รีวิวฉบับที่ 1721 … สวัสดีครับ ย่านรัชดา-สุทธิสาร ยังคงเป็นทำเลยอดฮิตของคอนโดมิเนียมเช่นเคย ล่าสุดกับโครงการ ASHER PRIVÉ สุทธิสาร จาก เอ พลัส เรียลเอสเตท เป็นคอนโด Low Rise อยู่ในซอยอำนวยวัฒน์ บนถนนสุทธิสาร ใกล้ MRT สุทธิสาร ออกแบบแนวคิด “ชีวิตสังคมเมืองของคนรุ่นใหม่” เน้นกิจกรรมที่หลากหลาย ยูนิตน้อยมีความเป็นส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 30 October 2018

  • ASHER PRIVÉ SUTTHISAN (แอชเชอร์ พรีเว่ สุทธิสาร)
  • บริษัท เอ พลัส เรียลเอสเตท จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต :  ซอยอำนวยวัฒน์ เขตห้วยขวาง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 40%
  • ที่ดินประมาณ 0-2-23 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : พฤษภาคม 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พฤศจิกายน 2563
  • 1 Bedroom 26 – 28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 39 – 40 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 79,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 088-088-8449
  • Presale : 10 พฤศจิกายน 2561 / ลงทะเบียนรับของแถม + ส่วนลด มูลค่ากว่า 100,000 บ.  คลิกที่นี่ 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.792149, 100.581128

แผนที่จากทางโครงการครับ

โครงการ ASHER PRIVÉ สุทธิสาร ตั้งอยู่ในซอยอำนวยวัฒน์ ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อใช้เป็นทางลัดเข้า-ออกได้ทั้งถนนสุทธิสารวินิจฉัยที่เป็นเส้นทางหลัก และสามารถไปออกถนนลาดพร้าวโดยผ่านทางซอยลาดพร้าว 48 ได้ นอกจากนี้ถนนสุทธิสารเองยังเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนวิภาวดีรังสิต และมาสิ้นสุดที่ถนนพหลโยธินได้ สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกเนื่องจากมีเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนหลายเส้น มีข้อดีคือช่วยหนีรถติดในเวลา Prime time ส่วนทางด่วนที่ใกล้ๆ สามารถวิ่งจากถนนสุทธิสารไปขึ้นยังทางด่วนบนถนนวิภาวดีรังสิต ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้หรือทางพิเศษฉลองรัชได้ นอกจากนี้บนถนนสุทธิสารยังมีซอยสำคัญอย่างซอย 20 มิถุนา ที่อยู่เยื้องๆกับซอยอำนวยวัฒน์ สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดหลักจากถนนสุทธิสารเชื่อมไปยังถนนประชาอุทิศเพื่อออกไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือถนนเลียบด่วนรามอินทราได้

ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ไม่ต้องพูดถึงก็คงทราบกันดี โดยส่วนตัวของทำเลโครงการจะเป็นแหล่งชุมชนดั่งเดิมที่ค่อนข้างคึกคักมากอยู่แล้ว ทั้งร้านค้าและตลาด รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลก็มีครบ แต่ถ้าอยากเดินห้างใหญ่ๆ บนถนนรัชดาภิเษกมีอยู่เยอะแยะเลยครับ โดยเฉพาะทางโซนพระราม 9 จะมีทั้งเซ็นทรัลพระราม 9, ห้างฟอร์จูนทาวน์, Esplanade, Big C, The Street, และตลาดรถไฟ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งธุรกิจที่สำคัญ มีอาคารสำนักงานเยอะแยะเลยทีเดียว ทั้ง G Tower, อาคารตลาดหลักทรัพย์, AIA, ตึก RS เป็นต้น หรือถ้าใครชอบใช้ถนนลาดพร้าวก็จะมีความอุดมสมบูรณ์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์ และอาคารสำนักงานอื่นๆอีกมากมาย ส่วนตามเส้นทางรถไฟฟ้าบนถนนพหลโยธินของทำเลนี้นี่ไม่พูดถึงไม่ได้ มีอาคารสำนักงานอยู่เต็มไปหมดตลอดทั้งเส้น เรียกได้ว่าเป็นทำเลคนทำงานในเมืองโดยแท้เลยครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดใช้งานแล้วในปัจจุบันคือ MRT สถานีสุทธิสาร ที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีภาวนา ซึ่งมีระยะห่างประมาณ 900 m. และยังสามารถ Interchence กับรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีรัชดาได้อีกด้วย

ตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก MRT สุทธิสาร ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยประมาณ 1.3 km. โดยคิดจากซอยทางเข้าหลักคือซอยพิบูลย์อุปถัมภ์ และสามารถเชื่อมต่อกับซอยสบายใจได้ในระยะทางประมาณ 1.1 km. ถือเป็นทำเลที่ค่อนข้างสะดวกสำหรับคนไม่ใช้รถ เพราะมีวินมอไซค์อยู่ในระยะเดินถึงได้เพียง 150 m. หรือจะโบกเรียกหน้าโครงการก็พอจะมีรถสาธารณะผ่านอยู่บ้างนะครับ

ส่วนทางด่วนสามารถใช้ทางด่วนอุตราภิมุขเพื่อมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทางปทุมธานีหรือดอนเมืองได้ในระยะทางประมาณ 3.6 km. ซึ่งรถก็ค่อนข้างติดพอสมควร ต้องเผื่อเวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงนะ

และถ้าจะเข้าเมืองก็ต้องลงใต้มาทางแยกดินแดงบนถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อมาขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครในระยะทางประมาณ 5.3 km. สามารถเข้าเมืองไปทางพญาไท สาทร หรือบางนาได้

และอีกจุดหนึ่งคือทางพิเศษฉลองรัช อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5.6 km. ต้องใช้ทางลัดจากซอยลาดพร้าว 48 ไปออกถนนลาดพร้าว ซึ่งก็ถือว่าสะดวกอยู่ครับ

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะไปที่ Sale Gallery กันก่อนนะ ผมเริ่มต้นบนถนนพระราม 9 แล้วตัดเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าขึ้นเหนือมาเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสุทธิสารวินิจฉัย และเลี้ยวเข้าสู่ซอย 20 มิถุนา ก็จะเจอกับ Sale Gallery แล้วครับ

บนถนนพระราม 9 ผมจะตัดเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกที่แยกพระราม 9

บริเวณแยกพระราม 9 นี้มีห้างชื่อดังหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็น CBD ของกรุงเทพเลยทีเดียว จากตรงนี้ให้ขับตรงต่อไปยาวๆเลยครับ

บริเวณแยกเทียมร่วมมิตร ให้ขับตามป้ายสุทธิสาร-ลาดพร้าว เพื่อลงอุโมงค์ลอดใต้แยกห้วยขวางไปได้เลยครับ

ขับตรงต่อมาตามป้ายลาดพร้าว 64 ให้ใช้ช่องที่ 2 จากทางซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนสุทธิสารวินิจฉัยครับ

ตลอดเส้นทางของถนนสุทธิสารค่อนข้างคึกคักมากเลยทีเดียว ให้ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆจนถึง 3 แยกที่มีเซเว่นใหญ่ๆแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนซอย 20 มิถุนาได้เลย

เมื่อเลี้ยวมาแล้วขับมานิดเดียวจะเจอกับ Sale Gallery ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปได้เลย

หน้าตาของ Sale Gallery จะเป็นสีเทาเข้มเท่ๆแบบนี้ ซึ่งถ้าใครเคยได้มีโอกาสมาดู Asher ตัวก่อนหน้านี้คงจะจำกันได้นะครับ เพราะเป็น Sale Gallery ตัวเดินที่ใช้ร่วมกัน หาเจอได้ไม่ยากเลย

ภายในก็จะค่อนข้างโปร่งโล่งแบบนี้ มีชุดเก้าอี้ให้นั่งหลายชุด ด้านขวามีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ และมีห้องตัวอย่างให้ดูอยู่ทางซ้ายด้านใน

ต่อไปเราจะเดินทางไปยังที่ตั้งโครงการกันนะ เริ่มที่ Sale Gallery ให้ย้อนกลับไปที่ถนนสุทธิสารทางเดิมกับขามา แล้วเลี้ยวเข้าสู่ซอยพิบูลย์อุปถัมภ์ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยอำนวยวัฒน์ ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ อยู่ห่างจาก Sale Gallery เพียง 600 m. ถ้าใครจะลองเดินเท้าไปก็ได้นะ จะได้ลองสัมผัสบรรยากาศของทำเลจริงแถวนี้ดูว่าชอบหรือป่าว

ออกจาก Sale Gallery ให้เลี้ยวขวาย้อนกลับไปทางเดิมเลยครับ

ถึงถนนสุทธิสารแล้วก็เลี้ยวซ้ายไปอีกหน่อย

เมื่อถึง 3 แยกแรกก็ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยพิบูลย์อุปถัมภ์ได้เลยครับ

ภายในซอยพิบูลย์อุปถัมภ์ ช่วงต้นซอยจะเงียบๆหน่อยเพราะเป็นบ้านพักอาศัย แต่ตั้งแต่ช่วงกลางซอยไปจนถึงท้ายซอยจะค่อนข้างคึกคักมาก มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของสด

เมื่อขับมาจนสุดทางก็ให้เลี้ยวซ้ายไปทางซอยอำนวยวัฒน์ครับ

ขับตรงมาจนเกือบสุดทางประมาณ 150 m. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทรอบๆโครงการเป็นชุมชนแนวราบจึงค่อนข้างเงียบสงบ และมีอาคารพานิชย์กับคอนโดมิเนียมอยู่บ้าง สามารถสรุปได้ดังนี้ครับ

ทิศเหนือ เป็นถนนซอยอำนวยวัฒน์และเป็นที่ตั้งโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

ทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และเยื้องๆกันมีคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น

ทิศตะวันตก ติดกับอาคารสำนักงานทนายความสูง 4 ชั้น

ทิศตะวันออก ติดกับทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น

คราวนี้ลองมาเดินดูรอบๆโครงการกันบ้างนะครับว่าบรรยากาศเป็นยังไงบ้าง โดยด้านหน้าโครงการที่ติดถนนซอยอำนวยวัฒน์

เริ่มจากทางด้านขวาของโครงการกันก่อนนะ

ติดกับรั้วโครงการเป็นอาคารสำนักงานทนายความสูง 4 ชั้น และถัดมาจะเป็นบ้านพักอาศัย ซึ่งซอยตรงนี้จะมาสิ้นสุดที่บ้านนี้ และจะบังคับเลี้ยวขวาครับ

เมื่อเลี้ยวขวามาก็จะเจอกับ 2 ทางแยก โดยทางซ้ายเป็นทางเชื่อมต่อกับซอยสบายใจ สามารถไปออกถนนสุทธิสารได้อีกเส้นทางโดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถ และทางขวาก็เป็นทางลัดสามารถไปออกถนนลาดพร้าวได้ครับ

กลับมาที่หน้าโครงการ คราวนี้ลองไปทางซ้ายกันบ้างนะ

ติดกับรั้วโครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น และถัดมาเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น และถ้าเดินมาเรื่อยๆบริเวณปากซอยก็พอมีร้านตามสั่งซึ่งเป็นร้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ด้วย

ที่บริเวณ 3 แยกนี้จะมีวินมอไซค์ด้วยนะ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 150 m. ในระยะที่พอจะโบกเรียกจากหน้าโครงการได้เลย ส่วนถ้าจะไป MRT ก็มีค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาทเท่านั้น

อย่างที่ได้เกริ่นไปตอนเดินทางมาแล้วว่าบริเวณนี้ของซอยจะค่อนข้างคึกคักมาก งั้นเราลองไปดูภาพเต็มๆกันเลยว่าบรรยากาศจะเป็นยังไง มีอะไรบ้าง

สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และของสด มีทั้งเซเว่น CP Freshmart และร้านกาแฟร้านก๋วยเตี๋ยวเก๋ๆอีกด้วย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดนัดเมืองไทยภัทร ~ 1.1 km.
  • อาคารเมืองไทยประกันชีวิต ~ 1.5 km.
  • บุญถาวร รัชดาภิเษก ~ 1.7 km.
  • ตลาดห้วยขวาง ~ 2.9 km.
  • สำนักงานเขตห้วยขวาง ~ 2.9 km.
  • Big C Extra ลาดพร้าว ~ 3.9 km.
  • โรงพยาบาลเปาโล-โชคชัย 4 ~ 4 km.
  • Esplanade รัชดา ~ 4.3 km.
  • Big C Extra รัชดา ~ 4.6 km.
  • The Street รัชดา ~ 4.7 km.
  • Central พระราม 9 ~ 4.9 km.
  • โรงเรียนนานาชาติ เดอะรีเจ้นท์ ~ 5.5 km.
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ~ 5.7 km.
  • อาคาร AIA ~ 5.7 km.
  • Central ลาดพร้าว ~ 5.9 km.
  • Union Mall ~ 6.7 km.
  • โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 9.4 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ ASHER PRIVÉ สุทธิสาร เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 0-2-23 ไร่ ออกแบบสไตล์ Modern ตามแนวคิด “ชีวิตสังคมเมืองคนรุ่นใหม่” ผสมผสานเทคโนโลยีอย่าง Home Automation,  Auto Parking และ EV Charging เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดจากการอยู่อาศัย ตัวอาคารเน้นความเรียบง่าย ใช้โทนสีเขียวจากสวนแนวตั้ง และสีอาคารขาวกับเทา ที่ดูสบายตาไม่น่าเบื่อ เด่นที่จำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ตามชื่อโครงการ PRIVÉ ที่มาจากคำว่า Private นั่นเอง

โครงสร้างอาคารดูง่ายไม่ซับซ้อน ชั้นแรกเป็นลานจอดรถใต้อาคาร รวมถึงมีที่จอดแบบ Automatic Parking + ที่จอดแบบปกติ รวมสามารถจอดได้ 40%  โครงการนี้ไม่มี Lobby จะสามารถขึ้นลิฟต์ตรงไปด้านบนได้เลย ตั้งแต่ชั้น 2 – 7 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด และชั้น 8 จะเป็นชั้น Main Facilities ที่มีห้องพักอาศัยอยู่บางส่วนด้วย

มาดูแปลนกันบ้างครับ ทางเข้า-ออก โครงการมีทางเดียวเพื่อความปลอดภัย ที่ชั้นล่างจะมีแต่ที่จอดรถเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะมีที่จอดรถแบบปกติแล้ว ยังจะมีที่จอดแบบ EV Charging ไว้คอยบริการอีกด้วย แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่ระบุว่าจะมีกี่คันและอยู่ตำแหน่งไหนนะครับ และด้านในสุดไม่ใช่ทางลาดขึ้นไปชั้น 2 แต่เป็นช่องจอดรถแบบ Automatic Parking สามารถจอดรถได้สูงสุด 11 คัน และใช้เวลารอรถไม่เกิน 1 – 2 นาที เพราะจำนวนรถน้อยไม่เหมือนโครงการใหญ่ๆที่อาจรอนานกว่านิดหน่อยนั่นเอง โครงการนี้ไม่มี Lobby แต่จะมีที่นั่งคอยอยู่ด้านหน้าห้องนิติบุคคลสำหรับรับรองแขกที่มาติดต่อจากภายนอกได้ และมีโถงลิฟต์แยกอยู่ด้านนอก สามารถเข้าได้จากลานจอดรถโดยตรงไม่ต้องผ่าน Lobby หรือประตูหลายชั้น เน้นความสะดวกและรวดเร็ว แต่ปลอดภัยด้วยลิฟต์ล็อคชั้น ต้องใช้ Key Card เท่านั้นจึงจะสามารถขึ้นอาคารได้

แปลนชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็ม Floor อาคารเป็นรูปตัว I ห้องหันหน้าออกไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกเท่านั้น เลือกได้ไม่ยากเลยครับ วิวทั้ง 2 ฝั่งได้วิวเปิดโล่งเหมือนกันเพราะด้านข้างเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น จะมีโดนบังนิดหน่อยแค่ตรงทิศตะวันออกด้านหน้าโครงการจะเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น และทิศตะวันออกด้านหลังมีอาคารสำนักงานทนายความสูง 4 ชั้นเท่านั้น แต่โครงการก็ได้คำนึงถึงเรื่องนี้มาแล้วอย่างดีโดยการทำพื้นที่ตรงส่วนที่อาจโดนบล็อควิวให้กลายเป็นลิฟต์ บันไดหนีไฟ และลิฟต์จอดรถนั่นเองครับ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าถ้าไม่ชอบแดดส่องร้อนๆเข้ามาในห้องตอนกลางวันก็ควรจะเลือกทิศตะวันออก แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องแดดหรือเป็นคนไม่ค่อยอยู่บ้านตอนกลางวันอยู่แล้วก็สามารถเลือกทิศตะวันตกได้ครับ

โถงลิฟต์จะอยู่ค่อยไปทางซ้ายด้านหน้าโครงการ อาจทำให้ห้องด้านหลังต้องเดินไกลกว่าเพื่อนนิดหน่อยแต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะไม่ค่อยมีเพื่อนบ้านเดินผ่านรบกวนมากนัก มีลิฟต์แค่ตัวเดียว อัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 79 : 1 ถือว่าหนาแน่นน้อยมาก ใช้ได้งานสะดวกครับ มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง มีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น และจากแปลนที่เห็นในส่วนพื้นที่จอดรถจะสามารถจอดรถได้ชั้นละ 2 คันครับ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 2 – 5

แปลนชั้น 3 – 5 จะคล้ายกับแปลนชั้น 2 แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงห้องสีฟ้าในตำแหน่งที่ 12 จะมีส่วนยื่นออกมาอีกเล็กน้อย ในขณะที่ชั้นก่อนหน้านี้จะไม่มี รวมไปถึงมีกันสาดของชั้นแรกที่มองเห็นจากชั้น 2 จะหายไป และบันไดหนีไฟตรงลิฟต์จอดรถก็จะสั้นลงด้วยครับ

แปลนชั้น 6 เริ่มเป็นชั้นพักอาศัยเต็ม Floor ของจริงเพราะจะไม่มีส่วนจอดรถด้านหลังแล้ว และไม่ต้องกังวลว่าห้องส่วนนี้จะโดนบล็อควิวจากอาคารสำนักงานด้านข้างเพราะเป็นชั้นที่อยู่สูงขั้นมามากกว่าอาคารเพื่อนบ้านแล้วครับ โดยในตำแหน่งนี้จะได้ห้องพักอาศัยเพิ่มขึ้นอีก 2 ยูนิต และห้องทางทิศตะวันตกจะมีบางยูนิตที่เปลี่ยนจาก 1 Bedroom เป็น 1 Bedroom Plus เพิ่มขึ้นมา 2 ยูนิต จึงทำให้จำนวนห้องพักอาศัยในชั้นนี้เพิ่มขึ้นจาก 12 ยูนิตมาเป็น 13 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการแล้วด้วยนะ

แปลนชั้น 7 ที่ชั้นนี้ห้องทางทิศตะวันออกจะเปลี่ยนเป็น 1 Bedroom Plus ทั้งหมด และห้องทางด้านหน้าจะหายไป เปลี่ยนเป็น Sky Garden ที่สามารถออกไปนั่งชมวิวได้แทนครับ จึงทำให้ห้องพักอาศัยในชั้นนี้เหลือเพียง 11 ยูนิตเท่านั้น

สุดท้ายคือแปลนชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้น Main Facilities ของโครงการ และมีห้องพักอาศัยร่วมด้วย มีการกั้นประตูแยกส่วนพักอาศัยออกจากส่วน Facilities เพื่อความเป็นส่วนตัว คนที่เลือกชั้นนี้อาจต้องเป็นคนชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางและชอบเข้าสังคมมากๆ ส่วนกลางที่ชั้นนี้ก็ง่ายๆครับ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ Fitness และ Co-Working Space

มาดูภาพบรรยากาศจำลองกันนะครับ Facilities ของโครงการจะอยู่ชั้นบนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ Sky Garden ทางด้านหน้าโครงการที่อยู่ที่ชั้น 7 และ Swimming Pool กับ Fitness อยู่ที่ชั้น 8 ดูแล้วเรียบง่าย น้อยๆ แต่เน้นครบและจำเป็นต่อการใช้งานมากกว่าครับ

จุดเด่นของ Facilities โครงการนี้คือ Co-Working Space ภายในจัดบรรยากาศได้น่าใช้งานมากๆ และมีฟังก์ชันแยกย่อยภายในอีกอย่าง Entertainment area และ Library corner ก็รวมอยู่ในนี้ด้วยครับ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน Target หลักของโครงการมากๆ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Mailbox
  • สระว่ายน้ำ Sky Infinity-Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 3.6 x 8 m. ลึก 1.2 m.
  • Jacuzzi Pool
  • ห้องออกกำลังกาย Sky Fitness
  • ห้อง Co-working Space
  • Library Corner
  • Entertainment Area
  • Sky Garden
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์โดยสารทั้งโครงการ 1 : 79
  • ที่จอดรถประมาณ 40%
  • Automatic car parking
  • EV Charger Station
  • ระบบ Security Service Triple Security Point System ( Parking gate/CCTV/Key card access Direct Floor)

แบบห้อง

โครงการมีแบบห้องให้เลือก 2 แบบ ขายแบบ Partly Furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหมดจากที่เห็นในห้อง ประกอบด้วย

  • 1 Bedroom 26 – 28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 39 – 40 ตร.ม.

ซึ่งที่ Sale Gallery จะมีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบ คือ 1 Bedroom จะเป็นอย่างไรลองไปชมกันเลยครับ

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 – 28 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับส่วนครัวก่อน และได้เป็นครัวเปิดจึงอาจไม่เหมาะจะทำอาคารจริงจังมากนัก แต่ก็มีระยะพอจะกั้นผนังได้บ้างนะถ้าไม่ซีเรียสเรื่องความสวยงามที่ผนังจะยื่นเลยผนังห้องน้ำเข้าไปในห้องสัก 5 – 10 cm. ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าเช่นกัน ภายในแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน เข้าเข้ามาภายในห้องเป็นห้องนั่งเล่นที่ใช้งานร่วมกับโต๊ะทานอาการ กั้นเป็นแนวยาวแบ่งครึ่งห้องระหว่างพื้นที่ส่วนใช้งานกับพื้นที่ส่วนพักผ่อนออกเป็นบนกับล่าง จากปกติที่มักจะเห็ยการแบ่งออกเป็นซ้ายกับขวามากกว่า ส่วนด้านในสุดเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเป็นแนวยาวตลอดความกว้างของห้อง ภายในค่อนข้างกว้างขวาง มีพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก มีมุมอเนกประสงค์ข้างหน้าต่างและมีประตูระเบียงที่เปิดออกไปใช้งานภายนอกได้ด้วย ห้องแบบนี้เหมาะกับการพักอาศัย 1 – 2 คน เป็นคนที่เน้นการใช้งานพื้นที่ส่วนพักผ่อน ชอบความโปร่งโล่งเป็นสัดส่วน และมีมุมส่วนตัวให้ได้จัดสรรตาม Lifestyle ของตัวเองได้ด้วย

เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับพื้นที่โถงทางเดินเชื่อมต่อตั้งแต่หน้าประตูห้องไปจนถึงระเบียงด้านในสุดเลยครับ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดมากไปนักทั้งๆที่ไม่ใช่พื้นที่เปิดโล่งมากนัก พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิล ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี  และมีความสูงจกพื้นถึงฝ้า 2.4 m.

ห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูมาให้ดูนะ แต่จะให้เป็นประตูไม้บานทึบและติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale ที่มีฟังก์ชัน 3 อย่าง คือสามารถไขเปิดแบบธรรมดา กดรหัสผ่าน หรือใช้ Key Card ก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ที่สามารถปลดล็อคได้จากแอ๊พพลิเคชั่นได้อีกด้วย แต่ตัวอุปกรณ์เสริมภายในต้องหาซื้อมาติดเองนะครับ

(Update 15/10/62)

ถ่ายรูปย้อนกลับมาหน้าห้องส่วนแรกจะเป็นห้องครัวแบบเปิดไม่มีผนังกั้นนะ

ระยะทำครัวกว้าง 1.4 m. สามารถใช้งานได้สะดวก พื้นกระเบื้องยางไวนิลสามารถทนความชื้นและเช็ดทำความสะอาดได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต

ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามในห้องตัวอย่างเลยครับ ยกเว้นไมโครเวฟและไฟซ่อนบนชั้นเราจะไม่ได้นะ ภายในตู้สามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร Hob&Hood ของ MEX  เป็นแบบดูดอากาศไปสู่ภายนอก ใช้งานสะดวกไม่ต้องคอยเปลี่ยนไส้กรองแบบเครื่องดูดภายใน

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ซึ่งทนความร้อนกับความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดี อ่างล้างจานขนาด 30 x 33 cm. ลึก 18 cm. และมีพื้นที่เหลือตรงกลางกว้างประมาณ 40 cm. สามารถใช้งาน ทำอาหาร หรือวางจานชามได้สะดวก ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้เรียบร้อยดี ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย บานประตูติดตั้ง soft close และติดโช๊คที่ลิ้นชักมาให้ช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี

ติดกันทางด้านซ้ายเป็นที่วางตู้เย็นขนาด 70 x 70 cm. สามารถใช้ตู้เย็นทรงสูงได้ถ้าไม่มีตู้แขวนด้านบน แต่เราควรเลือกบานตู้ที่เปิดไปในทิศทางที่เหมาะสมกับห้องเรานะครับ จากห้องตัวอย่างความจริงควรเปิดบานตู้ไปอีกด้านมากกว่า เพราะจะได้ใช้งานร่วมกับครัวได้สะดวก

ฝั่งตรงข้ามกับครัวเป็นตู้และห้องน้ำครับ

โดยตู้หน้าห้องนี้ทางโครงการจะ Built in มาให้เป็นแบบนี้เลย ตู้สูงจากพื้นถึงฝ้าทำให้ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่แนวตั้งได้เต็มความสูง ชั้นบนๆก็เก็บของแบบมีหน้าบานปิดเรียบร้อย ช่องตรงกลางแบบไม่มีหน้าบานไว้วางของที่ต้องหยิบใช้ก่อนออกจากบ้านบ่อยๆได้ ส่วนตู้ด้านล่างออกแบบเป็นตู้เก็บรองเท้าที่มีช่องระบายอากาศไว้ให้เรียบร้อยดีครับ

ติดกันเป็นห้องน้ำ ภายในแยกฟังก์ชันการใช้งานส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน และได้ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องนี้ยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง

พื้นที่ส่วนแห้งขนาดประมาณ 1.9 x 0.75 m. แยกฟังก์ชันออกซ้ายกับขวาแบบมาตรฐานทั่วไป สามารถใช้งานได้สะดวก

เริ่มจากทางซ้ายของห้องเป็นอ่างล้างหน้าของ Mogen ขนาดประมาณ 46 x 46 cm. มีพื้นที่ขอบด้านหลังสามารถวางของได้เล็กน้อย และที่ด้านล่างยัง Built ตู้แบบมีหน้าบานปิดมาให้เรียบร้อยดี ซึ่งมักจะไม่ค่อยมีให้เห็นในคอนโดระดับราคานี้ สามารถเก็บของใช้ที่จำเป็นในห้องน้ำได้ครับ ส่วนชั้นวางของด้านบนทางโครงการก็ให้มาด้วยนะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งสายชำระด้านซ้ายมาให้ ส่วนอีกฝั่งก็จะมีที่แขวนกระดาษชำระให้ด้วย (ห้องตัวอย่างช่างยังไม่ได้ติดมาให้ดูครับ) ส่วนด้านบนก็มีราวแขวนผ้าสแตนเลส ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.75 x 1.5 m. สามารถใช้งานได้สะดวก มีขอบธรณีสูง 5 cm. ช่วยกันน้ำไหลซึมออกมาส่วนแห้งด้านนอกได้ ส่วนประตูกระจกจะสามารถเปิดได้กว้างประมาณนี้ ไม่ได้เปิดไปสุดจนกระแทกกับผนังครับ

ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass มาให้พร้อมใช้งาน มีที่เปิดประตูเป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัวได้

ภายในติดตั้ง Hand Shower แสตนเลส โดยที่เสาสามารถปรับความสูง-ต่ำได้ หัวฝักบัวเป็นพลาสติกที่ปรับรูปแบบสายน้ำได้ ก๊อกน้ำเป็นแบบก้านโยกใช้งานสะดวก สามารถปรับความแรงน้ำได้ และมีที่วางสบู่ติดตั้งมาให้  รวมถึงที่ผนังมีการเจาะช่องทำเป็นที่วางสบู่มาให้ด้วยครับ แต่ถ้ามีของเยอะหรือวางไม่พอก็สามารถชั้นวางของกั้นเพิ่มเติมได้ ส่วนด้านบนของจริงจะมี Junction box ไว้ต่อเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 ดวง และมีพัดลมดูดอากาศให้ 1 ตัว

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งโซฟาจะหลบอยู่ด้านข้างห้องน้ำแบบนี้ ซึ่งโซฟาตัวนี้โครงการจะแถมมาให้ด้วย เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ด้านล่างมีลิ้นชักสามารถใช้เก็บของได้ พร้อมด้วยโต๊ะอเนกประสงค์และเก้าอี้แบบในห้องตัวอย่างนี้ซึ่งสามารถใช้เป็นโต๊ะทานอาหารได้ ถ้าต้องการนั่งทาน 2 คน อีกคนจะต้องนั่งบนโซฟาแทน เป็นการประหยัดพื้นที่และใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้นั่งทำงานและดูทีวีไปด้วยได้ในตัว

ข้อดีของแบบห้องนี้คือจะได้ระยะดูทีวีกว้างถึง 3.6 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆขนาด 50 – 60 นิ้ว ได้สบายๆ และถ้าเราติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังก็จะหันทีวีมาทางห้องนอน เพื่อนอนดูวีทีจากบนเตียงได้อีกด้วย

ฝั่งตรงข้ามทางโครงการ Built ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งของจริงเราจะไม่ได้นะครับ ถ้าใครอยากใช้งานให้คุ้มค่าหรือมีของเก็บเยอะก็สามารถ Built เต็มผนังเลยก็ได้ ส่วนเครื่องปรับอากาศด้านบนนั้นทางโครงการจะไม่ได้ให้นะครับ จะให้เฉพาะในส่วนของห้องนอนเท่านั้น แต่ก็จะมีการเดินท่องานระบบทิ้งไว้ให้ เป็นแนวทางสามารถติดตั้งในส่วนตรงนี้เพิ่มเติมแยกงานใช้งานออกจากห้องนอนได้ เพื่อที่เครื่องปรับอากาศในห้องนอนจะได้ไม่ทำงานหนักจนเกินไป

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ส่วนไฟดาวน์ไลท์จะได้แบบฝังฝ้าตรงส่วนห้องนั่งเล่น 2 ดวง และตรงส่วนครัวอีก 1 ดวง ตามไฟที่ผมเปิดให้ดูในภาพเลยครับ นอกนั้นเป็นไฟประดับเท่านั้นนะ และของจริงจะมีอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยติดตั้งมาให้ด้วย

ส่วนต่อมาจะมีประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนกั้นแยก ทำให้เกิดความเป็นสัดส่วนแต่โปร่งโล่งดูเชื่อมถึงกันได้ยาวตลอดความกว้างของห้องเลยครับ โดยที่ถึงแม้ด้านบนจะมีขอบผนังกว้าง 40 cm. อยู่ แต่ด้วยความยาวของประตูกระจกของห้องจึงไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดมากนัก และความกว้างของประตูเมื่อเปิดออกจนสุดจะกว้างถึง 2.2 m. เลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถติดผ้าม่านที่ผนังด้านบนจากในห้องได้ครับ

บานกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีดำ กระจกลามิเนตแบบใสธรรมดา และที่ขอบประตูด้านในมีแถบผ้ากำมะหยี่ที่ช่วยกันฝุ่น กลิ่น เสียง และแมลงได้บ้างครับ

ต่อมาด้านในสุดเป็นห้องนอน ซึ่งค่อนข้างกว้างและดูโปร่งโล่งเอามากๆ สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายและลงตัวโดยรอบเตียงนอนขนาด 5 ฟุตที่อยู่เป็นศูนย์กลางห้องได้

พื้นที่ข้างเตียงทางขวาเมื่อปิดประตูกระจกบานเลื่อนไปแล้วจะกว้างประมาณ 40 cm. สามารถลุกจากเตียงหรือเดินลงได้แบบพอดีตัว

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงกว้าง 1 m. สามารถเดินผ่านหรือใช้งานได้สะดวก

ปลายเตียงจัดเป็นโต๊ะแต่งหน้ามาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ทางโครงการไม่ได้แถมให้นะ จัดไว้ให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้นซึ่งถ้าไม่ใช้ฟังก์ชันนี้ก็สามารถทำเป็นชั้นวางทีวีในห้องอีกสักชุดก็ได้ถ้าอยากดูทีวีแบบจริงจัง หรือจะทำเป็นตู้เก็บของแบบจัดเต็มและสามารถขยายตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีกก็ได้ถ้าเสื้อเยอะ เรียกได้ว่ามีพื้นที่ยืดหยุ่นเหลือให้เราได้เลือกใช้งานเหมาะกับ Lifestyle ของแต่ละคน ส่วนเครื่องปรับอากาศด้านบนก็จะติดมาให้ตามตำแหน่งนี้ เป็นของ Daikin ขนาด 9,000 BTU

ส่วนตู้เสื้อผ้าทางขวานี้เราจะได้แบบนี้เลยครับ หน้าบานตู้ด้านหนึ่งเป็นไม้บานทึบส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นกระจกเงาแบบเต็มบานที่เอาไว้ใช้ส่องเวลาแต่งตัวหน้าตู้ได้ ส่วนภายในก็สามารถเก็บของได้พอสมควร

ส่วนทางด้านซ้างของเตียงจะมีพื้นที่เว้าเข้าไปบริเวณข้างหน้าต่าง สามาถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ โดยที่โต๊ะหรือตู้เหล่านี้ทางโครงการไม่ได้แถมมาให้นะครับ แต่จัดมาให้ดูเป็นไอเดียว่าเราสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะอเนกประสงค์ข้างหน้าต่างได้ เพราะได้แสงธรรมชาติจากภายนอกและ Take View ได้ด้วย หรือเราจะเอาชุดโซฟาหรือ Arm Chair ตัวเก่งเก๋ๆมาวางข้างเตียงไว้นั่งพักผ่อนหรือนอนอ่านหนังสือก็เหมาะไปอีกแบบ ส่วนนี้แล้วแต่ Lifestyle ส่วนตัวแต่ละคนเลยครับว่าจะสร้างสรรค์มันออกมาเป็นยังไง

โดยหน้าต่างชุดนี้จะสามารถเปิดบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศได้ด้วยนะ และสามารถเปิดออกได้กว้างแบบนี้เลยครับ

ส่วนเตียงทางฝั่งนี้จะสามารถเปิดลิ้นชักเพื่อเก็บของใต้เตียงได้ด้วยครับ ถือว่าเป็นการใช้พื้นที่ใต้เตียงได้เกิดประโยชน์ดี

คราวนี้มาดูภาพด้านซ้ายเต็มๆกัน ซึ่งส่วนนี้จะเป็นผนังกระจกเกือบทั้งหมดที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาและทำให้ห้องนี้โปร่งโล่งไม่อึดอัด ถือว่าช่วยได้เยอะมากสำหรับห้องที่มีพื้นที่เพียง 26 – 28 ตารางเมตร เพราะช่วยทำให้รู้สึกปร่งโล่งมากกว่าเดิมได้

ฝ้าเพดานในส่วนห้องนอนจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 3 ดวง และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยด้วย

ส่วนสุดท้ายคือระเบียงห้องจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ และกระจกลามิเนตใส ภายนอกระเบียงมีขนาดพื้นที่ใช้งาน 1.5 x 0.9 m. ได้ราวกันตกเหล็กสูง 1.1 m. และแขวน Condensing unit ไว้ด้านบน ติดกริลแอร์ดันลมร้อนไปด้านนอก ซึ่งระเบียงจะได้ไม่ร้อนสามารถออกไปใช้งานได้ นอกจากนั้นทางโครงการจะติดตั้งก๊อกน้ำและเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้ด้วยนะ (แต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ทำมาให้ดูครับ)

สวิตซ์และปลั๊กไฟในห้องทั้งหมดจะเป็นห้อง Siemens หน้าตาและสีแบบนี้

สุดท้ายก่อนจากกันผมมีหน้าตาระบบ Home Autometion มาฝากกันด้วย ซึ่งสามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเปิด-ปิดไฟในห้องที่สามารถกำหนดจุดเป็นดวงได้ หรือทั้งห้องก็ได้ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และสามารถสั่งเปิดประตู Digital Door Lock ได้จากในนี้อีกด้วย ส่วนรายละเอียดและวิธีการใช้งานหรือขั้นตอนการติดตั้งต่างๆสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากทางโครงการเลยครับ

(Update 15/10/62)

ส่วนแบบห้องพักอื่นๆมีดังต่อไปนี้ครับ

Type B เป็นห้อง 1 Bedroom อีกแบบหนึ่งที่แตกต่างจากห้องตัวอย่าง คือเมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Foyer หน้าห้องก่อน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นภายในห้องทั้งหมด ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น ฟังก์ชันแรกที่เจอยังเป็นครัวเปิดที่ไม่สามารถกั้นห้องได้แล้วเพราะผนังอีกด้านเป็นกระจกแบบ Bay Window ที่มีโต๊ะทานอาหารแบบหันหน้าออกไป ทำให้สามารถ Take View ภายนอกได้ ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งจะมีระยะการดูทีวีแคบกว่าห้องแรก แต่ยังอยู่ในตำแหน่งฟังก์ชันคงเดิมก่อนจะเข้าสู่ห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเคย ภายในห้องนอนมีฟังก์ชันเหมือนห้องตัวอย่าง แต่จะต่างกันตรงห้องน้ำจะไม่ได้อยู่หน้าห้องแล้ว แต่จะเข้าได้จากทางห้องนอน เหมาะกับคนชอบเข้าห้องน้ำบ่อยๆ หรืออาบน้ำเสร็จก็เดินมาแต่งตัวปลายเตียงใกล้ๆไม่ต้องเดินไกล ห้องนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน เน้นความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น และความสะดวกในการใช้งานห้องน้ำ แลกมากับห้องนั่งเล่นที่มีระยะดูทีวีที่แคบลงครับ

แบบห้องสุดท้ายคือ 1 Bedroom Plus ขนาด 39 – 40 ตารางเมตร ห้อง Type นี้จะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ ซึ่งจะมีฟังก์ชันเหมือนกันทุกอย่าง แตกต่างกันเล็กน้อยเช่น บางห้องได้ห้องครัวใหญ่ บางห้องมีส่วนยื่นออกไปด้านนอกเพิ่ม หรือบางห้องมีช่องหน้าต่างที่ห้องนั่งเล่นเพราะเป็นห้องมุมแต่บางห้องไม่มี เป็นต้น

เมื่อเข้ามาภายในส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น และติดกันจะเป็นห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านหน้าของห้อง ถัดเข้ามาคือห้องอเนกประสงค์ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในสามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กเพิ่มอีกห้องได้ ถัดเข้ามาด้านในด้านหลังโซฟาเป็นห้องครัว คราวนี้ได้เป็นครัวปิด สามารถทำอาหารจริงจังได้ ติดกับพื้นที่ระเบียงสามารถเปิดประตูระบายอากาศได้โดยตรง โดยการที่ทั้งห้องครัวและห้องอเนกประสงค์นี้กั้นด้วยประตูกระจกทั้งคู่จึงทำให้ห้องนั่งเล่นรู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัด และกว้างขวางมากกว่าเดิม ส่วนสุดท้ายเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัวแยกออกไปอย่างเป็นสัดส่วน ห้องแบบนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 2 – 3 คน ชอบการจัดแบ่งฟังก์ชันอย่างเป็นสัดส่วน มีความเป็นส่วนตัว ทำอาหารได้จริงจัง และอาจต้องการห้องนอนมากกว่า 1 ห้อง เผื่อแขกมากพักหรืออยู่แบบพี่น้อง มีลูกน้อยก็ได้ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 October 2018

  • 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 208 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.69 ล้านบาท หรือ 65,000 บาท/ตร.ม. (โปรโมชั่น)
  • 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 203 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.968 ล้านบาท หรือ 75,692 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ชั้น 3 ห้อง 312 เนื้อที่ 40 ตร.ม. ราคา 3.06 ล้านบาท หรือ 76,500 บาท/ตร.ม.

  • Partly Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 15,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล – โครงการ ASHER PRIVÉ สุทธิสาร ตั้งอยู่ในซอยอำนวยวัฒน์ ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อใช้เป็นทางลัดเข้า-ออกได้ทั้งถนนสุทธิสารวินิจฉัยที่เป็นเส้นทางหลัก และสามารถไปออกถนนลาดพร้าวโดยผ่านทางซอยลาดพร้าว 48 ได้ โดยถนนสุทธิสารเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนวิภาวดีรังสิต และมาสิ้นสุดที่ถนนพหลโยธินได้ สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกเนื่องจากมีเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนหลายเส้น ทำเลโดยรอบเป็นชุมชนเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่ก็มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆภายในซอยพิบูลย์อุปถัมภ์ ถ้าจะไปห้างใหญ่ๆก็มีทั้งย่านพระราม 9 และห้าแยกลาดพร้าวที่อยู่ไม่ไกล เดินทางไปสะดวกทั้งคู่ครับ

การเดินทางโดยใช้รถ – ทำเลโครงการเป็นทำเลทางลัดเลี่ยงรถติดได้หลายเส้นทาง สามารถไปออกถนนรัชดาภิเษกหรือลัดไปออกถนนลาดพร้าวก็ได้ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับซอย 20 มิถุนา ที่ถือเป็นซอยทางลัดหลักของย่านที่ใช้เชื่อมต่อไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพระราม 9 ถนนประชาอุทิศ ไปออกถนนเลียบด่วนรามอินทราได้ง่ายๆ ทางด่วนก็มีให้เลือกใช้ทั้งทางยกระดับอุตราภิมุก ดอนเมืองโทลเวย์ และทางพิเศษฉลองรัช ในระยะทางประมาณ 3.6 – 5.6 km. แต่ก็อาจรถติดอยู่สักหน่อยเพราะเป็นทำเลในเมืองเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่จอดรถของโครงการมี 40% ถือว่าน้อยไปหน่อยครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ค่อนข้างสะดวกนะ ถึงแม้ที่ตั้งโครงการจะดูเหมือนเป็นทำเลในซอย แต่ก็ไม่ใช่ซอยตันแล้วยังเป็นทำเลซอยลัดที่มีรถสาธารณะผ่านอยู่ตลอดเวลา สามารถเรียกได้จากหน้าโครงการ มีพี่วินมอไซค์อยู่ปากซอยเพียง 150 m. และอยู่ใกล้ MRT สุทธิสาร 1.1 – 1.3 km. อาจไม่ใช่ระยะเดิน แต่ก็เรียกรถไปส่งไม่ยากครับ

การออกแบบโครงการ – โครงการออกแบบสไตล์ Modern จุดเด่นอยู่ที่จำนวนห้องพักที่น้อยเพียง 79 ยูนิต และมีจำนวนห้องพักอาศัยต่อชั้นสูงสุดเพียง 13 ยูนิต จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อนบ้านในโครงการน้อย ตัวโครงการภายนอกใช้โทนสีขาว เทา และสีเขียวจาก Green Wall ที่ผนังอาคารทำให้ดูสบายตามากขึ้น และตัวโครงการเองก็นำเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มาใช้ในโครงการมากขึ้น ทั้งระบบ Home Automation, Auto Parking และ EV Charging ชอบตรงที่วางผังอาคารโดยคำนึงถึงบริบทโดยรอบ นำจุดที่อาจโดนบล็อควิวมาใช้เป็นล่วนลิฟต์ บันไดหนีไฟ และชั้นจอดรถ ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดี ช่วยให้ลูกบ้านไม่โดนบล็อควิว มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้ แต่ในชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นที่มีส่วนกลาง และห้องพักอาศัย แต่ไม่ได้มีการกั้นประตูแยกส่วนพักอาศัยออกจากส่วน Facilities จึงอาจทำให้ห้องพักชั้นนี้ขาดความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย

การออกแบบห้องพัก – ถือว่าทำได้ดี ฟังก์ชันแยกออกเป็นสัดส่วนโดยการวางฟังก์ชันที่ทำให้ได้ห้องหน้ากว้างเต็มห้อง ไม่ต้องเสียระยะให้กับห้องครัว ห้องน้ำ หรือระเบียง เหมือนแบบห้องทั่วไป เน้นการกั้นฟังก์ชันด้วยประตูกระจกที่จะทำให้ห้องดูโปร่งโล่งแต่ได้ความเป็นสัดส่วน และอีกอย่างที่ชอบคือมีมุมอเนกประสงค์ให้ได้แต่งเพิ่มตาม Lifestyle ของผู้พักอาศัย ในขนาดพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง โดยโครงการนี้จะตอบโจทย์เรื่องการจัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี แต่อาจต้องมีงบประมาณเผื่อไว้ในการแต่งห้องเพิ่มเติมเองด้วยนะครับ

วัสดุ – ถือว่าให้มาค่อนข้างดีนะ ประตูติด Digital Door Lock ที่ใช้งานร่วมกับ Home Automation ในห้องได้ด้วย (Update 15/10/62) พื้นกระเบื้องยางไวนิล เคาร์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ Hob&Hood ของ Mex อ่างล้างหน้าของ Mogen พร้อม Built ตู้เก็บของด้านล่างมาให้ด้วย โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass บานกรอบประตูและหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสธรรมดา ชุดโซฟาและเตียงที่ให้มามีฟังก์ชันลิ้นชักเก็บของได้

สาธารณูปโภค – ดูเหมือนจะให้มาน้อย แต่ถ้าเทียบต่อจำนวนยูนิตแล้วก็ถือว่าเหมาะสมแล้วครับ Facilities ส่วนใหญ่เน้นประโยชน์การใช้งานจริงตรงตาม Target หลักของโครงการที่เป็นคนรุ่นใหม่วัยทำงาน และส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้นบน ประกอบด้วย Swimming Pool, Jacuzzi, Fitness, Co-Working Space, Entertainment area และ Library area

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 79,000 บาท/ตร.ม., 30 October 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลในซอย ได้ความสงบในการอยู่อาศัย มีความอุดมสมบูรณ์หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ทำเลซอยลัด เข้าออกได้หลายทาง ที่จอดรถน้อย
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ถนนด้านหน้ามีรถสาธารณะวิ่งผ่าน มีวินมอไซค์ใกล้ๆ ห่าง MRT 1.3 กม. ต้องต่อรถ
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้มาดี มีระบบ Home Automation ขายแบบ Partly Furnished ต้องแต่งเพิ่ม
  • แบบ 7.75/10 – มีความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย เลี่ยงการบล็อควิว ห้องกว้างมีพื้นที่ส่วนตัว
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – ให้มาหลักๆครบ เพียงพอต่อการใช้งาน

  • MAIN CLASS
  • 7.5 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ ASHER PRIVÉ สุทธิสาร เหมาะกับคนที่ทำงานในเมืองย่านรัชดา ห้วยขวาง หรือลาดพร้าว เน้นความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย ทำเลเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย หาของกินไม่ยาก เน้นห้องกว้างโปร่งโล่งเป็นสัดส่วน ไม่เน้นส่วนกลาง ได้ระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้องมีงบสำหรับแต่งห้องเพิ่ม ถ้าจะซื้อโครงการนี้ต้องมีงบประมาณ 1.69 – 3.8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 27,000 บาท/เดือน