รีวิวโครงการ

BoomTharis I The Residences at MANDARIN ORIENTAL Bangkok คอนโดร้อยล้านติด ICONSIAM

28 สิงหาคม 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

 รีวิวย่อฉบับที่ 1111 สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่เราเคยลงข้อมูลโครงการ Icon Siam และ Magnolias Waterfront Residences กันแล้ว วันนี้จะพาไปชมคอนโดอีกตึกหนึ่งใน Icon Siam คือ The Residences At Mandarin Oriental Bangkok  สูง 52 ชั้น จุดเด่นของโครงการนอกจากทุกยูนิตจะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้แล้ว ยังได้รับการออกแบบภายในโดยแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ โครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 28 June 2016

  • The Residences At Mandarin Oriental Bangkok (เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ)
  • บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
  • ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : คลองสาน ถนนเจริญนคร
  • คอนโด High Rise 52 ชั้น 146 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 4
  • ที่จอดรถแบบ Automated Parking คิดเป็น 100 %
  • ที่ดินประมาณ 4.9 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 1 ปี 2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2561
  • 2 Bedrooms 127.87-165.40 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 222.21-228.88 ตร.ม.
  • Penthouse 380.93-383.98 ตร.ม.
  • Penthouse Duplex 386.12-707.28 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 3.2 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุดเริ่มต้น 350,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : +662-118-2211

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.727454, 100.510976

map_iconsiam2

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักโครงการ The Residences At Mandarin Oriental Bangkok จะขอพูดเรื่องทำเลให้ฟังนิดหน่อยนะคะแต่ถ้าใครรู้อยู่แล้วก็ข้ามไปดูส่วนของห้องตัวอย่างได้เลยค่ะ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเจริญนคร ในพื้นที่เขตคลองสาน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ ของ ICONSIAM มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าสถานีสะพานกรุงธนบุรี 1.4 กม. และห่างจากสถานีสะพานตากสิน 2.2 กม. ซึ่งสถานีนี้จะเป็นสถานีที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านล่างสถานีมีท่าเรือที่สามารถต่อเรือมายังโครงการได้ ส่วนระยะห่างจากทางขึ้นทางพิเศษศรีรัชบริเวณเชิงสะพานตากสินฝั่งถนนสาทรมีระยะทาง 2.8 กม. ค่ะ

Map mandarin edit copy

ตัวโครงการจะอยู่ในโครงการ ICONSIAM ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 50 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเจริญนคร เขตคลองสาน โดยถนนเจริญนครเป็นถนนสายสำคัญสายหนึ่งที่ตัดเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรีซึ่งสามารถข้ามไปยังย่าน CBD ของกรุงเทพฯได้ง่าย  จึงเป็นทำเลที่ไม่ห่างจากตัวเมืองและมีพื้นที่ที่ติดริมน้ำทำให้สามารถเห็นวิวเจ้าพระยาทั้งสาย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ถนนเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายๆโครงการ เช่น Millennium Hillton และ Peninsula Bangkok อีกด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถสามารถใช้เรือที่ทางโครงการเตรียมไว้เพื่อ Service ลูกบ้านที่จะรับส่งระหว่าง ท่าเรือสาทรและโครงการ ส่วนการเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้โดยผ่านถนนเจริญนคร ถ้าต้องการเข้าเมืองไปยังถนนสาทร สามารถเลี้ยวขวาขึ้นสะพานตากสินข้ามเข้าสาทรไปได้เลย (ตามลูกศรสีฟ้า) ส่วนถ้าจะวิ่งออกนอกเมืองไปราชพฤกษ์ก็ทำได้ไม่ยากโดยเลี้ยวขวาแล้วเลียบข้างสะพานตากสิน ตรงไปเรื่อยๆจะเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์แล้ว

Mandarin_mapsurrounding_2-1-of-1

เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่มีระยะห่างจากทางขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆกันถึง 2 จุด โดยทางด่วนที่ใกล้กับโครงการคือทางด่วนศรีรัช ซึ่งทางด่วนนี้มีจุดขึ้นลงอยู่บนถนนสาทรระหว่างสถานีตากสินกับสถานีสุรศักดิ์ ทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ 2 ฝั่งถนนซึ่งจะพาไป 2 ฝั่งของเมืองที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะหากวิ่งจากสะพานตากสินเข้าสาทรจุดขึ้นทางด่วนฝั่งซ้ายจะพาไปทิศเหนือของเมือง ได้แก่ ย่านจตุจักร ดอนเมือง ส่วนทางขึ้นทางด่วนอีกฝั่งจะเชื่อมไปย่าน พระราม 3 และยังสามารถเชื่อมไปยังทิศตะวันออกของเมืองอย่างบางนา ออกไปชลบุรีได้อีกเช่นกัน

ส่วนการเข้าถึงโครงการโดยทางด่วนถ้ามาจากฝั่งจตุจักรให้ลงทางออกถนนสีลม ถ้ามาจากฝั่งพระราม 3 ให้ลงทางออกถนนสาทร จากทั้ง 2 ทางจะมาบรรจบกันที่ถนนสาทร หลังจากนั้นให้ข้ามสะพานตากสิน แล้ววนรถซ้ายตามป้ายถนนเจริญนคร (เส้นประสีเหลือง) เมื่อลงจะสะพานเรียบร้อยแล้วให้เลี้ยวซ้ายที่สามแยกกรุงธนบุรีเพื่อเข้าสู่ถนนเจริญนคร ตรงไปเรื่อยๆ โครงการจะอยู่ฝั่งขวามือค่ะ

Mandarin_mapsurrounding_3 (1 of 1)

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย โครงการนี้มีการพัฒนาในอนาคตเนื่องจากโครงการอยู่บนพื้นที่ของ ICONSIAM ซึ่งจะมีศูนย์การค้าสุดหรูแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา 2 อาคาร อาคารหนึ่งเป็นอาคาร Luxury ที่มีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ด้านหน้าอาคารทอดยาวขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อาคารนี้จะเป็นการรวบรวมแบรนด์ดังระดับโลก ซึ่งรวมภัตตาคารหรูระดับ Michelin Stars ส่วนอีกอาคารหนึ่งคืออาคาร Main Retail มีพื้นที่ 500,000 ตารางเมตร จะอยู่ติดกับถนนเจริญนครในบรรยากาศ Indoor และ Outdoor รวมกว่า 500 ร้านค้า 100 ภัตตาคารจาก 30 ประเทศ และยังมีพื้นที่พิเศษบน Rooftop Garden ซึ่งจะมี Sport Complex ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีศูนย์ประชุมระดับโลกขนาด 3,500 ที่นั่งรวมอยู่ที่นี่ด้วย

มาดูในส่วนของโครงการริมแม่น้ำโดยรอบกันบ้าง จะไล่มาจากหัวมุมถนนฝั่งคลองสานนะคะ อาคารสูงอาคารแรกคือโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง Millennium Hillton สูง  32 ชั้นที่ติดอยู่กับโครงการ The Residences Mandarin Oriental Bangkok เลยนะคะ ถัดมาอีกฝั่งหนึ่งของโครงการเป็นกลุ่มของอาคารพาณิชย์ และอาคารพักอาศัย ส่วนใหญ่มีความสูง 4 ชั้น ไม่เกิน 6 ชั้นค่ะ ถัดมาจะเจอตึกสูงอีกตึกหนึ่งไม่ได้อยู่ในระยะประชิดนะคะ คือโรงแรม The Peninsula Bangkok มีความสูง 40 ชั้น ถัดไปคือโครงการ The River เป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคารที่มีความสูง 73 ชั้นและ 43 ชั้น

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำคือฝั่งถนนเจริญกรุงนะคะ เริ่มกันที่ River City Shopping Complex คือศูนย์รวมร้านค้าเฉพาะด้านศิลปะและวัตถุโบราณ เป็นอาคาร 4 ชั้น อยู่ติดกับท่าเรือสี่พระยาซึ่งอาคารนี้สามารถมองเห็นได้จากโครงการเลยนะคะ อาคารถัดมาคืออาคารไปรษณีย์กลาง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิค มีความสูง 5 ชั้น และติดกันคืออาคาร Cat Tower เป็นสำนักงานให้เช่าที่ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยามีความสูง 30 ชั้น ซึ่งจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเลยค่ะ ต่อมาเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวอีกหนึ่งโครงการคือ Mandarin Oriental Hotel ซึ่งอยู่เยื้องกับโครงการ และยังเป็นผู้ให้การบริหารจัดการโครงการพร้อมทั้งให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยที่ The Residences Mandarin Oriental Bangkok ด้วยนะคะ ถัดไปคือโครงการระดับ 5 ดาวอีกโครงการที่อยู่ก่อนถึงสะพานตากสิน นั่นคือ Shangri-La Hotel ที่มีความสูง 25 ชั้นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 850 ม.
  • เสนาเฟส ~ 900 ม.
  • Chartered Square ~2.5 กม.
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ~ 3 กม.
  • โรบินสัน บางรัก ~ 3 กม.
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ ~ 3.1 กม.
  • Chartered Square ~3.1 กม.
  • Cat Tower ~ 3.7 กม.
  • Asiatique~ 6.3 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

Mandarin_รูปปลากรอบ-2edit 

ภาพจำลองภายนอกโครงการ The Residences At Mandarin Oriental Bangkok คอนโด High Rise สูง 52 ชั้น กับจำนวนห้องเพียง 146 ห้อง ห้องพักทุกห้องจะมองเห็นวิวแม่น้ำทั้งหมดนะคะ ตัวอาคารภายนอกจะมีการออกแบบแนวเดียวกันกับ Magnolias Waterfront Residences ที่อยู่ข้างกันแต่โครงการ Magnolias มีความสูงที่สูงกว่าคือ 70 ชั้นค่ะ การออกแบบจะมี Fin สีทองอยู่ตรงกลางของตัวตึก เป็น Element ที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับตัวตึกค่ะ ส่วนอาคารสูงไม่กี่ชั้นด้านหน้าที่อยู่ติดกับถนนเจริญนครนั้นจะเป็นส่วนของศูนย์การค้า ICON SIAM ค่ะ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ The Residences Mandarin Oriental Bangkok จะมีทั้งหมด 4 ชั้นนะคะ โดยชั้น 1 จะเป็นชั้น Lobby ของโครงการ นอกจากจะมี Lobby แล้วยังมี Lounge อีก 2 ส่วน คือ

  • The Chao Phraya Lounge (Lounge can be enclosed for private function)
  • The Mandarin Gallery (Lounge are with pantry capabilities)

และสำหรับระบบการจอดรถ โครงการนี้ได้นำระบบจอดรถอัตโนมัติในอาคารพักอาศัยมาใช้ ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย โดยสามารถจอดรถทิ้งไว้ที่ Lobby ทางเข้าได้ และลิฟต์อัตโนมัติจะทำหน้าที่นำรถไปจอดให้ค่ะ ซึ่งตัวระบบจะทำงานได้เร็วแค่ไหนคงต้องรอดูกันต่อไปนะคะ ส่วน Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 4 และชั้น 5 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ และ Facilities ต่างๆ ได้แก่

  • River Terrace (outdoor lawn are with sun-bathing deck and cabanas)
  • Outdoor Infinity Swimming Pool & Jacuzzi
  • Poolside Barbecue Terrace
  • Garden Loft (dining area with open kitchen)
  • Golf Simulator & Virtual Game Room
  • Game Room
  • Private Fitness & Wellness Studio
  • Stream Room & Sauna
  • Separate Female and Male Changing Rooms
  • Children’s Pool
  • Children’s Playroom
  • Playground

ในส่วนของคลับเฮ้าส์นี้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไม่ยากเพราะอยู่แค่ชั้น 4 – 5 แต่ถ้าอยากได้วิวสูงๆไกลๆจะมี Facilities ให้ใช้ที่ชั้น 36 อีกจุด และส่วนกลางอีกชั้นหนึ่งอยู่ที่ชั้น 36 ประกอบด้วย

  • The Oriental Salon (formal lounge)
  • Siam Salon (function room)
  • Lotus Business Suite
  • The Library

นอกเหนือจากพื้นที่ Facilities ที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วยังมีสิ่งที่พิเศษกว่าที่อื่นคือ ผู้อยู่อาศัยจะได้รับการบริการตามมาตรฐานเครือแมนดารินและสิทธิพิเศษอื่นๆที่ทำให้โครงการมีลักษณะเป็น Service Condominium ได้แก่

  • 24-Hour Concierge Service
  • 24-Hour Doorman
  • 24-Hour Car Valet
  • 24-Hour Security

นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษ ดังนี้

  • Property Management by MOHG
  • สมาชิก Residences Elite Programme ของแมนดาริน โอเรียนเต็ลที่จะได้รับสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมทั่วโลก
  • ได้รับสิทธิพิเศษและการยอมรับระดับวีไอพี เมื่อใช้บริการหรือช้อปกับร้านค้าภายในโครงการไอคอนสยาม

ทำเลที่โครงการตั้งอยู่จะอยู่พอดีกับส่วนที่เป็นโค้งในของแม่น้ำเจ้าพระยานะคะ จึงเป็นมุมที่สามารถเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้กว้างกว่าโค้งนอก ซึ่งวันนี้เราจะพามาชมห้องตัวอย่างและ Sales Office กันส่วนวิวจริงคงต้องรอตึกเสร็จก่อนนะคะ

Mandarin_Plan-3_2

มาดูในส่วนของ  Masterplan อาคารกันบ้างนะคะ อาคารจะหันหน้าเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา โดยส่วน A คือส่วนของ Auto Parking ที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ Auto Parking นี้จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัยคือสามารถจอดรถทิ้งไว้ที่  Lobby ทางเข้าได้ โดยมีลิฟท์อัจฉริยะอำนวยความสะดวกนำรถไปจอดให้ค่ะ ถัดมาในอาคารพื้นที่ส่วน B คือ  The Mandarin Gallery  เป็นที่พักนั่งเล่น ซึ่งมีเครื่องดื่มเบาๆให้บริการนะคะ ถัดมาในส่วน C คือ  Grand Residential Lobby เป็นส่วนโถงทางเข้าของโครงการค่ะ ส่วน D คือ The Chao Phraya Lounge เป็นพื้นที่ที่ผู้พักอาศัยมาใช้นั่งพัก พูดคุยกันได้ หรือจะมีการขอจัดเป็น  Private Meeting ในส่วนนี้ก็สามารถทำได้ ส่วนสุดท้ายของชั้นเป็นส่วนของโถงลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้นต่างๆจะอยู่ด้านหลังส่วน Lobby ค่ะ โดยจะมีลิฟท์ในส่วนของผู้พักอาศัย 8 ตัว มีอัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งส่วนพื้นที่พักอาศัย 18 :1 เท่านั้นค่ะ ส่วนลิฟท์อีก 2 ตัวเป็นลิฟท์ Service สำหรับพนักงานค่ะ ในส่วนของบันไดหนีไฟจะเชื่อมกับโถงลิฟท์ค่ะ

Mandarin_Plan-1_2

ถัดมาในส่วนของชั้น 4-5 ที่เป็นชั้น Clubhouse ของโครงการบางส่วนของชั้นจะเป็น Double Floor คือ พื้นที่ 2 ชั้นติดกันค่ะ เริ่มกันที่พื้นที่ภายนอกอาคารกันก่อน ส่วน E คือ Infinity Swimming Pool & Jacuzzi เป็นสระว่ายน้ำที่จะได้วิวของแม่น้ำเจ้าพระยา มีการจัดวาง Sunbeds ไว้สำหรับนอนรับลม รับวิวนะคะ ถัดมาในส่วน F เป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำเด็กค่ะ ติดกันคือส่วน G ที่เป็น Playground โดยพื้นที่ทั้ง 3 ส่วน E, F และ G จะเชื่อมกันด้วยพื้นที่ River Terrace คือส่วน M ค่ะ  และพื้นที่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของอาคารคือ พื้นที่ Poolside BBQ Terrace ค่ะ

ส่วนพื้นที่ Clubhouse ภายในอาคาร จะเรียงตัวกันอยู่ด้านที่เห็นวิวแม่น้ำ อยู่ในพื้นที่ด้านซ้ายของอาคารโดยส่วน N จะเป็นพื้นที่ Dining Area ค่ะ ติดกันในส่วน L เป็น Gameroom  ห้องติดกันจะค่อนมาด้านขวาของอาคารเป็น Children’s Playroom ค่ะ ส่วนพื้นที่ด้านขวาของอาคารจะเป็น Male และ Female Changing Room คือส่วน I และ H ตามลำดับค่ะ ส่วนด้านใน Changing Room จะมีห้อง Stream และ Sauna ค่ะ

Mandarin_Plan-2_2

นอกจากนี้ที่ชั้น 5 ยังมี Facilities ในส่วน P, Q และ R ด้วยซึ่งเป็นพื้นที่ภายใน Clubhouse เช่นกัน พื้นที่ส่วน P อยู่ด้านซ้ายของอาคารคือ Golf Simulator & Virtual Game Room ที่เชื่อมกับพื้นที่ของโถงลิฟท์ ส่วนอีก 2 ห้องอยู่ทางฝั่งขวาของอาคารได้แก่พื้นที่ในส่วน Q และ  R คือ ห้อง Fitness & Wellness และ Private Studio ตามลำดับค่ะ

Mandarin_Plan-11_2

ต่อไปจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 36 นะคะ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางจะเรียงตัวกันอยู่ด้านที่เห็นวิวแม่น้ำ โดยแต่ละห้องจะมีพื้นที่ระเบียงให้ใช้รับวิวบนชั้นสูงด้วยค่ะ Facilities ส่วนกลางบนชั้นนี้ประกอบด้วย The Oriental Salon (formal lounge), Siam Salon (function room), Lotus Business Suite และ The Library ค่ะ

Mandarin_Plan-4_2

พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ยกเว้นชั้น 36 ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ โดยชั้น 6-42 ในแต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัย 4 ห้องประกอบด้วยห้องแบบ 2 Bedroom จำนวน 3 ห้องและห้องแบบ 3 Bedroom จำนวน  1 ห้อง ซึ่งห้องพักในชั้นนี้มีขนาด 127-222 ตร.ม.โดยแต่ละยูนิตจะใช้ลิฟท์ได้ 2 ตัว บริเวณโถงลิฟท์แต่ละห้องจะมีประตูเชื่อมไป 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะเชื่อมไปยังประตูหลักของห้องพักอาศัยอีกฝั่งหนึ่งจะเชื่อมไปยังประตูของส่วน Service ที่เรียกว่า Back of house ค่ะ ซึ่งภายในพื้นที่ส่วน Service นี้ก็จะมีลิฟท์ของพนักงานแยกไว้ใช้สำหรับคอยให้บริการผู้พักอาศัยโดยไม่ต้องใช้ลิฟท์ตัวเดียวเดียวกันทำให้เกิดความส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากขึ้นค่ะ สำหรับเรื่องวิวจากห้องพักอาศัยทุกยูนิตจะได้วิวแม่น้ำทั้งหมดนะคะ เนื่องจากห้องพักอาศัยจะอยู่ด้านที่หันหน้าเข้าแม่น้ำค่ะ

Mandarin_Plan-5_2

ชั้น 43-47 จำนวนห้องจะลดลงนะคะ แต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยชั้นละ 3 ห้อง เป็นห้องแบบ 2 Bedroom จำนวน 1 ห้องและห้องพักอาศัยแบบ 3 Bedroom จำนวน  2 ห้อง ซึ่งห้องพักในชั้นนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 150-228 ตร.ม. เน้นอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ ลิฟท์ของยูนิตที่อยู่ตรงกลางถูกออกแบบให้ใช้ลิฟท์ได้ทั้ง 2 ตัวซึ่งต้องรอดูว่าจะออกแบบผังภายในให้ใช้เข้าส่วนไหนของห้องได้บ้าง

Mandarin_Plan-6_2

ชั้น 48 แปลนอาคารจะเหมือนชั้นพักอาศัยอื่นๆ ส่วนที่แตกต่างคือจะเหลือห้องพักต่อชั้นเพียง 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้อง Penthouse ทั้ง 2 ห้อง ห้องด้านซ้ายของอาคารจะเป็น Penthouse แบบ Duplex มีขนาด 386 ตร.ม.นะคะ ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็น Penthouse ชั้นเดียวมีขนาด 380 ตร.ม. ลิฟท์ของห้อง Penthouse ด้านขวามือนี่ได้ลิฟท์ถึง 6 ตัวเลยค่ะอยากเห็นผังห้องจริงๆเลยค่ะว่าจะออกมาแบบไหน

Mandarin_Plan-7_2

แปลนเหมือนชั้น 48 เลยค่ะ ห้องพักอาศัยยังมีแค่ Penthouse 2 ยูนิตเท่านั้นค่ะ ยูนิตด้านซ้ายมือเป็นชั้นบนของห้องแบบ PD ชั้นบนจะมีเนื้อที่น้อยกว่าชั้นล่างอยู่ที่ 160 ตร.ม.

Mandarin_Plan-8_2

ส่วนชั้น 50 จะเป็น Penthouse ห้องเดียวทั้งชั้นเลยค่ะ ซึ่งตั้งแต่ชั้นนี้ตัวอาคารจะเหลือแค่ฝั่งขวาฝั่งเดียวแล้วค่ะ

Mandarin_Plan-12

ชั้นบนสุดที่ชั้น 51-52 จะเป็น  Penthouse ห้องเดียวแบบ Duplex เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดมีขนาด 707 ตร.ม.ค่ะ 

ต่อไปจะเป็นภาพจำลองบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการนะคะ เริ่มจากส่วนแรกเป็นส่วน Lobby บริเวณชั้น 1 ของโครงการค่ะ เป็นส่วนที่สามารถใช้นั่งรอ นั่งคอย ได้นะคะ ด้านหลังถูกตกแต่งด้วยแผนที่ส่วนของโค้งน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการค่ะ

Mandarin_render-4

นอกจากนี้พื้นที่ชั้น 1 ยังมี Facilities อื่นๆที่จัดมาครบและให้บริการเหมือนอยู่โรงแรมเลยนะคะ ซึ่งภาพจำลองนี้จะเป็นส่วนของ The Chao Phraya Lounge ซึ่งเป็นพื้นที่ให้ผู้พักอาศัยสามารถมานั่งพัก นั่งคุยกัน นอกจากนั้นพื้นที่ในส่วนนี้ยังสามารถขอจัด Private Meeting ได้ด้วยค่ะ

Mandarin_render-6

ถัดมาเป็นภาพจำลองของ Outdoor Infinity Swimming Pool and Jacuzzi อยู่ที่ชั้น 4 ของโครงการ ซึ่งสระว่ายน้ำนี้จะอยู่ด้านที่ได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยานะคะ

ต่อไปคือภาพจำลองบรรยากาศของ Game Room นะคะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 4-5 ของโครงการ ภายในมีการจัดที่นั่งคุย นั่งเล่น และเกมส์ต่างๆไว้ ซึ่งจากห้องนี้ก็สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกเช่นกันนะคะ

ภาพสุดท้ายคือภาพจำลองของ The Library ซึ่งอยู่บนชั้น 36 ภายในห้องจัดให้มีโต๊ะอ่านหนังสือ และโซฟาในมุมต่างๆไว้บริการ จากห้องนี้ก็สามารถเห็นวิวเมืองได้อีกเช่นกัน และมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศธรรมชาติด้วยค่ะ

ต่อไปจะพาไปชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่างกันนะคะ เริ่มจากภายนอกของสำนักงานขายค่ะ สำนักงานขายเป็นอาคารเดียวกับสำนักงานของโครงการ Magnolias Waterfront Residences แต่โครงการ The Residences At Mandarin Oriental Bangkok จะอยู่กันคนละส่วนกันนะคะ

ด้านหลังของสำนักงานคือพื้นที่ของโครงการ ICON SIAM ที่กำลังก่อสร้างนะคะ

ส่วนด้านข้างอีกฝั่งหนึ่งที่เห็นเป็นตึกสูงๆนั่นคือ โรงแรม Millennium Hilton สูง 32 ชั้นที่ติดกับโครงการค่ะ

วิวหันหน้าไปทางแม่น้ำซ้ายมือมุมนี้จะเห็นอาคาร River City Shopping Complex ถัดมาคือ Royal Orchid Sheraton ที่มีความสูง 28 ชั้นค่ะ บริเวณนี้จะเห็นเรือวิ่งผ่านตลอดนะคะ ทั้งเรือโดยสารสาธารณะ และเรือส่วนตัวสวยๆของโรงแรมต่างๆค่ะ

อีกมุมหนึ่งทางด้านขวาของวิวแม่น้ำ มุมนี้จะเห็นอาคาร CAT Tower ชัดเจน เป็นอาคารกระจกสูง 30 ชั้น ถัดไปคือโรงแรมระดับ 5 ดาว Mandarin Oriental Hotel ซึ่งอยู่เยื้องกับโครงการ ส่วนอาคารด้านหลังที่เป็นยอดโดมสีทอง คือ State Tower เป็นอาคาร Mixed-use สูง 68 ชั้นค่ะ ส่วนพื้นคอนกรีตที่ยื่นลงไปในน้ำนั้นจะเป็นท่าเรือของโครงการในอนาคตนะคะ

TV0-2

ความคืบหน้าการก่อสร้างของโครงการในปัจจุบัน ฝั่งซ้ายสุดคือศูนย์การค้า ICON SIAM ตรงกลางเป็นคอนโด Magnolias Waterfront Residences และโครงการทางขวาสุดคือ The Residences Mandarin Oriental Bangkok ค่ะ

ดูพื้นที่รอบๆกันแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปด้านในสำนักงานขายกันบ้างคะ ซุ้มประตูถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามดู Luxury ตามระดับของโครงการเลยค่ะ ชั้นแรกจะเป็น Reception สำหรับเข้าไปติดต่อ ส่วนชั้น 2 ถึงจะเป็นห้องตัวอย่างค่ะ

ด้านหน้าประตูถูกตกแต่งด้วยวงกบและขอบประตูสีทองเข้ากับ Theme สีของโครงการ …เข้าไปดูด้านในกันดีกว่าค่ะ

เข้ามาข้างในสำนักงานขายแล้ว เรียกได้ว่าจัดเต็มกันตั้งแต่ชั้นล่างเลย เข้ามาแล้วจะเจอโถงทางเดินซึ่งจะเชื่องไปยังที่ตั้งของโมเดลภาพรวมโครงการ ตรงกลางส่วน Counter Sales จะอยู่ด้านขวามือที่เห็นเหมือนเป็นหน้าต่างเปิดอยู่ค่ะ

โมเดลของ 2 คอนโดระดับหรูพี่น้องในโครงการ ICON SIAM ตึกสูงกว่านั่นคือ Magnolias Waterfront Residences สูง 70 ชั้น ส่วนอีกตึกหนึ่งคือ The Residences At Mandarin Oriental Bangkok สูง 52 ชั้นที่เราจะพามาชมห้องตัวอย่างในวันนี้นั่นเองค่ะ

บรรยากาศในส่วนที่นั่งรับรองลูกค้า ถูกจัดวางไว้เป็นกลุ่มๆ ตามมุมต่างๆในสำนักงานขายค่ะ โดยในแต่ละจุดจะมีการตกแต่งด้วยพื้นที่แตกแต่งจากพื้นโถงทางเดิน ส่วนฝ้าจะทำเป็นฝ้าหลุมเพื่อติดตั้งโคมไฟระย้าทำให้ดูสวยงามขึ้น ซึ่งการตกแต่งสะท้อนให้เห็นถึงกลิ่นอายของ Mandarin Oriental ที่เข้ามาดูแลเรื่องของการออกแบบด้วย

ด้านหลังของห้องถูกตกแต่งด้วยแผนที่กรุงเทพมหานครบริเวณริมน้ำเจ้าพระยา แผนที่นี้มีขนาดใหญ่เต็มผนังสื่อให้เห็นบรรยากาศของโค้งน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ โดยตัวพื้นดินและแม่น้ำจะใช้สีขาว ส่วนถนนจะใช้สีทอง ดูพิถีพิถันในการตกแต่งมากทีเดียวค่ะ

เข้ามาด้านในสุดของสำนักงานขาย จะมีลิฟท์สำหรับขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องตัวอย่าง เราไปดูกันเลยดีว่าค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • The Chao Phraya Lounge
  • The Mandarin Gallery
  • River Terrace
  • Outdoor Infinity Swimming Pool & Jacuzzi
  • Poolside Barbecue Terrace
  • Garden Loft
  • Golf Simulator & Virtual Game Room
  • Game Room
  • Private Fitness & Wellness Studio
  • Stream Room & Sauna
  • Separate Female and Male Changing Rooms
  • Children’s Pool
  • Children’s Playroom
  • Playground
  • The Oriental Salon
  • Siam Salon
  • Lotus Business Suite
  • The Library
  • Garden Loft
  • ลิฟท์โดยสารส่วนพักอาศัย 8 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์ของส่วนพักอาศัยเฉลี่ยทั้งโครงการ 18 : 1


Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยในโครงการเน้นขนาดห้องที่ใหญ่ จึงมีเพียง 146 ห้อง เริ่มต้นแบบ 2 Bedroom ส่วนห้องตัวอย่างมี Type เดียวนะคะเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 150.17 ตร.ม. ซึ่งฟังก์ชันของห้องก็จัดมาเต็มที่เลยค่ะ 

Mandarin_Plan (1 of 1)

ห้องพักอาศัยมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบ่งเป็นส่วน Living Area และ Bed room ประมาณอย่างละครึ่ง ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียงที่ยาวเชื่อมกันระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน ส่วน Private Lift Lobby หรือโถงลิฟท์หน้าห้องจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละยูนิตซึ่งรวมอยู่ในพื้นที่ขายด้วยนะคะ แต่ละยูนิตจะมีลิฟท์บริการ 2 ตัว ส่วนติดกันกับโถงลิฟท์จะมีพื้นที่ Service อยู่ด้านหลังหรือที่เรียกว่า Back of house ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กันในโรงแรมไม่ได้พบตามคอนโดนะคะ โดยภายในพื้นที่ Back of house จะมีลิฟท์ของพนักงานแยกเพื่อให้พนักงานใช้สำหรับขึ้นลง Service ลูกค้าโดยเฉพาะ ทำให้ไม่ต้องใช้ลิฟท์ตัวเดียวกับผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้พักอาศัยที่นี่จึงได้รับความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

มาดูในส่วนของผังห้องนะคะ เริ่มกันที่ Foyer ด้านหน้าห้องคือพื้นที่ระหว่างลิฟท์ทั้ง  2 ตัวนะคะ พื้นที่ตรงนี้เป็นกรรมสิทธิของเจ้าของห้องสามารถวางของตกแต่งตามความพอใจของผู้พักอาศัยได้เลย จากนั้นเข้ามาส่วนแรกภายในห้องพักอาศัยเป็นโถงรับรอง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง และเป็นพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าด้วยค่ะ ถัดเข้าไปจะเป็นทางเดินที่กั้นพื้นที่โถงรับรองด้านหน้ากับส่วน Living ภายในทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ทางเดินนี้จะมีห้องขนาบ 2 ฝั่งนะคะ ฝั่งขวาจะเป็นห้องนอนเล็ก และฝั่งซ้ายจะเป็น Powder Room หรือ ห้องน้ำแขก

เมื่อผ่านทางเดินเข้ามาสู่ตัวห้องจะเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งเป็นส่วนแรก ส่วนครัวจะอยู่ถัดเข้าไปทางซ้ายมือซึ่งผนังเป็นห้องกระจกทำให้พื้นที่ดูไม่อึดอัด ถัดเข้าไปอีกคือส่วนนั่งเล่น จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่เอาไว้วาง Sofa Bed และโต๊ะเข้าชุดกันอยู่ตรงกลางห้องระยะดูทีวีก็มีเหลือเฟือใส่ทีวีขนาด 60″ หรือใหญ่กว่านี้ยังได้เลยค่ะ ส่วนผนังห้องฝั่งซ้ายสามารถทำ Built-in ชั้นวางทีวีเต็มผนังได้เลย อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งภายในจะแบ่งส่วนของเตียงนอนและส่วนแต่งตัวไว้อย่างชัดเจนเป็นเหมือนรูปแบบของ Walk-in Closet แต่ไม่ได้มีประตูปิดค่ะ ห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวนะคะ ส่วนระเบียงจะได้บานประตูเลื่อนสูง 3.2 เมตรเป็นกระจกจากพื้นถึงฝ้าเพื่อรับวิวแม่น้ำได้เต็มๆ ตัวระเบียงจะยาวตลอดแนวความกว้างของยูนิตโดยเข้า-ออกได้ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ ราวระเบียงจะเป็นแบบ Frameless เพื่อให้ได้รับวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่มากขึ้นค่ะ

โดยรวมแล้วห้องพักของคอนโดมีความแตกต่างจากห้องคอนโดโดยทั่วไปคือการมีโซน Service แบบเป็นเรื่องเป็นราว มีการ Service เพื่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยแบบโรงแรมด้วย นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของ Design ที่ไม่ได้เน้นการออกแบบที่ดูเป็นแนว Modern แต่จะมีกลิ่นอายของความเป็น Mandarin Oreintal อยู่เต็มเปี่ยม เฟอร์นิเจอร์และสุขภัณฑ์จะเป็นแบรนด์ชั้นนำกับสุขภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ชุดครัวจาก Bulthaup, เตาไฟฟ้าจาก Gaggenau, ซิงค์ล้างจานและก๊อกน้ำสแตนเลสFranke, ตู้เย็นจากSiemens, อุปกรณ์ในห้องน้ำWaterworks, Rain Shower จาก Hansgrohe, สุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติจาก TOTO ส่วนการขายเป็นแบบ Fully Fitted และสามารถเลือกแบบ Fully Furnished ได้นะคะ

เรามาเริ่มที่ Foyer หน้าห้องเป็นพื้นที่รับรองก่อนเข้าห้องนะคะ พื้นที่ส่วนนี้เป็นกรรมสิทธิของผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งได้ตามความต้องการเลยค่ะ เพดานมีความสูงมากทีเดียวคือ 3.2 ม. ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง ส่วนด้านบน Drop ฝ้าหลุมทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบย่อมุมค่ะ

ฝ้าหลุมมีรายละเอียดค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ นอกจากจะมีย่อมุมแล้ว ยังมีรายละเอียดด้านบนที่เป็นซี่ระแนง ส่วนขอบจะถูกเก็บมุมอย่างเรียบร้อยด้วยขอบสีทองด้วยค่ะ

Mandarin_SH-5_2

ด้านข้างของลิฟท์เป็น Valet Box ระบบเดียวกับของโรงแรม Mandarin Oriental คือตู้นี้สามารถเปิดด้านหลังได้ เวลาที่ผู้พักอาศัยต้องการส่งซักรีด ก็สามารถนำมาแขวนไว้ที่ตู้นี้ แล้วพนักงานที่อยู่ในส่วนของ Back of house จะมาเปิดตู้จากด้านหลังเพื่อเอาเสื้อไปซักและเอามาส่งไว้ในตู้ได้โดยไม่ต้องเข้ามาในห้องพักอาศัย ทำให้การพักอาศัยเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

Mandarin_รูปปลากรอบ_คู่ (1 of 1)-side

ภายในตู้มีราวสำหรับแขวนผ้าและชั้นวางของประมาณนี้ค่ะ

มาดูรายละเอียดของมือจับตู้กันหน่อยตัวมือจับจะเป็นหินขัดทรงกระบอกเล็กๆสามารถจับได้ถนัดมือดีค่ะ

ต่อไปเราจะเข้าไปยังข้างในห้องพักอาศัยกันนะคะ เริ่มตั้งแต่ประตูห้องที่เป็นขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานแต่ไม่ได้สูงจนถึงฝ้า ตัวประตูจะมีบานเปิดเล็กอยู่อีกด้านเอาไว้ขนของใหญ่ๆจะได้สะดวกหน่อยค่ะ

กลอนประตูเป็นระบบ Digital Door Lock ของ Yale แบบมือจับแบบก้านโยกค่ะ

เข้ามาด้านในจะเจอกับโถงภายในห้องอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่รับรองก่อนเข้าไปยังส่วน Living อื่นๆ หรือเป็นพื้นที่สำหรับเช็คความเรียบร้อยก่อนออกนอกห้องค่ะ นอกจากนั้นพื้นที่ส่วนนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้ห้องนั่งเล่นเกิดความเป็นส่วนตัวขึ้น เพราะประตูห้องยังไม่ได้ติดกับส่วนนั่งเล่นในทันทีค่ะ ด้านบน Drop ฝ้าหลุมย่อมุมเช่นเดียวกับด้านหน้า ส่วนพื้นตรงกลางจะมีลวดลายพิเศษคือใช้ลายของหินมาตกแต่ง ซึ่งลายสี่เหลี่ยมนี้จะต้องเป็นหินชิ้นเดียวกันมาตัดเป็น 4 ส่วนแล้วนำมาต่อกันค่ะ

ด้านหลังของประตูเป็นพื้นที่สำหรับนั่งใส่รองเท้าและมีตู้สำหรับเก็บรองเท้า และเก็บของต่างๆ เป็นตู้ Built-in สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าค่ะ

DSCF6792

ภายในตู้จะมีทั้งช่องวางรองเท้าและพื้นที่วางของ และออกแบบซ่อนตู้ใส่ Breaker ไฟเอาไว้ภายในตู้ด้วย ทำให้เวลาใช้งานปกติจะไม่เห็นกล่อง Breaker นี้นะคะ

Mandarin_SH-17_2

เมื่องเดินเข้ามาจากโถงรับรองด้านหน้า จะมีทางเดินไปยังห้องต่างๆ หากตรงไปจะเป็นส่วนทานข้าวและนั่งเล่น ส่วนห้องที่ขนาบ 2 ด้านทางเดิน ซ้ายมือเป็นห้องน้ำแขกแบบ Powder Room ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องนอนเล็กและประตูที่ติดกับห้องเล็กคือตู้ใส่เครื่องซักผ้า

มาดูกันทีละห้องนะคะ พื้นที่แรกภายในห้องนอนเล็กเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวและห้องน้ำ ส่วนของโต๊ะเขียนหนังสือและเตียงนอนจะถัดไปด้านในค่ะ

วัสดุของพื้นของโถงทางเดินและพื้นในห้องนอนจะเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood Flooring) เหมือนกันนะคะ ต่างกันที่ลายไม้ ซึ่งจะเป็นลายที่ออกแบบพิเศษค่ะ

รูปคู่3

ส่วนแรกของห้องนอนเล็กเป็นพื้นที่ส่วนแต่งตัวนะคะ ผนังห้องฝั่งหนึ่งจะถูก Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่และสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า แบ่งเป็นตู้  2 ช่องโดยช่องล่างแยกราวสำหรับไว้แขวนเสื้อและกางเกงไว้บนล่างนะคะ และมีตู้ลิ้นชักไว้เก็บของอีก 3 ชั้นด้วย ส่วนตู้ด้านบนเป็นตู้โล่งๆไว้สำหรับเก็บของ มีบานปิดให้เรียบร้อยค่ะ

Mandarin_SH-24

มือจับของตู้เสื้อผ้ามีลักษณะคล้ายลูกแก้วใสๆ มีขนาดจับถนัดมือดีค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งจะติดกระจกบานใหญ่ไว้ให้ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนเดินออกนอกห้อง ติดกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ

รายละเอียดของการตกแต่งห้องพิถีพิถันมากทีเดียวค่ะ มีการออกแบบพื้นที่จบขอบระหว่างผนังเป็นลายไม้ด้วยค่ะ

ต่อไปจะพาเข้ามาชมในส่วนของห้องน้ำในห้องนอนเล็กกันนะคะ ห้องน้ำจะถูกแยกออกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจน โดยส่วนแห้งจะประกอบด้วยอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์ ส่วนเปียกจะถูกลดระดับลงและมีฉากกระจกกั้นอาบน้ำด้วยค่ะ

พื้นห้องน้ำมีระดับเดียวกับพื้นห้องนอน ซึ่งพื้นภายในห้องน้ำเป็นพื้นหินโมเสคสีขาวเทาดำ ซึ่งจะถูกเซาะร่องเยอะหน่อยค่ะเพื่อให้กันลื่น

ต่อมาในส่วนของบริเวณเคาน์เตอร์ล้างมือ ส่วน Top จะได้เป็นหินเช่นกันค่ะ ใต้เคาน์เตอร์ซ่อนราวแขวนผ้าเช็ดมือไว้ และด้านล่างมีตู้บานเปิดสำหรับเก็บของด้วยค่ะ ซึ่งตู้เก็บของนี้ถ้าเป็นห้องแบบ Fully Fitted จะไม่ได้มีให้นะคะ ส่วนด้านบนจะติดตู้ลอยไว้นะคะซึ่งด้านหน้าของตู้กรุกระจกเงาไว้ค่ะ

อ่างล้างมือต้องบอกว่าพิเศษจริงๆค่ะเพราะเป็นหินทั้งก้อนมาคว้านทำให้เป็นอ่างที่เรียกได้ว่าไร้รอยต่อและลวดลายของหินในแต่ละห้องจะแตกต่างกันด้วยค่ะ

ก๊อกจะเป็นแบบแยกระบบน้ำร้อนน้ำเย็นไว้นะคะ ตัวก๊อกของ Waterworks ค่ะ ซึ่งยี่ห้อเป็นแบรนด์ระดับ Hi-End  จาก US โดยโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ใช้แบรนด์นี้

มีการซ่อนราวแขวนผ้าเช็ดมือที่ด้านล่างของเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และด้านล่างมีตู้สำหรับเก็บของใช้ภายในห้องน้ำ โดยจะเป็นตู้บานเปิดนะคะ มือจับทำจากหินขัดลักษณะเดียวกับมือจับตู้ของ Vallet Box ที่อยู่ตรงโถงลิฟท์ค่ะ

สุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ TOTO นะคะ คือจะเปิดเวลาที่มีคนเดินเข้ามาใกล้ๆเท่านั้น ส่วนตำแหน่งปุ่มกดและที่แขวนทิชชู่จะอยู่ด้านข้างทางขวามือใช้งานได้สะดวกสบายค่ะ

ปุ่มกดสุขภัณฑ์สามารถปรับรูปแบบและระดับน้ำได้ และยังสามารถตั้งให้จดจำรูปแบบที่ต้องการของแต่ละ User ด้วยค่ะ

ฝาเปิด (Washlet) ของรุ่นนี้จะเปิดฝาได้เองเมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ๆเลยถ่ายเป็น VDO มาให้ดูค่ะ เห็นแล้วต้องบอกเลยว่าล้ำจริงๆ

ต่อไปจะเข้าไปยังส่วนเปียก ซึ่งนอกจากจะลดระดับพื้นในส่วนเปียกแล้วยังกั้นด้วยฉากกระจกกั้นห้องอาบน้ำ ตัวมือจับและบานพับจะเป็นสีทองเหลืองทั้งหมดนะคะซึ่งต่างจากโครงการทั่วไปที่จะเป็นสีเงินค่ะ ด้านในห้องอาบน้ำจะมีส่วนที่ติดกระจกแบบ Sexy Bath ซึ่งนอกจากจะได้รับวิวแล้ว ยังทำให้ห้องน้ำได้รับแสงแดดเพื่อป้องกันความอับชื้นด้วยค่ะ

ด้านข้างของประตูถูก Seal ด้วยขอบยางไว้ไม่ให้กระจกกระแทกกับหินอ่อนเรียบร้อยดีค่ะ

ส่วนของพื้นลดระดับลงไปนิดหน่อยเป็นธรณีเพื่อให้แยกส่วนเปียกจากส่วนแห้ง โดยหินชิ้นนี้จะมีขนาดที่เท่ากับความหนาของขอบที่กั้นส่วนอาบน้ำ ทำให้เส้นยาแนวบนพื้นและบนกำแพงดูเชื่อมต่อกันเรียบร้อยดีค่ะ

ภายในห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวอาบน้ำของ Waterrorks ไว้นะคะ สามารถหมุนซ้ายขวาเพื่อปรับน้ำร้อนเย็น ที่แขวนก๊อกน้ำสามารถปรับระดับได้ และมียังจัดให้มีพื้นที่สำหรับนั่งอาบน้ำและชั้นวางของให้เรียบร้อยค่ะ

หน้าตาของฝักบัวอาบน้ำ และมือจับเปิดปิดก๊อกน้ำค่ะ

ถ้าชอบฝักบัวแบบ Rain shower ก็มีนะคะของ Hansgrohe รุ่น Rain Dance โดยจะฝังบนฝ้าให้เลยค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในของห้องนอนเล็กจะเป็นส่วนของเตียงนอนขนาด King Size และโต๊ะเขียนหนังสือด้านข้างค่ะ บริเวณส่วนของห้องนอนนี้จะโปร่งขึ้นด้วยหน้าต่างด้านข้างซึ่งเป็นบานใหญ่เต็มบานมีความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ส่วนเพดาน Drop ฝ้าไว้เป็นช่องสี่เหลี่ยมจบขอบด้วยสีทองทำให้ดูหรูหราขึ้นค่ะ

ภายในห้องมีช่องหน้าต่างเต็มบานสูงจากพื้นถึงฝ้าเพื่อใช้รับวิวในห้องนอน ส่วนผนังถูกตกแต่งด้วยผนังลายไม้ซึ่งตัดขอบสีทองนะคะ และมีการออกแบบพื้นที่จบขอบระหว่างผนังกับฝ้าซึ่งล้อไปกับลายของผ้าม่านด้วยค่ะ ซึ่งงานตกแต่งผนังแบบนี้จะมีเฉพาะในห้องแบบ Fully Furnished เท่านั้นนะคะ

ปลายเตียงมีพื้นที่ว่างพอวางตู้ได้ ซึ่งตู้นี้เป็นตู้เก็บของนะคะ ทีวีแนะนำว่าทำเป็นแบบแขวนผนังจะได้ไม่เสียพื้นที่บนตู้วางของ ด้านข้างตู้เก็บของใต้ทีวียังพอมีที่ให้ทำตู้เก็บขั้นวางของเพิ่มได้อีกนะคะ

มาดูรายละเอียดที่หัวเตียงกันหน่อยจะเห็นว่ามีการติดตั้งโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือทั้ง 2 ฝั่งเตียงมาให้ด้วยค่ะ

ตู้หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งเป็นตู้ลิ้นชัก มือจับเป็นหินขัดแบบเดียวกับตู้เก็บของด้านหน้าโถงลิฟท์นะคะ พื้นที่วางของด้านบนตู้เป็นแผ่นกระจก ซึ่งสามารถใช้วางโคมไฟข้างเตียงได้ค่ะ

ถ้าใครเห็นมือจับแล้วสงสัยว่ามันดูเล็กๆจะใช้งานได้สะดวกรึเปล่า คำตอบคือใช้งานได้สะดวกดีค่ะ ถ่ายรูปเทียบกับมือมาให้ดูจะได้เทียบสัดส่วนได้ถูกค่ะ (ในรูปเป็นมือทีมงานผู้ชายนะคะ) 

ด้านหลังของโคมไฟจะเป็นปลั๊กและสวิตซ์ไฟ ซึ่งออกแบบมาให้มีทั้งช่องเสียบปลั๊กธรรมดาและมีช่องUSB มาให้ด้วยเรียกว่าออกแบบรายละเอียดมาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนสมัยนี้ได้ดีค่ะ ส่วนสวิตซ์เปิด/ปิดไฟส่องสว่างจะมีให้ทั้งแบบ Night Light, Ambient, Downlightค่ะ

ส่วนถัดมาที่ติดกับเตียงนอนคือโต๊ะเขียนหนังสือค่ะ โดยจะ Built-in ตู้เก็บของด้านหน้าโต๊ะเขียนหนังสือซ่อนไว้ในผนังด้วยค่ะ

ตู้เก็บของนี้เป็นตู้แบบบานเลื่อนนะคะ ภายในของตู้เก็บของจะเป็นชั้นวางของ 3 ชั้นค่ะ ซึ่งตู้ Built-inในผนังแบบนี้จะมีให้เฉพาะห้องแบบ Fully Furnished นะคะ

ลักษณะของมือจับตู้จะถูกเซาะร่องลงไปเพื่อให้เกิดช่องให้มือจับได้ง่ายค่ะ

โต๊ะเขียนหนังสือมีลิ้นชักให้ด้วยนะคะ ซึ่งมือจับจะเป็นมีลักษณะคล้ายลูกแก้วเหมือนกับแบบมือจับประตูตู้เสื้อผ้าค่ะ

มีการเดินปลั๊กไฟมาเตรียมไว้ให้บนโต๊ะและมีช่อง USB มาให้ด้วยทำให้สะดวกต่อการใช้งานดีค่ะ

กลับมาที่โถงทางเดินหน้าห้องนะคะ ส่วนถัดไปคือตู้บานเปิดที่อยู่ถัดจากห้องนอนเล็กนะคะ เป็นบานเปิดปิด สูงเกือบถึงเพดาน ส่วนด้านล่างมีช่องระบายอากาศภายในตู้ค่ะ

ด้านในเป็นที่ตั้งของเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า รวมถึงมีชั้นวางของไว้ให้วางตะกร้าหรือน้ำยาซักผ้าต่างๆ ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องและถูกลดระดับลงนิดหนึ่งค่ะ

ถัดมาฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กเป็นห้อง Power Room หรือห้องน้ำสำหรับแขกจะถูกแยกต่างหากออกจากห้องน้ำในห้องนอนทั้งหมด โดยห้อง Powder Room นี้จะแตกต่างจากห้องน้ำในห้องนอนตรงที่จะไม่มีส่วนอาบน้ำหรือส่วนเปียกนะคะ ประตูบานนี้้เป็นแบบทึบเต็มบานมีลวดลายบนบานประตูเป็นเส้นแฉกๆคล้ายพัด ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของ Mandarin Oriental ด้วยค่ะ

ประตูเป็นแบบบานเลื่อนทำให้ไม่เกะกะพื้นที่นะคะ ส่วนพื้นด้านในห้องน้ำจะเป็นพื้นหิน ส่วนของผนังด้านล่างจะกรุไม้ ด้านบนติด Wallpaper ลวดลายที่สั่งทำพิเศษเฉพาะของโครงการค่ะ ซึ่ง Wallpaper จะมีให้เฉพาะห้องแบบ Fully Furnished ค่ะ

มือจับประตูของห้อง Powder Room จะเน้นให้เรียบๆและไม่ดูใหญ่จนเกินไปเพราะพื้นที่ของห้องนี้ค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับระดับฝ้า

ภายใน Powder Room ฝั่งหนึ่งจะเป็นสุขภัณฑ์ ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติของ TOTO เช่นเดียวกับแบบในห้องนอนนะคะ แต่คราวนี้ปุ่มกดไปอยู่ด้านซ้ายมือของโถสุขภัณฑ์แทน นอกจากความสะดวกสบายที่ได้รับจากระบบอัตโนมัติแล้ว ยังทำให้ไม่ต้องใช้ก๊อกฉีดน้ำซึ่งอาจทำให้พื้นห้องเปียกได้อีกด้วย รูปนี้ตัวโถสุขภัณฑ์อาจจะดูยืดๆมีมิติที่เพี้ยนหน่อยนะคะเพราะตั้งใจจะถ่ายให้เห็นลายของผนังทั้งห้องว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร

รูปคู่2

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของ Powder Room เป็นพื้นที่ของอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ ประกอบด้วยเคาน์เตอร์หินที่มาพร้อมกับอ่างล้างหน้าซึ่งได้ตัวอ่างเป็นแบบหินชิ้นเดียวเช่นกัน ลักษณะตู้จะเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนเล็กเลยค่ะ ส่วนด้านบนเคาน์เตอร์มีตู้ลอยที่สามารถใช้เก็บของใช้ในห้องน้ำได้ ด้านหน้าตู้ลอยกรุกระจกไว้นะคะ

ขอบของพื้นที่เคาน์เตอร์ล้างมือมีการเพิ่มรายละเอียดในการออกแบบด้วยแผ่นไม้ปิดขอบให้เกิดความเรียบร้อยด้วยตัวจบขอบสีทองค่ะ

เมื่อถัดจากทางเดินเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area แล้วนะคะ เข้ามาจะพบส่วนของโต๊ะทานอาหาร ด้านซ้ายของโต๊ะทานอาหารเป็นพื้นที่ส่วนครัวที่มีประตูปิดแยกส่วนชัดเจนนะคะ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีทั้งชุดโซฟาและทีวี ส่วนด้านในสุดของห้องคือประตูกระจกสไลด์ที่จะเปิดออกไปในส่วนของระเบียงค่ะ

ถ้ามองจากทางฝั่งระเบียงกลับมา พื้นที่ที่ติดกับระเบียงห้องคือพื้นที่ส่วนนั่งเล่น มุมซ้ายด้านในจะเป็นโต๊ะทานอาหาร มุมขวาด้านในเป็นพื้นที่ของส่วนครัวซึ่งเป็นห้องกระจกที่มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดานทำให้ห้องครัวดูโปร่งโล่งและยังได้รับแสงธรรมชาติจากระเบียงของห้องด้วยค่ะ ห้องครัวจะมีประตูปิดให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้กลิ่นหรือควันเข้ามารบกวนในส่วนอื่นนะคะ ต่อไปเราจะค่อยๆอธิบายไปทีละส่วนค่ะ

ส่วนแรกคือโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง เป็นโต๊ะกลม ผนังด้านหลังปิดผิวด้วยไม้ตั้งแต่พื้นถึงฝ้าตัดด้วยขอบสีทองเป็นช่องย่อยๆ ซึ่งแต่ละเส้นของขอบสีทองจะเป็นเส้นที่ดูเชื่อมต่อกันกับขอบสีทองของประตูห้องครัว เส้นสีทองนี้มีที่มาจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผู้ออกแบบเปรียบไว้เหมือนเป็น Golden River เพราะเป็นแม่น้ำสำคัญของกรุงเทพฯและเป็นจุดเด่นของทำเลที่ตั้งโครงการ ด้านบนมีการตกแต่งฝ้าเพดานด้วยขอบวงกลมสีทองเช่นกัน

เนื่องจากห้องนี้เป็นแบบฝ้าเพดานสูงสามารถติดโคมไฟระย้าตรงโต๊ะทานอาหารได้

ต่อไปจะเข้าในส่วนของห้องครัวนะคะ ห้องครัวเป็นห้องกระจกซึ่งบานกระจกมีความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า

ประตูจะมีรางบนรางเดียวนะคะ การมีรางบนรางเดียวมีข้อดีคือทำให้พื้นด้านล่างไม่มีขอบรางเลื่อนประตูที่พื้น ทำให้พื้นส่วนทานข้าวและส่วนครัวต่อกันได้เลยค่ะ

มือจับประตูเป็นไม้ทรงกระบอกค่ะ มือจับมีขนาดใหญ่จับถนัดมือดีค่ะ ตัวประตูก็เลื่อนง่ายและเวลาเปิดต่อให้ใช้มือเดียวเปิดก็ยังสะดวกเพราะประตูอีกฝั่งจะเปิดไปพร้อมๆกันค่ะ

ภาพรวมของพื้นที่ภายในห้องครัวค่ะ จัดออกมาเป็นรูปแบบครัวขนานคือ ฝั่งซ้ายและขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ สำหรับเตรียมอาหารและปรุงอาหารค่ะ ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นพื้นที่สำหรับยืนทำอาหาร หรือเดินหยิบของไปมานะคะ ซึ่งพื้นที่ตรงกลางนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะสามารถยืนหันหลังชนกัน 2 คนได้สบายๆค่ะ ชุดครัวจะเป็นของ Bulthaup เป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่สวยงาม เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นจะถูก Built-in เข้าชุดครัวทั้งหมดค่ะ

พื้นระหว่างส่วนทานและส่วนของห้องครัว จะเป็นระนาบเดียวกัน แต่วัสดุจะต่างกันคือพื้นในส่วนทานข้าวจะเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ส่วนพื้นในส่วนครัวจะเป็นพื้นหินช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะไม่ต้องกลัวความชื้นมากนัก มีตัวจบพื้นสีทองกั้นระหว่างพื้นที่ทั้ง 2 ห้องเรียบร้อยสวยงามค่ะ

ต่อไปเราจะมาดู Counter ครัวทั้ง 2 ฝั่งว่ามีฟังก์ชันอะไรกันบ้างนะคะ เริ่มกันที่ด้านบน Counter เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารค่อนข้างกว้างทีเดียว ซึ่งชุดครัวของ Bulthaup นี้ตัว Top ของ Counter จะเป็นหิน Quartz นะคะ ส่วนตู้ใต้ Counter ฝั่งขวาทั้งหมด ประกอบด้วยตู้ใส่เครื่องล้างจาน 1 ตู้ และตู้เก็บของแบบบานเปิดอีก 2 ตู้ค่ะ

ลักษณะของมือจับตู้นะคะ ถูกออกแบบให้ช่องมือจับอยู่ใกล้กับตำแหน่งเปิดตู้ เช่น ตู้บานเปิดขวามือจับก็จะอยู่ทางขวาค่ะ

มาเริ่มกันที่ตู้แรกจะเป็นตู้สำหรับใส่เครื่องล้างจาน เป็นตู้เปิดแบบดึงออกมือจับจะอยู่ตรงกลางค่ะ

ถัดมาคือซิงค์ล้างจานและตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน มีซ่อนถังขยะไว้ด้านในด้วยค่ะ

ซิงค์ล้างจานและก๊อกน้ำสแตนเลสของ Franke นะคะ เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ทีเดียว ด้านข้างมีที่พักจานที่ล้างเสร็จแล้วซึ่งสามารถเลื่อนไปมาได้ ส่วนก๊อกน้ำโค้งเป็นตัว U ถูกติดตั้งอยู่ตรงกลางของซิงค์ล้างจานค่ะ

ถัดมาคือตู้สำหรับเก็บของและเก็บจานต่างๆมีชั้นวางทั้งหมด 6 ช่อง เป็นตู้แบบเปิดบานพับจะเป็นแบบ Soft Close ทั้งหมดค่ะ

เคาน์เตอร์อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับปรุงอาหาร ตู้ใต้เคาน์เตอร์ทั้งหมดถูกแยกเป็น 3 ส่วนค่ะคือส่วนของตู้เก็บของบานเปิด 1 ตู้ ตู้ลิ้นชัก 3 ชั้น 1 ตู้ และตู้ใส่เตาอบอีก 1 ตู้ ด้านบนจะเป็นตู้ลอยไว้สำหรับเก็บของ 2 ตู้ และตู้สำหรับติดตั้งเครื่องดูดควันอีก 1ตู้ค่ะ

DSCF2972

ตู้ลิ้นชัก 3 ชั้นไว้สำหรับเก็บภาชนะต่างๆ ชั้นบนมีช่องสำหรับเก็บช้อนส้อมไว้ให้ด้วยค่ะ

DSCF2973

ส่วนอีกฝั่งเป็นตู้บานเปิด ภายในมีชั้นวางของ 3 ชั้น

DSCF2974

ต่อไปมาดูพื้นที่ปรุงอาหารบน Counter กันบ้าง มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียวไว้สำหรับวางเครื่องปรุงส่วนผสมต่างๆทีเตรียมไว้สำหรับประกอบอาคารได้ Counter และ Backsplash เป็นหิน Quartz เช่นเดียวกัน

เตาไฟฟ้านำเข้าสัญชาติเยอรมันของ GAGGENAU เป็นเตา 3 วงค่ะ

ตู้ลอยด้านบน 2  ฝั่ง ด้านในเป็นชั้นวางของตู้ละ 3 ชั้น

ถัดมาจะเป็นส่วนของตู้เย็นใหญ่ 4 ประตูที่ถูก Built-in กับตัวตู้ไปเลยค่ะ

ภายในมีช่องแช่ของหลายช่องทีเดียวค่ะ

ตู้เย็น 4  ประตูของ SIEMENS เป็นรุ่นที่สามารถตั้งโหมดต่างๆได้เยอะ และดูอุณหภูมิภายในตู้ได้ค่ะ

ถัดมาในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อนะคะ ห้องนั่งเล่นมีขนาดค่อนข้างกว้างมากทีเดียวและติดกับประตูกระจกบานสไลด์ที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ทำให้ห้องนี้จะได้รับแสงธรรมชาติและได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะมีชุดโซฟาตัว L ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง ผนังฝั่งซ้ายของห้องถูก Built-in เป็นชั้นวางทีวี และมีตู้เก็บของอยู่ด้านหลังชุดโซฟาด้วยซึ่งบนหลังตู้สามารถตั้งของตกแต่งได้ค่ะ

ชุดโซฟาตัว L ขนาด 3 ที่นั่งสีครีมสไตล์ Classic ไม่ได้ออกไปแนว Modern หรือ Antique ซะทีเดียว ซึ่งชุดโซฟานี้จะมีให้เฉพาะผู้อยู่อาศัยที่เลือกซื้อห้องแบบ Fully Furnished  ส่วนโต๊ะกลางถูกออกแบบให้ลบเหลี่ยมมุมทั้งสี่ด้าน เป็นแบบโค้งมนแทนและด้านข้างบุผ้าไว้ โดยเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดของที่นี่จะเป็นแบบ Custom made by designer Joyce Wang นะคะ

รูปคู่1

Furnitureในส่วนนี้จะถูก Built-in เต็มผนังนะคะ  ตู้ตรงกลางสามารถใช้เป็นชั้นวางทีวีหรือวางของก็ได้นะคะ แล้วใช้ทีวีแขวนผนังแทนทีวีตรงนี้สามารถใส่ขนาด 60″ ได้สบายๆ ตู้ตรงกลางนี้จะถูกขนาบ 2 ฝั่งด้วยตู้เก็บของ 7 ชั้นที่มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเลยค่ะ

รูปแบบของมือจับตู้ มีเซาะร่องด่านในให้สามารถจับได้ถนัดมือดีค่ะ

ตู้เก็บของนี้มีช่องเก็บของบานปิด 2 บาน และลิ้นชัก 1 บาน และตู้ช่องโล่งอีก 1 ช่องนะคะ

ส่วนด้านหลังของชุดโซฟาในห้องนั่งเล่น จะมีประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่อยู่ขวามือนะคะ ส่วนซ้ายมือที่ทำวงกบคล้ายประตูห้องนอนนั้นไม่ใช่ประตูนะคะ เป็นการตกแต่งผนังให้คล้ายประตูเพื่อให้การตกแต่งห้องดูสมดุลกันของ 2 ฝั่งผนังค่ะ

Mandarin_SH-123

สวิสต์ไฟในห้องนั่งเล่นถูกแยกประเภทของไฟไว้และมีการ Screen ชื่อบอกไว้เรียบร้อยว่าเป็นดวงไหนนะคะ

ต่อไปเราจะมาชมในส่วนของระเบียงกัน ระเบียงที่กว้างขวางมองเห็นวิวแม่น้ำแบบนี้ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นของห้องพักอาศัยในคอนโดนี้ด้วยนะคะ โดยประตูกระจกบานสไลด์ของส่วนระเบียงจะเป็นบานใหญ่ตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง กระจกที่ใช้นี้เป็นกระจก IGU Glass ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยลดความร้อนที่ผ่านกระจกเข้ามาค่ะ (IGU Glass จะมีช่องสูญญากาศตรงกลางหรืออาจจะใส่ก๊าซเฉื่อยเพื่อเพิ่งประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนค่ะ)

การที่ใช้ตัวกระจกบานใหญ่เต็มบานนั้นทำให้ต้องตัววงกบประตูต้องมีขนาดใหญ่และแข็งแรงนะค เพื่อรับแรงปะทะจากลมค่ะ เทียบขนาดวงกบให้ดูมีความหนาขนาด 1 ฝ่ามือเลยค่ะ

พื้นระเบียงจะเป็นกระเบื้องลายไม้ ซึ่งแตกต่างจากพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในห้องนั่งเล่นนะคะ แต่ก็ยังถูกคุมโทนสีให้เป็นโทนเดียวกัน พื้นทั้ง 2 ส่วนอยู่ในระนาบเดียวกันและถูกกั้นด้วยรางของประตูกระจกสไลด์ซึ่งขนาดของรางจะมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับบานประตูกระจกที่ค่อนข้างหนักและหนาทีเดียวค่ะ

วิวแม่น้ำที่ได้จากห้องนั่งเล่นค่ะ วิวที่ได้ถือว่าเห็นเต็มตาดีนะคะถึงแม้จะมีพวกเส้นตั้งของกรอบวงกบประตูมาบังสายตาบ้างแต่ไม่มาก เส้นแนวตั้งที่เลยระเบียงไปของจริงจะไม่มีนะคะเพราะเส้นนั้นเป็นผนังของอาคารห้องตัวอย่าง ของจริงจะมีแค่กรอบประตูเท่านั้น

DSCF3015

ถ้าใครอยากไว้วิวแม่น้ำใกล้ๆหรืออยากสัมผัสบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยาคงต้องเลือกชั้นล่างๆ แต่ถ้าต้องการวิวเมืองมุมสูงๆหรือวิวแม่น้ำแบบมุมกดก็คงต้องเลือกชั้นบนๆนะคะ ซึ่งวิวนี้ได้จากชั้น 2 ของสำนักงานขาย ถ้าในโครงการจริงชั้นที่เป็น Facilities ก็จะอยู่สูงกว่านี้อีกหน่อยค่ะเพราะอยู่ที่ชั้น 4

ขนาดของระเบียงมีความกว้างขนาดพอให้ตั้งโต๊ะกาแฟหรือโซฟาได้หลายชุดทีเดียว ราวกันตกระเบียงเป็นกระจกเทมเปอร์แบบไรขอบ ถ้ากระจกแตกกระจายออกเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายเม็ดข้าวโพด และมีความคมน้อย ทำให้ปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัยค่ะ

ซึ่งพื้นที่ของระเบียงจะมีความยาวตลอดต่อเนื่องจากห้องรับแขกถึงห้องนอนใหญ่เลยนะคะ

ต่อไปจะพามาชมในส่วนของห้องนอนใหญ่กันบ้างค่ะ เริ่มตั้งแต่ประตูห้องจะใช้วงกบประตูสีขาว ประตูถูกตกแต่งให้ดูสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้า แต่ส่วนที่เป็นประตูเปิดได้จะไม่ได้เปิดได้จนถึงฝ้านะคะ

วัสดุของพื้นของโถงทางเดินและพื้นในห้องนอนใหญ่จะเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เหมือนกันนะคะ ต่างกันที่วิธีการเรียงลายไม้ค่ะ โดยพื้นทั้ง 2 ส่วนจะเชื่อมต่อเป็นระนาบเดียวกันไปเลยนะคะ

รูปคู่5 copy

มือจับประตูเป็นรูปทรงลูกรักบี้สีเงิน ส่วนตัวล็อกจะถูกแยกไว้ด้านล่างซึ่งตัวล็อกที่ถูกแยกมาแบบนี้จะมีความแข็งแรงกว่าลูกบิดและตัวล็อกที่รวมเป็นอันเดียวกันนะคะ

ห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่มีระเบียงในตัว เข้ามาจะพบพื้นที่ในส่วนของเตียงนอนก่อนนะคะ ซึ่งเป็นเตียงนอนขนาด King Size ส่วนผนังบนหัวเตียงมีการตกแต่งด้วย Head Board ซึ่งเป็นผ้าไหมที่ลงสีแล้วปักด้วยลวดลายเฉพาะที่ทางแมนดารินสั่งทำพิเศษ ด้านซ้ายของเตียงเป็นประตูกระจกสไลด์แบบเดียวกับที่ห้องนั่งเล่นเพื่อออกไปยังส่วนของระเบียง ส่วนด้านขวาของเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือค่ะ สองฝั่งของเตียงจะมีโต๊ะหัวเตียงมีลักษณะเหมือนกับโต๊ะหัวเตียงในห้องนอนเล็กนะคะ ฝ้าเพดานเป็นแบบเล่นระดับด้วยค่ะ

ลวดลายของ Head Board เป็นลายกิ่งของต้นเหมยที่กำลังมีดอกไม้ผลิดอกสวยงาม ส่วนด้านข้างของหัวเตียงทั้ง  2 ฝั่งมีโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือไว้ด้วยค่ะ

ส่วนปลายของเตียงเป็นผนังที่จุดสำหรับแขวนทีวี และวางตู้เก็บของใต้ทีวีได้ค่ะ ตัวผนังตกแต่งนี้จะถูกเซาะร่องเป็นคลื่นๆ ส่วนผนังด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งถูกตกแต่งด้วยสีทองเพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้นค่ะ

ถ่ายซูมมาให้ดูรายละเอียดของผนังที่ถูกเซาะร่องแบบใกล้ๆ ที่มาของการออกแบบนี้มาจากลักษณะของคลื่นที่เกิดในแม่น้ำค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องถ้ามองจากฝั่งระเบียงไปยังห้องน้ำ เป็นส่วนของโต๊ะเขียนหนังสือ และชั้นวางของค่ะ ซึ่งโต๊ะเขียนหนังสือนี้จะมีลักษณะเหมือนกับโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนเล็กนะคะ ต่างกันตรงที่ไม่มีการ Built-in ตู้เก็บของด้านหน้าโต๊ะเขียนหนังสือซ่อนไว้ในผนังแบบห้องนอนเล็ก แต่จะเป็น Built-in ชั้นเก็บของขนาดใหญ่อยุ่ด้านข้างโต๊ะเขียนหนังสือแทนค่ะ

ลักษณะของตู้เก็บของที่ถูก Built-in ไว้ในผนังนะคะ เป็นตู้ช่องโล่ง 3 ชั้น และชั้นล่างสุดจะเป็นตู้บานปิด มีขนาดใหญ่วางของได้เยอะทีเดียวนะคะ ส่วนสวิตซ์ไฟข้างๆนั้นจะเป็นสวิตซ์ในส่วนของห้องนอน ซึ่งถูกแยกประเภทและมีการ Screen ชื่อบอกไว้เรียบร้อยว่าเป็นดวงไหนเหมือนในห้องนั่งเล่นนะคะ ส่วนทางเดินด้านขวามือนั่นเป็นส่วนแต่งตัวและห้องอาบน้ำค่ะ

Mandarin_SH-136_2

พื้นที่ส่วนแต่งตัวและห้องน้ำถูกแบ่งสัดส่วนไว้ชัดเจนนะคะ โดยพื้นที่ที่เป็นพื้นไม้จะเป็นส่วนแต่งตัว ซึ่งจะถูกล้อมเป็นตัว L ด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ด้านในฝั่งตู้เสื้อผ้าจะเว้นช่องไว้สำหรับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ และฝั่งตรงข้ามโต๊ะเครื่องแป้งที่เห็นเป็นวงกบประตูและพื้นเป็นหินสีขาวนั่นคือส่วนของห้องน้ำค่ะ

Mandarin_SH-140

พื้นที่ในส่วนของโต๊ะเครื่องแป้งจะถูก Built-in ให้เป็นส่วนหนึ่งของตู้เสื้อผ้า ซึ่งโต๊ะเครื่องแป้งมีขนาดใหญ่พอที่จะวางอุปกรณ์แต่งหน้าได้พอสมควรรวมถึงมีลิ้นชักเก็บของใต้โต๊ะด้วย (รูปนี้ถ่ายจากในห้องน้ำนะคะ)

ส่วนของกระจกสามารถหมุนได้นะคะ ด้านหลังกระจกซ่อนไฟไว้เพื่อให้บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งนี้มีแสงสว่างมากขึ้นค่ะ

Mandarin_SH-139

ด้านในของตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็นราวแขวนเสื้อและกางเกงเหมือนแบบตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเล็กนะคะ รวมถึงยังมีชั้นวางของและลิ้นชักสำหรับเก็บของด้วยค่ะ

รุปคู่4

ต่อไปในส่วนของห้องน้ำ ประตูเป็นบานสไลด์สีชา วงกบสีทอง พื้นและผนังด้านในเป็นหินสีขาว ซึ่งในส่วนพื้นจะมีระดับลดลงมาจากพื้นห้องแต่งตัวนิดหน่อยค่ะ (รูปนี้ถ่ายจากในห้องน้ำนะคะ)

ตัววงกบประตูจะมีความหนามากกว่าโครงการทั่วไปเอาไว้ซ่อนประตูแล้วยังคงความสวยงามไว้ได้เป็นอย่างดี

มือจับประตูห้องน้ำมีขนาดใหญ่จับถนัดมือและวิธีเปิดบานประตูนั้นคือเปิดเพียงฝั่งเดียวประตูอีกฝั่งก็เปิดด้วยเหมือนแบบประตูในห้องครัวค่ะ

ภายในห้องน้ำเข้ามาจะเจอพื้นที่โล่งตรงกลางที่เชื่อมพื้นที่ต่างๆในห้องน้ำ ส่วนด้านหน้าห้องน้ำเป็นอ่างล้างมือทั้ง 2 ฝั่งแบบ His & Her ถัดเข้าไปด้านในฝั่งซ้ายจะเป็นห้องสุขา ฝั่งขวาจะเป็นห้องอาบน้ำ ส่วนตรงกลางด้านในคืออ่างอาบน้ำที่เป็นแบบ Sค่ะ การตกแต่งพื้นห้องน้ำจะเป็นลวดลายธรรมชาติของหินแบบนี้เลยทำให้ในแต่ละห้องจะมีลายที่แตกต่างกัน ส่วนพื้นตรงกลางจะมีลวดลายพิเศษคือใช้ลายของหินมาตกแต่ง ซึ่งลายสี่เหลี่ยมนี้จะต้องเป็นหินชิ้นเดียวกันมาตัดเป็น 4 ส่วนแล้วนำมาต่อกันเหมือนแบบที่ใช้ตกแต่งบริเวณโถงทางเข้าหน้าห้องค่ะ

ส่วนของอ่างอาบน้ำจะติดกับกระจกบาน Fixed นะคะ ทำให้เวลาแช่น้ำในอ่างสามารถมองวิวเพลินๆได้ด้วยค่ะ ผนัง  2 ฝั่งข้างอ่างอาบน้ำเป็นชั้นวางของฝั่งละ 3 ช่องสามารถเอาไว้วางผ้าขนหนู สบู่ต่างๆได้ค่ะ

ตัวอ่างเป็นงาน Customized ซึ่งจะมี Jacuzzi แบบ 6 Jet ส่วนก๊อกตัวอ่างของ Waterworks นะคะ ซึ่งแยกประเภทของก๊อกไว้หลายประเภททีเดียวค่ะ

ฝั่งซ้ายของห้องเรียงจากทางด้านหน้าห้องนะคะ คือ อ่างล้างมือ ห้องสุขา และอ่างอาบน้ำค่ะ

อ่างล้างมือมีรายละเอียดเหมือนในแบบห้องนอนเล็กนะคะ

ส่วนของห้องสุขาบานประตูเป็นบานกระจกฝ้า ส่วนมือจับมีสีทองซึ่งใช้เป็นที่แขวนผ้าขนหนูได้ด้วยค่ะ

 

ภายในห้องสุขาจะมีโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติเหมือนแบบในห้องนอนเล็กนะคะ

ส่วนฝั่งขวาของห้องเรียงจากทางด้านหน้าห้องนะคะ คือ อ่างล้างมือ ห้องอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำค่ะ

ประตูห้องอาบน้ำเป็นประตูกระจกฝ้าแบบเดียวกับห้องสุขานะคะ

มือจับด้านนอกเป็นมือจับยาวใช้เป็นที่แขวนผ้าขนหนูได้ ส่วนมือจับด้านในจะเป็นปุ่มจับ ขนาดพอถนัดมือนะคะ พื้นห้องน้ำจะเหมือนกับในห้องสุขาเลยนะคะ

ด้านในเป็น Sexy Bath  ที่ด้านข้างมีกระจกบาน Fixed สำหรับชมวิวด้วยค่ะ  ผนังถูกติดตั้งฝักบัวอาบน้ำของ Waterworks ที่สามารถปรับระดับได้แบบเดียวกับในห้องนอนเล็ก และมีพื้นที่นั่งสำหรับอาบน้ำด้านที่ติดกับกระจกด้วย

บนฝ้าติดตั้ง Rain Shower ของ Hansgrohe ไว้ให้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องน้ำจะมีชั้นวางของที่ถูก Built-in ไว้ในผนังด้วย จบในส่วนของห้องตัวอย่างแล้วนะคะ

ต่อไปเป็นห้อง Material Room ในสำนักงานขายนะคะ ซึ่งในส่วนนี้จะโชว์วัสดุต่างๆที่ใช้ภายในห้องพักอาศัยไว้นะคะ

และนี่คือ Material ทั้งหมดในห้องพักอาศัยค่ะ มีทั้งหินและไม้ชนิดต่างๆ วัสดุตัดขอบสีทอง และสีของผ้าม่านที่ใช้ภายในห้อง

รูปรวม

สำหรับผู้อยู่อาศัยที่เลือกห้องแบบ Fully Furnished สามารถเลือกโทนสีได้  3 โทนนะคะ ซึ่งจะนำโทนสีไปใช้ในการตกแต่งห้องที่จะเห็นในส่วนของ Head Band, สีของพรม และผ้าบุโซฟา เป็นต้น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะโครงการระดับสามแสนบาทต่อตร.ม. จุดเด่นหลักๆของตึกนี้คงหนีไม่พ้นการเข้ามามีส่วนร่วมของ Mandarin Oriental The Hotel Group เพราะนอกจากจะส่งผลต่อการออกแบบภายในการเลือกใช้สี วัสดุ และเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังมีเรื่องของการบริหารจัดการที่นำเอารูปแบบของโรงแรมมาประยุกต์ใช้กับโครงการแนว Residence อีกด้วย รูปแบบของโครงการนี้จะแตกต่างจากโครงการอื่นๆเพราะว่าราคาระดับนี้หลักการพิจารณาในการเลือกซื้อจะไม่ได้ใช้เกณฑ์เหมือนการเลือกคอนโดทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเล วัสดุ หน้าตาอาคาร แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อเพราะความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการและบริการของโรงแรมชื่อดังที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆจากโครงการทั่วไป ไม่แน่ว่าเราอาจได้สัมผัสกับคอนโดที่มีการใช้ชีวิตแบบโรงแรมระดับ 5 ดาวก็เป็นได้ก็คงต้องรอดูรายละเอียดกันต่อไปว่าโครงการลักษณะนี้พอสร้างเสร็จแล้วจะมีอะไรพิเศษให้เราดูกันบ้าง

สุดท้ายนี้เพื่อนๆชอบแบบไหนมากกว่ากันค่ะระหว่าง The Residences At Mandarin Oriental Bangkok กับ Magnolias Waterfront Residences ถ้าเลือกได้อย่างอยู่โครงการไหนมากกว่ากัน?? ใครมีความเห็นมาร่วมแชร์กันได้นะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 June 2016

  • 2 Bedroom ชั้น 6 เนื้อที่ 150.17 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 50 ล้านบาทหรือประมาณ 333,000 บาท (ราคานี้เป็นราคาแบบ fully fitted)
  • 3.2 meters ceiling height
  • Private lift lobby
  • Walk-in closet
  • Storage & Wash Area
  • Hob & Hood
  • Kitchen & Sink
  • จอง 300,000 บาท
  • ทำสัญญา 2,411,310 บาท
  • ดาวน์ 25% ผ่อนดาวน์ 30 งวด
  • ค่ากองทุน 1,200 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง  160 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

โดยห้องสามารถเลือกเป็นแบบ Fully Furnished : Custom made by designer Joyce Wang

  • all the features of the fully fitted option, plus:
  • Loose furniture
  • Carpets
  • Curtains
  • Wallpaper
  • Tailor-made headboards by Fromental of London
  • Lighting fixtures

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )