รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.154 – รีวิวคอนโด Fuse จันทน์-สาทร

30 สิงหาคม 2015

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 887….. วันนี้เราจะพาไปอัพเดตตึกเสร็จพร้อมเข้าอยู่กับโครงการ Fuse จันทน์-สาทร จากพฤกษา ตั้งอยู่บนถนนจันทน์ที่มีถนนหลายเส้นตัดผ่านคือ ถนนนางลิ้นจี่, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์, ถนนเจริญราษฎร์และถนนเจริญกรุง นั่นเองค่ะ บริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ มีร้านรวงมากมาย ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ดีเลยค่ะ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 28 ชั้น 1 อาคาร และ 31 ชั้น 2 อาคาร พร้อม Facility และ Lobby แยกคนละอาคาร ด้วยการออกแบบแนว Tropical Resort ในราคาเริ่มต้น 2.21 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรนั้นตามมาดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

Fact @ 29 July 2015

  • Fuse Chan – Sathon (ฟิวส์ จันทน์-สาทร)
  • บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด มหาชน
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สาทร
  • คอนโด High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร และ 31 ชั้น 2 อาคาร รวมทั้งหมด 1,225 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิตที่อาคาร B,C
  • ที่จอดรถประมาณ  554 คันคิดเป็น  44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 7-1-67 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  กุมภาพันธ์ 2556
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กันยายน 2558
  • Studio 26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.21 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 28.5 – 37 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.78 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 56 – 59.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.64 ล้านบาท
  • Duplex 70 – 70.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.53 ล้านบาท
  • Penthouse 85.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.21 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 2.21 ล้านบาทหรือประมาณ 85,100 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 92,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 84,600-96,500 บาทต่อตารางเมตร
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1739

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.705710, 100.530564

โครงการ Fuse จันทน์ – สาทร ตั้งอยู่บนถนนจันทร์ เลยจากแยกตัดกับถนนสาธุประดิษฐ์มาประมาณ 210 เมตรค่ะ

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย

ถนนจันทน์ หรือบางคนก็เรียกกันจนติดปากว่า ตรอกจันทน์ แต่เดิมไม่ได้เป็นถนนเส้นตรง มีเลี้ยวเข้าตรอกซอกซอยเล็กๆ พอตัดเป็นถนนเส้นตรงและกว้างขึ้น 4 เลนวิ่งสวนกัน ทำให้หัวถนนจันทน์เดิมถูกเพิ่มชื่อต่อท้ายเป็น ถนนจันทน์เก่า ส่วนที่ตัดเพิ่มจึงถูกเรียกจากทางราชการว่า ถนนจันทน์ตัดใหม่

ถนนจันทน์เป็นถนนสายลูกที่มาจากถนนเจริญกรุง ผู้คนที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ขยายตัวมาจากเขตคนจีนในย่านบางรักและบริเวณท่าเรือใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นชาวไทยมุสลิม ก่อนที่คนจีนจะเข้ามาทำมาหากิน แล้วตามด้วยชาวอีสานและชาวต่างจังหวัดมากมายที่เข้ามาขายแรงงาน เพราะมีมัสยิด และกู่โบ (สถานที่ฝั่งศพของมุสลิม) อยู่ประมาณ 2-3 แห่งให้เห็น คนจีนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณถนนจันทน์นั้นเป็นจีนกวางตุ้ง และจีนแต้จิ๋ว ด้วยสถานที่ที่ปรากฎให้เห็นก็คือ ป่าช้ากวางตุ้ง และสมาคมแต้จิ๋วนั้นเอง

แต่เดิมบริเวณย่านนี้ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวสูงไม่เกิน 5 ชั้นเรียงกันไปตามตรอกซอกซอยซึ่งยังคงมีให้เห็นเป็นกลิ่นอายของย่านอยู่ถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อความเจริญเข้ามาการเดินทางที่สะดวกขึ้นด้วยถนนที่ตัดขยายใหม่ มี BRT ที่ขับผ่านบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซึ่งสามารถไปเชื่อมต่อกับ BTS ที่สถานีช่องนนทรีได้ ทำให้ย่านนี้มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่มากนักค่ะ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในรัศมีของรถไฟฟ้าส่วนใหญ่คอนโดมิเนียมจะมีมากแถวถนนนราธิวาสราชครินทร์มากกว่าค่ะ

สำหรับการเดินทางมาโครงการสามารถเข้ามาได้จากหลายเส้นทางทั้ง ถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนนางลิ้นจี่ ที่ตัดผ่านกับถนนจันทน์นั่นเอง เราจะมาพูดถึงการเดินทางแบบขนส่งสาธาณะกันก่อนนะคะ สำหรับย่านนี้มีรถสองแถวคอยให้บริการ พี่วินมอเตอร์ไซต์ และรถเมล์ประจำทางที่ผ่านหน้าโครงการจะเป็นสาย 35 ค่ะ

มาว่ากันต่อกับการเดินทางด้วยรถยนต์บนทางด่วนเพื่อเข้าโครงการกันค่ะ ทางด่วนที่ขึ้น-ลงใกล้กับโครงการจะมีอยู่ 2 ทางก็คือทางพิเศษเฉลิมมหานครกับทางพิเศษศรีรัช โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วน 1 จะอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจะเข้าถึงโครงการได้ต้องเข้าถนนสาธุประดิษฐ์เพื่อเข้าถนนจันทน์ หากลงตรงจุดลงทางด่วน 2 จากทางพิเศษศรีรัช จะเข้าถึงโครงการได้โดยเข้าจากถนนเจริญราษฎร์แล้วเลี้ยวเข้าถนนจันทน์ และอีกทางสำหรับใครมาจากทางพระราม 9 หรือแจ้งวัฒนะ ก็สามารถลงตรงจุดลงทางด่วน 3 เข้าถนนเจริญราษฎร์แล้วเลี้ยวเข้าถนนจันทน์ได้เลยค่ะ

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย

ความอุดมสมบูรณ์บนถนนจันทน์มีครบทุกอย่างเลย เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน ทั้งตลาด วัด โบสถ์ มัสยิด โดยเฉพาะอาหารรสเด็ด ก็มีให้เลือกหลายเจ้าตั้งแต่เช้ายันเย็น ใครเจ็บป่วยก็มีโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ที่อยู่บนถนนสาทร สำหรับห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งช็อปปิ้งก็มีตั้งแต่ เอเชียทีค บนถนนเจริญกรุง , โรบินสันบางรัก บนถนนเจริญกรุงเช่นกัน เซ็นทรัลพระราม 3 บนถนนพระราม 3 และ The Up พระราม 3 ที่อยู่ถัดมา สำหรับโรงเรียนในย่านนี้ดังๆ ก็มีหลายที่ทีเดียวทั้ง อัสสัมชันบางรัก, สารสาสน์เอกตรา, สารสาสน์พิทยา, กรุงเทพคริสเตียนและเซนโยเซฟคอนเวนต์ อีกด้วยค่ะ

การเดินทางของเราในวันนี้จะเริ่มต้นจากถนนศรีนครินทร์เลี้ยวขวาเข้าถนนพัฒนาการเพื่อขึ้นทางพิเศษรามอินทรา-อาจณรงค์ตรงแยกใต้ด่วนพัฒนาการ และขึ้นต่อทางพิเศษเฉลิมมหานครขับตรงมาเรื่อยๆแล้วให้ลงจากทางด่วนที่ทางออกที่ 22 ซึ่งจะเจอกับแยกด่วนสาธุ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนสาธุประดิษฐ์ ขับตรงมาจนถึงแยกตัดกับถนนจันทน์แล้วเลี้ยวขวาตรงมาประมาณ 210 เมตร จะเห็นโครงการ Fuse จันทน์ – สาทร อยู่ทางด้านซ้ายค่ะ

เริ่มต้นจากจากถนนศรีนครินทร์ ขับตรงมาจะเจอกับแยกพัฒนาการเราจะเลี้ยวขวากันเพื่อเข้าถนนพัฒนาการกันนะคะ

เข้าสู่ถนนพัฒนาการ ถนนขนาด 6 เลนมีเกาะกลางคั่นกลางค่ะ สภาพการจราจรในเวลาประมาณ 8 โมงครึ่งก็ค่อนข้างคล่องตัวนะคะ

เมื่อถึงแยกใต้ด่วนพัฒนาการให้เลี้ยวซ้ายขึ้นทางพิเศษรามอินทรา – อาจณรงค์

ขับตรงมาเรื่อยๆตามป้ายเลยค่ะ

เมื่อตรงมาเรื่อยๆ จะถึงทางแยกให้ขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร

ทางขึ้นพิเศษเฉลิมมหานครนี้จะแบ่งไป 2 ทาง คือทางบางนา กับดินแดงค่ะ ซึ่งเราจะไปทางดินแดงกันนะคะ

ขับตรงมาเรื่อยๆ บนทางพิเศษ

เจอป้ายดาวคะนองให้เบี่ยงซ้ายตามป้ายเลยค่ะ

ตรงมาซักพักเราจะเห็นป้ายบอกทางออกที่ 22 ลงไปเจอถนนสาธุประดิษฐ์

เบี่ยงเข้าเลนซ้ายเมื่อเห็นเซ็นทรัลพระราม 3 เตรียมลงตรงทางออกที่ 22 ค่ะ

ขับลงมาแล้วตรงมาเรื่อยๆค่ะ

เมื่อเจอแยกด่วนสาธุให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสาธุประดิษฐ์ตรงไปยังถนนจันทน์ค่ะ

บนถนนสาธุประดิษฐ์เป็นถนนขนาด 4 เลน วิ่งสวนกัน บรรยายกาศรอบข้างจะเป็นอาคารตึกแถวพาณิชย์เก่าแก่ และมีร้านอาหารเรื่อยๆตามทางค่ะ

เมื่อถึงทางสามแยกให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนจันทน์

ขับตรงมาอีกประมาณ 210 เมตร

ถึงหน้าทางเข้าโครงการ Fuse จันทน์ – สาทรแล้วค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทข้างเคียงโครงการทางทิศเหนือจะติดกับบ้านและโกดังไม่เกิน 2 ชั้น ถัดมาด้านทิศตะวันออกจะมีไปรษณีย์ยานนาวา ตรอกซอยที่มีตึกแถวไม่เกิน 3 ชั้นไปตลอดซอย ในทิศใต้จะติดกับถนนจันทน์และตรงข้ามถนนจะเป็นโกดังหรือที่จอดรถสำหรับเช่ารายเดือนมีอาคารตึกแถวพาณิชย์ข้างเคียง ถัดมาในทิศตะวันตกจะติดกับบ้านสูงไม่เกิน 2 ชั้น และในซอยจันทน์ 18/2 จะเป็นอพาร์ทเมนต์เช่ารายเดือนสูงไม่เกิน 6 ชั้น ซึ่งบริบทโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นแนวราบหรืออพาร์ทเมนต์ที่มีความสูงไม่มากนัก ทำให้ไม่บดบังทัศนียภาพค่ะ

ขึ้นมาดูทัศนียภาพจากชั้นบนสุดของอาคารกันค่ะ ว่าจะเห็นวิวเป็นอย่างไรนะ

ทิศตะวันออกหรือทิศ A มุมมองนี้จะเปิดโล่งไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพ

ทิศ B หันหน้าไปทิศเหนือหรือถนนสาทรนั่นเอง จะเห็นอาคารสูงอย่างหนาแน่นเลย ตอนกลางคืนเห็นมุมนี้จากห้องก็คงสวยน่าดูเชียวค่ะ

ทิศ C หรือทิศตะวันตก มองเห็นวัดไผ่เงินทางด้านซ้ายและเห็นทางด่วนศรีรัช มุมมองนี้จะเห็นอาคารพาณิชย์, หอพัก, คอนโด Low rise แต่จะไม่ค่อยมีอาคารสูงเท่าไหร่นักค่ะ

และสุดท้ายจากมุมมองทิศ D หรือทิศใต้ จะมองไปออกไปได้ไกลถึงสะพานพระราม 9, อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Top สาขาเซ็นหลุยส์ ~400  เมตร
  • โรงเรียนพระแม่มารีย์ ~600  เมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ~1.2 กิโลเมตร
  • วัดไผ่เงิน ~1.3 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลพระราม 3 ~2 กิโลเมตร
  • The Up พระราม 3 ~2.5 กิโลเมตร
  • Asiatique the riverfront ~6.9 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Fuse จันทน์ – สาทร เป็นหมู่คอนโด High Rise 3 อาคาร โดยอาคาร A มีความสูง 28 ชั้น และอาคาร B,C สูง 31 ชั้น ด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,225 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิตค่ะ ภายใต้แนวความคิด Tropical Resort อาคารจะใช้โทนสีเทาเน้นความเรียบง่าย มีการเล่นเส้นสายให้อาคารมีลูกเล่นขึ้น ผนวกกับการจัด Landscape ให้ร่มรื่นและน่าอยู่อาศัยมากขึ้นด้วยต้นไม้สีเขียว

จากภาพด้านบนเห็นถนนจันทน์ซึ่งเป็นถนนหน้าโครงการมีความกว้าง 4 เลนสำหรับรถวิ่งสวนกัน

บริเวณทางเท้าหน้าโครงการร่มรื่นและค่อนข้างกว้างเดินสวนกันได้สะดวก

ดาขออธิบายแปลนโครงการก่อนที่เราจะเริ่มเดินเข้าโครงการกันนะคะ จากด้านหน้าโครงการเราจะเจอกับส่วน Club House ซึ่งประกอบไปด้วย Fitness, ห้องโยคะ, พื้นที่นั่งเล่นทั้ง Indoor และ Outdoor และสระว่ายน้ำด้านหลัง อาคาร A ซึ่งอยู่ด้านหน้าจะมีชั้นดาดฟ้าไว้สำหรับนั่งเล่นรับลม ในส่วนอาคาร B และ C จะมีสระว่ายน้ำในอาคารหันหน้าเข้าหากัน โดยสระว่ายน้ำทั้งสองอาคารนี้จะอยู่บนชั้น 5 ค่ะ การวางอาคารโดยเว้นที่ว่างแต่ละอาคารไว้ทำให้เกิดช่องลมขึ้น ดังนั้นทางเดินระหว่างอาคารจะมีลมโกรกเย็นสบายค่ะ

หน้าทางเข้าโครงการด้านซ้ายจะเป็น Club House ด้านขวาเป็นอาคาร A และตรงไปเรื่อยๆตรงกลางเป็นอาคาร C ค่ะ

ทางเดินเท้าเข้าโครงการที่ติดกับ Club House มีการปลูกไม้พุ่มเพิ่มพื้นที่สีเขียว

มาที่ฝั่งของถนนกันจะเจอกับไม้กระดกก่อนที่จะเข้าโครงการและป้อมพี่ยามทางซ้าย

ระบบความปลอดภัยจะเป็นแบบแสกนบัตรเข้าโครงการและ CCTV ระยะใกล้ค่ะ

ถนนในโครงการเป็นแบบเดินรถสวนกัน มีเสาไฟส่องสว่างตามแนวถนนพร้อมกับทางเดินเท้าที่อยู่ขนาบข้างถนนค่ะ

หันมาทางซ้ายจะเห็น Club House 2 ชั้น

ทางเข้า Club House ด้านข้างมีบ่อน้ำพุ

เมื่อขึ้นมาแล้วหันไปมองด้านซ้ายเห็นทางลาดเอียงด้วย ซึ่งมีความลาดเอียงค่อนข้างน้อยนะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการสามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาใช้งานส่วน Club House ได้เลย

Club House ในส่วนนี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของลูกบ้าน ใครนัดกับเพื่อนหรือแขกไว้ก็มานั่งคุยตรงนี้ได้ค่ะ และบริเวณ Club House มี Wifi ให้ด้วยนะ

หันกลับมามองอีกด้าน ชั้นบนเป็นส่วนห้อง Fitness

ขึ้นบันไดไปชั้น 2 กัน

ขึ้นมาแล้วเราจะเจอกับห้องโยคะขนาด 4.50 x 4.50 เมตร มีกระจกเงาติดอยู่ข้างหนึ่ง และอีกด้านจะเป็นกระจกใสชมวิวด้านนอก ที่นี่มีครูสอนโยคะให้บริการด้วยนะ

พื้นที่โถงนั่งรอ ก่อนที่เราจะไปห้อง Fitness กัน

เข้ามาที่ห้อง Fitness ขนาด 6 x 6 เมตร มีกระจกเงาด้านหนึ่ง พร้อมเครื่องเล่นทั้งหมด 17 เครื่องเล่น โดยมีลู่วิ่ง 6 ลู่ด้วยกัน มีโซนเวทให้ด้วยค่ะ

ตรงลู่วิ่งมองทะลุผ่านกระจกเห็นสระว่ายน้ำด้านล่างด้วยนะ

ออกมาส่วน Outdoor ที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ

บรรยายกาศค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ เป็นส่วน Outdoor ที่ลมเย็นสบายชิลๆ

ที่นั่งจะเป็นโซฟาแบ่งเป็นกลุ่มๆแบบนี้

เดินต่อมาจะเจอในส่วนห้องน้ำสำหรับคนว่ายน้ำมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ

มีที่แขวน และส่วนตกแต่งเล็กน้อย

มีล็อกเกอร์ไว้เก็บของ

ภายในห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ

ถัดมาเป็นห้องน้ำหน้าตาแบบนี้

ส่วนห้องน้ำก็เชื่อมกับ Club House Indoor ด้วยนะ

มาดูบรรยายกาศสระว่ายน้ำกัน ขนาดสระว่ายน้ำมีขนาด 25 x 4 เมตร ลึก 1.2 เมตร และสระเด็กขนาด 6.5 x 2.5 ลึก 0.4 เมตร ระบบเกลือ

Day Bed 6 ตัวกลางแจ้ง นอนอาบแดดพร้อมๆกับดูแลลูกๆได้ด้วยนะ เพราะสระเด็กอยู่ใกล้กันเลย

ส่วน Shower สระว่ายน้ำเป็นแบบนี้

มีทั้งบันไดและทางลาดให้เดินลงมาตรงบริเวณสวน

ติดกับสระว่ายน้ำมีพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ

ออกมาจาก Club House แล้วเดินมาดูอาคาร A กันค่ะ เดินตรงเข้าอาคารจะเจอกับ Lobby  และโถงขนาดใหญ่ ซึ่งด้านซ้ายจะเป็นส่วนห้องนิติบุคคล ห้องปั๊มและห้องควบคุม เดินตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับโถงลิฟท์ที่อยู่ตรงกลางมีบันไดหนีไฟอีกฝั่งที่ด้านขวา ด้วยจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นคือ 14 ยูนิต และอัตราส่วนลิฟท์อาคาร A 107:1

หน้าทางเข้า Lobby อาคาร A ค่ะ

เข้าอาคารโดยใช้วิธีสแกนบัตร และหากจะออกให้ใช้ปุ่มกดโดยไม่ต้องสแกนได้เลยค่ะ

ส่วน Lobby โครงการเป็น Double Space ข้างหน้าดูโอ่โถง

มีพื้นที่พักคอยเป็นชุดโซฟาทั้งสองข้าง

ด้านซ้ายเป็นโถงลิฟท์ขึ้นชั้นบน ถัดมาจะเป็นส่วน Loading ของ และด้านขวาเดินตรงไปจะเป็นห้องน้ำ, ตู้จดหมาย, เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และตู้กดน้ำ เดินไปดูกัน

พื้นที่ตู้จดหมายเป็นแบบนี้ค่ะ

ห้องเครื่องซักผ้า

มีประมาณ 4-5 เครื่องไว้บริการ

มีตู้กดน้ำด้านล่างให้ด้วยนะ

ห้องน้ำชาย-หญิง ห้องน้ำที่จะพาเข้าไปดูจะเป็นห้องน้ำหญิงนะคะ อย่าให้ดาเดินไปถ่ายห้องน้ำชายเลย อิอิ ห้องน้ำหญิงมีห้องน้ำอยู่ 2 ห้องกับ 1 เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ

ภายในห้องน้ำเป็นแบบนี้นะ

เข้ามากันที่โถงลิฟท์ ประตูเปิดจะเป็นประตูกันไฟนะ ลิฟท์ในอาคารมี 3 ตัวนะคะ

ขึ้นมาชั้นบนโถงลิฟท์ติดกระจกค่อนข้างโปร่ง

โถงทางเดินสุดปลายทางเดินจะเป็นหน้าต่างกระจก ช่วยให้อากาศถ่ายเทและแสงธรรมชาติเข้าได้ดีค่ะ

ขึ้นมาบนดาดฟ้า มีพื้นที่นั่งเล่นปูหญ้าเทียมชมวิวรับลม

ลานบนดาดฟ้าค่อนข้างกว้าง ดาจะพาเดินมาอีกฝั่ง

อีกฝั่งจะไม่มีชุดที่นั่งให้นั่งเล่นนะ มีแค่ที่นั่งด้านข้างค่ะ ตอนเย็นวันหยุดชวนเพื่อนๆหรือครอบครัวมาปูเสื่อปิกนิกบนดาดฟ้าก็ดีเหมือนกันนะ

กลับลงมาด้านล่างกัน ดาจะพาเดินไปดูบรรยากาศของตึก B และ C กันค่ะ มุมนี้เป็นมุมระหว่างตึก B และ C นะ ดูลมจากใบของต้มปาล์มสิคะ ลมแรงเหมือนกันนะ

เดินมาดูกันใกล้ๆ ส่วนนี้ก็มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนด้วยค่ะ

สำหรับอาคาร B และ C มีผังเหมือนกันเลยค่ะ แค่กลับด้านกันเท่านั้น โดยชั้น 1-4 จะเป็นที่จอดรถยนต์ ถัดมาในชั้น 5 จะเป็นชั้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลางคือ สวนและสระว่ายน้ำ ลักษณะอาคารเป็นรูปตัว L โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง มีลิฟท์ 3 ตัว ทางหนีไฟ 2 ทาง อัตราส่วนลิฟท์ของทั้ง 2 อาคารมีอัตราส่วนที่เท่ากันคือ 150:1 ด้วยจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นคือ 17 ยูนิต ทำให้อาคาร B และ C มีความหนาแน่นมากกว่าอาคาร A ค่ะ

เดินเข้ามาดู Lobby ของอาคาร C  จะมีขนาดใหญ่และจำนวนชุดโซฟามากกว่าอาคาร A เนื่องจากมีความหนาแน่นมากว่า ซึ่ง Lobby ของอาคาร B และ C ก็เหมือนกันนะคะ

การตกแต่งแบบเรียบง่ายด้วยโทนสีเบจทำให้ส่วน Lobby ดูสว่างไสว

ชุดโซฟาน่ารักๆติดหน้าต่างเห็นวิวด้านนอก

ชุดโซฟาใหญ่แบ่ง 4 ชุด

เดินตรงเข้ามาด้านใน

จะเจอกับตู้รับจดหมาย

ห้องน้ำตรง Lobby แบ่งชาย-หญิง

ในห้องน้ำหญิงมีห้องส้วม 2 ห้องและเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเท่ากันกับอาคาร A

ภายในห้องส้วมเป็นแบบนี้ค่ะ

มาที่โถงลิฟท์มีจำนวนลิฟท์ 3 ตัวตามที่เคยบอกกันไปข้างบนแล้ว

ชั้นมาที่ชั้น 5 เจอกับกับพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำเห็นวิวตึกสูงไกลๆ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือเหมือนบริเวณ Club House ขนาด 20 x 4 เมตร ลึก 1.2 เมตร มี Day Bed ให้นอนอาบแดดกันจนผิวแทนเซ็กซี่กันไปเลย

หันกลับมาที่มองนี้จะเห็นศาลาอยู่ไกลๆติดกับต้นไม้

ทางเดินระหว่างไปศาลาจะปลูกหญ้าสลับกับพื้นคอนกรีต

มองมาที่มุมนี้ก็สวยนะ

มองไปทางอาคาร B จะเห็นกับสระว่ายน้ำและสวนที่เหมือนกันกับอาคาร C เลย

เงยหน้าขึ้นไปจะเห็นอาคารสูงแบบนี้เลยค่ะ สำหรับคนไหนซื้อห้องชั้นล่างๆหน่อยก็จะได้เห็นวิวสระว่ายน้ำค่ะ แต่ถ้าชั้นบนๆ ก็ชม City วิวกันไปนะคะ สวยกันคนละแบบ

Shower อาบน้ำอยู่ด้านขวา

เดินลงมาชั้นล่าง เห็นประตูห้องน้ำ 2 ทางแยกชาย-หญิง

จะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำอย่างละ 1 ห้องพร้อม Locker ไว้บริการสำหรับลูกบ้านที่มาเล่นน้ำค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby 4 ที่ ส่วนกลาง,อาคาร A,อาคาร B,อาคาร C
  • สระว่ายน้ำ 3 สระ ระบบเกลือ ที่ Club House ขนาด 25 x 4 เมตร และที่อาคาร B,C ขนาด 20 x 4 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.4 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร 
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 6 x 6 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 17 เครื่อง
  • ห้องโยคะ 1 ห้อง ขนาด 4.50 x 4.50 เมตร
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 136 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 107:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 150:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 150:1
  • ที่จอดรถ 544 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน 44%  คัน
  • ระบบ CCTV / Proximity Card


Product Walkthrough

มาเริ่มกันที่ห้อง 2 Bedroom ขนาด 56.0 ตารางเมตร การจัดวางพื้นที่ใช้สอยของห้องเป็นสัดส่วนชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านขวาจะกั้นเป็นที่วางเครื่องซักผ้าหรือใครจะจัดให้เป็นห้องเก็บของเครื่องมือทำความสะอาดก็ได้ค่ะ ถัดมาเป็นบริเวณพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องครัว ซึ่งข้อดีของห้องครัวคือมีบานเลื่อนกระจกกั้น สามารถทำเป็นครัวปิดช่วยให้ตอนทำอาหารกลิ่นและความมันไม่ฟุ้งกระจายไปห้องอื่น มีระเบียงและพื้นที่ซักล้างด้านนอก เดินถัดมาเป็นส่วนห้องนอนเล็กและห้องน้ำกลาง โดยห้องน้ำกลางก็มีกั้นพื้นที่ส่วน Shower ด้วย ในส่วนห้องนอนใหญ่ มีBuit-in ตู้เสื้อผ้าไว้ให้ใกล้กับส่วนห้องน้ำ

โครงการให้ห้องแบบ Fully Fitted นะคะ ดังนั้นจะมีสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ, เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง(ห้องนอนเล็ก) และแอร์ติดตั้งให้ค่ะ

ประตูใช้วัสดุ HDF ลามิเนต มีตาแมวมาตราฐาน และมือจับประตูแบบก้านโยกทั้งด้านหน้าและด้านใน

บนเพดานหน้าประตูห้องจริงจะมีเครื่องแสดงควานร้อนภายในห้องเพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ภายในห้อง

ก่อนเข้าห้องมีธรณีหินและการเก็บขอบด้วยตัวจบลามิเนต พื้นในห้องเป็นลามิเนต 8 มม.

มีไฟส่องสว่างติดผนังให้ข้างหนึ่ง

ส่วนด้านเป็นที่วางเครื่องซักผ้า หรือเก็บของก็ได้ค่ะ

บริเวณพื้นยกระดับธรณีประตูขึ้นมาแล้วปูด้วยแผ่นกระเบื้องด้านในต่อท่อน้ำดีและท่อระบายน้ำไว้เรียบร้อย มีสวิชต์ไฟพร้อมดวงโคมแบบ Down Light ให้แสงสว่างและเต้าเสียบสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ชั้นวางติดผนังจะไม่มีให้ในห้องจริงนะคะ

แอร์เป็นแบบฝังฝ้า เข้ามาหน่อยจะมี Consumer Unit อยู่ด้านบน

สำหรับห้อง 2 Bedroom มี VDO Door Phone ติดตั้งให้ทุกห้อง เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย

สวิชต์ไฟและเต้าเสียบในห้องเป็นลักษณะแบบนี้ค่ะ

ถัดมาที่พื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร เทียบจากห้องตัวอย่างและห้องจริงไม่มีการทำฝ้าซ่อนม่านด้านบนและไม่มีม่านให้ด้วยนะคะ

พื้นที่รับประทานอาหาร ห้องตัวอย่างเทียบกับห้องจริง

ห้องครัวเป็นแบบกึ่งปิดกึ่งเปิดสามารถเลื่อนกระจกมาปิดได้เวลาทำอาหารที่มีกลิ่นหรือทำอาหารหนักๆ

ประตูครัวเป็นประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ ติดฟิล์มเฉพาะห้องตัวอย่างนะคะ ห้องจริงเป็นกระจกใส

พื้นครวใช้เป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกแผ่นใหญ่ เหมาะกับงานครัวทำความสะอาดง่าย

มือจับประตูบานเลื่อนตามภาพค่ะ

ด้านบนเพดานครัวมีที่ตรวจจับควันไฟและหัวระจายน้ำดับเพลิง

เคาน์เตอร์ครัวของ Modernform

มีท๊อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ปูกระเบื้องด้านหลังไว้กันเปื้อนง่ายต่อการทำความสะอาดไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

อ่างล้างจานเกรดดีใช้นำเข้าจากต่างประเทศ ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเข้ามุมแบบนี้ทำยากกว่าพวกสแตนเลสค่ะแบรนด์ FRANKE

เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิก 2 หัว และเครื่องดูดควันของ FRANKE เช่นกัน ซึ่งระบบระบายอากาศของ Hood จะเป็นการเดินท่อต่อออกไปที่ภายนอก

มาที่ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียม

มือจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบนี้ค่ะ

ธรณีประตูยกสูงขึ้นมานิดหน่อย

ระเบียงวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งการวางคอมเพรสเซอร์แอร์หันไปด้านนอกทำให้สามารถใช้ระเบียงเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้โดยไม่โดนลมแอร์ร้อนๆเป่าใส่ มีติดเต้าเสียบแบบกันน้ำและติดตั้งท่อน้ำดีไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้าเรียบร้อยค่ะ

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นโถงทางเดินแบบนี้ค่ะ

ประตูห้องน้ำเป็นบานประตู UPVC

ธรณีประตูห้องน้ำปูกระเบื้องเป็นหินแท้ยกระดับขึ้นมานิดหน่อย

ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างมือแบบลอยตัวมีตู้ด้านล่าง กระจกเงาพร้อมชั้นวางของขนาดเล็ก เคาน์เตอร์หินแท้ สุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระ และถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบ Shower

บริเวณอ่างล้างมือค่ะ

อ่างล่างมือเป็นแบรนด์ของโครงการและสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ใช้แบรนด์ ENGLEFIELD แบรนด์ย่อยของ KOHLER

โถสุขภัณฑ์และสายฉีดชำระยี่ห้อ KOHLER มีเคาน์เตอร์เล็กข้างหลังๆสำหรับวางครีม วางหนังสือได้ด้วย

ฉากกั้นอาบน้ำแบบมีกรอบกระจกนิรภัยบานเฟี้ยม

ยกธรณีขึ้นมานิดหน่อยกันน้ำไหลออก

ที่จับฉากกั้นกระจก

ฝักบัวยี่ห้อ ENGLEFIELD พร้อมที่วางสบู่ให้ด้วย

เข้ามาต่อกันที่ห้องนอนเล็ก พื้นหน้าห้องจบด้วยลามิเนต

ห้องนอนเล็กขนาดเล็กสมชื่อ วางเตียงสุดติดผนังไม่มีปลายเตียง พื้นที่น้อยมากแนะนำให้เปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือห้องเด็กเล็กก็พอได้ค่ะ

ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้า Built in บานสไลด์ให้เป็นวัสดุมาตราฐาน

มือจับอลูมิเนียมตามภาพค่ะ

มีให้โต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆพร้อมกระจกเงาด้วยเป็นวัสดุมาตราฐานค่ะ

ที่ตั้งแอร์ห้องนอนเล็กจะอยู่ตรงประตู

ดวงโคมเป็น Down Light

มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom)

ห้องนอนใหญ่เป็นห้องมุมสามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายมีหน้าต่างบานเปิดกระจก 2 ด้าน

ระยะข้างเตียงกว้างและเดินได้สะดวกอยู่ที่ระยะ 70 เซนติเมตร

หน้าต่างบานเลื่อนได้ด้านเดียวใกล้กับเตียงนอน

ที่ตั้งแอร์วางอยู่ด้านข้างของเตียงนอนเป็นที่วางที่เหมาะสมค่ะ

ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้า Built in เหมือนกับห้องนอนเล็กเลยค่ะ

ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงปูกระเบื้องด้วยหินแท้

ภายในห้องน้ำประกอบไปด้วยอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ห้องน้ำใหญ่นี้มีด้านที่ติดกับภายนอกอาคารจึงมีหน้าต่างบานเลื่อนตรง Shower เพื่อรับแสงและมีพัดลมดูดอากาศระบายอากาศให้ด้วยค่ะ

อ่างล้างมือเหมือนกับห้องน้ำเล็ก

สุขภัณฑ์ Kohler เช่นเดียวกันค่ะ

ฉากกันกระจกนิรภัยมีกรอบแบบบานเลื่อน

มือจับสแตนเลสแบบนี้ค่ะ

ฝักบัวเหมือนกับห้องน้ำเล็กค่ะ

หน้าต่างบานเลื่อนกระจกฝ้าติดกับบริเวณอาบน้ำ

 

มากันที่แบบ 1 ห้องนอนกันบ้าง ข้อดีในการกั้นห้องครัวด้วยประตูบานเลื่อนทั้งสองข้าง ที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับครัว และกั้นระหว่างครัวกับระเบียงทำให้เป็นได้ทั้งครัวเปิดและครัวปิด สามารถปิดกันกลิ่นอาหารเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้หากจะทำอาหารรับประทาน ถัดมาจะเป็นส่วนห้องนอน สังเกตได้ว่าที่วาง TV ในห้องนอนไม่ตรงกับเตียงลำบากในการดู TV มากขึ้น ถัดจากห้องนอนจะเป็นส่วนห้องน้ำแยกโซนเปียกและโซนแห้งเรียบร้อยเป็นสัดส่วน

ทางเข้าห้องมีตัวจบไม้ลามิเนต พื้นห้องเป็นลามิเนต 8 มม.

เข้ามาที่ห้องนั่งเล่น เปรียบเทียบห้องตัวอย่างและห้องจริง ในที่นี่ห้องจริงไม่มีทำเคาน์เตอร์ติดผนังให้

หันกลับมาด้านที่ติดกับประตูในห้องตัวอย่างได้ Built in ชั้นวาง TV แต่ในห้องจริงๆไม่มีให้นะคะ และสำหรับห้อง 1 Bedroom จะให้ Audio Door Phone แทนนะคะ

บนเพดานมีเครื่องตรวจจับควันและหัวดับเพลิง

ถัดมาแบ่งเป็น 2 ห้อง โดยห้องนอนจะอยู่ด้านซ้าย และห้องครัวด้านขวา

ประตูบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียม เชื่อมห้องครัวและห้องนั่งเล่น

พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาดใหญ่ เหมาะกับงานครัวทำความสะอาดง่าย

ลักษณะครัวเป็นได้ทั้งครัวเปิดและครัวปิด หากทำอาหารหนักๆก็ปิดบานเลื่อนตรงห้องนั่งเล่นแล้วเปิดบานเลื่อนตรงระเบียงแทนกันกลิ่นอาหารเข้าห้องได้

เคาน์เตอร์ครัวเหมือนกับห้อง 2 Bedroom ค่ะ

ตู้ด้านบนของ Modernform บานเปิดทั้งหมดเป็น Softclose

ตู้ชั้นล่างเหมือนกับเคาน์เตอร์ห้อง 2 Bedroom ค่ะและมีที่วางไมโครเวฟให้ พร้อมเตาไฟฟ้าเซรามิก 2 หัวเตา

ยกธรณีประตูขึ้นมากั้นระหว่างครัวและระเบียงแต่ระดับพื้นเท่ากันนะ

มือจับบานเปิดตามมาตรฐานค่ะ

มีไฟติดผนังตรงระเบียงให้ด้วยนะ

ระเบียงเป็นที่วางของที่ซักผ้า

โดยโครงการทำท่อน้ำดีติดไว้ให้พร้อมท่อระบายน้ำและเต้าเสียบกันน้ำ

เข้ามาต่อกันที่ห้องนอนตัวจบลามิเนตเช่นเดิม

ภายในห้องนอนติดหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่แผ่นหนึ่ง

จะเห็นได้ว่าในห้องจริงโครงการไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งให้นะคะ

พื้นที่ข้างเตียงมีความกว้าง 70 เซนติเมตร

ตู้เสื้อผ้าเหมือนแบบ 2 ห้องนอนเลยค่ะ

ธรณีประตูห้องน้ำสูงขึ้นมาปูด้วยหินแท้

ภายในห้องน้ำประกอบด้วย อ่างล้างมือ ,โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำเหมือนกับห้องน้ำแบบ 2 Bedroomเลยค่ะ และสำหรับห้องน้ำในห้องนอนไม่ได้มีผนังที่ติดกับด้านนอกดังนั้นการระบายอากาศจึงต้องพึ่งพาเครื่องดูดอากาศค่ะ

ฉากกั้นกระจกนิรภัยบานเปิด

ยกธรณีสูงขึ้นมานิดหน่อยกันน้ำไหลออก

มือจับสแตนเลสแบบนี้ค่ะ

ฝักบัวยี่ห้อ ENGLEFIELD พร้อมที่วางสบู่เหมือนกับห้อง 2 Bedroom

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 July 2015 

  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 7 ห้อง A07003 เนื้อที่ 33.32 ตร.ม. ราคา 2.905 ล้านบาท หรือ 87,203 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 12 ห้อง B12010 เนื้อที่ 32.65 ตร.ม. ราคา 2.952 ล้านบาท หรือ 90,420 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 27 ห้อง A27009 เนื้อที่ 33.03 ตร.ม. ราคา 3.155 ล้านบาท หรือ 95,526 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom อาคาร C ชั้น 5 ห้อง C05001 เนื้อที่ 60.14 ตร.ม. ราคา 5.258 ล้านบาท หรือ 87,443 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom อาคาร C ชั้น 5 ห้อง C05001 เนื้อที่ 60.14 ตร.ม. ราคา 5.258 ล้านบาท หรือ 87,443 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 18 ห้อง B18012 เนื้อที่ 57.20 ตร.ม. ราคา 5.277 ล้านบาท หรือ 92,264 บาท/ตร.ม.
  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.55 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 1,999 บาท ทุก Type ทุก Unit
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

Fuse จันทน์ – สาทร ที่ตั้งบนถนนจันทน์ซึ่งย่านแหล่งชุมชนคนจีนเก่าแก่ เรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้นจึงไม่ต้องพูดถึง เพราะมีร้านรวง ตลาดให้เลือกซื้ออาหารอร่อยๆค่อนข้างเยอะและหลากหลายทีเดียวค่ะ ยังไม่รวมถึงแหล่งช็อปปิ้งห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ ก็มีตั้งแต่ เอเชียทีค บนถนนเจริญกรุง , โรบินสันบางรัก บนถนนเจริญกรุงเช่นกัน เซ็นทรัลพระราม 3 บนถนนพระราม 3 และ The Up พระราม 3 ที่อยู่ถัดมา

เนื่องจากถนนจันทน์เป็นถนนเส้นตรงตัดกับถนนหลายเส้นอยู่ด้วยกันทั้ง ถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนนางลิ้นจี่ ทำให้เดินทางไปได้ในหลายเส้นทาง การเดินทางโดยรถยนต์ฝั่งถนนจันทน์มุ่งหน้าไปยังนราธิวาสราชนครินทร์การจราจรจะดีกว่าช่วงต้นถนน เมื่อเลยแยกสาธุประดิษฐ์แล้วการจราจรจะคล่องตัวมากขึ้น อย่างที่บอกไปว่าถนนจันทน์ตัดกับถนนหลายเส้นการเดินทางเมื่อรถไม่ติดไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานแถบออฟฟิศสาทรและสีลม สำหรับทางด่วนนั้นมีทางขึ้น-ลง 3 จุดด้วยกัน คือทางขึ้น-ลง ถนนรัชดาภิเษก,  ทางขึ้น-ลงที่ถนนเจริญราษฎร์ และตรงแยกสาทร-สุรศักดิ์ก็ได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยพึ่งพารถสาธารณะ ที่เห็นวิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอดก็คงจะเป็นสองแถวสีแดง หรือไม่ก็พี่วินและรถเมลสาย 35 ค่ะ ส่วนการเดินทางด้วย BRT จะวิ่งบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์โดยสถานีใกล้โครงการที่สุดคือถนนจันทน์ ราคาตลอดสายลดลงมาเหลือ 5 บาท ไปถึงรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีได้เลยค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากที่ตั้งโครงการไม่ได้อยู่ในรัศมีของรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกกว่าการเดินทางโดยไม่ใช่รถ ซึ่งโครงการให้ที่จอดรถมา 44 % ของทั้งโครงการหรือประมาณ 50% หากจอดซ้อนคัน ก็ถือว่าให้มาน้อยไปนิดถ้าเทียบกับทำเลที่ต้องเน้นการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก

วัสดุที่ให้มาอยู่ในระดับมาตรฐานกับราคาประมาณ 92,000 บาทต่อตารางเมตรแต่ให้มาน้อยไปนิด ด้วยชุดเคาน์เตอร์ครัวและเครื่องครัวของ Modernform ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ เตาเซรามิกและเครื่องดูดควัน ของแบรนด์ FRANKE ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ ENGLEFIELD แบรนด์รองของ KOHLER ซึ่งทำออกมาได้สวยงามดีค่ะ

การออกแบบโครงการทำออกมาได้สวย การจัดวางผังอาคาร 3 อาคารไม่แน่นและอึดอัด น่าอยู่อาศัย ถ้าเทียบกับความหนาแน่นของจำนวนห้องพักทั้งหมด 1,225 ห้อง อัตราส่วนของลิฟท์อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างหนาแน่นในอาคาร B และ C ซึ่งอยู่ที่ 150:1 จำนวนยูนิตต่อชั้นที่ดูเยอะไปหน่อยสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว อยู่ที่ 14-17 ยูนิตต่อชั้น

สุดท้ายคือจุดเด่นของโครงการกับสาธารณูปโภคที่จัดออกมาได้สวยงามกับ Club House หน้าโครงการที่มีพื้นที่นั่งเล่น Indoor และ Outdoor, Fitness, ห้องโยคะ ,สระว่ายน้ำ มีฟรี wifi ให้ด้วยนะ ต่อมาในแต่ละอาคารมี Lobby แยกทั้ง 3 อาคาร ในอาคาร B และ C มีสระว่ายน้ำและสวนพักผ่อนด้วย แต่หากใครที่อาศัยอยู่อาคาร A ก็มีพื้นที่นั่งเล่นชิลๆรับลมบนดาดฟ้าและก็สามารถเข้ามาใช้สระว่ายน้ำในอาคาร B หรือ C ได้เหมือนกันค่ะ และสุดท้ายคือพื้นที่ระหว่างอาคารหรือพื้นที่รอบๆ ก็จัดเป็นสวนที่นั่งพักผ่อนให้ด้วยนะ โดยรวมแล้ว Facility ที่โครงการให้มาค่อนข้างครบครันและเพียงพอต่อจำนวนยูนิตที่เยอะค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 92,000 บาท/ตร.ม., 29 July 2015

  • ทำเล 8/10 – แหล่งชุมชม หาของกินง่าย อุดมสมบูรณ์ แต่ไม่ได้อยู่ในระยะรถไฟฟ้า
  • เดินทางด้วยรถ 9/10 – สะดวก ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วนหลายจุด ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – พึ่งพาสองแถวหรือแท็กซี่เป็นหลัก ห่างจาก BTS 5 กม.
  • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุมาตรฐานคุณภาพตามราคา แต่ให้มาน้อยไปหน่อย
  • แบบ 8/10 – ออกแบบสวย จัดพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.0/10 – Facility ให้เยอะ สระว่ายน้ำ 3 สระ กับ 3 อาคาร 3 Lobby พร้อมพื้นที่สวนรอบโครงการ ไม่แย่งกันถึงแม้ยูนิตเยอะ

  • MAIN CLASS
  • 7.96 / 10.00

BOTTOM LINE

Fuse จันทน์ – สาทร เหมาะกับใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นหลัก คุ้นเคยกับย่านเก่า หรือทำงานแถบสาทร นราธิวาส สีลม เน้นใช้ Facility ชอบตกแต่งห้องเอง ไม่เน้นทำเลที่ต้องติดรถไฟฟ้า มีงบประมาณ 3 – 5.5 มีกำลังผ่อนที่ 15,000-42,000 บาท/เดือน

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/