มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS หมอชิต (N8) และ MRT สวนจตุจักร (M3)…

BTS หมอชิต…เป็นสถานีปลายทางฝั่งเหนือของ รถไฟฟ้าสายสุขุมวิท (สีเขียวอ่อน) อยู่ถัดจากสถานี BTS สะพานควาย ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้ามหานคร หรือ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สวนจตุจักร

MRT สวนจตุจักร…เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล อยู่ระหว่างสถานีพหลโยธิน และสถานีกำแพงเพชร

ที่ตั้งของทั้งสองสถานีอยู่บนถนนพหลโยธิน ติดกับสวนจตุจักร ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ยาวจากแยกกำแพงเพชรไปถึงห้าแยกลาดพร้าว นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

เพิ่มเติมข้อมูลสถานีใกล้เคียงได้ที่ มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สะพานควาย (N7)

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ

  • MRT จตุจักร
  • ลานจอดรถ สำหรับคนใช้รถไฟฟ้า (Park & Ride)
  • สวนจตุจักร
  • สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
  • สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
  • ตลาดนัดสวนจตุจักร
  • กรมการขนส่งทางบก
  • สถาบันการบินพลเรือน
  • สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
  • อาคารหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว

แผนที่สถานี หมอชิต (คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)

แผนที่สถานีสวนจตุจักร (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)

การคมนาคม

การที่สถานีขนส่ง “หมอชิต” ต้องมาตั้งอยู่บริเวณนี้มันมีเหตุผลครับ เพราะว่าถนนพหลโยธินตรงนี้เหมือนเป็นจุดสุดท้ายของบริเวณที่เป็น “กรุงเทพชั้นใน” ทางด้านทิศเหนือนั่นเอง ซึ่งเป็นทำเลที่ดี เหมาะแก่การคมนาคมจากกรุงเทพออกสู่ต่างจังหวัดและปริมณฑล (เหนือและอีสาน) เป็นอย่างมาก และยิ่งไปกว่านั้น ยังอยู่ติดกับสถานีรถไฟบางซื่อ (และพหลโยธิน) ด้วยครับ

ยังไม่พอ เพิ่มความร้อนแรงของการคมนาคมเข้าไปอีก ด้วยความที่ตรงนี้เป็นจุดที่ทางด่วนขั้นที่ 2 (แจ้งวัฒนะ) เว้าเข้ามาอยู่ใกล้ถนนวิภาวดีรังสิตมากที่สุด และอยู่ติดกับห้าแยกลาดพร้าว ทำให้การเลือกใช้เส้นทางตรงนี้ทำได้หลากหลายมาก จะเข้าเมือง ออกเมือง ทำได้หมด ถนนลาดพร้าวยังเป็นถนนเส้นสำคัญ ที่เชื่อมใจกลางกรุงเทพ ไปยังฝั่งตะวันออกของเมืองหลวง ไปทางบางกะปิได้ด้วย

ถนนวิภาวดีรังสิตที่มีทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ยังเป็นเส้นทางสำคัญที่ใช้มุ่งหน้าไป สนามบินดอนเมือง ผ่านแยกลำลูกกา และต่อไปถึงปทุมธานี ไปลงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เลยด้วย ถ้าใช้วิภาวดีเข้าตัวเมืองก็จะวิ่งไปถึงทางด่วนดินแดง แล้วจะไปไหนต่อก็ได้หมด พระราม 9, บางนา, ดาวคะนอง, ยมราช, พระราม 4 ฯลฯ

ระบบขนส่งสาธารณะที่สถานีนี้ ไม่ต้องห่วงเลย อยากนั่งรถอะไรมีให้หมด รถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง สามล้อยังมีเลย แต่ดูสิ จอดกันมั่วซั่วเลย ภาพนี้วันเสาร์นะครับ ตลาดนัดเปิด แต่อย่าให้ฝนตกนะ ภาพนี้จะมีแต่ถนนโล่งๆ รถแท็กซี่จอดเรียงกันขนาดนี้ แต่มันก็ไม่พอกับจำนวนผู้โดยสารหรอกครับ

แถวนี้รถแท็กซี่ รถตู้ ชอบแทรก จอดรับผู้โดยสารกันมั่วซั่ว จนรถเมล์วิ่งชิดเลนในไม่ได้ พอทำบ่อยๆเข้า ตำรวจก็เลยต้องเอาแผงมากั้นแบบนี้แหละครับ แต่ก็ยังชอบมีรถแท็กซี่ตัวมั่ว วิ่งมาจอดอยู่ตรงข้างๆ ประมาณเลน 2-3 ทำรถติดกันประจำ

สถานีขนส่ง “หมอชิต 2”

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมีคำว่า “หมอชิต” กับ “หมอชิต 2” คือแต่เดิม พื้นที่บริเวณที่เรียกว่าหมอชิตปัจจุบัน ในอดีตเคยเป็นสถานีขนส่งสายเหนือและสายอีสาน แต่เมื่อสถานีขนส่งถูกย้ายไปอยู่บนถนนกำแพงเพชร 2 ในปัจจุบันแล้ว คำว่า “หมอชิต” ที่คนยังเรียกกันติดปากอยู่จึงถูกใช้เรียกสถานีขนส่งใหม่ด้วย แต่เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับหมอชิตเดิม จึงเติมเลข “2” ต่อท้ายไปด้วย กลายเป็น “หมอชิต 2” และถูกเรียกเช่นนี้เรื่อยมา

สถานีหมอชิต มีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีบริการที่จอดรถให้กับผู้โดยสาร BTS ที่ไม่ต้องการจะขับรถเข้าเมือง สามารถเอารถมาจอดไว้ตรงนี้ได้ฟรีไม่เสียเงิน แล้วก็นั่งรถไฟฟ้าต่อเข้าไป เรียกว่า “Park & Ride” แต่ที่จอดตรงนี้ก็มักจะเต็มเร็วมาก คือ ประมาณ 7.30 ก็เต็มเอียดแทบจะไม่เหลือที่จอดแล้ว ซ้อนคันอย่างเดียว แล้วที่นี่รถจอดชิดกันมาก แบบไม่เกรงใจใคร แถมต้องระวังรถโดนขูด โดนขีดด้วยนะ ตอนเย็นก็ต้องกะเวลาดีๆหน่อยครับ บางทีรถมันซ้อนกันหลายแถว ออกไม่ได้ก็มี ประมาณ 6 โมงโน่นแหละครับ รถถึงจะเริ่มโล่ง

เจาะลึกรอบสถานี

เอาล่ะ มาดูเรื่องทำเลและสิ่งแวดล้อมแถวนี้กันบ้าง ตามลูกศรสีน้ำเงินไปเลยครับ

ลงมาจากสถานีหมอชิตในวันเสาร์ คนแน่นมว้ากกกก! ฝรั่ง ญี่ปุ่น งง นี่มันเกิดอะไรขึ้น

ถ้าเราโผล่จากสถานีสวนจตุจักรขึ้นมาก็จะเจอกับสภาพแบบนี้ คนเยอะอยู่ดี…

เดี๋ยวเราเดินเข้าสวนจตุจักรไปก่อนเลยครับ สถานที่ไฮไลต์ของที่นี่

สวนจตุจักรนี่เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงเทพที่มีขนาดใหญ่มากอีกแห่งหนึ่งครับ โดยอันที่จริงแล้ว พื้นที่สีเขียวตรงนี้เกิดจากการรวมกันของ สวนสาธาณะ 3 แห่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ สวนจตุจักร, สวนวชิรเบญจทัศ และ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ รวมพื้นที่ได้ราว เกือบ 800 ไร่ ซึ่งใหญ่กว่าสวนลุมพินีกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว

ทั้งวันธรรมดาและวันเสารจะมีประชาชนเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่น ปิคนิก ถ่ายรูป ให้อาหารปลา วิ่งไล่จับนก ปั่นจักรยาน ถีบเป็ด มีให้เห็นกันเต็มไปหมด โซนที่ใกล้รถไฟฟ้าจะมีคนเยอะหน่อยครับ แต่ถ้าไกลๆออกไปคนก็จะเริ่มบางลงหน่อย

คนที่มาเดินก็ไม่เว้นทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลี จีน แขก พม่า ลาว มีครบครับ

สวนสาธารณะที่ใหญ่ขนาดนี้ แล้วตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ ก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนมาใช้บริการเยอะ เพราะความร่มรื่นแบบนี้ มันหายากจริงๆครับ ถึงแม้ว่าคนจะเยอะ แม้ว่าอากาศจะไม่ได้ดีเลิศแบบไร้มลพิษ แต่ถ้าได้มาใช้เวลาอยู่กับครอบครัว คนที่เรารัก ที่นี่บ้าง มันก็ไม่เลวจริงๆนะครับ

เวลาเปิด-ปิดสวนจตุจักร คือ 4.30-21.00น. ครับ ใครอย่าเข้าไปนอนในนั้นล่ะ มันผิดกฎหมายนะครับ

ตอนนี้ผมเดินออกมาที่ถนนกำแพงเพชร 3 ที่คั่นระหว่างสวนจตุจักร กับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์แล้วครับ

ฝั่งตรงข้ามตรงนี้มี Community Mall ชื่อ Jatujak Green มาเปิดอยู่ด้วย ข้างในมีทั้งสวนอาหาร และร้านขายของกระจุกกระจิก เสื้อผ้า ฯลฯ เปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นครับ

ต่อมาผมก็เดินมาถึงทางเข้าสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ แต่เราคงจะไม่เข้าไปนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้ออกมา ได้ข่าวว่าข้างในสวยกว่าสวนจตุจักรอีกนะ 😀

เดินมาถึงแยกตรงนี้ นี่คือถนนกำแพงเพชร 4 ครับ

ที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์เด็ก” แหล่งการเรียนรู้ของเยาวชนของชาติ แต่ตอนนี้ปิดปรับปรุงอยู่ ในบอกจะเปิดกลางปี 2555 ไง นี่เดือนกันยายน 2555 แล้วนะ

ถนนกำแพงเพชร 4 เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีร้านค้า แผงลอย เรียงรายอยู่เต็มสองฝั่งถนน ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แบบนี้ มองไปไกลๆ ทางขวาบนของภาพ เราจะเห็น J.J. Mall หรือ “จตุจักร์ติดแอร์” อยู่ไกลๆนะครับ แต่วันนี้เราคงจะไม่ได้เดินไปตรงนั้นกัน

เราเดินต่อไปทางถนนกำแพงเพชร 3 ครับ ตรงนี้รถจะติดมาก เพราะเป็นถนนแคบๆ สองเลน ไป-กลับ แต่ก็ชอบมีรถตู้ รถแท็กซี่ตัวมั่ว จอดปิดทางเลนซ้ายไปมิดเลย แล้วน่าเกลียดมาก ไม่ยอมขยับ ไม่ดับเครื่อง คนที่ขับจ่อๆตามมาก็นึกว่ารถติด ที่ไหนได้ มันจอดครับ

สองฝั่งถนนกำแพงเพชร 2 ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าเอาของมาขายเต็มเลยครับ อันนี้เพราะตลาดนัดจตุจักรค่าเช่าที่มันแพงเกินไป จึงต้องการจะหลบหลีก หรือว่า เพราะข้างในมันเต็มครับเนี่ย?

แล้วเราก็เดินมาถึงทางเข้า “ประตู 2” ของตลาดนัดจตุจักรครับ อันนี้เป็นทางเข้าหลัก ที่รถยนต์สามารถเข้าได้ แต่มันมีทางเข้าเล็กๆสำหรับคนเดิน อีกหลายประตูมากครับ

ตลาดนัดจตุจักรนี่เป็นตลาดที่ใหญ่มากนะครับ เคยถูกบันทึกใน Guinness Book ปี 2525 ด้วย ว่าเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แต่ตอนนี้โดนของต่างประเทศแซงไปเรียบร้อยแล้ว) ในแต่ละวันจะมีคนเดินตลาดนัดแห่งนี้มากกว่า  200,000 คนเลยทีเดียว (ข้อมูลจาก Wikipedia นะครับ)

หลายๆคนอาจจะไม่เคยรู้นะครับ แต่ในตลาดนัดจอดรถได้ครับ แต่จะมีการบังคับให้เอารถออกก่อนเวลา 12.00น. ถ้้าวันเสาร์จะจอดฝั่งขวา วันอาทิตย์จะจอดฝั่งซ้ายครับ สลับกัน อ้อ ปกติแล้ว ตลาดจะเปิดวันพุธ-อาทิตย์นะครับ, วันพุธ-พฤหัสเช้าถึงเที่ยงจะเป็นตลาดนัดต้นไม้, วันศุกร์กลางคืน เป็นตลาดนัดขายส่ง, และวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะเปิดตลาดนัดเต็มพื้นที่อย่างที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละครับ

พื้นที่ตลาดนัดจตุจักร จะถูกแบ่งออกเป็นหลายๆ “โครงการ” ครับ แต่ละโครงการก็จะขายของไม่เหมือนกัน แบ่งเป็นโซนๆไป เรื่องรายละเอียดนั้นผมไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไรนะครับ

เดินมาถึงทางออก ประตู 1 ฝั่งถนนกำแพงเพชร 2 ครับ เล่นเอาเหงื่อแตกเหมือนกัน = =”

ที่เห็นเป็นไซต์ก่อสร้างอยู่นี้ คือ inSquare ศูนย์การค้า ที่จะเปิดบริการในอนาคต เห็นบอกว่าจะเปิดปลายปี ’54 แต่ท่าทางเจอน้ำท่วมเข้าไปเลยยังไม่เสร็จดี อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง 😀

ข้างๆกันคือ ศูนย์การค้า จตุจักร สแควร์ “ศูนย์รวมสินค้าราคาถูก ปลีก-ส่ง” ตามที่เขียนไว้บนป้ายครับ 😛

เราเดินกันต่อไปบนถนนกำแพงเพชร 2 ครับ บริเวณนี้ยังคงมีสินค้าตั้งโต๊ะขายกันอยู่ยาว

เดินมาจนถึงทางลงรถไฟฟ้า MRT กำแพงเพชรครับ สถานีนี้จะผุดขึ้นมาตรงหัวมุมตลาดนัดจตุจักรเลย

เราแวะลงไปดูกันหน่อยว่าในนี้มันมีอะไรบ้าง

ข้างล่างนี้จะมี “Metro Mall” Shopping Mall ใต้ดิน

ฃ้างในก็จะเป็นลักษณะแบบนี้ ติดแอร์ ดูไฮโซขึ้นมานิดนึง

ตรงนี้เป็นทางลัดไปโผล่ตลาด อ.ต.ก. ด้วยนะครับ

ตอนนี้เดินมาถึงแยกกำแพงเพชรแล้วครับ (ปาดเหงื่อสองที = =”)

ต่อไปเราเดินข้ามถนนไปเข้าซอยพหลโยธิน 18 ครับ ซอยนี้จะเป็นทางลัดไปออกถนนวิภาวดีรังสิต อ้อมกรมขนส่งทางบกไป

ในซอยนี้ดูเปลี่ยวพอสมควรครับ รั้วกรมขนส่งทางขวานี่สูงเชียว รถที่วิ่งผ่านไปผ่านมา ส่วนใหญ่ก็คือเพื่อไปทะลุออกวิภาวดีซะส่วนใหญ่ รถของคนที่อยู่ในซอยดูจะเป็นส่วนน้อยครับ

เดินมาถึงสามแยกตรงนี้ ถ้าเลี้ยวขวาเราจะไปทะลุอินทามระ 15 ได้ด้วย แต่เราจะไปวิภาฯกัน เลี้ยวซ้ายไปเลย

กรมการขนส่งทางบกนี่ คนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักเพราะต้องมาต่อพรบ., ทำใบขับขี่, ตรวจสภาพรถยนต์ กันที่นี่ ถ้าสอบใบขับขี่ไม่ผ่านเค้าก็มีศูนย์ฝึกสอนและอบรมให้ด้วยนะ

ในซอยนี้ก็มีคอนโดมาขึ้นด้วยนะครับ อย่างที่เห็นนั่นก็คือ U Delight จตุจักร สเตชั่น ที่ขายหมดถล่มทลายไปเรียบร้อยแล้ว

เราเลี้ยวขวาที่ วิภาวดีรังสิต ซอย 3 หรือซอยร่วมศิริมิตร ตรงสามแยกนี้เลยครับ

จากนั้นเราก็ตรงยาวไปออกวิภาวดีเลย สองฝั่งข้างทางตรงนี้ก็ดูจะเงียบๆนะครับสังเกตนะครับ ต้นไม้ข้างทางนี่ต้นใหญ่มากจริงๆ เป็นร่มเงาให้กับคนในซอยได้เป็นอย่างดีเลย

เจาะลึกรอบสถานี (ถนนวิภาวดีรังสิต)

ออกมาที่ถนนวิภาวดีรังสิตครับ ถนนวิภาวดีนี่เป็นถนนเส้นที่ใหญ่มากๆอีกเส้นหนึ่งของกรุงเทพมหานครครับ ตัดจากสามเหลี่ยมดินแดง ไปบรรจบกับถนนพหลโยธินแถวๆ Zeer รังสิต เลยสนามบินดอนเมืองไปนิดหน่อยครับ  เป็นถนนที่เป็นทางคมนาคมเส้นหลักของกรุงเทพชั้นกลางและชั้นนอกเลย

ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นถนน 16 เลนครับ ไปกลับฝั่งละ 8 เลน โดยแบ่งเป็น 3 เลนด้านใน 2 เลนด้านนอก และ 3 เลนบนทางยกระดับโทลล์เวย์ แต่ขนาดเลนเยอะขนาดนี้ก็ยังรถติดได้ เพราะปริมาณรถยนต์จากทั่วทุกสารทิศใกล้ๆนี้ มารวมตัวกันที่ถนนเส้นนี้หมด แต่ก็ติดเฉพาะช่วง Rush-Hour แหละครับ ปกติแล้วเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างดี 🙂

สิ่งปลูกสร้างที่อยู่ติดถนนใหญ่วิภาวดี ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่, โชว์รูมและสถานีบริการรถยนต์ หลากหลายยี่ห้อ, ปั๊มน้ำมัน และไม่ค่อยจะมีห้างสรรพสินค้า หรือ ที่อยู่อาศัยสักเท่าไร ส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนี้ เพราะถนนวิภาวดีฯเป็นเหมือน “ทางผ่าน” ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีจุดหมายปลายทางอยู่ทีนี่ ทำให้ทำเลตรงนี้ แม้ว่าการจราจรจะหนาแน่นและติดขัด แต่คนที่มา “หยุด” อยู่บนถนนวิภาวดีมีอยู่ไม่มากอย่างที่เห็น

ซอยวิภาวดีรังสิต 9 ตรงนี้ทะลุมาจาก ซอยพหลโยธิน 18/2 ได้ แต่เป็นซอยวันเวย์

เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึง ห้าแยกลาดพร้าว ตรงนี้ถ้าเราเดินย้อนถนนพหลโยธิน เราก็จะกลับไปที่จุดเริ่มต้นตรงสถานีที่เราเดินมาครับ แต่ว่า เดี๋ยวผมพาไปดูเซ็นทรัลลาดพร้าวหน่อยดีกว่า

เราเดินข้ามถนนวิภาวดีมาทางฝั่งลาดพร้าวบ้าง

และนี่คือมหาวทิยาลัยเซนต์จอห์นครับ อยู่ติดกับซอยวิภาวดี 24 พอดีเลย

ซอยวิภาวดี 26 นี้จะไปทะลุ ลาดพร้าวซอย 2 ได้ครับ

เดินมาถึงห้าแยกลาดพร้าวแล้วครับ มองไปเห็นเซ็นทรัลลาดพร้าวอยู่ไกลๆแล้วล่ะ ความจริงเซ็นทรัลลาดพร้าวนี้อยู่เลยจุดที่จะเดินถึงของ BTS หมอชิต และ MRT สวนจตุจักรแล้วครับ เพราะปกติคนส่วนใหญ่จะไปลง MRT พหลโยธินเสียมากกว่า ถ้าจะไปเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ก็ต้องถือว่าเป็นห้างสรรพสินค้าสำคัญของทำเลแถวนี้ครับ

เจาะลึกรวบยอด

การคมนาคม ทำเลตรง BTS หมอชิต ผมคิดว่ามีความสะดวกในการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นอย่างมากครับ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ห้าแยกลาดพร้าว ที่ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง พหลโยธิน วิภาวดีรังสิต กำแพงเพชร ลาดพร้าว รัชดา แล้วยังมีทางด่วนขนาบซ้าย-ขวา ทั้งขั้นที่ 2 และโทลล์เวย์ จากตรงนี้สามารถเลือกไปได้หลายจุด อย่างน้อยๆ ก็คือฝั่งเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดของกรุงเทพมหานครอย่างไม่ลำบาก

นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถยนต์สาธารณะก็เลือกใช้ได้หลายรูปแบบมากทั้ง รถไฟฟ้า BTS, MRT, รถเมล์, รถแท็กซี่, รถตู้, รถไฟ, รถ บขส., มอเตอร์ไซค์รับจ้าง นับว่ามีหมด

อย่างเดียวที่เป็นข้อเสียเรื่องการคมนาคม คือ ตรงนี้ถ้ารถติดขึ้นมา จะติดค่อนข้างนานทีเดียว ตัวการสำคัญคือถนนลาดพร้าว ที่หางแถวชอบยาวเลยแยกมา ทำให้ถนนเส้นอื่นๆติดตามๆกันไปหมด ในขณะที่ถนนวิภาวดีรังสิต กับ ถนนพหลโยธิน มีทางหนีทีไล่มากกว่า จึงทำให้รถเคลื่อนตัวได้ดีกว่า

สภาพแวดล้อมและชุมชน ตรงนี้เป็นอีกทำเลหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วของชุมชน ปัจจัยสำคัญส่งผลมาจาก บริเวณที่เป็นห้าแยกลาดพร้าว(อีกแล้ว) มีเซ็นทรัลลาดพร้าวมาตั้งอยู่ และถัดไปไม่ไกลก็คือ แยก “รัชโยธิน”จุดที่มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อย่าง SCB Park มาตั้งอยู่ รวมไปถึงห้างเมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน นอกจากนี้ก็ยังมีสถานีขนส่งหมอชิตด้วย

แต่พอมาดูเรื่องความน่าอยู่ของชุมชนโดยรอบ จะเห็นว่าชุมชนตรงนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยเท่าไรนัก แต่ชุมชนตรงนี้เกิดได้ก็เพราะเคยเป็นที่ตั้งของ สถานีขนส่งภาคเหนือภาคอีสานเสียมากกว่า จุดประสงค์ของทำเลตรงนี้เกิดขึ้นมาเพื่อ “การเดินทาง” ตั้งแต่แรก และต่อมาจึงมีตลาดนัดสวนจตุจักรตามมา เพื่อรับนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้ต้องมีบ้านอยู่ตรงนี้เท่าไรนัก

ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตความน่าอยู่ยิ่งน้อยลงไปอีก เพราะมีแต่มลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ที่อยู่บนถนน 16 เลน และล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ถ้าเป็นแนวราบนี่ไม่ต้องพูดกัน คงต้องเป็นคอนโดสูงๆเท่านั้น

การพัฒนาในอนาคต เนื่องจากสถานี BTS หมอชิต ถูกขนาบด้วย สวนจตุจักร, กรมการขนส่งทางบก, สถาบันการบินพลเรือน, ช่อง 7 และ สำนักงานใหญ่ของ BTS เอง ทำให้การพัฒนาโดยรอบสถานีดูจะมีอะไรใหม่ๆยาก การพัฒนาที่เกิดขึ้นได้ก็มีแต่ที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 18 ที่อยู่ด้านหลังที่ดูจะเป็นไปได้ ซึ่งในซอยนี้ก็มีโครงการแนวดิ่งเกิดขึ้นหลายแท่งแล้ว ต้องดูต่อไปว่าจะมีมาอีกหรือไม่ จุดที่ดูจะขยายตัวได้ดีกว่า คือ บริเวณรอบๆ ห้าแยกลาดพร้าว ที่ในอนาคตน่าจะเห็นชุมชนที่เจริญขึ้นเรื่อยๆ

และหลังจากนี้ คงจะมีการขยายตัวของสถานีรถไฟฟ้าต่อไปอีก และสถานีหมอชิต คงจะไม่ใช่สถานีปลายทางอีกในอนาคตข้างหน้า (อันไกลๆ) ซึ่งก็คงจะทำให้การจราจรตรงนี้คล่องตัวขึ้นอีก เพราะคนที่มาหยุดตรงนี้ก็คือต้องการจะเดินทางต่อไปที่อื่น ซึ่งถ้าคนจำนวนนี้น้อยลง ก็คงจะทำให้ความหนาแน่นตรงนี้น้อยตามไปด้วย

สรุป คนที่จะมาอยู่ที่ BTS หมอชิต คงจะเป็นคนที่ไม่ได้หวังพึ่งพาชุมชนโดยรอบเท่าไรนัก แต่ต้องการความสะดวกสบายจากการคมนาคมที่รวดเร็ว และมีพาหนะให้เลือกหลากหลาย และต้องการเข้าถึงทั้งตัวเมือง และ ชานเมือง(หรือต่างจังหวัด) ได้ในเวลาเดียวกัน โดยที่สะดวกทั้งคู่

เพิ่มเติมข้อมูลสถานีใกล้เคียงได้ที่ มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สะพานควาย (N7)

*อ่านสักนิด* ในการเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้าแต่ละสถานีนั้น แต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกที่จะอยู่ใกล้สถานีที่อยู่ในตัวเมือง เพราะสภาพชุมชนรอบๆที่คึกคัก สามารถไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ได้ด้วย ขอนั่งไปสองสามสถานีแล้วถึงที่ทำงานเลย คนพวกนี้ก็ต้องจ่ายแพง ในขณะที่บางคนบอกว่า ออกไปอยู่ไกลๆหน่อยก็ได้ สุดสายเลยก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ติดรถไฟฟ้าก็พอ ยอมตื่นเช้าขึ้นซัก 15-30 นาที แต่จ่ายถูกกว่า และเงียบสงบกว่า ส่วนบางคนก็แปลก เลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานี ขอให้ใกล้ไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตาม แล้วสถานีไหนล่ะจึงจะเป็นสถานีที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลครับ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานีใดเป็นสถานีที่ดีที่สุดดีเท่ากับตัวคุณเองหรอกครับ

สุดท้ายนี้ รบกวนขอให้เพื่อนๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่อยู่ในพื้นที่ ช่วยกัน Comment แบ่งปัน เพิ่มเติมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอร่อย ทางลัดเล็กๆน้อยๆ หรือสภาพแวดล้อมทั้งดีและไม่ดี ให้กับผู้อ่านที่กำลังหาบ้านโซนนี้ด้วยนะครับ