ปก plum สามัคคี

รีวิวฉบับที่ 1058.. สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดตึกเสร็จราคาล้านต้นๆแถบชานเมืองฝั่งนนทบุรีกัน กับโครงการ Plum Condo สามัคคี ซึ่ง Plum ตัวนี้เป็นคอนโดที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ(โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย) ตัวโครงการอยู่บนถนนสามัคคี ระหว่างซอย สามัคคี 22 กับ 24  ซึ่งตัวซอยสามัคคีนี้จะเชื่อมระหว่างถนนติวานนท์และถนนประชาชื่น ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร มีห้องให้เลือกตั้งแต่ 22.50-28 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 1.02 ล้านบาท หน้าตาโครงการจะเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา

อ่านบทความเพิ่มเติม : เปิดเงื่อนไขบ้านประชารัฐ คลิกที่นี่

รวมคอนโดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ คลิกที่นี่

Fact @ 5 April, 2016

  • PLUM CONDO SAMAKKHI (พลัม คอนโด สามัคคี)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร 899 ยูนิต 
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิตที่อาคาร D
  • ที่จอดรถประมาณ  220 คันคิดเป็น  24% ไม่รวมจอดซ้อนคัน 
  • ที่ดินโครงการ  8-3-1.1 ไร่
  • เปิดขาย : ส.ค. 2557
  • กำหนดก่อสร้าง : ก.พ. 58
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พ.ค. 2559
  •  1A: 1Bedroom  ขนาด 22.50 ตารางเมตร
  • 1B: 1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร
  • 1C: 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้น 1,025,750 บาท 
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ  45,153 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 42,436-46,922 บาทต่อตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • www.pruksa.com
  • โทร 02 591 8890

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด:   13.884308,100.524255

map Plum Samakkhi_R

โครงการตั้งอยู่บนถนนสามัคคี ที่เชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้นทางทั้งถนนติวานนท์ ประชาชื่น แจ้งวัฒนะ งามวงศ์วานค่ะ

map plum สามัคคีสถานที่นะ

ทำเลของโครงการเป็นทำเลชานเมืองแถบนนทบุรี ซึ่งบริบทรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านพักอาศัย และอาคารพาณิชย์ซะส่วนใหญ่ ซึ่งบนถนนสามัคคีโซนที่โครงการตั้งอยู่ก็เป็นย่านชุมชนที่อยู่กันมานานค่ะ มีหมู่บ้าน มีโรงเรียน มีสถานีตำรวจ มีคาร์แคร์ อาคารพาณิชย์ต่างๆอยู่ในซอยซึ่งทำให้ช่วงเวลาเข้าออกในซอยรถจะเยอะและติด โดยเฉพาะตอนเช้าที่ผู้ปกครองมาส่งเด็กๆไปโรงเรียนกัน ใกล้ๆโครงการจะมี Community mall ชื่อ Oasis ด้านในมี Lotus Express, ร้าน Boots , ธนาคารไทยพาณิชย์ , ธนาคารกสิกรไทย อยู่ ช่วยให้คนในโครงการสะดวกขึ้นเยอะ

ถัดออกมาหน่อยจะมีตลาดประชานิเวศน์ 3 อยู่ในซอยประชานิเวศน์ 3 ที่มีหมู่บ้านขนาดใหญ่ชื่อหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ตามชื่อซอยเลย ภายในซอยจะเป็นซอยใหญ่ มีคนพักอาศัยอยู่หนาแน่น มีโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ซึ่งเด็กที่มาเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานคนในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 และคนละแวกนี้ ใกล้ๆกันบริเวณใต้ทางด่วนขั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ของตลาดบัวขวัญ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ให้มาจับจ่ายซื้อของได้ ใกล้ๆกันก็เป็นวัดบัวขวัญ ซึ่งเป็นวัดใหญ่ เวลามีงานบุญงานประเพณีทางศาสนาอะไรก็มาทำบุญกันได้ที่นี่ค่ะ หากใครต้องการช็อปปิ้ง พวกห้างร้านต่างๆที่ใกล้ๆหน่อยจะกระจายตัวอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะค่ะ ห้างที่เอาไว้ช้อปปิ้งกัน อย่าง เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, Makro แจ้งวัฒนะ, Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ, The Avenue แจ้งวัฒนะ และ Big C แจ้งวัฒนะ ส่วนอาหารการกินบนถนนประชาชื่นก็มีร้านอาหารหลายร้าน เพราะอยู่ใกล้ม.ธุรกิจบัณฑิตย์

map plum สามัคคี copy

โครงการ Plum Condo สามัคคี ตั้งอยู่บนถนนสามัคคี ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนติวานนท์และถนนประชาชื่น จากฝั่งถนนติวานนท์ขับเข้าถนนสามัคคีมาประมาณ  1.4 กิโลเมตรจะถึงปากทางเข้าโครงการค่ะ  และจากปากทางเข้าโครงการ วิ่งออกไปทางถนนประชาชื่นประมาณ 1.4 กิโลเมตรจะเจอแยกที่เลี้ยวขวาไปขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัชได้ ขณะที่จากปากทางเข้าโครงการห่างจากถนนประชาชื่นประมาณ 3 กิโลเมตรนะคะ ถ้าออกมาถนนประชาชื่นแล้วเราเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆประมาณ 2 กิโลเมตรจะถึงถนนแจ้งวัฒนะค่ะ

ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจะลำบากหน่อย เนื่องจากในซอยสามัคคีไม่มีรถเมล์ผ่าน พอออกมาที่ถนนสามัคคีหน้าโครงการก็ไม่เห็นวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้ๆโครงการนะ แต่จะมีรถ 2 แถว 2 สาย คือ สายวัดสาลีโข-แจ้งวัฒนะ กับ สายประชานิเวศน์ 3 – ต้นซอยสามัคคี (ฝั่งติวานนท์)

map plum การเดินทาง

การเดินทางวันนี้เราจะวิ่งจากถนนงามวงศ์วาน บริเวณใต้ทางด่วนขั้นที่ 2  ผ่านพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน, The Mall งามวงศ์วาน ตรงมาเรื่อยๆจะเจอแยกพงษ์เพชรให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาชื่น วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนเจอแยกสามัคคีให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสามัคคี วิ่งตรงมาเรื่อยๆดูบรรยากาศ 2 ข้างทางของถนนสามัคคี พอถึงซอยสามัคคี 24 ให้ชะลอรถ เนื่องจากโครงการอยู่ระหว่างซอยสามัคคี  22 และ 24 ค่ะ

เรามาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า จุดสตาร์ทของเราอยู่บนถนนงามวงศ์วานที่บริเวณใต้ทางด่วนขั้นที่ 2 มุ่งหน้าเข้าสู่แยกพงษ์เพชร

ตรงมาเรื่อยๆเราจะเจอพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ศูนย์รวม IT ขนาดใหญ่บนถนนงามวงศ์วาน สายๆวันธรรมดาแบบนี้รถยังหนาแน่นมากทีเดียว (ซึ่งจริงๆถนนเส้นนี้รถก็หนาแน่นตลอด)

ขับมาอีกหน่อยจะเจอ The Mall งามวงศ์วานอยู่ทางขวามือค่ะ

แยกพงษ์เพชร

ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอ “แยกพงษ์เพชร” ซึ่งแยกนี้เป็นจุดตัดระหว่างถนนงามวงศ์วานและถนนประชาชื่น หากตรงไปจะสามารถไปทะลุออกถนนวิภาวดีได้ หากเลี้ยวซ้ายจะไปถนนรัชดาภิเษก ส่วนเราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาชื่นเพื่อไปยังถนนสามัคคีกันค่ะ

เลี้ยวมาวิ่งบนถนนประชาชื่นกันแล้ว ถนนเส้นนี้เป็นถนน 4 เลน เลียบคลองประปาประชาชื่น บรรยากาศของถนนค่อนข้างร่มรื่นเนื่องจากมีต้นไม้ปลุกตลอดแนวทั้งสองข้างทาง

ซึ่งบนนถนนเส้นนี้เริ่มมีคอนโดผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น  The Key ประชาชื่น, The Park @ประชาชื่น ที่อยู่ทางซ้ายมือ เป็นต้น

ตรงมาอีกหน่อยเราจะเจอ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์(ทางขวามือ) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่อนข้างใหญ่ แน่นอนว่าพอเป็นแหล่งที่มีนักศึกษาก็พลอยทำให้ละแวกนี้คึกคักตามไปด้วย

ไม่ไกลกันจะเจอปั๊ม Esso ที่มี Tesco Lotus ให้บริการ

ตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกสามัคคี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสามัคคีกันเลยค่าา

เข้ามาวิ่งบนถนนสามัคคีแล้ว ด้านหน้าซอยทางขวามือกำลังมีการก่อสร้างศูนย์อาหารและเครื่องดื่ม B’for Bangkok

ช่วงต้นซอยจะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นเป็นแนวยาวเลย ใต้อาคารพาณิชย์มี 7/11 และร้านค้ามากมายพลอยให้บรรยากาศแถวนี้ค่อนข้างคึกคัก

ถักมาอีกหน่อยจะเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประชาอุปถัมภ์อยู่ทางซ้ายมือ

บรรยากาศบนนถนนเส้นนี้ค่อนข้างร่มรื่น มีไม้ยืนต้นสลับกับที่อยู่อาศัยแนวราบไปแบบนี้ตลอดแนว ตามสไตล์ทำเลชานเมือง

ขับเข้ามาเรื่อยๆภายในซอยยิ่งคึกคัก จะเห็นว่าส่วนใหญ่สองข้างทางจะเป็นอาคารพาณิชย์และมีการค้าขายใต้อาคารไปตลอดแนว และคนส่วนใหญ่ก็ใช้มอเตอร์ไซค์มาจับจ่ายซื้อของกันเยอะมาก สังเกตได้จากจำนวนรถที่จอดอยู่สองข้างทาง

ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกร หรือธนาคารอื่นๆก็มีให้บริการเรื่อยๆ รวมทั้งสาธารณูปโภคอย่างอื่นด้วย

ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอ Tesco Lotus Express ที่ด้านหน้ามีตลาดหน้าโลตัส ที่เน้นขายอาหารซะเป็นส่วนใหญ่

ใกล้ๆกันเป็น 7/11

เราขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงช่วงซอยสามัคคี 42 ข้างหน้าจะเป็นทางแยกที่ตัดกับทางด่วนขั้นที่ 2

โดยพื้นที่ใต้ทางด่วนทางซ้ายมือ ได้มีการปรับพื้นที่ทำเป็นตลาดบัวขวัญ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ขนาดใหญ่ มีความยาวเต็มพื้นที่ใต้ทางด่วน ใครอยากซื้อเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ราคาเบาๆก็มาจับจ่ายซื้อของกันได้

ถัดจากทางด่วนมา บรรยากาศ 2 ข้างทางก็ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์อยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระแวหนี้จะมีร้านล้างรถ คาร์แคร์ หรืออู่ซ่อมรถค่อนข้างเยอะ

ถัดมาจะเจอซอยประชานิเวศน์ 3 ซึ่งภายในซอยนี้จะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านขนาดใหญ่คือ หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 มีประชากรอาศัยอยู่ค่อนข้างมากและเป็นหมู่บ้านที่สร้างมานานพอสมควร ภายในซอยมีตลาดประชานิเวศน์ 3 และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอ Family Mart ซึ่งร้านสะดวกซื้อตรงนี้เป็นร้านที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดแล้วค่ะ

ถัดมาจะเจออาคารพาณิชย์ 5 ชั้น มองตรงไปไกลๆจะเห็นป้ายสีเขียวของปั๊ม PT (ปิโตรนาส) แสดงว่าจะถึงแล้ว

ขับตรงมาอีกหน่อยก็ถึงโครงการ Plum สามัคคีแล้วค่าา เดี๋ยวเราจะพาไปดูบริบทรอบๆโครงการกัน

Map zoom plum**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทรอบๆโครงการ Plum สามัคคี ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ที่ดินบุคคลอื่น และมีบ้านพักอาศัยกระจายอยู่รอบๆ โดยทางทิศเหนือ จะติดกับ ถนนสามัคคี ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ดินของบุคคลอื่นและทางเข้าซอยสามัคคี 31 ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพาณิชย์ 5 ชั้นและที่ดินของบุคคลอื่น ที่มีการเตรียมปรับปรุงที่ดินแล้ว น่าจะมีสิ่งปลูกสร้างในอนาคต ทิศตะวันตก ติดกับซอยเล็กๆที่ฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มปิโตรนาส ถัดมาเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นและที่ดินบุคคลอื่น ส่วนทางทิศใต้ จะติดกับที่ดินของบุคคลอื่นค่ะ

ทางทิศเหนือ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นที่ดินของบุคคลอื่นและทางเข้าซอยสามัคคี 31

ทางทิศตะวันตก ด้านข้างโครงการช่วงติดกับถนนสามัคคีจะเป็นปั๊มปิโตรนาส 2 ปั๊มอยู่ตรงข้ามกันเลย

มองเข้าไปภายในซอยเล็กๆที่อยู่ติดกับโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มปิโตรนาส ด้านหลังปั๊มจะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นและอพาร์ทเม้นต์ 5 ชั้นค่ะ

ส่วนทางทิศตะวันตก จะติดกับที่ดินว่างเปล่าที่กำลังเตรียมการก่อสร้าง และข้างๆกันเป็นอาคารพาณิขย์ 5 ชั้นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • 7-11   ~ 260 เมตร จากโครงการ
  • Community Mall Oasis ~ 150 เมตร จากโครงการ
  • ม.ธุรกิจบัณฑิต ~ 3.9 กิโลเมตร จากโครงการ
  • Big C แจ้งวัฒนะ ~5.7 กิโลเมตร จากโครงการ
  • Makro แจ้งวัฒนะ ~ 6.5 กิโลเมตร จากโครงการ
  • Central แจ้งวัฒนะ ~ 8.1 กิโลเมตร จากโครงการ
  • The Mall งามวงศ์วาน ~ 6.7 กิโลเมตร จากโครงการ

 

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Map zoom plum ผังง

โครงการ Plum Condo สามัคคี วางตัวตึกทั้ง 4 ตึก ถัดเข้ามาด้านในตามลำดับตึก A, B, C, D โดยระยะจากถนนสามัคคีเข้ามาที่ตึก  ตึก A อยู่ที่ประมาณ 83 เมตร, ตึก B อยู่ที่ประมาณ 103 เมตร, ตึก C อยู่ที่ประมาณ 126 เมตร และตึก D อยู่ที่ประมาณ 151 เมตรจากถนนสามัคคี ตัวตึกหันด้านหน้าของแต่ละตึกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและด้านหลังของตึกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ค่ะ ถ้าตามหลักทิศแดดและลมในประเทศไทยแล้ว คนที่เลือกห้องฝั่งที่หันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ (หรือด้านที่หันหน้าไปทางถนนสามัคคี) จะได้รับแดดเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสม   ขณะที่ห้องฝั่งที่หันไปด้านตะวันตกเฉียงใต้จะได้รับแดดช่วงบ่าย ซึ่งร้อนกว่าและไม่ค่อยมีลมค่ะ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง มีการวางที่จอดรถเลียบรั้วโครงการและจอดรอบตึกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ใครอยู่ชั้นล่างจะเจอเสียงรบกวนจากรถที่มาจอดด้านข้างแน่นอน แต่มีทำแนวสวนปลูกต้นไม้มาให้คั่นระหว่างที่จอดรถกับตัวห้องอยู่ซึ่งช่วยกันเสียงกันฝุ่นจากที่จอดรถได้นิดหน่อยค่ะ แต่ช่วยได้ไม่มากนะ  ตึก A ที่อยู่ใกล้ทางเข้าออกโครงการมากที่สุด ชั้นล่างจะมี Lobby, Fitness, นิติบุคคล ส่วนห้องซักผ้าอยู่ตึก A และ D ค่ะ ด้านหน้าแต่ละอาคารจะมีจุดจอดจักรยานให้ 1 จุด มีสวนหย่อมและโต๊ะเก้าอี้จัดไว้ให้ลูกบ้านนั่งเล่นหรือรอเพื่อนได้ และที่สุดซอยติดรั้วโครงการจะจัดสวนไว้ให้เพิ่มความร่มรื่น

เรามาเริ่มที่ทางเข้าโครงการกันเลยนะคะ ทางเข้าจะอยู่ติดถนนสามัคคี มีการตกแต่งรั้วทางเข้าด้วยผนังฉลุสีน้ำตาลและปลูกไม้พุ่มสลับกับไม้ยืนต้นเพิ่มความร่มรื่น มีป้ายโครงการติดอยู่ที่รั้วโครงการทั้งสองด้าน เพื่อรับมุมมองจากรถทั้งฝั่งมุ่งหน้าเข้าประชาชื่น และฝั่งขาเข้าติวานนท์  ที่ทางเข้าทางซ้ายมือจะเป็นสวนหย่อม ส่วนทางขวามือจะเป็นทางเท้าสำหรับคนที่เดินเข้าโครงการ ค่ะ มองไปข้างหน้าเราจะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการและตัวอาคารพักอาศัย 4 หลังตั้งเรียงกันเป็นแถวตอนเดียว

สำหรับใครที่เดินเข้าโครงการ จะต้องเดินบนทางเท้าผ่านซุ้มทางเดิน ที่ไม่ได้มีประตูกั้นอะไร เหมือนมีเอาไว้แค่เป็นซุ้มตกแต่งให้คนเดินผ่านเท่านั้น ตามทางเดินจะมีไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นปลูกเป็นแนวตลอดทางเดิน เพื่อความร่มรื่นและให้ร่มเงา แต่สำหรับแดดเมืองไทยแบบนี้ แนะนำให้ยืดอกพกร่มจะช่วยได้มากกว่ากันเยอะค่ะ 🙂

ส่วนถ้าใครมาด้วยรถยนต์ จะต้องผ่านซุ้มประตูที่มีมีป้อมยามอยู่ตรงกลางระหว่างถนน 2 เลน คือเลนรถเข้าและรถออก โดยทางเข้า-ออกโครงการจะเป็นประตูรั้วไม้กระดก ลูกบ้านจะผ่านทางเข้า-ออกโดยติด Sticker ที่รถ ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนค่ะ โดยมีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับและส่องป้ายทะเบียนอยู่บริเวณนี้ด้วย

เมื่อเดินเข้ามาในโครงการตอนนี้จะมีสำนักงานขายตั้งอยู่ด้านในโครงการ หน้าสำนักงานขายจะเป็นที่นั่งพักคอยได้ต้นไม้ ฝั่งตรงข้ามกันเป็นศาลพระภูมิ ถัดไปก็จะเป็นส่วนของที่ตั้งคอนโดจำนวน 4 อาคาร แบ่งออกเป็น 3 ซอย คือซอยทางเข้าตึก A, ตึก B และตึก C, D จะเข้าทางซอยเดียวกันคือซอยท้ายสุด

ถนนหลักของโครงการกว้างประมาณ 12  เมตร ทางขวามือยาวไปตลอดริมรั้วโครงการจะเป็นที่จอดรถยนต์ทั้งหมด ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นสำนักงานขายและส่วนของอาคารพักอาศัย

ถัดจากสำนักงานขายมาระหว่างทางไปตึก A จะมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้บริการลูกบ้าน เนื่องจากคนในละแวกนี้ใช้มอเตอร์ไซค์กันเยอะค่ะ

 

บนถนนหลักระหว่างทางไปแต่ละอาคารจะมีลูกระนาดสีเหลืองสลับดำแบบนี้ เพื่อจำกัดความเร็วรถที่เข้ามายังโครงการ

เรามาเริ่มที่ซอยแรกซึ่งเป็นทางเข้าตึก A  และด้านหลังตึก B กันนะคะ จริงๆแล้วในทุกซอยภายในโครงการก็จะมีบรรยากาศเหมือนกันแบบนี้ คือทางขวามือจะเป็นที่จอดรถด้านหลังตึก ส่วนทางซ้ายมือจะเป็น Facilities ด้านหน้าตึกหลัก ที่ส่วนใหญ่จะเป็นสนามหญ้า(เทียม) โต๊ะนั่งเล่น มองตรงไปสุดทางจะเป็นสวนหย่อมติดรั้วโครงการที่จะมีให้ในทุกๆซอย

ตึก A ka

มาเริ่มที่ตึก A กันก่อน ตึกนี้จะพิเศษกว่าตึกอื่นตรงที่ หากเดินมาจากหน้าโครงการจะมีระยะใกล้ถนนมากที่สุด คือประมาณ 83 เมตร และเป็นตึกที่มี Facilities หลักมาอยู่ที่ตึกนี้ตึกเดียว ทั้ง Fitness, ห้องสมุด, นิติบุคคล, ห้องน้ำรวม และมีห้องซักผ้าหยอดเหรียญให้ด้วย

ด้านหน้าอาคารจะมีจุดจอดจักรยานให้ สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว

มองไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นด้านหลังตึก B จะเป็นที่จอดรถยนต์แบบนี้ แน่นอนว่าห้องที่อยู่ชั้น 1 ก็ต้องทำใจหน่อยนะคะ เพราะก็จะได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งเข้า-ออก และควันรถยนต์มาเป็นระลอกๆ ส่วนเรื่องความปลอดภัยในห้องชั้น 1 จะมีติดระแนงเหล็กแทนราวระเบียงไม่ให้ใครปีเข้าห้องได้ และปลูกไม้พุ่มกั้นพื้นที่ เป็น Buffer เล็กๆให้

ส่วนด้านหน้าตึก A เองจะมีสนามหญ้าเทียมและชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่นแบบนี้ตลอดแนวหน้าตึก ประกอบกับปลูกไม้พุ่ทและไม้ยืนต้นเพิ่มความร่มรื่น

ตลอดทางเดินจะมีป้ายห้ามทิ้งขยะ และห้ามสูบบุหรี่แบบนี้ติดอยู่ตามผนัง ไว้เตือนลูกบ้าน

เรามาเริ่มกันที่ห้อง Lobby หรือห้องสมุด กันนะคะ ประตูหน้าห้องจะเป็นประตูบานเปิดคู่ เข้า-ออกโดยใช้การสแกนคีย์การ์ด

สแกนโดยแตะที่ตัวสแกนแบบนี้ก็สามารถเข้าห้องได้แล้วค่ะ ซึ่ง Facilities ที่ตึกนี้จะใช้คีย์การ์ดของลูกบ้านสแกนแบบนี้ทั้งหมด เพื่อป้องกันคนนอกเข้ามาใช้งานพื้นที่

เข้ามาในห้องจะค่อนข้างสดใส ตกแต่งตัวโทนสีเทา-เหลือง ที่ผนังด้านในจะ Built-in ชั้นมาให้แบบนี้เต็มผนัง ทางซ้ายมือจะมีเคาท์เตอร์แบบลอยตัวเล็กๆไว้ให้

โดยที่เคาท์เตอร์นี้จะเป็นที่วางใบเซ็นชื่อสำหรับลูกบ้านที่มาใช้งานค่ะ

อีกด้านของห้องล็อบบี้จะเป็นผนังกระจกตลอดแนว แสงธรรมชาติจึงเข้าค่อนข้างดีและร้อนด้วย โครงการจึงนำม่านมาติดเพื่อกรองความร้อน

ภายในห้อง Falities ทุกห้อง จะโวนเซอร์วิสเล็กๆ ที่ติดตั้งที่วางรีโมทแอร์ สวิตซ์ไฟ ปุ่มกดเปิดประตู และมีเจลล้างมือบริการให้ด้วยค่ะ

เดินออกมาจากห้องล็อบบี้ไปสู่ห้อง Fitness ด้านหน้าจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆที่มีชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่งให้แบบนี้ตลอดแนว

เข้ามาในห้อง Fitness จะเป็นห้องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้โทนสีเทา-เหลืองสดใสเหมือนเดิม โดยห้องนี้บรรจุเครื่องเล่นประมาณ 10 ชนิด ที่ผนังห้องติดกระจกเงายาวตลอดแนวช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นและเผื่อใครอยากออกกำลังกายแล้วสองกระจกไปด้วย

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นกกระจกใส เวลาออกกำลังกายไปก็จะมองเห็นบรรยากาศข้างนอก ที่ผนังทางซ้ายมือติดตั้งทีวีไว้ให้เผื่อเปิดทีวีดูหรือฟังเสียงกันความเงียบระหว่างออกกำลังกาย

ถัดจากห้อง Fitness เป็นห้องนิติบุคคล

ถัดไปเป็นส่วน Service ทั้งหมด ประกอบด้วยห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิงที่มีให้อย่างละห้อง มองตรงไปเป็นห้องแม่บ้านค่ะ

ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องซักผ้าที่จะมีรถขนผ้าแบบล้อเลื่อนได้ไว้บริการให้แบบนี้ ซึ่งเวลาใช้งานจริงก็จะนำไปไว้ใช้ในห้องซักผ้าค่ะ หน้าห้องซักผ้าจะมีโต๊ะนั่งรอ และมีตู้กดน้ำดื่มไว้ให้บริการด้วย

ภายในห้องซักผ้ามีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจำนวน 4 เครื่อง และมีตู้กดน้ำดื่มอยู่ข้างๆด้วย 1 ตู้ ซึ่งปริมาณเครื่องเท่านี้ถือว่าน้อยมากสำหรับรองรับ 899 ยูนิต ส่วนถังขยะทางขวามือนี่เค้าเอามาตั้งพักไว้เฉยๆเดี๋ยวจะขนออกนะคะ

ออกจากห้องซักผ้ามองออกมาก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวแบบนี้ มองตรงไปสุดทางจะเป็นสวนหย่อมริมรั้ว

โดยสวนหย่อมนี้จะมีการตกแต่งเหมือนกับรั้วทางเข้าโครงการ มีสนามหญ้าเล่นลาย มีชิงช้า 2 ตัว ใต้ต้นหูกระจงที่ช่วยให้ร่มเงาได้เล็กน้อย ข้างๆกันเป็นโต๊ะเก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้บริการลูกบ้าน

ถัดมาเป็นซอยที่ 2 ซึ่งเป็นทางเข้าตึก B อยู่ด้านหลังตึก C บรรยากาศภายในซอยนี้จะเหมือนซอยแรกเป๊ะๆเลยค่ะ คือทางขวามือจะเป็นที่จอดรถด้านหลังตึก และทางซ้ายมือจะเป็น Facilities ด้านหน้าตึกหลัก มองตรงไปเป็นสวนหย่อมติดรั้วโครงการ

โดยตึก B นี้จะต่างกับตึก A ตรงที่ไม่มี Facilities อะไรอยู่ภายในตึกเลย จะมีก็แต่ทางเข้าหลักของตึกเท่านั้น แต่ด้านหน้าจะมีฟังก์ชั่นคล้ายๆกันคือ จุดจอดจักรยาน, สวนหย่อมหน้าตึด และชุดโต๊ะและเก้าอี้ให้นั่งเล่น

บริเวณหน้าตึกจะมีสวนหย่อมและทางเดินให้แบบนี้ ค่อนข้างร่มรื่น ซึ่งห้องที่อยู่ติดริมทางเดินก็ต้องเสียความเป็นส่วนตัวแน่นอน หากใครไม่ชอบให้คนเดินผ่านไปมาแนะนำให้เลือกห้องชั้น 3 ขึ้นไปจะเป็นส่วนตัวขึ้นมากค่ะ ซึ่งสิ่งที่เอามาแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยของห้องตรงนี้ก็เหมือนเดิม คือปลุกไม้พุ่มกันคนเดินเข้าและติดระแนงเหล็กจรดฝ้าเพดานที่ราวระเบียง

สุดซอยเป็นสวนติดรั้วโครงการ ที่มีฟังก์ชั่นเหมือนกับซอยแรกทุกประการ ต่างกันก็แต่ตัวตกแต่งรั้วที่เป็นสีน้ำตาลออกทอง สีสันจะสดใสกว่าซอยแรกค่ะ

ออกมาจากซอยที่  2 เราจะเดินไปยังซอยที่ 3 กัน โดยระหว่างซอยนี้จะมีจุดพักขยะอยู่ทางขวามือค่ะ มองตรงไปเราจะเห็นตึก D ซึ่งเป็นตึกที่ยาวกว่าเพื่อนหน่อย

มาถึงซอยสุดท้ายกันแล้ว ซอยนี้จะเป็นทางเข้าของตึก C และ D มีฟังก์ชั่นและรูปแบบเหมือนกับซอยอื่นๆ จะต่างกันก็เพียงแต่ในซอยนี้จะเป็นทางเข้าตึกของทั้งตึก C และ D หันหน้าเข้าหากัน

สวนหย่อมในซอยนี้จะมีหน้าตาเหมือนกับซอยแรก(ตึกA)เป๊ะๆเลย

นอกจากนี้ ตึก D จะมี Scale ของตึกที่ยาวกว่าตึกA, B, C จำนวนยูนิตจึงมากกว่าตามไปด้วย โดยทางเข้าตึก D จะต้องเดินเข้าไปในซอยทางซ้ายมือเกือบสุดตึก ส่วนทางขวามือจะเป็นพื้นที่สวนหย่อมเล็ก

โดยสวนหย่อมนี้เรียกว่า “Pocket Gerden” มีการปลูกไม้พุ่มและปูพื้นด้วยหญ้าเทียบตรงพื้นที่ด้านหน้าและข้างๆอาคาร พื้นที่ค่อนข้างเล็ก ไม่สามารถวิ่งออกกำลังกายหรือทำอะไรได้มากค่ะ

TOWER A_B_C TYP

จากตรงนี้เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูภายในอาคารกันนะคะ โดยผังภายในอาคารชั้น 2-8  ของตึก A, B, C นั้นเหมือนกันค่ะ คือเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว โถงทางเดินตรงกลางกว้างประมาณ 1 เมตร มี 28 ยูนิตต่อชั้น  จัดยูนิตแบบ เอาห้องType A 22.5 ตารางเมตร 4 ยูนิต ต่อชั้นไว้ใกล้โถงบันไดและผนติดผนังห้องพักขยะ ซึ่งห้อง Type A นี่จะได้ยินเสียงรบจากบันไดหรือมดจากห้องพักขยะมากกว่าห้องอื่นนะคะ ส่วน Type B 26 ตารางเมตร จะเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในชั้นคือ 20 ยูนิตค่ะ ส่วนอีก 4 ห้องมุมที่เหลือเป็น Type C 28 ตารางเมตรค่ะ  จะมี 2 ห้องที่ติดโถงบันได และห้องมุมฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นห้องที่อยู่ด้านที่ได้รับแดดช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าแล้ว ยังเจอเสียงรบกวนจากโถงลิฟต์ด้วยค่ะ

TOWER D TYP

ส่วนชั้น 2-8 ของตึก D ตึกนี้จะจัดห้อง Type A 22.5 ตารางเมตร ติดลิฟต์ โถงบันได และห้องพักขยะ จะมีห้อง Type C 28 ตารางเมตร มุมตะวันตกเฉียงใต้ห้องเดียวที่อยู่ติดโถงบันไดค่ะ ตึก D จะมีช่วงตึกยาวกว่าตึกอื่นหน่อย คือมี 30 ยูนิตต่อชั้น ความหนาแน่นของคนที่ใช้งานลิฟต์หรือพื้นที่ส่วนกลางส่วนอื่นๆก็จะต้องใช้ร่วมกับคนมากกว่าตึกอื่นค่ะ ตำแหน่งลิฟต์ไม่ได้อยู่ตรงกลางแต่ไปอยู่ทางฝั่งขวามือหรือฝั่งตะวันออก เพราะฉะนั้นห้องฝั่งซ้ายมือหรือฝั่งตะวันตกจะเดินไปขึ้นลิฟต์ก็ต้องเดินกันไกลหน่อยนะคะ

ภายในตึกแต่ละตึกจะหน้าตาเหมือนๆกัน เราเลยจะพามาดูตัวอย่างที่ตึก A นะคะ ด้านหน้าทางเข้าหลักของอาคารจะเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกตึก คือพื้นทางเข้าอาคารจะเป็นทางลาดแบบเพื่อให้รถเข็น ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการก็สามารถเข้าได้

โดยประตูทางเข้าอาคารจะเป็นประตูบานเปิดคู่ เข้า-ออก โดยการสแกนคีย์การ์ด

เข้ามาด้านในจะเจอโถงลิฟต์ และทางแยกไปยังโถงทางเดินสู่ห้องต่างๆ ที่ผนังตรงโถงลิฟต์จะมีบอร์ด Information สำหรับแจ้งข่าวสารกับลูกบ้าน

ลองมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า ทางซ้ายมือจะเป็นห้องงานระบบไฟฟ้า 2 ห้อง ส่วนทางขวามือจะเป็น Passenger Lift จำนวน 2 ตัว ตรงหน้าประตูเมื่อเดินเข้ามาจะมีทางแยกซ้ายขวาเพื่อไปยัง Mail Box

โดยพื้นที่ Mail Box จะอยู่ข้างประตูทางเข้า เป็น Double Space ค่อนข้างโอ่โถง มีม้านั่งเล็กไว้ให้สำหรับลูกบ้านด้วย

ถัดมาเป็นลิฟต์โดยสารจำนวนสองตัวหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ของ Sigma

บรรยากาศภายในลิฟต์โดยสารเป็นสีเงินสแตนเลส ที่ผนังลิฟต์มีราวจับไว้ให้กันล้ม โดยลิฟต์นี้สามารถบรรจุได้ประมาณ 10 คน

ออกจากโถงลิฟต์มาหันไปทางซ้ายมือจะเป็นสุดปลายทางเดินที่มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง แสงธรรมชาติผ่านได้ดี ทำให้โถงทางเดินไม่มืดค่ะ

ส่วนถ้าหันไปทางขวามือ จะเป็นโถงทางเดินที่ยาวกว่า ระหว่างทางจะติดตั้งไฟ Warm white ด้านบนโถงทางเดิน สุดทางจะมีหน้าต่างให้แสงเข้าเหมือนกันค่ะ

บรรยากาศของโถงทางเดินภายในอาคาร ที่ผนังเป็นปูนฉาบเรียบธรรมดา ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สีครีม

ขึ้นมาที่ชั้น 8 วิวจากทิศใต้ของตึก A จะเห็นด้านหลังของตึก B แบบนี้ค่ะ

วิวทางทิศตะวันตก ที่ชั้น 8 ของตึก A มองออกไปจะเห็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และอพาร์ทเม้นต์ 5 ชั้นที่อยู่ติดกับซอยข้างๆโครงการค่ะ

วิวทางทิศเหนือ ที่ชั้น 8 ของตึก A มองออกไปจะเห็นปั๊มปิโตรนาส ด้านหน้าทางเข้าโครงการ ที่ดินว่างเปล่าของบุคคลอื่น และด้านหลังของอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นที่อยู่ติดกับถนนสามัคคี

วิวทางทิศตะวันออก ที่ชั้น 8 ของตึก A จะเป็นทิศที่มองออกไปแล้วโล่งสายตามากที่สุด เนื่องจากติดกับที่ดินว่างเปล่าของบุคคลอื่น แต่ถ้าอนาคตมีสิ่งปลูกสร้างเข้ามาคงไม่ได้โล่งสายตาแบบนี้นะคะ มองตรงไปจะเป็นบ้านพักอาศัยและอพาร์ทเม้น หอพัก ความสูงไม่เกิน 8 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ:

  • Fitness ที่ตึก A
  • Lobby ที่ตึก A
  • ห้องซักผ้า ที่ตึก A และ D
  • พื้นที่สีเขียวประมาณ 2.5 ไร่ พร้อม Pocket Park และ Green Foyer หรือสวนหน้าทางเข้าทุกตึก
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก  A  108:1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B, C 112:1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 120:1
  • Passenger Lift ตึกละ 2 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ  220 คันคิดเป็น  24% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • Access Key Card
  • ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

 

 


Product Walkthrough

Screen Shot 2557-09-05 at 12.39.54 AM

คอนโดนี้ขายแบบ Fully Fitted หรือแบบมีเฟอร์นิเจอร์บางส่วนมาให้คือ เคาท์เตอร์ครัว แอร์ และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำค่ะ ยูนิตทั้ง 3  Type นั้นจัดผังคล้ายกันและมีหน้ากว้างเท่ากันคือ 4.9 เมตร ต่างกันที่ความลึกและพื้นที่ใช้งาน

ห้อง Type 1A, Type1 B นั้น  การจัดผังและโซนการใช้งานแทบจะเหมือนกันหมด แต่พื้นที่ใช้งานมากน้อยต่างกันตามความลึกค่ะ ห้องType A ลึก 4.7 เมตร ขณะที่ห้อง Type B ลึก 5.4 เมตร เริ่มจากทางเข้าเปิดมาเจอห้องนั่งเล่น ตัวโซฟาและชั้นวางทีวีมีระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร แต่ทีวีไม่อยู่ Center ของโซฟาเนื่องจากติดผนังตัดมุมของห้องน้ำ สังเกตว่าผนังห้องน้ำส่วนมุมทางเข้าถูกปาดให้ป้าน เพื่อมุมมองที่ให้ความรู้สึกกว้างขึ้น ส่วนห้องนอนไม่มีกั้นห้องมาให้นะแต่ใน Plan จะทำเส้นประแสดงให้เห็นว่าพื้นที่นี้สามารถกั้นห้องได้ พื้นที่ในห้องนอนกว้างพอจะวางโต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้แต่ขนาดค่อนข้างเล็กค่ะ คนมีเสื้อผ้าเยอะๆไม่น่าจะพอ ส่วนห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ ถัดไปเป็นระเบียงที่ติดตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์ไว้ให้ด้านบน มีการติดตั้งงานระบบท่อและเต้ารับไว้เผื่อวางเครื่องซักผ้าเรียบร้อย และส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจนค่ะ

ส่วนห้องมุม  Type 1C  พื้นที่มากกว่า เนื่องจากลึก 5.8 เมตรเลยจัดได้ลงตัวกว่าห้องแบบอื่นค่ะ เริ่มจากทางเข้าจะเห็นว่าชั้นวางทีวีวางอยู่ center ของโซฟา  ทางเข้าห้องน้ำอยู่ในห้องครัวแบบปิดค่ะ สังเกตว่าส่วนครัวปูกระเบื้องมาให้ ดูเหมาะกับการทำอาหารอย่างเป็นจริงเป็นจังมากกว่าห้องอื่น ระเบียงดูเล็กกว่าห้อง Type อื่นๆนะ ส่วนห้องนอนเป็นรูปสี่เหลี่ยมเต็มผืน วางชั้นวางทีวีปลายเตียงได้ค่ะ

1B_UPDATE_OK_UP copy

ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูวันนี้เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการหรือห้อง Type B  พื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร นั่นเอง เข้าไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

ป้ายหน้าห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีฟ้าเข้มและมีลวดลายตามป้ายชื่อโครงการเหมือนกันแบบนี้ทุกห้อง ส่วนตัวล็อคประตูทั้งด้านนอกและด้านในจะได้หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

เปิดเข้าห้องมาสิ่งแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นขนาด 3.30 x 3.20 เมตร ฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสี ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร  โดยห้องนั่งเล่นนี้จะเสมือนโถงกลาง ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน โครงการติดตั้งโคมไฟซาลาเปามาให้ 3 ดวง ตรงส่วนของห้องรับแขกและห้องนอน เป็นโคมไฟซาลาเปาสี่เหลี่ยมดวงใหญ่ ส่วนในห้องครัวจะเป็นโคมไฟซาลาเปาทรงกลมดวงเล็ก

(ห้องตัวอย่างกับห้องเปล่ากลับด้านกันนะคะ 🙂 ) ลองมองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นฟังก์ชั่นของห้องนั่งเล่นทั้งหมด โดยโครงการลองจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นจะประกอบด้วยโซฟา โต๊ะเขียนหนังสือและชั้นวางทีวี มีระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″ จะเป็นระยะที่พอกับสายตาค่ะ โดยห้องที่ได้จริงจะเป็นห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆทั้งสิ้นเหมือนภาพด้านล่าง มีแค่เมนบอร์ดไฟติดไว้ที่ผนัง 1 จุดค่ะ

ที่ประตูมีตาแมว เปิด-ปิดได้ และที่พื้นมีตัวกันกระแทกติดตั้งมาให้เรียบร้อย

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะเขียนหนังสือแบบนี้ได้พอดีๆ หรือใครชอบโซฟาใหญ่ๆขนาด 3-4 ที่นั่งก็ยังวางพอ เพียงแต่จะวางโต๊ะเขียนหนังสือไม่ได้เท่านั้นเอง ซึ่งฟังก์ชั่นๆต่างๆเหล่านี้เราสามารถปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นได้จามใจชอบ เนื่องจากโครงการให้ห้องเปล่ามาอยู่แล้ว

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังว่างเปล่าของห้องน้ำ ที่เราสามารถวางโต๊ะวางทีวีแบบนี้ได้ ซึ่งข้อจำกัดในการวางเฟอร์นิเจอร์จะมี 2 อย่าง คือ ความกว้างของตู้ต้องไม่เกิน 50 เซนติเมตร เพราะจะกว้างเกินตัวกันกระแทกที่ติดอยู่ที่พื้น และความยาวของตู้ไม่ควรยาวเกินเหลี่ยมมุมของห้องน้ำเพราะจะทำให้เกิดซอกมุมไม่เรียบร้อยอาจทำให้เผลอแตะได้และฝุ่นจะเข้าซอกมุมทำความสะอาดยากค่ะ

เมนบอร์ดไฟ

ถัดไปเป็นห้องนอนที่โครงการไม่ได้มีฉากกั้นหรือประตูบานเลื่อนให้ แต่จะได้เป็นห้องโล่งๆแบบนี้ หากใครต้องการพื้นที่เป็นสัดส่วนหน่อยก็สามารถกั้นห้องเพิ่มเติมได้นะคะ แนะนำเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสามตอน ข้อดีของบานแบบนี้คือช่วยให้ช่องเปิดกว้างกว่าบานเลื่อนสองตอนปกติหน่อย

หากกั้นห้องเพิ่ม พื้นที่ตรงนี้ก็จะไม่สามารถวางตู้แบบนี้ได้แล้ว แต่สามารถวางโต๊ะเล็กๆตรงหัวเตียงได้อยู่

โดยพื้นที่ของห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3-5 ฟุตได้ค่ะ ใหญ่กว่านี้ก็จะอึดอัดเกินไป ซึ่ง Queen Size 5 ฟุตในห้องนี้โครงการไม่ได้ให้ แต่แค่วางให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ

(ห้องตัวอย่างกับห้องเปล่ากลับด้านกันนะคะ 🙂 ) ภาพสองภาพนี้ลองเปรียบเทียบความสว่างของห้องที่เปิดม่านกับปิดม่านให้ดู จะเห็นว่าเมื่อเปิดม่านแล้วแสงธรรมชาติเข้าห้องได้ดีเลย เนื่องจากช่องเปิดค่อนข้างกว้าง แต่ก็ยังแนะนำให้หาผ้าม่านทึบและโปร่งแสงมาติดอยู่ดี เพื่อความเป็นส่วนตัวและช่วยกรองแสงได้อีกทางหนึ่ง หน้าต่างห้องนอนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่และบานด้านล่างเป็นบาน Fix ตัวกระจกเป็นสีเขียวใสตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ โดยหน้าต่างบานเลื่อนนี้จะเลื่อนจากไปขวาไปซ้ายได้ทางเดียวนะคะ ด้านบนหน้าต่างโครงการติดตั้งแอร์มาให้ 1 ตัว ของ  Samsung ขนาด 12,000 BTU ค่ะ

หากวางเตียง 5 ฟุตแบบในห้องตัวอย่าง จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างน้อย มีพื้นที่แค่พอให้ผ้าม่านผ่านได้ แต่ถ้าคนจะเดินผ่านไปเปิด-ปิดหน้าต่างก็จะเดินลำบากนิดนึงเพราะที่แคบ

(ห้องตัวอย่างกับห้องเปล่ากลับด้านกันนะคะ 🙂 )พื้นที่ปลายเตียงจะเป็นผนังว่างเปล่า ที่มีการ Drop ผนังเป็นช่องเข้าไป เหมาะกับการ Built-in หรือวางตู้เสื้อผ้าแบบในห้องตัวอย่างค่ะ

หากวางตู้เสื้อผ้าในตำแหน่งนี้ (กรณีที่เป็นบานเปิดคู่แบบในห้องตัวอย่าง) เวลาเปิดตู้ออกมาก็จะติดกับปลายเตียงตามภาพ ทำให้เวลาเปิด-ปิดตู้จะใช้พื้นที่ลำบากหน่อย แนะนำให้เป็นตู้เสื้อผ้าประตูบานเลื่อนจะสะดวกกว่า เวลาเปิด-ปิดตู้ก็ใช้เลื่อนเอา จะสะดวกทั้งเวลาหยิบผ้าและก็สามารถยืนแต่งตัวตรงนี้ได้เลย

จากห้องนอนมองไปจะเห็นส่วน Service ทั้งหมด ประกอบด้วย ห้องน้ำและทางเข้าห้องครัวที่เป็นครัวเปิด จะเห็นว่าพื้นที่ใกล้กันมาก หากใครชอบเป็นสัดส่วนและกลัวกลิ่นอาหารลอยเข้ามาก็สามารถกั้นห้องเพื่อให้เป็นครัวปิดได้นะคะ เราจะพาไปดูเริ่มต้นกันที่ห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงกัน โดยประตูห้องนำ้เป็นบาน PVC สีขาว มีเกร็ดระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีการลดระดับพื้นและยื่นธรณีประตูขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำไม่ให้ไหลไปเปียกส่วนห้องครัว ซึ่งภายในห้องน้ำก็มีการยื่นธรณีประตูระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้งเพื่อกันน้ำไหลไปเปียกพื้นที่ของกันและกัน

ห้องน้ำใช้โทนสีขาว-เทาอ่อน ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่ไม่มีฉากกั้น

ชุดอ่างล้างหน้าให้มาลักษณะนี้ กระจกเงาเป็นบานกระจกติดผนังเฉพาะช่วงอ่างล้างหน้า อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว ที่ผนังข้างๆกันติดตั้งราวแขวนผ้าสแตนเลสมาให้

ก็อกน้ำสแตนเลสและอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าของ American Standard

โถสุขภัณฑ์ของ American standard  พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่

สายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่เป็นสแตนเลสหน้าตาแบบนี้

ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.92 x 0.80 เมตร ที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ แนะนำให้หาฉากกั้นหรือหาผ้าม่านแบบกันน้ำมาติดตั้งนะคะ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นไปเปียกส่วนแห้ง

ฝักบัวสแตนเลสขนาดไม่ใหญ่มากนัก

ถัดจากห้องน้ำจะเป็นห้องครัว ที่โครงการติดตั้งชุดครัว Built-in มาให้เฉพาะเคาท์เตอร์ครัวด้านล่างเท่านั้น ทางขวามือเป็นช่องว่างเปล่าๆสำหรับวางตู้เย็น เคาท์เตอร์ครัวที่โครงการให้จะเป็น Top ลามิเนต มีหน้าบานเป็นกรุเมลามีนสีขาวเรียบๆ มือจับเป็นสแตนเลส ผนังเคาท์เตอร์เป็นปูนฉาบเรียบทาสีธรรมดา ซึ่งอนาคตถ้าเราล้างจานตรงนี้อาจจะทำให้ผนังชื้นและขึ้นรา หรือเกิดคราบสะสม ทำความสะอาดได้ยาก จึงแนะนำให้ปูกระเบื้องหรือติดพลาสติกกันเปื้อน เพื่อทำให้ง่ายและสะดวกต่อการทำความสะอาดมากขึ้น ที่ผนังเคาท์เตอร์ทางขวามีเต้ารับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าเตรียมไว้ให้ รองรับการเสียบไมโครเวฟ กาน้ำร้อน หรือเตาไฟฟ้าเล็กๆเผื่อทำอาหารได้

เมื่อเปิดลิ้นชักเคาท์เตอร์ครัวออกมาก็จะได้ฟังก์ชั่นภายในประมาณนี้

ซิงค์ล้างจานที่ได้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และก็อกน้ำทรงโค้งของ Hafele

ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นผนังฝั่งที่ติดกับห้องนอน สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ได้ประมาณ 2 ที่นั่งแบบเบียดๆ

ตัวล็อคประตู

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะมีการติดตั้ง Compressor แอร์ที่แบบเป่าลมร้อนออกนอกอาคาร ระเบียงนี้จึงไม่ร้อนแม้จะเปิดเครื่องปรับอากาศ ที่ผนังทางขวามือจึงกลายเป็นที่ติดตั้งไฟระเบียง

โดยตัวไฟระบียงจะเป็นโคมไฟ Warm white หน้าตาแบบนี้ค่ะ

ส่วนทางซ้ายมือจะมีการติดตั้งงานระบบท่อและมีเต้ารับแบบกันน้ำให้ สามารถวางเครื่องซักผ้าแบบนี้ได้

ปลั๊กไฟและเต้ารับที่ใช้ภายในห้อง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @5 April, 2016

  • Type 1 A  ขนาดพื้นที่ 22.5  ตร.ม. ราคาขาย 1,025,750-1,055,750 บาท หรือเฉลี่ย 45,588 – 46,922 บาท/ตร.ม.
  • Type 1 B  ขนาดพื้นที่ 26 ตร.ม. ราคาขาย 1,103,350-1,204,805 บาท หรือเฉลี่ย 42,436 – 46,338 บาท/ตร.ม.
  • Type 1 C  ขนาดพื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย  1,203,952-1,305,809 บาทหรือเฉลี่ย 42,998– 46,636 บาท/ตร.ม.

***ตอนนี้มีส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท ในทุกยูนิต

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • จอง 1 บาท
  • ฟรีค่าทำสัญญาและเงินดาวน์
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

 


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Plum Condo สามัคคี เป็นโครงการทางฝั่งนนทบุรี ตั้งอยู่ระหว่างซอย 22 และ 24 บนถนนสามัคคีค่ะ เป็นถนนสายที่เชื่อมระหว่างถนนติวานนท์และถนนประชาชื่น ที่ตั้งโครงการจะค่อนมาทางฝั่งถนนติวานนท์มากกว่า โดยขับเข้าถนนสามัคคีมาประมาณ 1.4 กิโลเมตรจะถึงปากทางเข้าโครงการค่ะ และจากปากทางเข้าโครงการ วิ่งออกไปทางถนนประชาชื่นประมาณ 1.4 กิโลเมตรจะเจอแยกที่เลี้ยวขวาไปขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัชได้ ขณะที่จากปากทางเข้าโครงการห่างจากถนนประชาชื่นประมาณ 3 กิโลเมตรนะคะ การเดินทางโดยใช้รถแยกแครายเป็นจุดเชื่อมถนน 3 สาย งามวงศ์วาน-รัตนาธิเบศร์-ติวานนท์ แยกนี้เป็นแยกที่เลื่องลือเรื่องรถติดสุดๆนะคะ รวมทั้งถนนติวานนท์ด้วย ไปไหนมาไหนช่วงเวลาเข้าออกเช้าเย็นผ่านเส้นนี้ต้องเผื่อเวลากันไว้เยอะๆค่ะ

สำหรับคนขับรถสภาพแวดล้อมโซนที่โครงการตั้งอยู่เป็นย่านชุมชนที่อยู่กันมานานค่ะ มีหมู่บ้าน มีโรงเรียน มีสถานีตำรวจ มีคาร์แคร์ อาคารพาณิชย์ต่างๆอยู่ในซอยซึ่งทำให้ช่วงเวลาเข้าออกในซอยรถจะเยอะและติด โดยเฉพาะตอนเช้าที่ผู้ปกครองมาส่งเด็กๆไปโรงเรียนกัน ใกล้ๆโครงการจะมี Community mall ชื่อ Oasis ด้านในมี Lotus Express, ร้าน Boots , ธนาคารไทยพาณิชย์ , ธนาคารกสิกรไทย อยู่ ช่วยให้คนในโครงการสะดวกขึ้นเยอะ พวกห้างร้านต่างๆที่ใกล้ๆหน่อยจะกระจายตัวอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะค่ะ ห้างที่เอาไว้ช้อปปิ้งกันหลักๆจะเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, Big C, The Mall และ Makro ส่วนอาหารการกินบนถนนประชาชื่นก็มีร้านอาหารหลายร้าน เพราะอยู่ใกล้ม.ธุรกิจบัณฑิตย์

สำหรับคนไม่ขับรถจะไปไหนมาไหนอาจไม่สะดวกเท่าไหร่นะคะ ด้วยระยะจากถนนสามัคคีเข้ามาที่ตึก ตึก A อยู่ที่ประมาณ 83 เมตร, ตึก B อยู่ที่ประมาณ 103 เมตร, ตึก C อยู่ที่ประมาณ 126 เมตร, ตึก D อยู่ที่ประมาณ 151 เมตรจากถนนสามัคคี เนื่องจากในซอยสามัคคีไม่มีรถเมล์ผ่าน พอออกมาที่ถนนสามัคคีหน้าโครงการก็ไม่เห็นวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้ๆโครงการนะ แต่จะมีรถ 2 แถว 2 สาย คือ สายวัดสาลีโข-แจ้งวัฒนะ กับ สายประชานิเวศน์ 3 – ต้นซอยสามัคคี (ฝั่งติวานนท์)

ด้านการออกแบบโครงการ ที่นี่เป็นโครงการ Low Rise มีจำนวนยูนิต 899 ยูนิต ค่อนข้างหนาแน่น หน้าตาและรูปแบบอาคารไม่หวือหวามากนัก แต่มี Gimmick บางอย่างและการใช้สีที่ช่วยให้โครงการดูมีลูกเล่นไม่น่าเบื่อ เช่น การเล่นแผงฉลุสีน้ำตาลที่รั้วโครงการกับตรงสวนหย่อมริมรั้วภายในซอยให้ดูเป็นเรื่องราวเดียวกัน การออกแบบส่วนกลางที่คุมโทนสีเทา-เหลือง เป็นต้น ตัวตึกทั้ง 4 ตึกก็วางตัวขนานกันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้เป็นทิศที่รับลมได้ดีค่ะ โดยเฉพาะด้านตึกที่หันหน้าไปทางถนนสามัคคี

แบบห้องที่มีให้เลือกหลักๆเป็นห้องType 1B 26 ตารางเมตรค่ะ จะมี 1A 22.50 ตารางเมตรกับห้องมุม Type 1C 28 ตารางเมตร ซึ่งทั้งหมดเป็นยูนิตแบบ 1 ห้องนอน ที่ทำมาตอบโจทย์ตามลักษณะของคนที่มองหาซื้อคอนโดราคาประหยัดแทนการเช่าอยู่ หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่าค่ะ เน้นใช้งานได้ และมีความปลอดภัยในระดับนึง ส่วนพื้นที่และระยะการใช้งานของ Type A ที่ 22.5 ตารางเมตร ก็อาจจะอึดอัดเกินไปสำหรับหลายๆคน ถ้าขยับไปเป็นห้อง 26 ก็จะใช้งานได้สะดวกกว่าพอสมควร

วัสดุอุปกรณ์ที่โครงการให้ ตัวห้องจัดเป็นแบบ Fully-Fitted คือให้เคาท์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ และแอร์ แต่ไม่มีฉากกั้นห้องประตูกระจกบานเลื่อนกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มาให้นะ ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ไฟที่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องครัว ได้เป็นโคมซาลาเปา ห้องน้ำเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว เมื่อเทียบกับราคาคอนโดระดับล้านต้นๆด้วยกันก็จัดว่าวัสดุที่ได้อยู่ในเกณฑ์ธรรมดาทั่วไปค่ะ

สาธารณูปโภคของโครงการ มีพื้นที่สีเขียวให้มาประมาณ 2.5 ไร่ ที่จอดรถจอดรอบตึก ใครอยู่ชั้นล่างจะเจอเสียงรบกวนจากรถที่มาจอดด้านข้างอาคารแน่นอน แต่มีทำแนวสวนปลูกต้นไม้มาให้คั่นระหว่างที่จอดรถกับตัวห้องอยู่ซึ่งช่วยกันเสียงกันฝุ่นจากที่จอดรถได้นิดหน่อยค่ะ แต่ช่วยได้ไม่มากนะ สัดส่วนที่จอดรถ 24% แบบไม่รวมจอดซ้อนก็ถือว่าน้อยทีเดียว เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อต้องพิจารณากันเองนะคะ ว่าต้องการอะไร ตึก A ที่อยู่ใกล้ทางเข้าออกโครงการมากที่สุด ชั้นล่างจะมี ห้อง Lobbyหรือห้องสมุด, Fitness, นิติบุคคล ส่วนห้องซักผ้าอยู่ตึก D อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ตึก A 108:1, ตึก B, C 112:1, ตึก D 120:1 ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ปกติของคอนโดระดับราคานี้ค่ะ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 45,153 บาท/ตร.ม.,5 April, 2016

  • ทำเล 7.25/10 -สามารถไปขึ้นทางด่วนได้ง่าย มี Community Mall และโลตัสอยู่ไม่ไกลนัก ภายในถนนสามัคคีค่อนข้างคึกคักหาของกินไม่ยาก
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 -ถนนสามัคคีเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนประชาชื่น และถนนติวานนท์ แถมไปทะลุออกถนนแจ้งวัฒนะได้ ข้อดีคือเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายทาง แต่ข้อเสียคือรถติดและเคลื่อนตัวช้าตลอดทั้งวันเนื่องจากคนมักใช้เป็นทางลัดไปสู่ถนนใหญ่เหล่านั้น นอกจากนี้การให้ที่จอดรถมา 24% ถือว่าน้อยมากสำหรับคอนโดที่ไม่ค่อยมีรถประจำทางผ่าน
  • ไม่ใช้รถ 7/10 -จากอาคารต้องเดินออกมาที่ถนนด้านหน้าโครงการ ซึ่งคนที่อยู่ตึก D ซอยสุดท้ายนี้จะเหนื่อยกว่าเพื่อนเลย หน้าโครงการมีแท็กซี่ผ่านไปมาและมีรถ 2 แถวส่งที่ถนนติวานนท์และแจ้งวัฒนะ
  • วัสดุ 7/10 -วัสดุปกติธรรมดา มาตรฐานของคอนโดระดับนี้
  • แบบ 7.5/10 -สำหรับคอนโดราคานี้ในตอนนี้ถือว่าทำออกมาได้โอเคสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยไม่มาก อยู่กันไม่เกินสองคน
  • สาธารณูปโภค 7/10 -ให้มาน้อยมีแค่ฟิตเนส 1 ห้องกับล็อบบี้หรือห้องสมุด ไม่ค่อยสมดุลกับจำนวนยูนิต เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องส่วนกลาง แต่พื้นที่สีเขียวและสวนหย่อมให้มาเยอะดี ค่อนข้างร่มรื่น

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.13 / 10.00

BOTTOM LINE

Plum Condo สามัคคี เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาเบาๆในย่านสามัคคี-ติวานนท์-ประชาชื่น-แจ้งวัฒนะ อยากได้ห้องเล็กๆกระทัดรัดแบบมาคนเดียวเปลี่ยวๆ หรือเอี่ยวเพื่อนมากันแค่ 2 คน ใช้ชีวิตอยู่ในห้องเป็นหลักและไม่ซีเรียสเรื่อง Facilities ชอบโครงการที่ร่มรื่น เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ก็ได้  และไม่ซีเรียสเรื่องที่จอดรถ มีงบประมาณ 1,025,750 -1,305,809 บาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 7,140 – 9,100 บาท/เดือน (เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนค่าเช่าคอนโดมาเป็นเจ้าของคอนโดเองสักที่ เพราะราคาผ่อนต่อเดือนพอๆกับเช่าคอนโดค่ะ)

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )