รีวิวฉบับที่ 1401 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูโครงการ Vino Ratchada 32 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น พิกัดโครงการอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ห่างจาก MRT ลาดพร้าวประมาณ 2.3 กิโลเมตร ซึ่งซอยนี้สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ตัวโครงการเป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 71 ยูนิต จึงเน้นความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยเป็นหลัก ห้องพักมีแบบให้เลือกหลากหลายทั้งครัวเปิดและครัวปิด มีการเลือกใช้วัสดุที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับโครงการระดับเดียวกันในทำเลนี้ แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่ตามคุณภาพมาเช่นกัน

Fact @ 10 August 2017

  • Vino Ratchada 32 (วีโน่ รัชดา 32)
  • บริษัท บ้านดี ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยรัชดาภิเษก 32 และเข้าไปในซอยย่อยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร มีห้องพักทั้งหมด 71 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 11 ยูนิตที่ชั้น 3-7
  • ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 32 คัน คิดเป็นประมาณ 45%
  • ที่ดินประมาณ o-2-16 ไร่
  • โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • Studio ขนาด 21.80-24.20 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท
  • 1 Bedrooms 29.20-34.25 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 78,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 72,771 – 83,822 บาทต่อตารางเมตร
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 084-923-0000

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.818918, 100.580977

แผนที่จากทางโครงการ ตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 32 และเข้าไปในซอยย่อยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 อีกที ถึงแม้จะเป็นคอนโดในซอยแต่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกเพราะซอยรัชดาภิเษก 32 นี้เป็นซอยหลักที่เชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกและถนนลาดพร้าววังหิน ถนนโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนประเสริฐมนูกิจ และเลียบทางด่วนรามอินทรา และอยู่ห่างจาก MRT ลาดพร้าว ประมาณ 2.3 กม. รวมทั้งอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคต

ที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านรัชดา-ลาดพร้าว ในซอยรัชดาภิเษก 32 ซึ่งมีความสำคัญคือเป็นซอยที่เชื่อมถนนรัชดาภิเษกและถนนลาดพร้าววังหิน และเข้าไปในซอยย่อยอีกทีคือซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ประมาณ 130 ม. ค่ะ

การเดินทางในย่านนี้ถือว่าสะดวกถ้าลบเรื่องการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดอันเนื่องมาจากปริมาณรถในย่านนี้ที่ค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งชุมชนและอาคารสำนักงานตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่ ด้วยตัวโครงการที่มีทำเลอยู่ในซอยทำให้สามารถเลือกเส้นทางในการเดินทางได้หลากหลายและหลบหลีกเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดได้ดี โดยสามารถทะลุไปยังถนนใหญ่ผ่านซอยย่อยๆ ได้ทั้ง ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนพหลโยธิน ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร นวมินทร์) และถนนประดิษฐ์มนูธรรม โดยไม่ต้องขับออกมายังถนนใหญ่เลย ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ

ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถและมักพึ่งพิงการเดินทางแบบสาธารณะก็มีให้พึ่งพิง แค่เดินออกมาที่ซอยรัชดาฯ 32 ก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซต์ที่ผ่านไปมา หรือจะเป็นรถกระป๊อและแท็กซี่ก็หาได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นซอยที่มีรถเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะหารถได้ไม่ยากแล้วก็มีบรรยากาศไม่เปลี่ยวมากนักด้วยค่ะ

สำหรับใครที่มักจะเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้านั้น ปัจจุบันก็มีระบบรางที่ใกล้ที่สุดอย่าง MRT ลาดพร้าว ซึ่งตัวสถานีตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าวเลย โดยมีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 2.3 กม. ต้องอาศัยต่อพี่วินมอเตอร์ไซต์ลัดออกซอยลาดพร้าว 23 อีกทีค่ะ ส่วนในอนาคตนั้นก็จะมีระบบรางที่ขึ้นมาอำนวยความสะดวกให้คนในย่านนี้มากขึ้นทั้ง 2 เส้นทางกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคตที่อยู่บนถนนพหลโยธิน โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรัชโยธิน ที่ตั้งอยู่บนแยกรัชโยธิน มีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 2.4 กม. และอีกเส้นทางคือรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว โดยเริ่มจากแยกลาดพร้าว-รัชดา ไปจนถึงหน้าแฮปปี้แลนด์ เดอะมอลล์บางกะปิและวิ่งไปต่อบนถนนศรีนครินทร์จนถึงปลายทางย่านสำโรงในจังหวัดสมุทรปราการค่ะ สำหรับสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีโชคชัย 4 ค่ะ แต่สำหรับระบบรางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ยังคงต้องอดใจรอกันไปก่อนนะคะ โดยมีแผนว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2563-2564 ค่ะ

สำหรับสภาพแวดล้อมในย่านนี้จะมีความเจริญและมีความหลากหลายสูง อย่างช่วงที่ติดกับถนนรัชดาภิเษกส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย เข้ามาที่ถนนลาดพร้าววังหินก็จะเป็นถนนที่เด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์มีทั้งร้านอาหารตั้งแต่ร้านรถเข็นไปจนถึงร้านอาหารชื่อดังราคาหรู Community Mall Hyper Market ต่างๆ แทรกกับพื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นย่านชุมชนเก่าดั้งเดิม ส่วนช่วงห้าแยกลาดพร้าวเองนั้นก็จะมีศูนย์การค้าอย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ ให้ขับรถออกไปช็อปกันได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล เขยิบออกมาอีกหน่อยบนถนนพหลโยธินที่จากโครงการวิ่งทะลุถนนเสนานิคมได้เลย ก็มีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าอย่างเมเจอร์ รัชโยธิน และมหาวิทยาลัยเกษตร และอีกถนนนึงอย่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็นั้นก็มีห้างและตลาดใหญ่ๆ ในเปลี่ยนบรรยากาศในการเดินเล่นในวันหยุดได้เช่นกัน เพราะมีห้างอย่าง Central East Ville, CDC, Crystal Park, The Walk และตลาดนัดเลียบด่วนค่ะ ซึ่งโดยรวมแล้วถือเป็นทำเลที่ครบครัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญรายรอบมากมายทีเดียวแต่จะต้องขับรถไปหน่อยเท่านั้นเอง

ซึ่งหากมองในแง่ของคนที่ทำงานในย่านรัชดา – ลาดพร้าว เลยไปถึงพหลโยธินนั้นก็ถือว่าเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเดินทางไปทำงานได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพราะอยู่บนที่ตั้งในซอยที่เดินทางทะลุไปถนนต่างๆ ได้สะดวก และยังใกล้กับทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงอย่างถนนลาดพร้าววังหินในออกไปหาของกินได้ง่าย รวมทั้งอยู่ในสภาพบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่ได้คึกคักเท่ากับคอนโดบนถนนลาดพร้าววังหินค่ะ

ถ้าโฟกัสที่ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ซึ่งเป็นซอยที่ตั้งโครงการ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว อพาร์ทเม้นต์ให้เช่า ตึกแถวและอาคารสำนักงานตั้งอยู่ประปราย ซึ่งข้อดีของโครงการเลยคือมีประตูออกด้านหลังโครงการ ไปซอยรัชดาฯ 36 ทำให้สามารถเดินลัดไปซื้อหาของกินได้ง่าย อย่างร้านค้าใกล้ๆ ที่ให้พึ่งพิงได้ เช่น 7-11, ร้านขายอาหารตามสั่ง ในซอยรัชดาฯ 36 เป็นต้น

Vino การเดินทาง

การเข้าถึงโครงการ สามารถเข้าถึงได้หลายเส้นทางดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 : เข้าจากทางถนนลาดพร้าวโดยสามารถเข้าจากทางซอยลาดพร้าว 41 (ซอยภาวนา) หรือ จากถนนโชคชัย 4 ก็ได้ จากนั้นตรงเข้ามาเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 เพื่อเข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 2 : เข้าจากทางถนนรัชดาภิเษก โดยสามารถเข้าจากทางซอย รัชดาภิเษก 32 หรือ ซอยรัชดาภิเษก 36 ก็ได้ ตรงเข้ามาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 เพื่อเข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 3 : เข้าจากทางถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าถนนเสนานิคม ตรงเข้ามาเลี้ยวเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 เข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 4 : เข้าจากทางถนนประเสริฐมนูกิจ ตรงผ่านถนนลาดปลาเค้า ผ่านแยกวังหิน ตรงมาเข้าถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 แล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 เข้าสู่โครงการ
  • เส้นทางที่ 5 : เข้าจากทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือ เลียบทางด่วนรามอินทรา เลี้ยวเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ มาเข้าถนนโชคชัย 4 และ ถนนลาดพร้าววังหิน เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 ตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 เพื่อเข้าสู่โครงการ

เนื่องจากตอนที่มาเก็บรีวิวห้องตัวอย่างทางทีมงานได้พาชมทำเลโดยละเอียดแล้ว รีวิวพาชมตึกเสร็จจึงขอพาไปไปดูสภาพแวดล้อม โดยรอบโครงการอย่างเร็วๆ กันนะคะ จะได้ไปลงรายละเอียดที่ตัวอาคารกันค่ะ

โดยจะเริ่มจากซอยรัชดาภิเษก 32 ซึ่งเป็นทางเข้าไปโครงการได้ โดยซอยนี้จะเป็นทางลัดไปยังรามอินทรา (ลาดปลาเค้า) ได้ด้วย

เข้ามาในซอย เป็นถนน 2 เลน รถสวนเข้าออกได้และมีรถเข้าออกตลอดวัน เพราะคนใช้เป็นเส้นทางลัดเข้าออกรามอินทรา (ลาดปลาเค้า) แถมยังไปทะลุถนนลาดพร้าววังหินได้

ข้างหน้าซอยนี้อุดมสมบูรณ์มาก มีทั้ง Tesco Lotus Express, ศูนย์อาหารซอยรัชดาฯ 32 ซ้ายมืออีกหนึ่งจุด ส่วนทางขวามือมีทั้งร้านขายยา แผงลอยขายอาหาร และ 7 Eleven

แยกโครงการ

พอขับมาอีกหน่อยจะเจอร้านบ้านสุขนิยมซึ่งเป็นร้านส้มตำขนาดค่อนข้างใหญ่ บรรยากาศดี ตรงข้ามกันเป็นร้านคาร์แคร์ Wash Arena ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ต้นซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ซึ่งเป็นซอยที่ตั้งโครงการ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกันนะคะ

พอเข้าซอยมาเราจะเจอตึกสีส้มๆอยู่ตรงต้นซอยทางซ้ายมือนี้คือ บ้านเทพ อพาร์ทเม้นต์ 4 ชั้น ที่ข้างล่างมีร้าน 108 Shop เป็นร้านสะดวกซื้อเล็กๆที่สามารถมาซื้อของใช้ในห้องและขนมได้ในระยะใกล้ๆ จากการพูดคุยกับคนในละแวกนี้ เค้าบอกว่าซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 นี้คนแถวนี้จะรู้จักกันในชื่อซอยบ้านเทพ เพราะเป็นซอยที่มีอพาร์ทเม้นต์บ้านเทพตั้งอยู่มายาวนานค่ะ

เลยจากบ้านเทพมานิดเดียว มองตรงไปก็จะเจอตึกเสร็จของ Vino รัชดา 32 แล้ว เข้ามาจากหน้าปากซอยที่เลี้ยวซ้ายเข้ามารัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ประมาณ 130 ม. ค่ะ

ด้านข้างโครงการฝั่งซ้ายติดกับบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ซึ่งจะบังวิวห้องพักทางทิศใต้ไปบางส่วน พอเลยชั้น 3 วิวก็จะโล่งๆ แล้วค่ะ

ด้านข้างโครงการทางฝั่งขวาติดกับแปลงที่ดินเปล่า ซึ่งปัจจุบันโครงการใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานขายชั่วคราว ก็ต้องรอดูกันว่าในอนาคตที่ดินแปลงนี้จะเป็นอะไรค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการกำลังก่อสร้างบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งทางทิศนี้วิวค่อนข้างโล่งเลยทีเดียว

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทโดยรอบโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและอพาร์ทเม้นต์ โดย

ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าในอนาคตจะสร้างเป็นอาคารอะไร รึเปล่า? ถ้าสร้างเป็นบ้าน 1-2 ชั้นก็จะไม่ได้มีผลต่อวิวของโครงการมากนักค่ะ

ทิศตะวันตก ติดกับ อพาร์ทเม้นต์ 5 ชั้น โดยอาคารทางทิศนี้จะเป็นผนังทึบและบันไดหนีไฟ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องวิวที่มองไปเป็นอพาร์ทเม้นต์สูง 5 ชั้นค่ะ

ทิศตะวันออก ติดกับ  ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ซึ่งเป็นถนนทางเข้า-ออกหลักของโครงการ โดยอาคารทางทิศนี้จะเป็นผนังตึกที่มีการตกแต่ง Facade ด้วย Fin อลูมิเนียม มีช่องเปิดจุดเดียวคือหน้าต่างของโถงลิฟต์ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรถและฝุ่นละอองที่มารบกวนมากนัก

ทิศใต้ ติดกับ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าคงสร้างเสร็จพร้อมโครงการ ดังนั้นเมื่อบ้านหลังนี้สร้างเสร็จอาจจะมีห้องพักในชั้น 2-3 ที่โดนบังวิวอยู่บ้างนะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Tesco Lotus  ~  650 เมตร
  • ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 600 เมตร
  • ศาลอาญา ~ 800 เมตร
  • Plaza Lagoon ~  1.5 กิโลเมตร
  • Green Plaza ~  1.8 กิโลเมตร
  • The JAS ~  1.8 กิโลเมตร
  • วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ~ 2 กิโลเมตร
  • Major Cineplex รัชโยธิน ~2.3 กิโลเมตร
  • ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~  2.7 กิโลเมตร
  • Big C Extra ลาดพร้าว ~2.8 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~  3.7 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Vino รัชดา 32 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 71 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปแบบเรียบๆ ไม่หวือหวา ใช้โทนสี ขาว-น้ำตาล มีการตกแต่ง Facade  ด้านหน้าอาคารด้วย Fin ระแนงอลูมิเนียมทาสีน้ำตาล ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมทาสีขาวจัดวางให้ดูมีลูกเล่น  ส่วนของที่จอดรถ, Lobby และตู้จดหมายจะอยู่ที่ชั้น 1, นิติบุคคลของอาคารจะอยู่ที่ชั้น 2 และส่วนของ Facilities อย่างห้อง Fitness และ Outdoor Terrace จะอยู่บนชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร ภาพรวมของโครงการเป็นคอนโดมิเนียมขนาดเล็กที่มียูนิตไม่มากเพียง 71 ยูนิต อยู่กันอย่างสงบๆ เน้นการอยู่อาศัยในห้องเป็นหลัก ไม่ได้เน้นใช้พื้นที่ส่วนกลางค่ะ

 

มาดูที่ผังโครงการกันก่อนนะคะ อาคารในชั้น 1 จะเป็น  Lobby ที่ออกแบบให้เป็น Double Volume และเลือกใช้กระจกเป็นหลักทำให้บริเวณทางเข้าดูดี ดูโปร่งโล่ง ส่วนพื้นที่นอกอาคารหลักๆ จะเป็นที่จอดรถจำนวนที่จอดรถ 23 รวมจอดซ้อนคันเป็น 32 คัน คิดเป็นประมาณ 45% ถือว่าให้มาเยอะเมื่อเทียบกับโครงการในทำเลเดียวกัน จุดเด่นของโครงการอีกอย่างหนึ่งคือ มีประตูทางเดินเข้าออกด้านหลังโครงการด้วย ทำให้สามารถเดินลัดหรือขับมอเตอร์ไซค์ไปซอยรัชดาภิเษก 36 เพื่อออกไปหาซื้อของกิน หรือลัดไป ม. ราชภัฏจันทรเกษม ได้สะดวก

บรรยากาศด้านหน้าโครงการดูสะอาดตาด้วยป้ายหน้าโครงการสีขาว ตัดกับสีเขียวของรั้วต้นไม้ ให้บรรยากาศของความร่มรื่น น่าพักผ่อน มองเข้าไปด้านในจะเห็น Lobby โครงการที่เป็นแบบ Double Volume อยู่ทางขวาค่ะ

หากเป็นคนใช้รถก็ขับเข้าไปตรงๆ หาช่องจอดใต้อาคารได้เลย และเนื่องจากโครงการมีขนาดไม่ใหญ่นักทำให้เวลาจอดรถเสร็จ ก็สามารถเดินเข้า Lobby ได้สะดวกเลยค่ะ

จากทางเข้า-ออกโครงการจะใช้เป็นรั้วล้อเลื่อนกั้นทางเข้า-ออกเท่านั้นและดูแลโดยพี่รปภ. 1 คน ที่จะมาในช่วงเย็นค่ะ

ถัดมาเป็นบริเวณที่จอดรถ ซึ่งจะจำกัดความสูงรถที่ 2.1 ม. ถ้าสูงระดับรถตู้ก็เข้าได้สบายๆ

ด้านหลังช่องจอดรถจะเป็นรั้วรอบโครงการ ซึ่งโครงการจะปลูกต้นไม้กระถางไว้ให้เกิดบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติแม้จะมีพื้นที่ที่ดินที่จำกัด

ภายในพื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดมัน ข้อดีคือ ทำความสะอาดง่ายและดูสะอาดมากกว่าพื้นคอนกรีตปกติ

ด้านหลังโครงการมีพื้นที่สำหรับจอดมอเตอร์ไซค์ ซึ่งจอดได้ประมาณ 13 คัน ข้างๆ มีประตูทางออกเล็กๆ ที่ให้ใช้เฉพาะคนเดินหรือมอเตอร์ไซค์ไปทะลุกับซอยรัชดาฯ 36 ซึ่งต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าออกนะคะ

เปิดประตูด้านหลังโครงการออกมาจะเป็นซอยย่อยๆ ที่หากเดินตรงไปจะไปทะลุกับซอยรัชดาฯ 36 ได้ ในระยะประมาณ 110 ม.

บรรยากาศในซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ทั้งอพาร์ทเม้นท์ บ้านเดี่ยว ดูสงบดี

เดินออกจากประตูด้านหลังโครงการมาประมาณ 110 ม. ก็จะมาโผล่ที่ซอยรัชดาฯ 36 ในช่วงที่มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์ ฝั่งซ้ายมี 7-11, ร้านทำฟัน, ร้านขายอาหารและร้านตามสั่งต่างๆ

กลับเข้ามาในโครงการจะพาไปชมสวนหย่อมอีกฝั่งหนึ่งของช่องจอดรถ

ด้านหลังช่องจอดรถอีกฝั่งหน่ึงจะจัดสวนเล็กๆ เพื่อสร้างบรรยากาศของการพักผ่อน

จากช่องจอดรถก็สามารถเดินใต้อาคารมายังทางเข้า Lobby ด้านหน้าโครงการได้สะดวก ไม่ต้องโดนแดด โดนฝนเลยนะ

ประตูทางเข้าโครงการสามารถเลือกเข้าได้ 2 ทาง เพื่อให้สะดวกทั้งผู้ที่ขับรถเข้ามาจอด และผู้ที่เดินเข้ามาจากหน้าโครงการ

ประตู Lobby ต้องใช้ Key Card แสกนเข้าอาคารนะคะ จึงมีการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ตรงนี้เลย

เนื่องจากเป็นโครงการเล็กๆ ยูนิตไม่เยอะ ..Lobby ของโครงการจึงมีพื้นที่แค่พอรองรับลูกบ้าน ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับโครงการใหญ่ๆ นะคะ แต่บรรยากาศภายในก็ดูดีทีเดียว

 

ภายในมีชุดโซฟาให้ลูกบ้านหรือแขกของลูกบ้านมานั่งคอย นั่งเล่นได้ นิดหน่อย

ด้านในเป็นส่วนของลิฟท์ ซึ่งโครงการเพียง 71 ยูนิตมีลิฟท์ถึง 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนของลิฟท์อยู่ที่ 35 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ดีเลย เมื่อเทียบกับโครงการระดับเดียวกันในทำเลนี้

ด้านข้างโถงลิฟต์จะมีตู้จดหมาย แบ่งช่องใส่ของและติดเลขห้องไว้เรียบร้อย

หน้าตาของลิฟท์ของโครงการ เป็นลิฟท์แสตนเลสของ Schindler

ภายในลิฟต์ตกแต่งเรียบง่าย เป็นลิฟต์ที่ไม่ได้ล็อกชั้นนะคะ แค่สแกนบัตรจากโถงลิฟต์แล้วก็กดเลือกชั้นได้เลย

ในส่วนของผังชั้น 2 จะเป็นชั้นพักอาศัยและนิติบุคคลโดยในชั้นนี้มีห้องพักจำนวน 8 ยูนิต มีทางเดินในอาคารเป็นแบบ Double Corridor ยาวไปตลอดแนว ที่ปลายตึกด้านซ้ายจะเป็นทางออกสู่บันไดหนีไฟด้านนอกอาคาร ส่วนทางขวามือจะเป็นทางไปสู่ห้องนิติบุคคลและโถงลิฟต์

สำหรับคอนโด Low Rise ผู้อยู่อาศัยคงไม่ได้เน้นเรื่องวิวสักเท่าไหร่ ซึ่งห้องของโครงการหลักๆ จะมีห้องทางทิศเหนือและทิศใต้ ก็เป็นทิศยอดนิยมอยู่แล้ว เพราะทางทิศเหนือได้แดดเช้า ไม่ร้อนบ่าย ส่วนห้องทิศใต้แม้จะได้แดดช่วงบ่ายบ้างแต่จะไม่ได้โดนเต็มๆ อย่างทิศตะวันตก แถมยังได้ลมดีอีกด้วยค่ะ สำหรับวิวในชั้นนี้ห้องทางทิศเหนือจะได้วิวที่ดีกว่า เพราะหันไปทางที่ดินเปล่า แต่ในอนาคตแปลงที่ดินข้างๆ จะขึ้นอาคารอะไรก็คงต้องรอดูกันต่อไป ถ้าเป็นแค่บ้าน 1-2 ชั้น ห้องพักก็จะไม่โดนบล๊อกวิวมากนักค่ะ

บรรยากาศบนชั้น 2 ในส่วนของโถงลิฟท์มีการตกแต่งด้วยไม้ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น ส่วนของนิติฯ และห้องพักอาศัยจะต้องเดินผ่านประตูเข้าไปอีกทีหนึ่งค่ะ

ผ่านประตูเข้ามาจะเจอสำนักงานนิติฯ ก่อน

ถ้าเลี้ยวขวามาจะเป็น Corridor ยาว ดูไม่อึดอัดเพราะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบริเวณโถงทางเดิน

ถัดมาเป็นผังชั้น 3-7 จะเป็นห้องพักอาศัยล้วนๆ มีห้องพักทั้งหมด 11 ยูนิต โดยห้องพักทางทิศเหนือที่ติดกับแปลงที่ดินเปล่า จะเป็นห้อง Studio จำนวน 3 ยูนิต คละกับห้อง 1 Bedroom แบบ B จำนวน 2 ยูนิต ซึ่งวิวห้องด้านนี้จะโล่งเช่นเดียวกับชั้น 2 ส่วนห้องทางทิศใต้จะยังไม่โล่งดี เพราะติดกับบ้านเดี่ยว 3 ชั้นจะเป็นห้อง 1 Bedroom A และ B คละกันไปแบบละ 3 ยูนิต แต่ถ้าขึ้นมาบนชั้น 4 จะได้วิวที่โล่งหมด ทั้งห้องทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้เลย

บรรยากาศของโถงทางเดินบนชั้นพักอาศัย ก็จะดูขาวๆ สะอาดตา น่าพักอาศัยดี

บริเวณสุดทางเดินจะมีช่องเปิด เป็นหน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติ โดยทางโครงการออกแบบมาให้มีพื้นที่สีเขียวเล็กๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

ก็จะมีบรรยากาศประมาณนี้

หันมาอีกฝั่งเป็นโถงทางเดิน Corridor ยาว ที่แจกเข้าห้องพักทั้งซ้าย ขวา ส่วนห้องขยะจะอยู่ทางขวามือใกล้กับลิฟท์เลย จึงสะดวกเวลาที่จะมาขึ้นลงลิฟท์ก็สามารถถือขยะติดมือมาทิ้งได้เลย

ชั้น 8 เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยรวมกับห้อง Fitness และ Outdoor Terrace โดยห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะมีทั้งหมด 8 ยูนิต มีห้องทุกแบบตั้งแต่ Studio จำนวน 3  ยูนิต, ห้อง  1 Bedroom แบบ A จำนวน 2  ยูนิต และห้อง 1 Bedroom แบบ B จำนวน 3 ยูนิต

จากโถงลิฟท์จะเห็นห้องฟิตเนสอยู่ตรงกับทางเดินเลย ส่วนฝั่งซ้ายมีประตูเชื่อมออก Outdoor Terrace

ห้องฟิตเนสเป็นห้องกระจก ทำให้ห้องดูกว้าง

ภายในห้องฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกายให้ทั้งหมด 4 เครื่องด้วยกัน ไม่รวมกับโซนเวทเทรนนิ่งด้านหลังเครื่องออกกำลังกาย ด้วยความที่ห้องมีขนาดพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด การวางเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด 4 เครื่องก็เต็มพื้นที่แล้วนะคะ จริงๆ จำนวนเครื่องออกกำลังกายที่ให้ถือว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตนะ แต่ในความเป็นจริงหากมีลูกบ้านมาเล่น 2 คนก็ดูจะเต็มพื้นที่แล้วเหมือนกัน และต้องแบ่งกันใช้เครื่องออกกำลังกายด้วยเพราะมีชนิดเครื่องเล่นอย่างละ 1 ตัว

จุดเด่นของฟิตเนสที่นี่คือ คุณภาพของเครื่องออกกำลังกายที่โครงการเลือกใช้ คือของยี่ห้อ Life Fitness และ BH

เวลาที่ออกกำลังกายก็จะได้วิวมุมสูง ที่มองวิวออกไปได้ไกลแบบนี้

ฝั่งหนึ่งของห้องจะมีประตูเชื่อมกับพื้นที่ Outdoor Terrace เผื่อเวลาที่ออกกำลังกายเหนื่อยๆ ก็สามารถออกไปนั่งพักได้

บริเวณพื้นที่ Outdoor Terrace จะเป็นแบบ Semi-Outdoor โดยทางโครงการจัดเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่นชมวิวค่อนข้างเยอะ และมีเก้าอี้หลายแบบให้เลือกนั่ง

จากมุมที่นั่งก็สามารถชมวิวโดยรอบได้ ซึ่งวิวในมุมนี้ก็จะเปิดโล่งไม่มีอาคารบล๊อกวิวในระยะใกล้นะคะ

บรรยากาศของโซฟาต่างๆ ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ ก็ดูน่าใช้งานดี แต่น่าจะเหมาะกับช่วงเย็นๆ หน่อย ที่มีลมพัดเย็นๆ

มุมที่เป็นโต๊ะแบบนั่งทำงานได้ก็มีนะคะ ซึ่งทางโครงการติด Wifi Free ไว้ให้ในบริเวณนี้ด้วย ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ขึ้นมานั่งทำงาน เล่นอินเตอร์เน็ตบนนี้ได้นะ

ทำแปลนมาให้ดูวิวโดยรอบของโครงการจะได้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ ภาพรวมของวิวโดยรอบจะไม่ได้โดนบล๊อกวิวมากนัก โดยเฉพาะห้องพักที่หันออกทางทิศเหนือจะได้วิวโล่งๆ ทุกห้องเลย ส่วนห้องทางฝั่งทิศใต้ พอสูงขึ้นมาจากชั้น 3 ก็จะโล่งๆ เช่นกัน สำหรับวิวทางฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นด้านที่เห็นจาก Outdoor Terrace พอดี ก็ไม่มีอาคารบล๊อกวิวทางฝั่งนี้ ส่วนทางทิศตะวันตก แม้จะมีอพาร์ทเม้นท์ 5 ชั้น ติดอยู่ด้านหลังเลย แต่ทางโครงการก็ออกแบบให้ไม่มีห้องพักหรือพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องรับวิวในทิศนี้นะคะ

วิวจากทิศเหนือ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ไม่มีอาคารสูงในระยะประชิด สามารถมองวิวระยะไกลได้พอสมควร

วิวจากทิศใต้ ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบเช่นกัน พอสูงขึ้นมาจากชั้น 3 ก็จะโล่งๆ แบบนี้จนถึงชั้น 8 เลย

ทิศตะวันออก มุมมองนี้ก็เปิดโล่งเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นทิศที่ติดกับถนนซอยหน้าโครงการพอดี จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีอาคารมาขึ้นในระยะประชิดได้ เพราะอย่างน้อยๆ ก็จะมีระยะห่างของถนนที่กั้นไว้ค่ะ

 

ทิศตะวันตก เป็นทิศที่มีอาคาร 5 ชั้นอยู่ใกล้สุดซึ่งทางโครงการไม่ได้ออกแบบห้องพักหรือพื้นที่ส่วนกลางให้หันออกทางทิศนี้นะคะ จึงไม่มีผลกับวิวของโครงการค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Outdoor Terrace
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 36 : 1
  • ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดเป็นประมาณ 45%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

เนื่องจากห้องตัวอย่างเป็นห้องเดิมกับที่ทีมงานเคยมาถ่ายให้ชมกันไปแล้ว เลยจะขอยกมาให้ชมกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในรีวิวนี้จะพาไปชมห้องจริงที่จะส่งมอบให้กับลูกบ้านกันด้วย ไปดูกันเลยว่าห้องจริงจะเป็นอย่างไร ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Furnished ก็จะได้เห็นกันเลยว่าได้อะไรบ้างค่ะ

โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูวันนี้เป็นห้อง 1 Bedroom Type B ขนาด 29.2 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องนี้จะพาไปชมทั้งห้องตัวอย่างและห้องจริงที่ส่งมอบให้ลูกบ้าน ส่วนอีกห้องหนึ่งจะเป็นห้องแบบ Studio 24.2 ตร.ม. จะมีให้ดูเฉพาะห้องจริงที่ส่งมอบนะคะ

เรามาเริ่มกันที่ห้องแบบ 1 Bedrooms ขนาด 29.20 ตารางเมตร สามารถอยู่อาศัยได้ 1-2 คนแบบไม่อึดอัดนะคะ พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้ค่อนข้างครบและ Fix ปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่ได้มากนัก เนื่องจากโครงการให้แบบ Fully Furnised ที่ Built-in และจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เรียบร้อย ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องทำอะไรมาก สามารถหิ้วกระเป๋าแล้วเข้าอยู่ได้เลย

ตัวแปลนแบ่งโซน Common Area ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นและครัวที่แยกออกจากส่วนห้องนอนแบบชัดเจน ทำให้การอยู่อาศัยเป็นสัดส่วนดี แปลนนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับตัวห้องนอนมากที่สุด ด้วยการจัดห้องนอนเป็น Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว พร้อมตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าที่วางอยู่หน้าห้องน้ำเลยจึงสะดวกดี และมีขนาดห้องนอนที่กว้างพอสควร ในส่วนของ Common Area ก็จัดพื้นที่นั่งเล่นออกมาได้ดี อยู่ติดกับหน้าต่างทำให้ได้แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาช่วยให้ห้องดูโปร่ง สามารถนั่งมองวิวได้สบายๆ ติดกันเป็นพื้นที่ระเบียงที่สามารถใช้สำหรับวางเครื่องซักผ้าและวางราวตากผ้าได้ ซึ่งเป็นตำแหน่งสำหรับวาง Compressor แอร์ โดยวางไว้แบบเป่าลมร้อนเข้าในระเบียง อาจทำให้ระเบียงร้อนแต่ตากผ้าแห้งเร็ว

จุดอ่อนของห้องแบบนี้จะอยู่ที่ส่วน Pantry ครัวและห้องน้ำ ที่มีตำแหน่งอยู่ด้านในอาคาร ทำให้ต้องพึ่งพาอาศัยระบบระบายอากาศของอาคารล้วนๆ เหมาะกับคนที่ทำครัวเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีกลิ่นและควันเยอะเท่าไหร่นัก เพราะถ้าทำครัวไทยหนักๆ กลิ่นและควันจะฟุ้งไปทั่วห้องได้ แต่ก็มีวิธีแก้คือกั้นประตูบานเลื่อนเพิ่มในส่วนของพื้นที่ครัวก็ช่วยได้ค่ะ สำหรับจุดเด่นของห้องพักในโครงการคือวัสดุต่างๆ ที่เลือกสเปคมาได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับโครงการในทำเลเดียวกัน จะได้ของอะไรบ้างไปดูกันเลย

ประตูห้องจะได้เป็นประตูบานไม้ HDF ลามิเนตปิดผิว หน้าตาแบบนี้

กลอนประตูได้แบบมือจับก้านโยกของ Hafele

ด้านหลังประตูติด Stopper ไว้เรียบร้อยเพื่อกันประตูกระแทกค่ะ

พื้นห้องนอนปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้หนา 4 มิล พื้นห้องอยู่ในระดับเดียวกับพื้นโถงทางเดิน มีการปิดคิ้วรอยต่อเรียบร้อย

พอเปิดประตูมาจะเจอครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขกและระเบียง ฟังก์ชั่นของห้องค่อนข้าง Fix เพราะมีการ Built-in ชั้นวางของและวางเฟอร์นิเจอร์มาให้เรียบร้อยแล้ว ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร ที่ผนังห้องจะติดวอลเปเปอร์สีขาวให้ทั้งหมด

ลองมองกลับไปที่หน้าห้องจะเห็นว่า ด้านซ้ายมือจะเป็นครัวแบบเปิด ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่ทำให้ห้องดูกว้าง พื้นที่ครัวแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนสำหรับประกอบอาหารและพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งส่วนทางขวามือเป็นตู้และชั้นวางของซึ่งโครงการ Built-in มาให้ด้วยเป็นของ Modernform ค่ะ มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานในพื้นที่ส่วนนี้มีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง

โต๊ะรับประทานอาหารของ Modernform ที่ให้มามีขนาด 2 ที่นั่ง พอมาวางต่อกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L แล้วก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำครัวให้มีโต๊ะวางเครื่องปรุง วัตถุดิบต่างๆ ได้อีกด้วยนะ

ชุดครัว Built-in ของ Starmark ที่โครงการติดตั้งมาให้หน้าบานเป็นสีขาวเรียบๆบานพับเป็นแบบ  Soft closed ทั้งหมด ช่องเปิดด้านในพอเปิดออกมาจะเห็นว่าสามารถใส่ของได้เยอะดี

ช่องวางตู้เย็นที่โครงการเว้นไว้ให้ สามารถใส่ตู้เย็นขนาด 10.9 คิว ได้ตามแบบในห้องตัวอย่าง สำหรับตู้เย็นโครงการไม่ได้แถมให้แต่ตอนนี้โครงการมีโปรโมชั่นสามารถเลือกของแถมเป็นตู้เย็น Panasonic 9.9 คิว และ TV Samsung 40 นิ้ว พร้อมส่วนลด หรือเลือกเป็นส่วนลดทั้งหมดเลยก็ได้ค่ะ

ตู้ Built-in ด้านบนตู้เย็นติดตั้งเมนบอร์ดไฟมาให้

มือจับตู้ครัวด้านบนและด้านล่างค่ะ

Top เคาน์เตอร์ครัวได้เป็นหินแกรนิต ถือเป็นสเปกที่ดีเมื่อเทียบกับโครงการโดยรอบ ส่วนที่ผนังเคาท์เตอร์ครัวติดกระจกเงามาให้ สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกค่อนข้างง่าย และสามารถใช้ปากกาไวท์บอร์ดเขียนบนกระจกได้ มาพร้อมชุดครัวของ Starmark และซิ้งค์อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสของ ​Teka ขนาดจริงของซิงค์ต้องดูในที่ห้องจริงที่ส่งมอบ จะได้ขนาดใหญ่กว่านี้ค่ะ

เตา 2 หัวและที่ดูดควันของ Teka ซึ่งเป็นระบบต่อท่อดูดควันออกไปด้านนอกห้อง จึงมีประสิทธฺิภาพในการดูดควันมากกว่าแบบหมุนเวียนนะคะ

ข้างๆกันเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ขนาด  0.40 x 1.40 เมตร พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ของ Modernform สีขาว

พื้นที่ตั้งแต่โต๊ะจนถึงชั้นวางทีวีมีระยะประมาณ 1 เมตร สามารถนั่งได้สบายๆ ถ้าเป็นห้องขนาด 34.5 ตร.ม.จะได้พื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่านี้อีกหน่อย สามารถจัดเก้าอี้นั่งรับประทานอาหารได้หลายแบบ จะนั่งกินข้าวข้างๆกัน หรือจะนั่งตรงข้ามแบบมองตากันปิ๊งๆ ก็ได้ค่ะ

ที่ผนังหลังโต๊ะรับประทานอาหารโครงการ  Built-in ชั้นวางของมาให้ของ Modernform อีกเช่นกัน พร้อมกับติดตั้งแอร์ Panasonic ขนาด 12,000 BTU มาให้ด้วย

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นชั้นวางของ Built-in แบบชั้นโล่งผสมกับแบบตู้มีหน้าบานปิด จาก Modernform ค่ะ

เมื่อเปิดตู้ออกมาจะเห็นว่าฟังก์ชั่นด้านในเป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ และชั้นวางรองเท้า 4 ชั้น

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานส่วนโถงทางเข้าห้องและห้องครัวนี้มีไฟดาวน์ไลท์ติดตั้งมาให้ 1 ดวง

ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น ที่โครงการแถมเฟอร์นิเจอร์ของ Modernform มาให้ครบทั้งโซฟา โต๊ะกลางและชั้นวางทีวี โดยห้องนี้มีระยะดูทีวีประมาณ 1.70 เมตร  เหมาะกับการวางทีวี 40″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตา พอดีกับโปรโมชั่นตอนนี้ที่มีให้เลือกระหว่าง TV Samsung 40 นิ้ว กับตู้เย็น Panasonic 9.9 คิว และพร้อมส่วนลด หรือรับเฉพาะส่วนลดอย่างเดียวก็ได้ค่ะ

โซฟาที่โครงการแถมให้เป็นโซฟา 2 ที่นั่ง ขนาด 0.90 x 1.50 เมตร สีครีม ส่วนโต๊ะกลางขนาด 0.50 x 0.50 เมตร ของ Modernform

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นชั้นวางทีวีแบบลอยตัวที่ติดตั้งมาให้แบบนี้เลย

หน้าบานจะเลื่อนซ้าย-ขวา แบบนี้จึงไม่เหมาะสำหรับเก็บของมีค่า แต่จะเหมาะสำหรับวางเครื่องเสียง,เก็บซีดี, หนังสือหรือของกระจุกกระจิกมากกว่า

รางเลื่อนของตู้ค่ะ

ห้องนี้เป็นห้องที่ค่อนข้างโปร่ง แสงธรรมชาติเข้าดี เนื่องจากมีช่องเปิดที่ค่อนข้างกว้าง ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเลื่อนไปทางซ้ายได้อย่างเดียว ส่วนบานด้านซ้ายมือจะเป็นบาน Fix กระจกเป็นกระจกเขียวใสตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ตัวล็อกประตูแบบฝังลงไปกับกรอบบานเลื่อน

พื้นระเบียงไม่มีการลดระดับ แต่จะยกธรณีประตูประมาณ 10 ซม. ขึ้นมาเพื่อกันน้ำเข้าห้อง วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30  ซม. ส่วนพื้นที่ระเบียงของห้องนี้มีขนาด 0.90 x 2.40 เมตร สามารถนำราวตากผ้ามาตั้งตากได้สบายๆ หรือวางเก้าอี้นั่งเล่นสักตัวพร้อมจัดสวนเล็กๆ ก็มีพื้นที่เพียงพอ

แต่หากจะนั่งเล่นก็ติดตรงที่ฝั่งตรงข้ามกันนี้เป็นที่วาง Compressor แอร์ที่หันลมร้อนเข้าระเบียงถึง 2 ตัว ทำให้ระเบียงมีอากาศร้อนตอนเปิดแอร์ แต่ก็มีข้อดีตรงที่ตากผ้าแห้งเร็ว ถ้าใครใช้ระเบียงสำหรับตากผ้าอย่างเดียวก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่หากต้องการพื้นที่นั่งเล่นลมเย็นๆที่ระเบียงด้วยก็แนะนำให้ติดกริลที่แอร์ จะได้ช่วยเป่าลมเย็นออกข้างนอกได้ส่วนหนึ่ง ใต้ Compressor แอร์เป็นพื้นที่ว่างสำหรับวางเครื่องซักผ้า ที่โครงการติดตั้งก็อกน้ำ เต้ารับแบบกันน้ำของ Panasonic และจะติดตั้งท่อน้ำทิ้งไว้รองรับ

ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ สูง 1.10 เมตร มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมมาให้ 1 ดวง

จากระเบียงมองเข้าไปในห้อง

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 4 ดวง ห้องนี้สว่างดี

ถัดไปเราจะไปดูห้องนอนกัน ในห้องตัวอย่างจะไม่มีประตูติดตั้งมาให้ แต่ของจริงจะเป็นบานประตูสำเร็จรูปนะคะ

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.6 x 3.8 เมตร ขนาดห้องกลางๆไม่ใหญ่มาก โครงการติดตั้งตู้เสื้อผ้า พร้อมเตียงไม่รวมฟูกและโต๊ะหัวเตียงมาให้ด้วย เฟอร์นิเจอร์เป็นของ Modernform ทั้งหมด

เตียงที่โครงการแถมมาให้เป็นเตียงขนาด  5  ฟุต ใต้เตียงถูกออกแบบให้มีลิ้นชัก 2 ตอนสามารถเปิดออกมาเก็บของได้

ส่วนข้างเตียงอีกด้านหนึ่งเป็นช่องสำหรับใส่ของจิปาถะ ซึ่งช่องเก็บของแบบนี้มีทั้งข้อดีที่สามารถเก็บของได้ แต่ข้อเสียคือมันจะเป็นตัวกักเก็บฝุ่นชั้นดี ดังนั้นต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆฝุ่นจะได้ไม่มากวนใจ เพื่อสุขภาพพลานามัยของคุณนะคะ ? พื้นที่ข้างเตียงของห้องนี้กว้าง 0.84 เมตร ซึ่งกว้างพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้

และโครงการก็แถมโต๊ะหัวเตียงมาให้จาก Modernform อีกเช่นกัน เป็นโต๊ะที่มีลิ้นชักและช่องใส่ของกระจุกกระจิกได้ ข้างๆ โต๊ะติดตั้งเต้ารับสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้เรียบร้อย

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงของห้องนี้กว้าง 0.45 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่ค่อนข้างแคบ หากใครจะติดตั้งทีวีแนะนำให้ติดแบบแขวนผนังจะประหยัดเนื้อที่ไปได้เยอะ ส่วนเต้ารับและที่เสียบสายเคเบิล โครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว

มองขึ้นไปด้านบนติดตั้งแอร์ Panasonic ขนาด  9000 BTU มาให้

หน้าต่างห้องนอนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ บานด้านล่างเป็นบาน Fix ด้วยความที่ช่องเปิดค่อนข้างกว้างทำให้ห้องนี้ดูโปร่ง ไม่มืด ไม่อับ

ตัวล็อกหน้าต่าง

จากหน้าต่างห้องนอนมองกลับไปจะเป็นพื้นที่หน้าห้องน้ำ โดยพื้นที่หน้าห้องน้ำทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าจาก Modernform มาให้ด้วย

ขนาดของตู้เสื้อผ้าที่ให้มาค่อนข้างใหญ่ ด้านในตู้เป็นแบ่งเป็นช่องสำหรับแขวนผ้าและชั้นวางของอยู่หลายช่องทีเดียว

เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าออกมาก็ยังเหลือที่ให้แต่งตัวอีกเย๊อะ เพราะพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างกว้าง

มือจับตู้เวลาปิด-เปิด จับแบบนี้นะ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ทั้งหมด 5 ดวง โดยจะอยู่บริเวณเตียงนอน 4 ดวง และอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า(ที่แต่งตัว) 1 ดวง

มาดูที่ห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำมีขนาด 2.40 x 1.80 เมตร แบ่งเป็นอ่างล้างหน้า ส่วนนั่งส้วม และพื้นที่อาบน้ำที่มีการกั้นห้องแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่น ขนาด 30 x 60 ซม.มีการลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อให้น้ำไม่ไหลเปียกออกมาโดนพื้นห้องนอน

อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว ท็อปเคาท์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำ มีกระจกเงาติดที่ผนังให้เรียบร้อย ทางซ้ายมือติดตั้งเต้ารับแบบมีฝาครอบกันน้ำให้เผื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม เป็นต้น

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของ American Standard

ก็อกน้ำสแตนเลสของ American Standard เช่นกัน

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นจุดติดตั้งโถสุขภัณฑ์ มีความกว้างประมาณ 0.82 เมตร พื้นที่พอดีๆตัว ไม่กว้างมากนัก ทางซ้ายมือติดตั้งสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้ในตำแหน่งที่ต้องเอื้อมหน่อยนะคะ ซึ่งสาเหตุที่ติดที่แขวนกระดาษทิชชู่ไว้ตรงนี้ก็เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้งคนที่นั่งส้วมและคนที่ล้างมือที่อ่างล้างหน้า สามารถเอื้อมหยิบใช้งานได้นั่นเอง ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีการ Drop ผนังเพื่อทำชั้นวางของให้

โดยชั้นวางของนี้จะเป็นชั้นกระจก มีการรองชั้นด้วยตัวยึดสแตนเลส

ข้างๆกันเป็นฉากกั้นอาบน้ำ ใช้กระจกนิรภัยใส หนา 6 มม. พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.90 x 0.97  เมตร เป็นระยะอาบที่สบายๆ

มือจับประตูเป็นสแตนเลสหน้าตาแบบนี้

พื้นที่อาบน้ำมีการยกธรณีประตูขึ้นมา 10 ซม. เพื่อกั้นไม่ให้น้ำไหลออกไปส่วนแห้ง

ติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่มาให้ของ American standard ทางซ้ายมือ Drop  ผนังเพื่อทำชั้นวางของให้

ชั้นวางของตรงนี้ก็เป็นชั้นกระจกเหมือนชั้นวางของตรงโถสุขภัณฑ์

ฝักบัวขนาดใหญ่ดี

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 4 ดวง และพัดลมระบายอากาศ 1 ตัว

เต้ารับ ที่เสียบสายเคเบิล และสวิตซ์ไฟในห้องที่ให้มาหน้าตาแบบนี้นะคะ ของ Panasonic และเนื่องจากเป็นรีวิวตึกเสร็จจึงจะพาไปดูห้องจริงที่เตรียมส่งมอบให้ลูกบ้านด้วยนะคะ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom 29.2 ตร.ม. เป็นแปลนเดียวกับห้องตัวอย่างเลย

 

 

 

จากทางเข้าห้องพักจะเจอส่วนพื้นที่ครัวก่อน เป็นครัวแบบเปิดทำให้บรรยากาศห้องดูโปร่งโล่ง และยังได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนที่เปิดไประเบียงด้วย นอกจากนี้โครงการยังแถมวอลล์เปเปอร์สีขาวช่วยให้ห้องดูสะอาดตา ตกแต่งเพิ่มเติมง่ายดีค่ะ

จากมุมภายในห้องมองกลับมาที่ส่วนครัวก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ โต๊ะ เก้าอี้ ตามนี้ ได้เป็นของยี่ห้อ Modernform ทั้งหมด

จุดเด่นของชุดเคาน์เตอร์ครัวของที่นี่คือสเปคที่เลือกมาใช้ อย่างเคาน์เตอร์ให้ของ Modernform, Top เคาน์เตอร์ที่เป็นหินแกรนิต ชั้นเก็บของและบานพับของ Starmark พร้อมชุด Hob & Hood และ ซิงค์ล้างจานของ Teka ค่ะ

ซิงค์ล้างจานของ Teka มีขนาดใหญ่พอสมควร และมีความลึกให้สามารถล้างจานได้สะดวก ส่วนก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้งของ Teka เช่นกัน

อีกฝั่งหนึ่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวก็จะได้ตู้เก็บของ เก็บรองเท้า ของ Modernform เหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ

จากมุมของโต๊ะทานข้ามสามารถวางเก้าอี้ทางฝั่งครัวแล้วนั่งดูทีวีแบบนี้ก็ได้นะ

ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นก็จะได้บรรยากาศที่อยู่ติดกระจกแบบนี้ ทำให้สามารถมองออกไปดูวิวด้านนอกได้ ซึ่งวิวของห้องพักในโครงการส่วนใหญ่จะเปิดโล่งแทบทุกด้านเลย

พื้นที่ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ช่วยกันลื่นได้ดีกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้นะคะ ทางโครงการก็ดูเก็บงานเรียบร้อยดี

มองลอดระเบียงออกไปดูวิวด้านนอกซะหน่อย เป็นวิวจากชั้น 6 ค่ะ

ประตูทางเข้าห้องนอนเป็นบานไม้ HDF เช่นกัน

ด้านในห้องนอนจะให้เฟอร์นิเจอร์ของ Modernform มาครบทั้งเตียงขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะหัวเตียง ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่จะไม่ได้แถมฟูกมาให้นะ ก็ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย

ตัวเตียงมีการออกแบบให้ชั้นเก็บของใต้เตียง เป็นลูกเล่นที่ดีในการประหยัดพื้นที่เก็บของภายในห้อง

ในห้องนอนจะมีหน้าต่างเป็นบานเลื่อนผสมบาน Fixed มีข้อดีที่สามารถใช้เปิดเพื่อระบายอากาศภายในห้องได้ และยังสามารถนอนมองวิวจากบนเตียงได้อีกด้วย

 

จากหน้าต่างมองไปยังอีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และติดกันคือประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ

ภายในห้องน้ำจะได้เหมือนห้องตัวอย่างอีกเช่นกัน สุขภัณฑ์ต่างๆ ที่ทางโครงการเลือกใช้ทั้งหมดของ American Standard ค่ะ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้ให้เรียบร้อย ทำให้การใช้งานเป็นสัดส่วนดี

ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะมีการกั้นด้วยฉากกั้ยอาบน้ำ ซึ่งเป็นกระจกนิรภัยเหมือนแบบในห้องตัวอย่าง

ทางโครงการเก็บรายละเอียดได้เรียบร้อยดี โดยมีการติดขอบยางไว้ให้เพื่อกันกระจกกระแทก และยังช่วยกันน้ำกระเด็นออกมาได้ด้วยนะคะ

 

มาพร้อมอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวของ American Standard ซึ่งตรงนี้จะให้เคาน์เตอร์มาใหญ่ทีเดียว มีพื้นที่สำหรับวางของได้เยอะดีค่ะ

มาดูห้องแบบ Studio ขนาด 24.20 ตารางเมตรกันต่อนะคะ ลักษณะห้อง Type นี้เป็นสไตล์หน้าแคบลึกและวางฟังก์ชันของพื้นที่ครัวและห้องน้ำ ให้อยู่ด้านในอาคารแทน เพื่อให้พื้นที่ส่วนเตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่นได้วิวและแสงจากภายนอกได้ดี ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นมามากกว่าการวางฟังก์ชันครัวและห้องน้ำอยู่ด้านนอก แลกมาประสิทธิภาพใช้งานครัวและห้องน้ำที่ลดลง เพราะครัวและห้องน้ำจะต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศของตัวอาคารล้วนๆ แต่ถ้าให้เลือกเราก็เลือกการวางแปลนแบบนี้นะ เพราะเราไม่ได้เน้นทำครัวเยอะ ส่วนใหญ่ก็ใช้พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่เตียงนอนเป็นหลัก จึงอยากให้แสงเข้าห้องมายังพื้นที่นั่งเล่นมากกว่า บอกก่อนเลยว่าเสปกวัสดุต่างๆ ในห้องจะได้เหมือนกับห้องแรกที่พาไปชมเลยนะคะ จะต่างกันที่ Layout ห้องเท่านั้นค่ะ

เข้ามาในส่วนแรกของห้องจะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ครัว พื้นที่ทานข้าว และห้องน้ำ บรรยากาศโดยรวมดูโปร่งโล่งดี ด้วยแสงธรรมชาติที่สามารถผ่านเข้ามาในห้องจากหน้าต่างและประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ

มาดูในส่วนของพื้นที่ทำอาหารกันก่อนจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือฝั่งขวาเป็นพื้นที่ทำครัวและฝั่งซ้ายเป็นตำแหน่งวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะมีทางเดินระหว่างกลาง เป็นทั้งพื้นที่ยืนทำครัวและเป็นทางเดินเข้าห้องด้วย

เคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาเหมือนกับของห้องแรกเลย และได้เสปคที่ดีเช่นเดียวกัน ข้างซ้ายของเคาน์เตอร์มีการเว้นพื้นที่ไว้ให้วางตู้เย็น โดยขนาดที่สามารถวางได้พอดีก็คือตู้ขนาดประมาณ 10.9 คิว ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว ทางโครงการจะวางโต๊ะทานข้าวของ Modernform ไว้ให้ขนาด 2 ที่นั่ง ข้างๆ เป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ

จากโต๊ะทานข้าวก็สามารถนั่งดูทีวีได้ ลงตัวอยู่นะ

ส่วนของพื้นที่ภายในห้องน้ำก็มีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้อย่างเรียบร้อยอีกเช่นกัน

พื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำก็ให้มาขนาดกลางๆ แต่ก็จัดมาให้ครบทุกฟังก์ชั่น

ในส่วนของอ่างล่างหน้าจะเป็นแบบลอยตัว มีพื้นที่วางของที่ขอบอ่างได้นิดหน่อย ถ้าเป็นคุณผู้หญิงที่ของใช้เยอะ แนะนำให้ติดชั้นวางของเพิ่มเองอีกนิด ก็สามารถใช้งานได้สบาย หรือเปลี่ยนกระจกเป็นแบบที่มีชั้นเก็บเก็บของซ่อนอยู่ด้านหลังก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกวิธีนะคะ

ในส่วนของสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำ ให้มาเป็นสเปคเดียวกับห้องแรกเช่นกัน โดยจะได้ของ American Standard นะคะ

สำหรับพื้นที่อาบน้ำในห้อง Type นี้ก็จะให้ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยเข้ามุมมาให้ ทำให้ห้องน้ำดูไม่อึดอัดและยังได้ฟังก์ชันครบ

เวลาเลื่อนเปิดฉากกั้นจะเปิด 2 ด้านแบบนี้นะคะ

โดยที่พื้นจะก่อขอบธรณีเพื่อกันน้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกไม่ให้ไหลไปยังส่วนอื่นๆ ก็ช่วยให้การใช้งานถูกแยกเป็นสัดส่วนได้ดี

ต่อไปมาดูพื้นที่ส่วนพักผ่อนของห้องกันบ้าง โดยจะรวมพื้นที่ของเตียงนอนและโซฟานั่งเล่นไว้ด้วยกัน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูกว้าง น่าใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ให้มาก็จะเหมือนตามนี้เพราะนี่คือห้องจริงที่รอส่งมอบให้ลูกค้าค่ะ

ตำแหน่งของโซฟากับเตียงก็จะอยู่ติดกันแบบนี้ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับแขกได้สบายๆ ส่วนเตียงได้ขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ส่วนตัวชอบตรงที่ได้เตียงติดกับหน้าต่างนี่แหละ ก็จะได้นอนมองวิวได้เลย

 

สำหรับเตียงนี้ก็ถูกออกแบบให้มีช่องเก็บของใต้เตียงได้อีกเช่นกัน เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับเก็บของ ให้ห้องดูเป็นระเบียบค่ะ

ในส่วนของตำแหน่งวางทีวีจะอยู่ตรงกับโซฟา หากจะนอนดูบนเตียงก็ได้อยู่นะ แต่ก็จะเอียงๆ หน่อย  โดยมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.7 ม. ระยะที่ไกลแบบนี้สามารถเลือกทีวีได้ใหญ่ถึง 60 นิ้วเลย แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดของชั้นวางทีวีด้วยนะคะ

ติดกันกับชั้นวางทีวีเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า จาก Modernform ที่ทางโครงการ Built-in ไว้ให้เรียบร้อย เป็นแบบเดียวกับของห้องแบบแรกเลย

ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียงด้านนอก

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้มีขนาด 0.9 x 1.7 ม. พอให้วางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็กๆ ได้เท่านั้น

ทางโครงการติดตั้ง Compressor แอร์ และเดินก๊อกน้ำ พร้อมท่อมารอไว้ให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้เรียบร้อยค่ะ

plan-popup-one_bed_typeA

มาดูห้องแบบอื่นๆกันบ้างค่ะ ห้อง 1 Bedroom Type A ขนาด 29.20 ตารางเมตร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครที่ชอบห้องแบบ 1 Bedroom การวางฟังก์ชั่นของห้องนี้จะต่างกับห้อง 1 Bedroom Type B ตรงที่จะสลับเอาห้องนั่งเล่นมาไว้ตรงทางเข้า แล้วผลักให้ห้องครัวไปอยู่ด้านนอกอาคารติดกับระเบียงที่มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าให้ ความพิเศษของห้องนี้คือได้ครัวปิดที่มีฉากกั้นให้เรียบร้อย ดังนั้นเวลาประกอบอาหารก็ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะเข้าห้องและยังได้ความเป็นสัดเป็นส่วนด้วย ถัดไปเป็นห้องนอนที่มีการ Built-in ตู้เสื้อผ้า วางเตียง 5 ฟุตพร้อมโต๊ะหัวเตียงมาให้ ห้องนำ้ด้านในมีฟังก์ชั่นครบทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พื้นที่อาบน้ำที่มีฉากกั้นกระจกนิรภัย แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ซึ่งห้องนี้ก็ยังคงเหมือนห้องที่แล้วที่สามารถเข้าห้องน้ำได้ทางเดียวคือจากห้องนอนเท่านั้นค่ะ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 August 2017

  • 1 Bedroom  ชั้น 2 เนื้อที่ 21.8 ตร.ม. ราคา 1,752,577 บาท (ส่วนลด 52,577 บาท) เหลือ 1.7 ล้านบาท หรือ 80,393 บาท/ตร.ม.
  • Studio  ชั้น 8 เนื้อที่ 21.8 ตร.ม. ราคา 1,752,577 บาท (ส่วนลด 52,577 บาท) เหลือ 1.7 ล้านบาท หรือ 80,393 บาท/ตร.ม.
  • Studio ชั้น 4 เนื้อที่ 24.2 ตร.ม. ราคา 1,948,454 บาท (ส่วนลด 58,454 บาท) เหลือ 1.89 ล้านบาท หรือ 80,515 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 4 เนื้อที่ 29.2 ตร.ม. ราคา 2,367,154 บาท (ส่วนลด 71,015 บาท) เหลือ 2,296,140 บาท หรือ 81,067 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 3,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน (จะปรับขึ้นเป็น 50 บ./ตร.ม. วันที่ 1 ม.ค. 2561)
  • โปรโมชั่น :

  • 1) แบบ 1 ห้องนอน ลูกค้าสามารถเลือก (A) ส่วนลดเงินสดเต็มจำนวน หรือ (B) ส่วนลดเงินสดจำนวนหนึ่ง + TV Samsung 40″ 1 เครื่อง และ ตู้เย็น Panasonic 9Q 1 หลัง
  • 2) Studio 21.8 ตร.ม. – ราคาเดียวทุกชั้นที่ 1.7 ลบ.
  • 3) Studio 24.20 ตร.ม. – ราคาเดียวทุกชั้นที่ 1.89 ลบ.
  • * สำหรับทุกยูนิต* ถ้าโอนภายใน 3 เดือนนับจากวันจอง รับส่วนลดเงินสดเพิ่มอีก


เจาะลึกรวบยอด

Vino รัชดา 32 เป็นโครงการอยู่ในทำเลที่ไม่ติดถนนใหญ่ จากซอยรัชดา 32 จะต้องแยกเข้าไปในซอยรัชดา 36 แยก 19-1 อีกประมาณ 130 ม. แต่ก็เดินทางได้สะดวกเพราะเป็นซอยที่คนใช้ทะลุไปหลายเส้นทางและยังมีจุดเด่นที่มีทางลัดด้านหลังโครงการที่สามารถเดินทะลุไปรัชดาฯ 36 ได้ ย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านที่รองรับการอยู่อาศัยของคนแถวนั้นครบเครื่อง เป็นทำเลที่ค่อนข้างคึกคักมากและมีสไตล์เฉพาะตัวเหมือนกันเพราะจะมีร้านอาหารร้านนั่งชิวเยอะรองรับคนหลายประเภททั้งแนวครอบครัว แนววัยรุ่นนั่งชิวตามร้านกาแฟเก๋ หรือร้านไว้ Hangout ยามดึกกับเพื่อนฝูง

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ – ทำได้สะดวกมากสามารถเดินทางไปยังถนนหลักสายต่างๆได้สะดวกเพราะมีทางลัดให้เชื่อมเยอะมากไล่ตั้งแต่เส้นรัชดา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ หรือจะทะลุตามซอยย่อยผ่านลาดพร้าววังหินไปโชคชัย 4 แล้วออกเลียบด่วนรามอินทราก็ได้ แต่เรื่องปริมาณรถอาจต้องทำใจในช่วงเวลาเร่งด่วนนะด้วยความที่ทะลุได้หลายเส้นทางทำให้มีปริมาณรถวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – อาจต้องเดินสักนิด คือเดินจากโครงการออกมาที่ซอยรัชดาฯ 32 ก็จะมีพี่วินให้เรียกได้ หรือจะเป็นรถกระป๋องและแท็กซี่ก็หาได้ไม่ยากเพราะเป็นซอยที่มีรถเข้าออกตลอดเวลา ทำให้มีบรรยากาศไม่เปลี่ยวมากนักด้วยค่ะ สำหรับตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้า ในปัจจุบันก็มีระบบรางที่ใกล้ที่สุดอย่าง MRT ลาดพร้าว มีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 1.9 กม. ต้องอาศัยต่อพี่วินไปค่ะ

ส่วนเรื่องของความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการถ้าในระยะใกล้แบบเดินไปได้ก็คงต้องออกทางลัดหลังโครงการไปทะลุรัชดาฯ 36 จะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านขายอาหาร 7-11 ให้เลือกอยู่นะ แต่ถ้าชอบบรรยากาศแบบมีร้านให้เลือกเยอะๆ ก็คงจะต้องขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซค์ไปในย่าน ลาดพร้าววังหิน โชคชัย 4 เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วเป็นแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยๆเยอะมากกกก แถมมีหลากหลายสไตล์ให้เลือกด้วย ระดับราคาก็สบายๆกระเป๋านะไม่หนักมาก ร้านดังๆก็มีเพียบหาได้ตามพวกรีวิวจัดดับร้านน่านั่งลาดพร้าว-วังหิน เลยไปบนเส้นเสนานิคมหรือโชคชัยก็พอมีอยู่นะแต่ไม่เท่าเส้นนี้ จะเป็นพวกร้านตึกแถวเยอะซึ่งก็อร่อยเหลายร้านเหมือนกัน หรือจะเป็นพวก Community Mall ก็มี The Jas, Plaza Lagoon และ Tesco Lotus เรียกว่าอยู่แถวนี้ไม่มีอดแน่นอนคะ

วัสดุของโครงการอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะจะเน้นใช้ของแบรนด์ โครงการขายแบบ Fully Furnished จึงมีข้อดีตรงที่ให้มาครบแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in อย่างชุดครัว ที่ให้เตาและที่ดูดควันรวมทั้งซิงค์ล้างจานของ Teka, ตู้วางของอเนกประสงค์หน้าห้องที่มีฟังก์ชั่นเป็นชั้นวางรองเท้าให้, ตู้วางทีวี, ตู้เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอย่างโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, โซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง, เตียงขนาด 5 ฟุตไม่รวมฟูกพร้อมโต๊ะหัวเตียง โดยเฟอร์นิเจอร์ให้ของ Starmark และ Modernform ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีแอร์ 2 เครื่องขนาด 12,000 BTU ที่ห้องรับแขก และขนาด 9,000 BTU ที่ห้องนอน ของ Panasonic ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ American Standard ทั้งหมด มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยหนา 6 มม. พื้นห้องใช้กระเบื้องไวนิลลายไม้หนา 4 มิล ส่วนพื้นระเบียงใช้กระเบื้องเซรามิคและห้องน้ำใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ส่วนผนังติดวอลเปเปอร์สีขาวให้ค่ะ

ส่วนการออกแบบหน้าตาอาคารออกมาเรียบๆไม่หวือหวา จะมาเน้นการใช้งานฟังก์ชั่นที่ห้องพักอาศัยมากกว่า ห้องพักของโครงการมีแบบห้อง Studio และ 1 Bedroom ขนาดห้อง 21.80-34.25 ตารางเมตร ซึ่งแบบห้องไซส์นี้เหมาะสำหรับการพักอาศัยแค่ 1-2 คน ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจึงน่าจะเป็นเหล่านักศึกษาหรือคนทำงานในย่านนี้ที่ไม่ได้ต้องการห้องพักแบบครอบครัวใหญ่ การจัดวางฟังก์ชั่นในห้องค่อนข้างดี เป็นการใช้งานพื้นที่ขนาดเล็กที่สามารถดูแลทำความสะอาดง่าย อย่างห้อง Studio ที่ห้องไม่ใหญ่มาก แต่ฟังก์ชั่นทุกอย่างก็ได้ครบเพียงแต่อาจจะได้อย่างละนิดละหน่อย ส่วนห้อง 1 Bedroom Type A ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ข้อดีของห้องนี้คือมีห้องครัวที่เชื่อมต่อกับระเบียงและมีการกั้นห้องทำครัวปิดให้ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นของอาหารจะเข้ามาในห้องพัก ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom Type B ซึ่งห้องนี้จะได้ครัวเปิด แต่ได้ชั้นวางของ ตู้เก็บรองเท้าเพิ่มและได้ห้องนั่งเล่นติดระเบียงมาแทน ซึ่งห้องแต่ละแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป จึงดีที่มีหลายห้องหลายแบบให้เลือกตามความชอบ

สาธารณูปโภคของโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการเล็ก จึงไม่ได้มี Facilities ส่วนกลางเยอะเท่าโครงการใหญ่ๆ จึงเหมาะกับคนที่เน้นการพักอาศัยในห้องเป็นหลัก ลิฟท์โดยสารให้มา 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 36 : 1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สบายๆ ไม่หนาแน่น ที่จอดรถจอดใต้อาคารทั้งหมดรวมจอดซ้อนคันคิดเป็นประมาณ 45% ถ้าเทียบกับโครงการระดับเดียวกันในทำเลนี้ ก็ถือว่าให้เปอร์เซ็นต์ที่จอดรถมาเยอะอยู่นะ ส่วน Facilities จะอยู่ที่ชั้น 8 มีห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง และพื้นที่ Outdoor Terrace ให้มานั่งเล่น ตากลม ชมวิวได้ แต่ไม่ได้มีสระว่ายน้ำให้นะ สำหรับโครงการนี้เน้นความสงบ เป็นส่วนตัวจึงจัดยูนิตมาไม่เยอะ เพียง 71 ยูนิต ก็ต้องแลกมากับค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตร ดังนั้นการตัดสินใจก็ต้องอยู่ที่การชั่งนำหนักความคุ้มค่าว่าสิ่งที่เราได้รับนั้นเพียงพอและพอใจเราหรือไม่ค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ย 78,000 บาท/ตร.ม., 10 August 2017

  • ทำเล 7.75/10 – เป็นแหล่งที่ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ ให้คะแนนเยอะกว่ารีวิวห้องตัวอย่างเพราะมีทางทะลุข้างหลัง หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก เข้าออกได้หลายเส้นทาง แต่รถในซอยจะหนาแน่นช่วงแวลาเร่งด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีพี่วินและTaxi ผ่านในซอยอยู่ตลอด มีทางลัดเดินไปออกซอยรัชดาฯ 36 ได้
  • วัสดุ 8/10 – อยู่ในเกณฑ์ดี เลือกใช้ของแบรนด์ เช่น Top ได้หินแกรนิตแท้, เฟอร์ฯ ของ Modernform
  • แบบ 7.5/10 – จัดฟังก์ชั่นมาให้ครบ มีให้เลือกทั้งแบบครัวเปิดและครัวปิด
  • สาธารณูปโภค 7/10 – เนื่องจากเป็นโครงการเล็ก จึงไม่สามารถจัด Facilities ได้เท่ากับโครงการใหญ่ๆ

  • MAIN CLASS
  • 7.69 / 10.00

BOTTOM LINE

Vino รัชดา 32 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านรัชดาลาดพร้าว ชอบโครงการเล็กๆ ที่มีความ Private ใช้รถส่วนได้ตัวสะดวกเพราะมีเส้นทางลัดให้ใช้เยอะ ชอบทำเลที่หาของกินง่ายมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลายสไตล์และมีทุกระดับราคา และไม่ได้เน้นใช้ Facilities ส่วนกลาง มีงบประมาณ 1.7 – 2.89 ล้านบาท หรือและมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000-20,000 บาท/เดือน