รีวิวโครงการ

Siamese Exclusive Ratchada คอนโด High Rise พร้อม Service Residence และ Siamese Technology จาก Siamese Asset [รีวิวฉบับที่ 1794]

6 กุมภาพันธ์ 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

สวัสดีค่ะ หลังจากเราได้พาไปชมทำเลของโครงการ Siamese Exclusive รัชดา กันมาแล้ว วันนี้เราจะขอพาไปชมห้องตัวอย่างกันบ้าง โครงการนี้เป็นโครงการในรูปแบบ Mixed Use ที่ประกอบด้วยส่วนสำนักงาน ร้านค้า คอนโดมิเนียม และ Service Resident ถือว่าเป็นแห่งเดียวในย่านรัชดาตอนนี้ ห้องพักของที่นี่ มี 2 แบบคือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom นอกจากนั้นภายในห้องยังมีการนำระบบเทคโนโลยี Siamese Asset Technology เข้ามาใช้ โดยมีทั้ง SMART VENTILATION FRESH AIR ดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาพร้อมกรองฝุ่นได้ถึง PM2.5,  ระบบท่ออากาศแยกป้องกันกลิ่นย้อนกลับ และประตู ACOUSTIC DOOR กันเสียงรบกวน ภายในห้องจะเป็นยังไงเราไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 1 February 2019

  • Siamese Exclusive Ratchada (ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา)
  • ไซมิส แอทเสท จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ห้วยขวาง
  • คอนโด High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร , อาคารห้องประชุม , สำนักงาน 1 อาคาร และอาคารบริหาร  Service Resident 1 อาคาร
  • อาคารจอดรถ 10+5(ชั้นใต้ดิน) รวม 15 ชั้น
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 16 ยูนิต
  • ที่จอดรถระบบอัตโนมัติ จอดได้ประมาณ  50% รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 2-2-93 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : พฤษภาคม 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กันยายน 2564
  • 1 Bedroom  30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.85 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท / หรือเฉลี่ยตร.ม.ละ 110,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม.
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลได้ที่: พาชมทำเล Siamese Exclusive Ratchada 
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 099 441 0888 , 099 442 0888
  • Call Center : 1306

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

พิกัด :  13.800667, 100.575120

ที่ตั้งของโครงการ Siamese Exclusive Ratchada ตั้งอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก บริเวณใกล้ๆกับซอยรัชดาภิเษก 28 ใกล้กับ MRT รัชดาภิเษก ในระยะ 90 เมตร ทำเลนี้อยู่ใกล้แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ซึ่งเป็นจุดตัดกันของ MRT สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (อนาคต) โครงการอยู่ฝั่งซอยเลขคู่หรือฝั่งขาเข้าไปทางรัชดาภิเษก สามารถเดินทางไปยังพระราม 9 ได้สะดวก ดังนั้นการเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวกสามารถออกไปทางถนนหลักต่างๆได้หลายเส้นไม่ว่าจะเป็น เส้นเพชรบุรี อโศก เชื่อมต่อไปจนถึง ทองหล่อ เอกมัยได้ และสามารถเดินทางไปยังถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดี – รังสิต เช่นกัน

ก่อนไปดูห้องตัวอย่างจะขอเกริ่นโครงการคร่าวๆสักหน่อยนะคะ Siamese Exclusive รัชดา เป็นโครงการ Mixed-Use มี 4 อาคาร โดยแบ่งเป็นอาคารต่างๆดังนี้ค่ะ

  • อาคาร A : เป็นอาคารของ Siamese Asset สูง 4 ชั้น มีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องประชุมสัมนา
  • อาคาร B : เป็นอาคารของ Siamese Asset สูง 7 ชั้น เป็นที่ทำการบริหารของบริษัท Greenland ที่เป็นเชนโรงแรมเข้ามาบริหารส่วน Service Resident ค่ะ
  • อาคาร C : เป็นอาคารส่วนพักอาศัย สูง 37 ชั้น โดยแบ่งเป็น ชั้น 2-19 เป็นส่วนคอนโดมิเนียมอยู่อาศัย 280 ยูนิต และชั้น 20-36 เป็น Service Resident 280 ยูนิตที่มี บริษัท Greenland เป็นผู้บริหารจัดหาร
  • อาคาร D : เป็นอาคารจอดรถสูง 10 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น เป็นระบบจอดรถอัตโนมัติทั้งหมด รวมที่จอดรถทั้งโครงการประมาณ 50 %

โดยส่วนของ Service Resident จะแยก Lobby และ Facility กับส่วนของคอนโดมิเนียมเลย สำหรับลูกบ้านที่ซื้ออยู่เองจะสามารถซื้อได้ที่ชั้น 2-19 เท่านั้น มี Facility ให้ใช้ที่ชั้นลอยบริเวณโถง Lobby ชั้น 1 ค่ะ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อปล่อยเช่าจะเป็นส่วนชั้น 20-36 มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 37 (ถ้าลูกบ้านคอนโดมิเนียมต้องการใช้อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ)

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่นั่งเล่นของส่วนคอนโดมิเนียมที่ชั้นลอย

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ Fitness ของส่วนคอนโดมิเนียมที่ชั้นลอย

ภาพจำลองบรรยากาศ Facility ชั้น 37

ภาพจำลองบรรยากาศห้อง Fitness ชั้น 37

ภาพจำลองบรรยากาศห้อง Sky Lounge ชั้น 37

ตัวห้องพักนั้นจะมีการขายแบบ Fully fitted มีการนำเอา Siamese Asset Technology เข้ามาใช้ภายในห้องทุกห้อง โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

  • SMART VENTILATION FRESH AIR : การหมุนเวียนอากาศภายในห้องพักอาศัย โดยจะดึงอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกผ่านตัวกรองฝุ่นที่สามารถกรอง PM2.5 ได้ เข้ามาในห้องเพื่อช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์และแบคทีเรีย พร้อมดูดอากาศออกให้มีการหมุนเวียน
  • INDIVIDUAL VENT : แยกระบบท่ออากาศของโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าออกจากกันทำให้ไม่มีกลิ่นย้อนกลับมายังห้องน้ำได้
  • ACOUSTIC DOOR : ประตูของทุกห้องทำจาก แผ่นไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นสูง
    ทนความชื้น ที่มีประสิทธิ์ภาพการกันเสียง STC33 (Sound
    Transmission Class rating)
  • ENERGY SAVING : ใช้กระจก “LOW-E GLASS” ทั้งหมด ซึ่งมีคุณสมบัติแผ่รังสีความร้อนต่ำ ลดการใช้พลังงานภายในห้อง ทนทาน และดูแลรักษาง่าย

ห้องตัวอย่างที่เราพามาดูวันนี้มี 2 ห้องนะคะ เริ่มจากห้องแรกคือ ห้อง Bliss C เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 36 ตารางเมตร ห้องนี้จะมีส่วนครัวอยู่ด้านหน้า เปิดเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนครัวเลย เป็นครัวเปิด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจังมากนักมีข้อดีคือเมื่อซื้อของกินเข้ามาให้ห้องแล้วสามารถเก็บได้เลยไม่ต้องผ่านส่วนอื่นๆในห้องค่ะ ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2 ที่นั่ง พื้นที่ส่วนครัวเชื่อมต่อกับส่วนห้องนั่งเล่นทำให้ดูกว้างไม่อึดอัด ห้องนั่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางโซฟา 2-4 ที่นั่งได้ มีระเบียงอยู่ตรงมุมห้อง มีติดตั้งระบบสำหรับเครื่องซักผ้าไว้ให้ แต่ระเบียงมีพื้นที่น้อยทำให้เมื่อวางเครื่องซักผ้าก็จะเต็มแล้วค่ะ ส่วนของพื้นที่ห้องนอนถูกกั้นด้วยผนังกระจก ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นเนื่องจากไม่มีผนังทึบมาบังมุมมองภายในห้อง เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องที่มีการใช้งานเป็นสัดส่วนแต่ไม่อึดอัด พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่เดินได้รอบ มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ใกล้กับส่วนห้องน้ำ เป็นโซน Walk-in Closet ค่ะ ส่วนห้องน้ำของห้องนี้จะอยู่ภายในห้องนอน ใช้งานสะดวก แต่อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อยถ้ามาแขกมาหาเวลาเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องนอนของเราค่ะ ตัวห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียก-แห้งชัดเจนโดยจะเจอกับอ่างล้างหน้าตรงกลาง แยกฝั่งขวาเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์ และฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้และได้อ่างอาบน้ำด้วยค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนครัว มีพื้นที่เชื่อมต่อจากด้านหน้าห้องไปยังพื้นที่นั่งเล่นที่มีช่องแสง ทำให้ห้องดูกว้างค่ะ

ส่วนครัวจะเป็นครัวเปิด เคาน์เตอร์รูปตัว I  หน้าบานลามิเนตลายไม้ อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า2หัวและเครื่องดูดควันระบบดูดอากาศออก จาก Teka  มีช่องเก็บของและช่องสำหรับวางตู้เย็นมาให้ค่ะ

ถัดมาเมื่อมองมาในห้องแล้วจะให้ความรู้สึกโปร่ง เนื่องจากผนังห้องนอนที่เป็นกระจกทั้งหมด แล้วยังมีช่องแสงเต็มผนังทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ

พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว สามารถวางได้ 2 ที่นั่ง เข้ามุมเป็นสัดส่วนค่ะ

เครื่องปรับอากาศของที่นี่จะเป็นระบบ Multi Split ซ่อนในฝ้าแบบนี้เลยค่ะ ระบบนี้คือใช้ Condensing Unit ตัวเดียวจ่ายให้ Concealed 2 ตัว ทำให้ประหยัดพื้นที่วาง Condensing Unit ได้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟายาวได้ วางโต๊ะกลางแล้วมีพื้นที่เดินได้รอบ ส่วนนี้จะอยู่ติดกับด้านนอกอาคาร ทำให้มองเห็นวิวได้

ห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่เดินได้รอบเตียง และได้ช่องแสงเต็มผนังนอกจากรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้แล้วยังทำให้เห็นวิวได้กว้างด้วยค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นบานกระจกสีชาแบบกดเปิดเมื่อเปิดแล้วจะมีไฟภายในติด อยู่ใกล้กับส่วนห้องน้ำให้ใช้งานได้สะดวก

ด้านบนบริเวณใต้เครื่องปรับอากาศจะมีช่องสีขาวทางซ้ายมือ เป็นช่องที่ดูดอากาศจากภายนอกผ่านตัวกรองเข้ามาตามระบบ SMART VENTILATION FRESH AIR และดูดออกทางช่องระบายอากาศภายในห้องน้ำ

ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีช่องเก็บของให้ด้านหลังกระจกและด้านใต้อ่างล้างมือ ส่วนช่องดูดอากาศออกจะอยู่เหนือโถสุขภัณฑ์ฑ์ช่วยระบายอากาศไม่ให้ห้องน้ำมีกลิ่นอับชื้นค่ะ

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็น 2 ฝั่งใช้งานได้เป็นสัดส่วนค่ะ

ถัดมาเป็นห้อง Eden C ห้อง 2 Bedroom ขนาด 57 ตารางเมตร  เป็นห้องมุมอาคารแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับส่วนครัวที่เป็นครัวเปิดเช่นกันค่ะ มีพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถวางได้ 4 ที่นั่ง มีห้องน้ำอยู่ด้านหลังส่วนรับประทานอาหาร แยกการใช้งานส่วนเปียก-แห้งชัดเจนมมีพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกสำหรับคนที่อยู่ห้องนอนเล็ก แต่อยู่ไกลจากห้องนอนไปหน่อยค่ะ  ส่วนของห้องนั่งเล่นติดกับช่องแสงเต็มผนังทำให้รับแสงเข้ามาทำให้ห้องดูสว่าง ด้านหลังมีพื้นที่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ส่วนพื้นที่ระเบียงก็มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบใช้ระเบียงอยู่แล้ว ทำให้ได้พื้นที่ภายในใช้งานได้เต็มที่ค่ะ ส่วนห้องนอนทั้ง 2 ห้องแยกกันทำให้มีความเป็นส่วนตัว ห้องนอนเล็กจะอยู่ทางทิศตะวันออก ได้กระจก2 ด้าน มองเห็นวิวได้กว้าง ส่วนห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่กว่าได้กระจก ทั้ง 2 ด้านเช่นกัน และมีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom นี้จะเหมือนกับห้องน้ำของห้องแรกที่เราพาไปดูเลยค่ะ ได้อ่างอาบน้ำมาเช่นกัน 

ภายในห้อง 2 Bedroom เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีส่วนครัวเปิดและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ด้านหน้า มองเห็นส่วนนั่งเล่น

เคาน์เตอร์ครัวห้องนี้เป็นลามิเนตสีขาว ขนาดกว้างกว่า พร้อมกับเตาไฟฟ้า 4 หัว และมีช่องสำหรับวางเครื่องซักมาให้ด้วยค่ะ ไม่ต้องนำออกไปไว้ที่ระเบียงแล้ว

ถัดจากส่วนครัวมีพื้นที่เป็นมุมเล็กๆสามารถทำเป็นโซนทำงานได้

พื้นที่รับประทานอาหารวางโต๊ะ 4 ที่นั่งได้สบายๆ อยู่ใกล้กับส่วนครัวทำให้ใช้งานสะดวก

ห้องน้ำรวมเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันได้กระจกบานใหญ่ พร้อมกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และแยกส่วนเปียกโดยมีฉากกั้นกระจกมาให้ค่ะ

ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ด้านหน้าห้องนอนเล็ก สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้ มีช่องแสงเต็มผนังทำให้ได้แสงธรรมชาติเยอะ

ห้องนอนเล็กเหมาะสำหรับวางเตียงไม่เกิน 5 ฟุต ได้ช่องแสง 2 ด้านทำให้เห็นวิวได้กว้าง

มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ด้วยค่ะ เป็นแบบบานเปิด มีหน้าบานเป็นกระจกเงาเหมาะสำหรับการแต่งตัว

ห้อง Master Bedroom มีขนาดใหญ่กว่า สามารถวางเตียง 6 ฟุตและมีพื้นที่เดินได้รอบ จะวางโต๊ะด้านข้างเตียงก็ได้ค่ะ

ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าอยู่ถัดจากห้องน้ำ ให้ใช้งานได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าของห้อง Master Bedroom ได้เป็นบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดใหญ่หน้าบานได้เป็นกระจกเงาเช่นกัน ซึ่งบานเลื่อนมีข้อดีคือช่วยประหยัดพื้นที่ด้านหน้าตู้ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะมีการใช้งานแบบเดียวกับห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ

ห้องน้ำแยกการใช้งานออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนโถสุขภัณฑ์ทางด้านขวามือ และส่วนอาบน้ำด้านซ้ายมือ มีฉากกั้นกระจกมาให้ ช่วยไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาด้านนอก

ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปชมได้ที่สำนักงานขาย ซึ่งโครงการกำลังจะมี Pre-Sale วันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ค่ะ

ส่วนรีวิวฉบับเต็ม อดใจรออีกหน่อย ทางทีมงานจะมีให้ชมแน่นอนค่ะ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ