องน้ำทำเป็นเหมือน Walk-in Closet เล็กๆ จุดที่เป็นปัญหาคือที่นั่งทานอาหารครับ เนื่องจากโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบตามห้องตัวอย่างยกเว้นพร๊อพที่ตกแต่ง คือถ้าไม่นั่งกินบนโต๊ะทำงานก็ต้องมานั่งกินที่โซฟาแล้วหาโต๊ะที่ปรับยกสูงได้มาแทน เดี๋ยวผมพาไปดูห้องตัวอย่างดีกว่าครับจะได้มองภาพออกง่ายๆ

เริ่มที่หน้าห้องเปิดประตูมาจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวอยู่ด้านซ้ายมือมีกำแพงกั้นแยกสัดส่วนกับห้องนั่งเล่นมาให้ด้วยเวลาทำครัวจะได้ไม่ต้องกลัวเลอะเทอะไปโดนโซฟา

ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะได้ทั้งชุดบนและล่างตามนี้เลยรวมทั้งแผ่นกระจก Back Splash ท๊อปเคาน์เตอร์ได้เป็นหินแกรนิต

การแบ่งช่องชุดล่าง มือจับเป็นเหล็กทำสีดำ แต่ด้ามจับแบบนี้สำหรับบาน Swing จะเปิดไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ เพราะตำแหน่งที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางเวลาเปิดจะต้องออกแรงมากกว่าปรกตินิดหน่อย

การแบ่งช่องเปิดชุดบนจะมีช่องสำหรับใส่ ไมโครเวฟมาให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องไปแย่งใช้พื้นที่บนเคาน์เตอร์ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำครัวได้อีกหน่อย อ่อ ลืมบอกไปว่าหน้าบานทุกอันมีติด Soft Close มาให้สำหรับบาน Swing จะเป็นแบบเปิด 45 องศาไปแล้ว Soft Close ถึงจะทำงานนะ

เตา 2 หัวและเครื่องดูดควันได้ของ Mex

ตำแหน่งการใส่ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเวลาใช้งานอาจต้องหันไปหันมาหน่อยแต่ก็ถือว่ายังอยู๋ไม่ไกลจากพื้นที่ทำครัวจนเป็นปัญหาอะไร

ถัดมาเป็นส่วนนั่งดูทีวี จะได้ตู้วางทีวีและชั้นวางของมาให้แบบนี้เลย ระยะนั่งดูก็ประมาณ 2 เมตรวางทีวีขนาด 46″ ได้

โซฟาที่แถมมาให้นั่งดูขนาดแล้วใหญ่ดีแต่…เป็นโซฟาที่ไม่มีพนักผิงกับที่วางแขนมาให้อันนี้ถ้านั่งเล่นๆยังไม่มีปัญหาแต่ถ้านั่งดูหนังนานๆนี่มีเมื่อยครับ ส่วนโต๊ะกลางจะได้เป็นแบบในรูปเลยสามารถวางของไว้ด้านล่างได้

โต๊ะทำงานที่อยู่หน้าห้องนอนจะมีขนาดกำลังพอเหมาะแต่ถ้าจะเอามานั่งกินข้าว 2 คน แนะนำว่าปรับแนวการวางให้เป็นอีกด้านจะดีกว่าจะได้นั่งหันหน้าเข้าหากันได้ ถึงแม้จะวางข้าวของได้ไม่มากก็ตาม

ตัวโต๊ะจะมีลิ้นชักมาให้ด้วยแต่ไม่ลึกมากนะ

ส่วนระเบียงก็ให้มาใหญ่ดีขนาดประมาณ 1.1 x 2.1 ม. สามารถวางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้าแล้วยังมีระยะเหลือให้วางราวตากผ้าได้ บานประตูก็ได้เป็นบานกระจกเลื่อนสลับกรอบเป็นอลูมิเนียมอโนไดซ์สีดำ กลอนประตูเป็นแบบเซาะร่องปรกติทั่วๆไป ตัวรางวางอยู่บนธรณีก่อสูงประมาณ 8 ซม.

กลับมาดูในห้องนอนกันต่อเตียงที่ให้มาจะได้มาทั้งชุดแบบนี้เลยคือมีหัวเตียงและตู้เก็บของมาให้ รวมทั้งฟูกที่นอนก็ให้มาด้วยเช่นกัน

ระยะเหลือปลายเตียงจะเหลือประมาณ 50 ซม.ซึ่งไม่พอวางตู้หรืออะไรเพิ่มแน่นอนดังนั้นถ้าอยากดูทีวีในห้องนอนก็ติดผนังได้อย่างเดียวครับ

ระยะข้างเตียงอีกด้านถือว่ายังพอเดินได้ไม่ลำบาก

ตัวหน้าต่างในห้องนอนจะเป็นช่อง FIx ทั้งหมดยกเว้นด้านขวาสุดเป็นบานกระทุ้ง

หันกลับมาดูห้องน้ำกันต่อทางเข้าห้องน้ำตรงนี้ถือว่าให้มากว้างดี

กว้างพอที่จะทำตู้เสื้อผ้าเป็นหน้าบาน Swing ก็ได้แต่กก็ยังทำเป็นบานเลื่อนมาให้นะ

การแบ่งช่องด้านซ้ายจะมีลิ้นชักมาให้

ด้านขวาเอาไว้แขวนชุดยาวได้ เสริมให้ว่าประตูตู้บานตรงกลางจะเลื่อนได้ทั้งซ้ายและขวาเพราะอยู่คนละรางกับหน้าบานตัวอื่นๆ

ประตูห้องน้ำของจริงจะเป็นบานเลื่อน ในห้องตัวอย่างถึงแม้จะไม่ได้ติดตัวบานประตูมาให้ดูแต่ก็ทำรางเอาไว้ให้ดูว่าเป็นแบบรางนะ

ฉากกระจกกั้นอาบน้ำไม่ได้ให้มาด้วยแต่ก็ติดตั้งได้ไม่ยาก เพราะพื้นที่แบ่งโซนเปียกแห้งมาให้อย่างชัดเจนแล้ว พื้นที่อาบน้ำก็มีให้ไม่มากแต่ยังอาบได้พอดีๆอยู่มีขนาดประมาณ 1 x 1 ม.

ชุดฝักบัวจะเป็นแบบปรับองศาได้และมีที่วางสบู่มาให้ 1 อันซึ่งการใช้งานจริงคงไม่เพียงพอ อาจต้องติดเพิ่มเติม

ส่วนโถสุขภัณฑ์ได้ของ COTTO และช่องเก็บของด้านข้างเพิ่มมาให้ ซึ่งที่ให้มาก็ใหญ่กำลังดี

ตัวอ่างล้างหน้าได้ของ COTTO เช่นกัน และได้เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตด้วยช่วยเพิ่มพื้นที่วางของได้พอสมควร

ไฟส่องสว่างในห้องจะเป็นแบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด

ห้องตัวอย่างอีกห้องที่จะพาไปดูคือห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 58.64 ตร.ม. ห้องนี้จะวางผังคล้ายๆ 1 Bedroom แต่เพิ่มห้องน้ำตรงกลางมาให้อีกห้อง ช่วยให้การใช้งานจริงทำได้สะดวกขึ้น ระยะดูทีวียังถือว่าใกล้เคียงกันแต่พื้นที่โซนทานอาหารจะได้มากขึ้นจนนั่งแบบ 4 ที่นั่งได้ห้องนอนใหญ่ยังได้ตู้เสื้อผ้าใหญ่เหมือนเดิมแต่ห้องนอนเล็กวางเตียง 3.5 ฟุตจะเหมาะกว่าไม่อย่างนั้นก็ทำเป็นห้องทำงานไปแทน

โซนหน้าห้องยังคงเป็นครัวแบบเดิม แต่การกั้นเป็นครัวปิดจะได้ยากหน่อย เพราะแนวกำแพงไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่

เคาน์เตอร์ครัวได้มาแบบเดิมแต่คราวนี้สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ในบ้านได้

และได้ตู้วางรองเท้าด้านหน้าห้องเพิ่มขึ้นมา แถมท๊อปยังเป็นหินแกรนิตเหมือนส่วนครัวด้วย

ภายในตู้รองเท้ามีแบ่งช่องใส่รองเท้ามาให้ครบและช่องระบายอากาศด้านล่าง

การแบ่งช่องชุดบน

การแบ่งช่องชุดล่างตรงลิ้นชักจะมีถาดวางอุปกรณ์มาให้ด้วย

หันกลับไปดูพื้นที่หน้าห้องอีกทีจะเห็นว่าโซฟายังคงได้แบบเดิม แต่ตัวโต๊ะได้ขนาดใหญ่ขึ้นนั่งแบบ 4 คนได้สบายๆ สำหรับโซฟาก็ยังคงไม่มีพนักผิงเหมือนเดิม ส่วนที่นั่งตัวเล็กๆที่วางอยู่ถัดไปเอาไว้ให้นั่งใส่รองเท้าก่อนออจากบ้านได้

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะติดอยู่กับโถงทางเดินไปยังห้องต่าง ตู้วางทีวีก็ยังไม่ได้มาเหมือนเดิม ระยะดูทีวีก็เท่าๆกันกับห้อง 1 Bedroom

แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือโซฟาได้แบบ 2 ที่นั่งขนาดใหญ่มีที่วางแขนและพนักพิง

พื้นที่ระเบียงมีหน้ากว้างเท่าเดิมแต่มีความลึกที่มากขึ้น

เมื่อกี้ลืมถ่ายมาให้ดูว่าข้างๆชุดครัวจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้นึงบาน เนื่องจากห้องนี้อยู่มุมทางทิศเหนือของอาคารจะได้รับแสงจากทั้ง 3 ด้านเลย

ตำแหน่งติดตั้งไฟส่องสว่างจะได้เป็นตามนี้ครับ

จากโถงทางเดินเมื่อกี้ถ้าเลี้ยวซ้ายมาจะเป็นห้องน้ำกลางที่ใช้ร่วมกันระหว่างส่วนรวมกับห้องนอนเล็ก ภายในมีแบ่งให้ทั้งโซนเปียกและแห้งแต่ฉากกั้นอาบน้ำยังคงไม่ได้เหมือนเดิม

โถสุขภัณฑ์จะอยู่ด้านข้างของ Shower Box ซึ่งตำแหน่งติดตั้งกระดาษทิชชู่ติดมาให้ถูกต้องใช้งานง่าย

ต่อมาดูห้องนอนเล็กกันต่อทางเข้าห้องจะโล่งๆแบบนี้

เตียงที่วางเป็นขนาด 3.5 ฟุตทำให้มีพื้นที่เหลือรอบๆพอสมควรและระยะปลายเตียงจะเหลือพอให้วางตู้ได้ ตัวเตียงยังคงที่แถมมาให้ยังคงเป็นสไตล์เดียวกันอยู่

ช่องแสงของห้องนี้จะอยู่ข้างเตียงเป็นบานกระทุ้ง

ตัวตู้เสื้อผ้าได้ขนาดเดียวกับแบบ 1 ห้องนอน

รูปนี้ถ่ายมาให้ดูว่าพื้นที่หน้าห้องตรงทางเข้ายังคงเหลือให้ทำ Built-in ได้อยู่

สุดท้ายมาดูห้องนอนใหญ่กันครับ ทางเข้าห้องนอนจะต้องผ่านตู้เสื้อผ้าไปก่อน

ตัวตู้ที่ได้ก็ใหญ่กว่าห้องอื่นๆอยู่หน่อยได้เป็นบาน Swing 4 บาท

ห้องน้ำด้านในก็เหมือนกับห้องน้ำรวมเลย

ในห้องนอนใหญ่วางเตียง 6 ฟุตสบายๆ ในห้องนี้นอกจากเตียงที่แถมมาให้แล้วยังได้โต๊ะเขียนหนังสือแบบให้ห้องตัวอย่างมาด้วย

ถ่ายระยะรอบๆเตียงมาให้ดูว่าเค้าทำ Built-in มาให้เหลือระยะเดินได้สบายๆอยู่

ตัวเตียงจะมีลิ้นชักด้านล่างเอาไว้เก็บ(หรือซ่อนของ)ก็ได้ครับ ^_^

ส่วนหน้าต่างได้เป็นแบบเต็มความสูงฝ้าเพดานเลย น่าเสียดายที่ทิศของห้องนี้ดันหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเลยทำให้ห้องนี้ต้องรับแดดเยอะหน่อย

ตัวกระจกจะได้แบบเข้ามุมอย่างในรูปมาด้วยนะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 January 2015

  • Studio ชั้น N/A ห้อง N/A เนื้อที่ N/A ตร.ม. ราคา N/A ล้านบาท หรือ N/A บาท/ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 104,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง N/A บาท
  • ทำสัญญา N/A บาท
  • ค่ากองทุน N/A บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง N/A บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

(ขอติดค้างเจาะลึกกับคะแนนไว้ก่อนนะครับ พอได้ราคายูนิตจริงๆมาแล้วจะมาเขียนสรุปให้อีกที)

 

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 104,000 บาทต่อตารางเมตร, 12 January 2015

  • ทำเล – /10 –
  • เดินทางด้วยรถ – /10 –
  • ไม่ใช้รถ – /10 –
  • วัสดุ – /10 –
  • แบบ – /10 –
  • สาธารณูปโภค – /10 –

  • UPPER CLASS
  • –  / 10.00

BOTTOM LINE

 Coming Soon

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ