OLYMPUS DIGITAL CAMERA

รีวิวฉบับที่ 575 … วันนี้ Mr.Boom มีโอกาสได้ไปรีวิวโครงการที่พัทยาอีกหนึ่งโครงการที่มีชื่อว่า “Southpoint พัทยา” ครับ เป็นคอนโดตากอากาศ ที่ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนักที่พัทยา ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลของพัทยาได้ โดยโครงการนี้มี Developer ชื่อ “Kingdom Property” เป็นผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งอาจจะฟังไม่ค่อยคุ้นหู แต่ผู้บริหาร(และเจ้าของ)ของที่นี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือคุณ Nigel J. Cornick CEO เก่าของบริษัท Raimon Land นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันผันตัวเองมาทำธุรกิจอสังหาฯในเมืองไทยอย่างเต็มตัวแล้ว ไปดูกันว่าโครงการนี้ซึ่งเป็นโครงการแรกของ Kingdom Property จะทำออกมาได้ดีหรือไม่ ลองอ่านรีวิวนี้ดูครับ

Fact @ 11 May 2014

  • เซาธ์พอยนท์ พัทยา (Southpoint Pattaya)
  • Kingdom Property
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • ผู้รับเหมาก่อสร้าง: Bouygues-Thai
  • ผู้ออกแบบภายใน: SODA (Thailand)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เมืองพัทยา, อำเภอบางละมุง
  • คอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร 431 ยูนิต และ Serviced Apartment สูง 20 ชั้น 1 อาคาร 224 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ  30% เฉพาะจอดในช่องจอดเท่านั้น
  • ที่ดินประมาณ 4-0-79 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ประมาณปี 2558
  • Studio 30 ตารางเมตร ราคาประมาณ 2.2 – 3.4 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 41 – 87 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 61 – 97 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.8 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร และ 2.30 เมตรที่ส่วนครัว
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.2 ล้านบาทหรือประมาณ 73,333 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 100,000 บาท
  • http://www.southpointpattaya.com
  • โทร 089-167-8203

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 12.919759,100.861202

southpoint maps

แผนที่จากทางโครงการครับ

geographic maps

ที่ตั้งของ Southpoint พัทยา ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนักครับ แน่นอนว่าไม่ใช่คอนโดแบบที่อยู่ติดกับทะเลพัทยาเป๊ะๆ ไม่ใช่ว่าเดินออกจากรั้วโครงการแล้วกระโจนลงทะเลได้เลย แต่เป็นคอนโดที่ขึ้นมาอยู่บนภูเขา ซึ่งทำเลเขาพระตำหนักนี้ ด้วยความที่อยู่บนที่สูง ก็ย่อมจะทำให้คนที่อยู่บนตึกสามารถมองออกมาแล้วเห็นวิวได้กว้างกว่า ตึกที่ตั้งอยู่ระดับพื้นดินปกติ

ดูจากแผนที่ ถ้าวิเคราะห์ในเชิงภูมิศาสตร์ ตัวเขาพระตำหนักนี้จะอยู่ค่อนมาทางฝั่งตะวันออกของเมืองพัทยา ใกล้กับแหลมบาลีฮาย จะเป็นทำเลที่อยู่ไกลออกมาจากหาดพัทยา แต่จะมาอยู่ใกล้กับ “หาดราชวรุณ” แทน หรือที่คนพื้นที่มักจะรู้จักกันในชื่อหาด “Cozy Beach” เนื่องจากมีโรงแรมชื่อ Cozy Beach มาตั้งอยู่บริเวณนี้ ชื่อหาดจึงถูกเรียกตามชื่อโรงแรมไป วิวจากบนเขาพระตำหนัก ถ้าอยู่ในจุดที่สูงเพียงพอ เราจะสามารถมองลงมาเห็นชายหาดของพัทยาได้ 3 หาด ก็คือ หาดพัทยาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, หาดราชวรุณทางทิศตะวันตก และไกลๆทางทิศใต้ จะเห็นหาดจอมเทียน ทำให้ตัวภูเขาลูกนี้เป็นจุดชมวิวที่สำคัญจุดหนึ่งของพัทยาเลย

direction maps

การเดินทางไปยังคอนโด Southpoint พัทยา มีเส้นทางให้เลือกอยู่ 2 ทางหลักๆ คือ (1) มาจากถนนพัทยาใต้ หรือ (2) มาจากถนนเทพประสิทธิ์

  1. ถ้าเรามาจากกรุงเทพ จากถนนสุขุมวิท เราก็เลี้ยวขวาเข้าถนนพัทยาใต้ วิ่งตรงเข้าไปเรื่อยๆจนสุดทางก็ไปเลี้ยวซ้ายที่ถนนพัทยาสายสอง (บางคนอาจจะงงว่าทำไมเลี้ยวซ้ายได้ เพราะปกติเป็นวันเวย์ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ถนนสายสองวิ่งสวนได้ครับ) จากถนนพัทยาสายสองก็วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางขึ้นเขาพระตำหนัก ก็วิ่งต่อไปเรื่อยๆ และไปเลี้ยวเข้า ซอยเกษตรสิน 7 ซึ่งเป็นซอยที่ตั้งของโครงการครับ เส้นทางนี้ถ้าใครไม่ชอบใช้ถนนพัทยาสายสองเพราะกลัวรถติด อาจจะใช้ถนนเฉลิมพระเกียรติ (พัทยาสายสาม) แทนก็ได้ ก็จะไปถึงทางขึ้นเขาเหมือนกัน
  2. หรือถ้าเรามาจากทางจอมเทียน วิ่งสุขุมวิทขึ้นเหนือมา เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพประสิทธิ์ ซึ่งวิ่งตรงๆไปจะไปเชื่อมกับ ถนนทัพพระยา จากเส้นนั้นก็จะมีทางเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาพระตำหนักเหมือนกัน แล้วก็ค่อยไปเลี้ยวเข้าซอยเกษตรสิน 7 เหมือนกัน

ทั้งสองเส้นทางสามารถใช้เป็นเส้นทางหลักได้ทั้งคู่ ในกรณีที่อีกทางรถอาจจะติด แต่ส่วนใหญ่พัทยาใต้รถจะติดมากกว่าเทพประสิทธิ์นะครับ ลองไปขับรถดูละกันว่าตัวเองชอบเส้นทางไหน

Southpoint-GoPro-1

ทางที่ผมจะพาไป คือ ทางพัทยาใต้นะครับ เพราะคนส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกับเส้นทางนี้มากกว่า

Southpoint-GoPro-2

เลี้ยวขวาเข้าถนนพัทยาใต้เลย

Southpoint-GoPro-4

ถนนพัทยาใต้นี้สภาพบรรยากาศสองฝั่งข้างทางจะค่อนข้าง Local ครับ ไม่เหมือนกับพัทยากลาง หรือ พัทยาเหนือ ที่จะออกเป็นแนว Touristy มากกว่า เป็นแบบร้านค้า ตึกแถว แนวดั้งเดิม ความคึกคักวุ่นวายของเมืองก็จะไม่มากเท่ากับพัทยากลาง-พัทยาเหนือ (แต่ก็ยังถือว่าคึกคักอยู่นะ เพราะอยู่ใจกลางเมืองเลย)

Southpoint-GoPro-5

เจอถนนพัทยาสายสอง ก็ให้เราเลี้ยวซ้าย

Southpoint-GoPro-6

พัทยาสายสองช่วงนี้จะเป็นช่วงที่รถสามารถวิ่งสวนกันได้นะครับ แต่หลังจากเลยแยกพัทยาใต้ไปแล้ว ก็จะบังคับให้เป็น วันเวย์ เหมือนปกติ

Southpoint-GoPro-7

วิ่งไปเรื่อยๆจะเห็นป้ายทางขึ้นเขาพระตำหนักก็ให้เราวิ่งตรงไป

Southpoint-GoPro-8

เจอแยกนี้ให้ไปทางขวาครับ

Southpoint-GoPro-9

จากนั้นเราก็วิ่งตรงๆอย่างเดียว

Southpoint-GoPro-10

แล้วก็จะมาโผล่ทางขึ้นเขาพระตำหนักแล้ว

Southpoint-GoPro-11

ทางขึ้นเขานี้จะมีโค้งหักศอกอยู่ 1-2 จุด ขับรถกันระวังๆหน่อยนะครับ โดยเฉพาะพวกรถคันใหญ่ๆ

Southpoint-GoPro-12

ระหว่างทางสองด้านของทางขึ้นเขาจะยังถูกรักษาไว้เป็นพื้นที่สีเขียวอยู่

Southpoint-GoPro-13

พอขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง จะเจอกับวงเวียนหนึ่งแห่ง ให้เราเลี้ยวขวาไปทางวงเวียนครับ

Southpoint-GoPro-14

พอพ้นวงเวียนแล้วก็ให้เราเลี้ยวซ้าย ตามลูกศรในภาพ ถ้าไปช่วงนี้น่าจะมีป้ายของโครงการ Southpoint ปักอยู่เหมือนกัน

Southpoint-GoPro-15

เลี้ยวซ้ายไปเลยครับ อาจจะเห็นว่ามีหลายแยกอยู่นะครับ แต่ป้ายบอกทางค่อนข้างชัดเจนดี ในช่วงที่ผมไปนะ ถ้าหลังจากนี้ก็ต้องให้นิติบุคคลทำเรื่องปักป้ายซะหน่อย จะได้ไม่หลง

Southpoint-GoPro-16

ตรงที่เราวิ่งอยู่นี้จะเรียกว่าถนนราชวรุณครับ แต่ไม่ค่อยมีคนเรียกหรอก เพราะมันเป็นถนนเล็กๆ ระยะทางสั้นๆ ระหว่างทางจะมีป้ายซอย เขียนว่า  ซอยเกษตรสิน ก็ให้เรานับไล่ไปครับ โครงการเราอยู่ซอย 7

Southpoint-GoPro-18

เจอแล้ว ซอยเกษตรสิน 7 เลี้ยวขวาตามลูกศรเข้าไปครับ

Southpoint-GoPro-19

ในซอยนี้เป็นที่ตั้งของโครงการ แต่ไม่ใช่ว่ามีแค่โครงการ Southpoint โครงการเดียวนะครับ โครงการอื่นก็มี อย่างที่เราเห็นในรูปนี้คือ The View Condo @ Cozy Beach ครับ ตั้งอยู่เยื้องๆกับโครงการ เพราะว่าซอยนี้จัดว่าหน้ากว้างซอยค่อนข้างใหญ่ ขึ้นคอนโดมิเนียมตึกสูงได้ และอยู่ในระยะที่มองเห็นทะเลได้ชัดเจนพอสมควร

Southpoint-GoPro-20

ขับตรงเข้าซอย 7 ไปอีกหน่อยก็จะเจอกับรั้วโครงการทางขวามือครับ ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างไปได้ระดับหนึ่งแล้ว

Southpoint-GoPro-21

และถัดไปอีกหน่อยจะเจออาคารชั้นเดียวสีขาวทางขวามือ นี่คือ อาคารสำนักงานขายของโครงการครับ ซึ่งในอนาคต อาคารนี้จะถูกใช้ทำเป็นส่วนนิติบุคคลและ Club House เล็กๆ ของโครงการ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หน้าตาอาคารสำนักงานขายที่เป็นอาคารชั้นเดียว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มองจากอีกมุมหนึ่ง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ตรงกลางที่เป็นที่ว่างจะเป็น Step ขั้นบันไดแบบนี้ มีที่นั่งตรงกลาง และด้านข้าง ขอบๆ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สภาพซอยที่เราขับรถเข้ามา ที่เห็นก่อสร้างอยู่นั่นแหละครับ ที่ดินของโครงการ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เดินเข้ามาดูใกล้ๆอีกหน่อย ที่เห็นอยู่นี่คือตึก A ครับ ที่เป็นอาคารคอนโด

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ผู้รับเหมาก่อสร้างที่นี่ ใช้ Bouygues-Thai ครับ ซึ่งหลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่มีประวัติเก่าแก่ในการพัฒนาอสังหาฯเมืองไทยมาค่อนข้างยาวนาน เคยฝากผลงานเอาไว้มากมาย เริ่มมาตั้งแต่ Popular Condo และ Impact Arena ที่เมืองทองธานี ในปี 2540 จนถึงคอนโดดังๆในสมัยนี้ เช่น The River, 185 ราชดำริ, Noble เพลินจิต และ ตึกมหานคร ก็ล้วนเป็นผลงานของ Bouygues-Thai ทั้งสิ้น

01

เรื่องมาตรฐานการก่อสร้างของ Bouygues ก็คงดูได้จากโครงการเก่าๆที่เขาเคยทำมานะครับ อย่างที่ได้บอกไปด้านบน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มองจากไซต์โครงการย้อนกลับไปจะเห็นอาคาร High Rise อยู่ 2 ตึก ซ้อนกันอยู่ ตึกสีขาวคือ Cozy Beach View Condominium ครับ ส่วนตึกสีเหลืองนั่นคือ The View Condo ซึ่งทั้งสองตึกไม่ได้อยู่ติดกับโครงการ Southpoint นะครับ แต่จะอยู่เยื้องๆออกไป ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดี๋ยวจะมีแผนที่ให้ดู ซึ่งอาจจะมีผลกับการเลือกห้องของโครงการบ้าง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ส่วนด้านหน้าโครงการ มาทางทิศตะวันตก ก็จะเห็นโครงการคอนโดอีกโครงการหนึ่ง แต่อันนี้จะเป็นอาคาร Low Rise ครับ ซึ่งจะไม่ได้อยู่ซอย 7 แต่อยู่ซอย 9

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ฝั่งตรงข้ามโครงการ ยังเป็นที่ดินโล่งๆ ที่ต้นไม้ขึ้นหนาๆ ยังไม่มีการพัฒนาอะไร ถูกทิ้งร้างไว้อยู่

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ติดกับโครงการ ทางด้านทิศเหนือ มีคอนโด Low Rise อยู่หนึ่งอาคาร ชื่อว่า Casa Espana เป็นคอนโดเก่า

to beach

แล้วทีนี้พอเรามาอยู่ที่เขาพระตำหนัก ก็จะมีคำถามตามมาว่า “แล้วไปหาดยังไง?” คำตอบก็คือ โครงการจะอยู่ใกล้กับ หาดราชวรุณ หรือ หาด Cozy Beach ครับ ซึ่งหาดนี้เราสามารถเดินไปได้ อยู่ที่ระยะประมาณ 300 – 400 เมตรครับ ซึ่งจะเป็นหาดที่เราต้องเดินลงเขาไป (มีทำทางเดินไว้แล้ว)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ลองเดินไปดูที่หาดกัน จากหน้าโครงการเดินไปทางขวา (ทิศเหนือ) มุ่งหน้าออกไปยังปากซอย เกษตรสิน 7 แต่เป็นปากซอยอีกฝั่งหนึ่ง คนละด้านกับที่เราเข้ามา

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ระหว่างทางผ่านแนวที่เปล่า และแนวตึกแถวเก่าแถวนี้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ปากซอย 7 ฝั่งใกล้หาด มาถึงสี่แยกนี้ให้เราเลี้ยวซ้ายไปทางหาด (ทิศตะวันตก)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ถ้าเราไปทางทิศตะวันออก เราจะย้อนกลับไปทางลงเขา

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แต่ถ้าเราไปทางตะวันตก เราก็จะเดินลงหาด

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ระหว่างทางผ่านร้าน Family Mart และ 7-Eleven ที่เป็นร้านมินิมาร์ทใกล้ๆ โครงการ

ทางขวามือที่เห็นเป็นอาคารสีขาว นั่นคือ โรงแรมเก่าแก่ ที่เป็นที่มาของชื่อหาดแถวนี้ นั่นก็คือ โรงแรม Cozy Beach Hotel นั่นเอง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พอใกล้ๆจะถึงหาดแล้ว มองทางซ้าย จะเห็นมีเหมือนห้องแถว ร้านค้า ที่เรียงๆกันอยู่ตรงนี้ มีทั้งร้านสปา ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้นักท่องเที่ยวพอจะพึ่งพาได้บ้าง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แล้วพอเดินจนสุด ก็จะมองเห็นทะเลแล้ว เจอทางบังคับเลี้ยวซ้าย เราจะไม่เดินมาก็ได้ จะขับรถมาก็ได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ถนนตรงนี้เรียกว่า ถนนราชวรุณ ชื่อเดียวกับชื่อหาด

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มองเห็นทะเลจากบนเขา วิวก็สวยดีเหมือนกัน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จากถนนเมื่อกี๊ พอเลี้ยวซ้ายมา ก็จะเจอกับถนนเลียบหน้าหาด แต่เราจะยังมองไม่เห็นหาดนะครับ เพราะตรงนี้เราอยู่บนหน้าผา หาดอยู่ทางขวามือของภาพ ต้องเดินลงหน้าผาไปก่อน ซึ่งเขามีทำทางเดินไว้แล้ว ไม่ต้องห่วง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

บรรยากาศทางเดินริมหน้าผ้า จะสามารถมองเห็นทะเลได้จากด้านบน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มองลงไปก็สวยดีเหมือนกัน เชื่อว่าหลายๆคนคงไม่เคยเห็นทะเลพัทยาในลักษณะนี้ คือ มองเห็นทะเลจากบนภูเขา เพราะหลายๆคนอาจจะไม่เคยมาเหยียบหาดฝั่งนี้เลย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มองลงไปเห็นวิวชายหาดด้านล่าง อันนี้เป็นภาพ Panorama นะครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ด้านซ้าย มองลงไปเห็นแนวหาด ไกลๆที่เห็นสีดำๆนั่นคือส่วนผสมของหาดโคลนและโขดหินนะครับ แต่ก็มีแค่ตรงนั้นที่เห็นแหละ ส่วนอื่นก็เป็นหาดทรายตามปกติ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สามารถมองเห็นเกาะล้านจากตรงนี้ได้เลย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หน้าผาตรงนี้ ไม่ใช่ว่าจะกระโดดลงไปเลยนะครับ อาจจะตายได้ อย่ากระโดดมั่วซั่วนะเห้ย เขาทำทางลงเอาไว้ให้แล้ว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ที่ดินแถวๆนี้เป็นที่ดินส่วนบุคคลของบริษัท เกษตรสิน ครับ ปักป้ายเอาไว้ ความจริงผมก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าอาณาเขตที่ดินของเขามันใหญ่แค่ไหน แต่คือ ส่วนที่เป็นชายหาด เป็นหาดสาธารณะอยู่แล้วนะครับ เราลงไปเล่นได้แน่นอน ไม่ผิดกฎหมาย เพียงแต่จุดที่เป็นทางลงเดินลงหาดอาจจะเป็นที่ดินส่วนบุคคลนั่นเอง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ทางเดินลงหาด ทำเป็นบันไดหินไว้แบบนี้ มีราวจับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ทางลงอาจจะชันหน่อย แต่ถือว่าดีมากแล้ว สำหรับหน้าผาแบบนี้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พอเราเดินลงมาด้านล่าง เราจะเจอกับที่นั่ง, เตนท์ผ้าใบ และ ร่ม เต็มเลยครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มีเสื่อสำหรับนวดแผนไทยด้วย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

บริเวณหน้าหาดนี้ ถือเป็นแหล่งทำมาหากินของคนแถวนี้ครับ ด้วยความที่เมืองพัทยาเป็นลักษณะเหมือนเมืองท่องเที่ยว ที่มีความเป็น City ในตัว ก็ต้องยอมรับว่า ชายหาด มันก็จะไม่ได้เงียบสงบเหมือนหาดส่วนตัวแถวหัวหิน หรือ หาดภูเก็ตบางที่นะครับ มันก็จะมีความวุ่นวายแบบนี้แหละ แต่มันก็เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่หลายๆคนเขาก็ชอบการท่องเที่ยวชายหาดในลักษณะนี้ มันก็แล้วแต่คนครับว่า อยากจะได้แนวนี้หรือเปล่า

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สภาพหาดทรายในพัทยา ก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้สวยงามเหมือนกับหาดฝั่งอันดามันนะครับ แต่มันก็โอเคในระดับหนึ่ง น้ำทะเลก็ไม่ได้ใสเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นฤดูๆไปครับ ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว อย่างหน้าร้อน สภาพหาดก็จะดีหน่อย แต่ถ้าเป็นช่วงมรสุม หาดอาจจะดูสกปรกกว่า น้ำทะเลอาจจะขุ่นกว่า อันนี้ก็ต้องทำใจนะครับ ลองไปดูด้วยตัวเองครับ อธิบายไปก็คงจะไม่เห็นภาพ แต่คนที่เคยไปพัทยาบ่อยๆคงจะเข้าใจดีถึงสภาพทะเลแถวนี้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ใกล้ๆหาดนี้ เราจะมองเห็นอาคารสูงๆอยู่สองจุด ทั้งสองอันนั้นคืออาคารของ Royal Cliff Hotel Group ครับ ซึ่งก็เป็นโรงแรมที่อายุเยอะแล้วในโซนนี้เช่นกัน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หน้าหาดที่อยู่ใกล้ๆโรงแรม เขาจะมีการทำ Facilities ริมหาดขึ้นมาครับ อย่างที่เห็น คนทั่วๆไปเดินไปเขาก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปใช้นะครับ ต้องเป็นแขกโรงแรมเท่านั้น ถึงจะใช้พวกร่ม, ที่นั่ง, daybed โซนนั้นได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หาดแถวนี้น่าเล่นรึเปล่าไม่รู้ ต้องดูเอาเองครับ 😀

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

และนี่ก็จะเป็นบรรยากาศบริเวณหน้าหาด “ราชวรุณ” ครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ย้อนกลับมาดูแผนผังของสภาพแวดล้อมบริเวณนี้กันครับ สีฟ้าๆนั่นคือคอนโด Southpoint ครับ สภาพแวดล้อมก็จะประมาณนี้  เหลืองๆคือ Royal Cliff ที่เรามองเห็นจากบนหาด, สีแดงคือ Peach Hall หรือ Pattaya Exhibition Center อยู่ในพื้นที่ของ Royal Cliff ติดกับโรงแรม Sheraton ครับ


เจาะลึกตัวโครงการ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มาดูรายละเอียดโครงการกันบ้าง โครงการนี้ประกอบด้วย 2 อาคารครับ คืออาคาร A สูง 30 ชั้น (ซ้าย) ซึ่งจะเป็นส่วน Condominium ที่เขาเปิดขาย และอาคาร B (ขวา) ที่สูง 20 ชั้นที่ถูกขายยกตึก ทำเป็น Serviced Apartment ไปแล้ว โดยทั้งสองอาคารใช้นิติบุคคลอาคารชุดร่วมกัน แต่ตึก B จะมีคนบริหารจัดการเรื่องการปล่อยเช่าแยกต่างหากไป ไม่เกี่ยวกัน

*** ในรีวิวนี้ผมจะขอโฟกัสที่ตึก A เป็นหลักนะครับ เนื่องจากเราไม่ค่อยมีประเด็นที่จะต้องพูดถึงตึก B เท่าไหร่นัก เพราะไม่ได้เปิดขายให้บุคคลทั่วไป ***

southpoint - master plan

ที่ดินของโครงการมีขนาดประมาณ 4 ไร่ มีลักษณะเป็นเหมือนรูปตัว L  แบบนี้ครับ โดยที่ด้านหน้าอยู่ติดกับซอยเกษตรสิน 7 ส่วนด้านหลังติดกับซอยเกษตรสิน 5 แต่จะมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือทางด้านซอยเกษตรสิน 7 ครับ

การวาง Layout ของโครงการ วาง ตึก A ไว้ในทิศเหนือ วางตัวตึกในแนวเหนือใต้ เพื่อเปิดรับวิวทะเลที่ทางด้านแหลมบาลีฮาย ส่วน ตึก B วางไว้ทางทิศใต้ของตึก A แต่หันหน้าตึกมาทางทิศตะวันตก ตามลักษณะของที่ดิน เพื่อให้รับวิวทางด้านหาด Cozy Beach แทน และเพื่อไม่ให้ทั้งสองตึก บังวิวกันเอง หลบให้กันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ทางเหนือของตึก A มีอาคารชั้นเดียว ที่ปัจจุบันใช้เป็น Sales Office ของโครงการ ในอนาคตจะถูกโอนให้นิติบุคคล และปรับปรุงให้กลายเป็น Club House ที่จะมีสำนักงานของนิติบุคคล และมี Lounge ของลูกบ้าน ทางด้านหลังของอาคารนี้จะมีพื้นที่เปิดโล่ง ที่ตั้งใจจะทำเป็นพื้นที่สวน และ วางสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ไว้ที่ด้านหลัง ให้ลูกบ้านเดินลงจากอาคารมาใช้ได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ฝั่งทิศเหนือของตึก A จะเปิดโล่ง ไม่โดนตึก B บัง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แต่ห้องทิศใต้ของตึก A จะมองไปทางตะวันตกแล้วเจอตึก B บังวิวไว้ ซึ่งวิวด้านตะวันตกนี้จะเห็นพระอาทิตย์ตกทะเล น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มองจากหน้าโครงการเข้าไป จะเห็น Layout แบบนี้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ทางเข้าโครงการของทั้งสองตึก ใช้ร่วมกัน ซ้ายแยกไปตึก A ขวาแยกไปตึก B

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จอดรถชั้น 1-3 : ที่จอดรถของทั้งสองตึก ใช้แยกส่วนกัน ของตึก A จะสามารถจอดรถได้ชั้น 1-3 แบบเข้าซองทั้งหมด จอดได้ 30% ไม่รวมซ้อนคัน (น่าจะซ้อนคันไม่ได้ ด้วยรูปร่างตึกที่ผอม)

4-12f

Floor Plans ชั้น 4-12 : ห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 4 โดยชั้นนี้มีห้องอยู่ทั้งหมด 26 ยูนิต จำนวนนี้จริงๆแล้วก็ไม่ได้ Private นักถ้ามีคนมาพักเยอะๆ แต่สำหรับคอนโดตากอากาศแบบนี้ คาดว่าจำนวนผู้เข้าพักไม่น่าจะเต็ม ดังนั้นก็ถือว่ายูนิตไม่น่าจะมากเกินไป

ลิฟท์โดยสารมีทั้งหมด 4 ตัว และมีลิฟท์ขนของแยกต่างหากอีก 1 ตัว (ที่มีขนาดใหญ่กว่าลิฟท์ปกติ) อัตราส่วนลิฟท์ประมาณ 108:1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างโอเค สำหรับคอนโดตากอากาศ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ที่ชั้น 13/17/21 จะเป็นชั้นพิเศษ ซึ่งจะมีห้องที่ได้ระเบียงขนาดใหญ่ (มาก) อยู่ชั้นละ 4 ห้อง (ด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออกอย่างละ 2 ห้อง) แค่ตัวระเบียงอย่างเดียวก็ใหญ่ราวๆ 30-40 ตารางเมตรแล้ว

13f

Floor Plans ชั้น 13 : จะเห็นว่าที่ปลายสุดของโถงทางเดิน มีห้องที่มีระเบียงพิเศษ 4 ห้อง และจำนวนยูนิตในชั้นนี้จะลดลงเหลือ 20 ยูนิต

21f

Floor Plans ชั้น 21 : อันนี้ชั้น 21 ก็มีห้องระเบียงพิเศษเหมือนกัน จำนวนห้องในชั้นนี้มีเพียง 10 ห้องเท่านั้น ยิ่งชั้นบนๆ จะยิ่ง Private มากขึ้น และถ้าเป็น Top-Floor  ชั้น 29 จะมีแค่ห้อง Penthouse 2 ห้องเท่านั้น (ชั้น 30 ไม่มีห้อง เป็นชั้นที่มีงานระบบ สำหรับ Maintenance และ Service)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ห้องระเบียงใหญ่ อีกฝั่งหนึ่ง เมื่อดูจากโมเดล

25f

Floor Plans ชั้น 25 (Facilities) : ในชั้น 25 จะเป็นชั้น Facilities ของลูกบ้าน โดยจะไม่มีห้องพักอาศัยเลย โครงการจัดให้มีพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น พื้นที่หลักๆ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ที่เป็นสระ outdoor อยู่ทางทิศตะวันตก สามารถว่ายน้ำแล้วมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้ จากสระว่ายน้ำหลัก จะมี Deck ทางเดิน (เป็นพื้นที่ semi-outdoor) เชื่อมสระว่ายน้ำมายังอ่าง Jacuzzi ได้ ส่วนทางทิศตะวันออก ที่อยู่ตรงข้ามสระว่ายน้ำจะเป็นห้องฟิตเนสที่มองเห็นวิวด้านนอก ตรงกลางชั้นเป็นโถงลิฟท์ และนอกจากนี้ยังมี Sky Lounge เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิวด้านบนด้วย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สระว่ายน้ำแบบ Infinite-Edge Pool อยู่ด้านบน ระบบเกลือ ยาว 15 เมตร อยู่ Outdoor รับแสงแดดได้ แต่จะเห็น Deck ทางเดินที่อยู่ติดกันที่อยู่ใต้ชายคา แต่เป็นแบบ Open-air

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ฝั่งตรงข้ามของสระว่ายน้ำ ก็จะเป็นห้อง Fitness แบบผนังเปิดรับวิวตลอดแนว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จากชั้น 25 กลับลงมาที่พื้นดินอีกครั้ง นี่คืออาคารสำนักงานขาย ที่จะกลายไปเป็น Club House ให้กับลูกบ้านภายหลัง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ด้านหลัง Club House มีสระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมสระเด็ก และมีสนามเด็กเล่นกับลานอเนกประสงค์อยู่ตรงนี้ด้วย อาจจะใช้จัดกิจกรรมได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ที่ด้านบนของตึก B ก็มีพื้นที่ส่วนกลางพวก สระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส เช่นเดียวกัน อยู่ที่ชั้น 16 ของตึก ซึ่งแยกต่างหากจากตึก A ลูกบ้านตึก A ไปใช้ไม่ได้นะครับ แต่ลูกบ้านตึก B ก็มาใช้ของตึก A ไม่ได้เหมือนกัน

View

วิวที่มองออกมาจากตึกของโครงการ หลักๆแล้ว จุดที่จะมองเห็นทะเลชัดๆ ก็คือทิศเหนือ และทิศตะวันตกเป็นหลัก ส่วนทิศตะวันออก กับทิศใต้ จะมองเห็นแบบไกลๆ โดยเฉพาะทิศใต้อาจจะต้องขึ้นไปชั้นสูงๆหน่อย ผมลองขีดเส้นมาให้ดูคร่าวๆแบบนี้ครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ทิศเหนือ จะมองเห็นแหลมบาลีฮาย เห็นหาดราชวรุณทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมองเห็นหาดพัทยา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไกลๆ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ตึก B จะถูกตึก A บังวิวทิศเหนือไปเกือบหมด แต่ตึก A ก็ถูกตึก B บังวิวทิศตะวันตกไปบางส่วนเหมือนกัน แต่ตึก A อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า

ko-larn

ทิศตะวันตก มองไปไกลๆจะเห็นเกาะล้านด้วยนะครับ ระยะห่างจากตึก ถึงเกาะ วัดจาก Google ก็ประมาณ 8 กิโลเมตร ชั้นสูงๆหน่อยก็น่าจะมองเห็นได้ไม่ยากนะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ส่วนห้องทิศตะวันตกเฉียงใต้ เราอาจจะโดนบังวิวไปบ้าง จากตึกคอนโดที่อยู่ห่างออกไป แต่ก็น่าจะมีผลเฉพาะห้องที่อยู่ฝั่งทิศใต้เท่านั้น ส่วนห้องทิศตะวันตกตรงๆ น่าจะยังมองเห็นวิวทะเลอยู่

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

L6 NE view

ภาพจากทางโครงการถ่ายส่งมา: วิวชั้น 6 ทิศตะวันตก (เฉียงเหนือนิดๆ)

Level 9

ภาพจากทางโครงการถ่ายส่งมา: วิวชั้น 9 ทิศเดียวกะรูปบน

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 3 สระ ระบบเกลือ

  • ชั้น G มีสระเด็ก อยู่หลัง Club House
  • ชั้น 25 ตึก A
  • ชั้น 16 ตึก B

  • อ่าง  Jacuzzi ที่ตึก A
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ที่ตึก A และ 1 ห้องที่ตึก B
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัวที่ตึก A อัตราส่วนลิฟท์ 108:1
  • Service Lift ขนาดใหญ่ 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 30% ไม่รวมซ้อนคัน จอดในช่องจอดเท่านั้น
  • ระบบ CCTV / Access Card / Video Door Phone / Proxy Elevator

  • ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 41 ตร.ม.

    1a unit plan

     

    ห้องตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปดู เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 41 ตารางเมตรครับ Type 1A ซึ่งพื้นที่ขนาดนี้ถือว่าใหญ่เลยทีเดียว สำหรับห้อง 1-Bed ในคอนโดสมัยนี้ แต่นั่นเป็นเพราะห้องนี้ใส่ระเบียงขนาดใหญ่มาให้ เฉพาะพื้นที่ระเบียงอย่างเดียว ก็ขนาด 7 ตารางเมตรแล้ว เป็นตัวห้องจริงๆขนาด 34 ตารางเมตร แต่นั่นก็ยังถือว่าเป็นห้องที่พื้นที่เยอะอยู่ดี

    ฟังก์ชั่นของห้อง จัดมาเป็นลักษณะคอนโดตากอากาศเลย เน้นพื้นที่โซฟาดูทีวีเป็นหลัก รองมาเป็นเตียงนอน ทั้งสองส่วนถูกนำมาไว้ใกล้กับระเบียงห้อง ให้สามารถเดินออกมารับวิวที่ระเบียงได้ง่ายๆ ส่วนพื้นที่ครัวกับส่วนรับประทานอาหารไม่เน้นมาก ให้พอใช้งานได้ และใส่มาให้เป็นครัวเปิด ไม่มีผนังกั้น และห้องน้ำถูกนำไปไว้ในห้องนอน

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    First Impression เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เราจะเจอส่วนครัว กับโต๊ะรับประทานอาหารก่อน แล้วถัดไปด้านในเป็นโซฟานั่งดูทีวี ห้องนี้ขายแบบ Fully-Fitted คือให้เฟอร์นิเจอร์บางส่วนนะครับ คือ ชุดครัว, แอร์, ห้องน้ำ, เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ฟฟ้าบางส่วน

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    Video Door Phone ติดไว้ที่ทางเข้าห้อง เพิ่มระบบ Security ให้กับห้องอีกชั้นหนึ่ง กรณีที่มีคนมาหาเรา เราก็จะได้สามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าคนที่มาเป็นใคร และสามารถยืนยันตัวตนได้ ผ่านกล้องวีดีโอที่ติดอยุ่ที่ Reception ด้านล่าง และยังสามารถพูดคุยกับคนที่มาหาเรา หรือเปิดประตูล็อคให้เพื่อนเราได้ด้วย

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ระบบสวิตช์ไฟในห้องของ Schneider หน้าตาแบบนี้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    มองจากในห้องย้อนกลับไปทางประตูเข้าห้อง มองเห็นพื้นที่โดยรวมของส่วนครัว กับส่วนโต๊ะรับประทานอาหาร

    **ประตูทางเข้าห้องของจริงจะไม่ใช่ประตูกระจกแบบที่เห็นในภาพนะครับ ห้องของจริงจะเป็นประตูไม้บานทึบปกติ**

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    โต๊ะนั่งรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง อันนี้วางมาขวางทางเข้าห้องมาไปหน่อย ถ้าไม่ใส่เป็นโต๊ะกลมก็น่าจะมีพื้นที่ให้วางได้ดีกว่านี้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    มีพื้นที่เผื่อระยะถอยเก้าอี้ได้สบายๆ แต่มันจะไปขวางประตูทางเข้าเท่านั้นแหละ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ชุดครัว Built-in นี้โครงการแถมให้ครับ หน้าบานครัวเป็นลามิเนต

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่เก็บของเพียบ น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานนะ แค่บ้านตากอากาศ ไม่น่าจะต้องทำอาหารอะไรมาก ระยะพื้นถึงฝ้าของห้องนี้อยู่ที่ 2.60 เมตร แต่พื้นที่ส่วนครัวจะถูกดรอปลงมา 30 ซม. เหลือ 2.30 เมตร

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่วางตู้เย็น ใส่ขนาดนี้ได้พอดีเป๊ะ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ช่องเก็บของเหนือตู้เย็นวางตู้ Breaker เอาไว้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ไมโครเวฟรุ่น Built-in ของ Franke ชุดนี้แถมให้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่เคาน์เตอร์ครัวมีเท่าที่เห็น ใส่มาให้พอทำครัวเล็กๆน้อยๆได้บ้าง กำแพงด้านหลังติดกระจกมาให้ เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายๆ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ท้อปครัวหินสังเคราะห์ ใส่อ่างล้างจานแบบฝังเคาน์เตอร์ ยี่ห้อ Franke

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    หัวก็อกน้ำก็ของ Franke เหมือนกัน

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    เตาที่ใส่มาให้ เป็นเตา induction แบบแม่เหล็กไฟฟ้า เอามือวางได้ไม่ร้อน แต่ต้องใช้คู่กับภาชนะ Induction เท่านั้น ยี่ห้อ Franke แต่เป็นของ Schott Ceran ผลิตให้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ที่ดูดควันของ Franke

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    หัว Hood ดูดควันเป็นระบบดูดหมุนเวียน คือไม่ได้ดูดไปปล่อยนอกอาคาร แต่ใช้ระบบที่ดูดแล้วก็ปล่อยออกมาในห้องเรานี่แหละ แต่ผ่านตัวกรองอากาศเพื่อกรองกลิ่นก่อน

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นห้องของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นครัว หรือพื้นห้องนอน พื้นห้องนั่งเล่น ก็ใช้กระเบื้อง Granito ขนาด 60×60 ซม. เหมือนกันหมด

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ต่อจากส่วนครัว เดินเข้ามาด้านในต่อ จะเจอกับมุม โซฟานั่งดูทีวี

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    เพดานด้านบน ติดพัดลมไว้ให้ด้วย ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับคอนโดตากอากาศ เนื่องจากเวลาเราอยู่ริมทะเล บางทีเราก็ไม่ได้อยากอยู่แต่ในห้องนอนจริงมั้ย อยากจะเปิดหน้าต่างรับลมทะเลบ้าง แต่มันก็จะร้อน ก็ควรจะมีพัดลมในบ้านนี่แหละ เป็นสิ่งที่จำเป็น

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.60 เมตร แต่เนื่องจากฝ้าข้างบนมีพื้นที่น้อย จึงไม่สามารถซ่อกนล่องไฟ Downlight เข้าไปในเพดานด้านบนได้ บางคนก็อาจจะบอกว่ามันดูไม่สวยเท่าไหร่นะครับ แต่ทางโครงการบอกว่า ตัวกล่องนี้ ในห้องจริงจะยื่นลงมาน้อยกว่านี้ เพราะว่าห้องของจริงจะมีการตีฝ้าที่ลึกกว่าในห้องตัวอย่าง ทำให้ซ่อนกล่องไฟได้ดีขึ้น

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    แอร์ในห้องนี้เป็นระบบแอร์ฝังฝ้า ยี่ห้อ Daikin เป็นแบบนี้ทุกห้องนะครับ ไม่มีแอร์แบบ Wall Type มาให้เกะกะ ซึ่งเป็นเรื่องดีเลย

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    แต่ข้างๆแอร์ ติด Wall Sprinkler ไว้ด้วย ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ลงไปใต้ฝ้า และบนเพดานก็จะมี Pop-Up Sprinkler อีก 1 จุดครับ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ระยะดูทีวีเกือบๆ 3 เมตร ถ้าแขวนทีวีติดผนัง สามารถใส่ทีวีจอประมาณ 50-60 นิ้วได้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    วางโซฟา โต๊ะกลาง, โต๊ะข้างโซฟา, เก้าอี้เสริม ลงไปทั้งหมดแล้ว ก็ยังพอมีพื้นที่เหลือบ้าง จะจัดใหม่ก็ได้ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้ให้ตามนี้ อาจจะขยายขนาดโซฟาเพิ่มขึ้น หรือใส่เป็นโซฟาตัว L ก็ยังพอมีพื้นที่ข้างโซฟาเหลืออยู่

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ผนังห้องนั่งเล่นมีประตูเปิดเข้าห้องนอนสองด้าน

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    โดยจะเป็นประตูบานเลื่อน ที่สามารถเลื่อนเปิดออก เชื่อมพื้นที่ของห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกันได้แบบนี้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ตัวชุดบานเลื่อนที่ให้มา เมื่อเลื่อนเข้าไปเก็บในผนังแล้ว ก็ดูเรียบร้อยดีนะ ไม่ยื่นๆออกมาให้เดินเตะ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    เมื่อเปิดห้องเชื่อมกันแล้ว จะได้ผนังกระจกที่เชื่อมต่อไปจนถึงในห้องนอนเลย สามารถมองเห็นวิวภายนอกที่กว้างขึ้นได้ บานกระจกที่ระเบียงใช้เป็นกระจกแบบสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้า บานเดี่ยว เต็มบาน ไม่มีรอยต่อ เพื่อให้มองเห็นวิวได้ดีกว่า และใช้วัสดุเป็นกระจก Insulated หนา 10 มม. เพื่อกันความร้อน กันเสียงรบกวนจากภายนอก และกันลมปะทะในชั้นสูงๆ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ระเบียงด้านนอก พื้นที่ยาวเกือบๆ 6 เมตร กว้าง 1.20 เมตร เชื่อมตั้งแต่ห้องนั่งเล่นจนถึงห้องนอน พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×60ซม. สามารถวางเก้าอี้, ชุดน้ำชา, Daybed หรือใช้เป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ได้สบายๆ ใช้งานได้เต็มที่

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    รางประตูบานเลื่อนกระจก แบบ Seal ฝุ่น+เสียง และตัวมันเองทำหน้าที่เป็นธรณีกันน้ำฝนสาดเข้าห้อง แต่ตัวรางไม่ได้ฝังลงไปในพื้นลดระดับ วางอยู่บนพื้นระดับปกติ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    แผงราวกันตกแบบกระจก ให้สามารถมองทะลุเห็นวิวได้ ตัวราวกันตกนี้จะมีความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนชั้นของห้อง

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    บานกระจกมีช่องให้ลมผ่านได้ เพื่อลดแรงปะทะของลม และเพื่อให้อากาศผ่านได้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ราวจับขนาดใหญ่แบบนี้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ที่ปลายสุดของระเบียง ติดแผงกั้นสำหรับห้องเก็บ Compressor แอร์

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    เปิดประตูออกจะเป็นแบบนี้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ การวางคอมแอร์ต้องวางแบบหันหน้าคอมแอร์เข้ามาที่ระเบียง ซึ่งเป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง เพราะจริงๆแล้ว คอมฯแอร์ควรจะหันออกไปด้านนอกอาคาร ถ้าทำแบบนี้ระเบียงจะร้อน และทำให้ความน่าใช้ของระเบียงที่อุตส่าห์ทำมาใหญ่ๆมันลดลงไป

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    เข้าไปดูห้องนอนกันบ้าง พื้นที่ห้องนอนใส่เตียง 5 ฟุตเอาไว้ แต่ยังพอมีพื้นที่ด้านข้างเหลือสำหรับเตียง 6 ฟุตให้ใส่ได้ แต่ต้องเลือกฐานเตียงดีๆหน่อย เอาที่หัวเตียง/ปลายเตียงไม่ใหญ่ๆจนเกะกะ ก็น่าจะทำให้วางเตียง King Size ได้ สำหรับคนที่ชอบนอนดิ้น

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่ข้างเตียง ใส่โต๊ะหัวเตียงไปแล้วยังเหลืออีกเยอะเลย

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่ปลายเตียงแทบไม่เหลือแล้ว วางตู้ไม่ได้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ทีวีในห้องนอน ถ้าจะติด ก็เอาแขวนผนังได้อย่างเดียว แต่ผมยังกลัวว่าถ้าแขวนขึ้นไปแล้ว อาจจะเดินชนได้ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องติดหรอก

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน แถมชุดนี้มาให้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ระยะเปิดตู้เสื้อผ้า เผื่อมาให้แล้ว เปิดออกได้สบายๆ (แต่อาจจะต้องไม่ใส่โต๊ะหัวเตียงด้านนี้นะ) มีพื้นที่เก็บของในตู้อยู่พอประมาณ สำหรับการอยู่อาศัยระยะสั้นๆ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ในตู้เสื้อผ้า มีตู้เซฟเล็กๆ แถมมาให้ด้วย เพื่อความปลอดภัยอีกระดับหนึ่ง บางทีเราก็อาจจะมีของสำคัญที่ไม่อยากจะเอาติดตัวไปไหนมาไหนด้วย ก็เอาเก็บไว้ในนี้ แล้วค่อยออกไปเที่ยวข้างนอก เป็นต้น

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ในห้องนอนก็เป็นแอร์ระบบฝังฝ้าเหมือนกัน

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ทางเข้าห้องน้ำ อยู่ในห้องนอน ประตูทางเข้าห้องน้ำเขาไม่ได้ใส่มาให้ดูนะครับ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ของแปลกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ พื้นห้องนอน กับพื้นห้องน้ำ ไม่ได้กั้นด้วยธรณี และไม่มีพื้นลดระดับ แต่ใช้วิธีการเท Slope เข้าไปในห้องน้ำ ให้ไหลไปที่ท่อแทน และให้พื้นห้องนอนกับพื้นห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้องทั้งคู่ ในวันปกติธรรมดามันก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก (เดาว่าคนปกติทั่วไปคงจะไม่ได้ทำห้องน้ำเละขนาดนั้น) แต่ว่าถ้าวันไหนเกิดอยากจะล้างห้องน้ำขึ้นมาเนี่ยสิจะทำยังไง … อันนี้สำหรับคนไทยแล้วผมว่ายังไงก็น่าจะใส่ธรณี หรือ ทำพื้นลดระดับนะ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    พื้นที่ในห้องน้ำก็ถือว่าค่อนข้างมาตรฐาน ใส่ได้ 3 ฟังก์ชั่น อ่างล้างหน้า – โถสุขภัณฑ์ – Shower Box

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกับตู้เก็บของด้านล่าง ติดตู้กระจกเงามาให้เรียบร้อย

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ข้างๆมีราวแขวนผ้าเช็ดตัว/ผ้าเช็ดมือ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Parisi ของออสเตรเลีย แบบฝังเคาน์เตอร์ ซึ่งใช้ท้อปเป็นหินสังเคราะห์

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    หัวก็อกหน้าตาแบบนี้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ตำแหน่งปลั๊กไฟข้างๆอ่างล้างหน้าติดมาเตี้ยไปหน่อย ถ้าอยู่สูงกว่านี้จะดีมาก

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ตู้กระจกเงา เปิดออกมาเก็บของด้านหลังได้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    โถสุขภัณฑ์ ตำแหน่งติดตั้งดีแล้ว แต่เสียตรงที่ขนาดเล็กไปหน่อย ถ้าคนตัวใหญ่ๆ (โดยเฉพาะต่างชาติ) อาจจะนั่งไม่เต็มก้นเท่าไหร่

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    Shower Box หน้าตาให้มาอย่างที่เห็นเลย ติดกระเบื้องสีๆนำเข้าจากอิตาลี และติดฉากกั้นอาบน้ำบานกระจกสวิง แบบสูงถึงเพดานให้ด้วย จัดว่าให้ของดีเลยแหละ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ธรณีประตูด้านล่าง ไม่ได้ใช้แบบพื้นลดระดับ ต้องระวังเวลาเดินเข้าเดินออกหน่อยนะ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    มือจับประตู ฉากกั้นอาบน้ำ

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ติดฝังบัวไว้ให้ในระดับอก เพื่อให้หยิบง่าย

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ด้านบนเพดานใส่เป็น Rain Shower มาให้อยู่แล้ว

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    หน้าตาชุดหัวก็อก

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    หัวฝักบัว Hand Shower

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    ที่วางสบู่อันนี้เล็กไปหน่อย คงจะวางได้แต่สบู่ก้อน เพราะกลัวหักด้วย และเป็น Stainless บางๆ แอบรู้สึกว่าคม ผมคิดว่าถ้าใส่เป็นชั้นวางที่เป็นกระจกจะดีกว่า แล้วหาอันที่มันใหญ่ๆหน่อย ดูรับน้ำหนักได้

    OLYMPUS DIGITAL CAMERA

    Floor Drain วางอยู่ในรางรับน้ำอีกที เป็นแบบสี่เหลี่ยมแบบนี้ ดูสวยดี แต่ก็แอบแปลกใจตรงที่มันไม่อยู่ตรงมุม เพราะถ้าทำไว้ตรงกลางแบบนี้ ต้องให้ Slope มันลาดเอียงมาที่ตรงกลางนะ ถ้าทำได้ก็ดีไป ไม่งั้นน้ำจะขังอยู่ในรางรับน้ำได้

    ห้องตัวอย่าง 2-Bedroom ขนาด 61 ตร.ม.

    2b unit plan

    ห้องตัวอย่างอีกห้องหนึ่งเป็นห้อง 2-Bed ขนาด 61 ตารางเมตร ที่มีระเบียงขนาดประมาณ 10.5 ตารางเมตรมาให้ ระเบียงใหญ่อีกแล้ว ส่วนครัวก็ยังไม่เน้นเหมือนเดิม ให้มาเหมือนกับห้อง 1-Bed เด๊ะๆ แต่สิ่งที่แตกต่างจากห้อง 1-Bed เมื่อกี๊คือ ห้องนี้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่ละห้องนอนมีห้องน้ำในตัว อยู่ในห้องนอนตัวเอง เหมือนเอาห้องที่แล้วมา แล้วก็แปะห้องนอนกับห้องน้ำเข้ามาด้านข้างแค่นั้น ลองไปดูรูปกัน

    Southpoint-2bed-1

    เข้ามาในห้องก็จะเจอส่วนเดิม ห้องครัว กับ ส่วนโซฟาดูทีวี

    Southpoint-2bed-2

    พื้นที่ครัวขนาดเท่าเดิมเด๊ะ เปลี่ยนแค่สีวัสดุหน้าบาน ให้อ่อนลงหน่อย

    Southpoint-2bed-3

    ตรงกลางเป็นพื้นที่ Living Area โซฟานั่งดูทีวี ซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก ขวาเป็นห้องนอน Master Bedroom

    ระยะดูทีวีห้องนี้พอๆกับห้องที่แล้วเลย พื้นที่ตรงกลางนี้ขนาดแทบไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือ ไม่มีผนังบานเลื่อนแล้ว ใช้เป็นผนังทึบ และใส่ประตูบานสวิงแทน ทำให้ในพื้นที่เท่าเดิม เราได้พื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์ด้านทีวีที่เพิ่มขึ้น ใส่ทีวีจอใหญ่ขึ้นได้ เพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ผนัง

    Southpoint-2bed-4

    มุมนี้มองไปยังห้องนอนเล็ก

    Southpoint-2bed-5

    พื้นที่วางทีวีมีเพิ่มขึ้น แต่พื้นที่วางโซฟามีเล็กลง เพราะต้องเผื่อระยะด้านข้างโซฟา ไม่ให้ไปบังประตูห้องนอนเล็ก จะสังเกตว่าห้องนี้นำโซฟามาชิดหน้าต่างเลย และไม่มีโต๊ะข้างด้วย

    Southpoint-2bed-6

    พัดลมยังมีให้เหมือนเดิม สำหรับใช้งานยามที่ไม่อยากจะเปิดแอร์

    Southpoint-2bed-7

    ผนังกระจกบานเลื่อนของห้องนี้ดูเล็กกว่าห้องที่แล้ว เป็นเพราะว่าผนังห้องนั่งเล่นกับผนังห้องนอนไม่ได้เชื่อมกันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องบอกว่าเป็นผนังกระจกที่ใหญ่อยู่ดี เพราะถ้าเทียบกับราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว ให้มาเป็นบานใหญ่, หนา, สูงพื้นจรดฝ้า, ไม่มีรอยต่อ ถือว่าไม่ได้หาง่ายนัก

    Southpoint-2bed-8

    พื้นที่ระเบียงทั้งหมด 10.5 ตารางเมตรที่บอกตอนแรก จะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนนี้จะใหญ่ประมาณ 7 ตารางเมตร ขนาดเท่าห้องที่แล้ว แต่ข้อดีคือ ไม่มีการวาง Compressor แอร์ให้เกะกะแล้ว ระเบียงก็จะไม่ร้อน ใช้งานได้ดีกว่า พื้นที่ระเบียงยาวเชื่อมต่อตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้องนอน

    Southpoint-2bed-11

    เข้าไปดูในห้องนอนเล็กกันก่อน

    Southpoint-2bed-12

    พื้นที่ห้องนอนเล็กของห้องนี้ พอๆกับห้องนอนของห้อง 1-Bed เลย พื้นที่รอบเตียงก็พอๆกัน

    Southpoint-2bed-13

    พื้นที่ปลายเตียงเดินผ่านลำบากหน่อย

    Southpoint-2bed-14

    ด้านข้างติดหน้าต่างที่เปิดออกไปยังระเบียงได้

    Southpoint-2bed-15

    พื้นที่ข้างเตียงด้านใกล้หน้าต่าง

    Southpoint-2bed-16

    สิ่งที่แตกต่างคือห้องนี้หั่นตู้เสื้อผ้าออกเป็นสองส่วน แล้วไว้สองด้านแบบนี้

    Southpoint-2bed-17

    เปิดตู้ออกแล้วได้พื้นที่เก็บของเพียบ

    Southpoint-2bed-18

    ทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนเล็ก พื้นห้องน้ำยังคงไม่มีธรณีประตูอยู่ดี

    Southpoint-2bed-20

    พื้นที่ในห้องน้ำ เปิดเข้ามาแล้วมีอ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์ ขวาเป็น Shower Box

    Southpoint-2bed-21

    พื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ ด้านยาวพอใช้ได้

    Southpoint-2bed-22

    ด้านกว้างแคบไปหน่อย ถ้าเป็นคนตัวใหญ่ๆ ต้นขาอาจจะติดที่วางกระดาษทิชชู่ได้ อาจจะรู้สึกอึดอัดไม่สะดวกนัก

    Southpoint-2bed-23

    ราวแขวนผ้าเช็ดตัวอยู่ที่ผนังอีกด้านหนึ่ง

    Southpoint-2bed-24

    Shower Box พื้นที่ค่อนข้างโอเค ใกล้เคียงกับอีกห้องหนึ่ง

    Southpoint-2bed-26

    ต่อมาเป็นห้อง Master Bedroom อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก

    Southpoint-2bed-27

    ห้องนี้จัดแสงมาให้ดูผู้ใหญ่กว่า (แต่ของจริงเราจัดเองนะ)

    Southpoint-2bed-28

    พื้นที่ในห้องนอนใหญ่จะใหญ่กว่า สังเกตได้จากพื้นที่รอบๆเตียงที่ให้มาค่อนข้างเหลือๆ อย่างปลายเตียงนี่ก็มีพื้นที่ให้เดินผ่านง่ายๆ แต่ก็ยังไม่แนะนำให้วางตู้นะครับ

    Southpoint-2bed-30

    ข้างเตียงฝั่งนี้ วางตู้ชิดผนังแล้ว แบบนี้ยังไม่ได้เผื่อระยะให้ผ้าม่าน

    Southpoint-2bed-31

    เพราะห้องนี้ใช้ผ้าม่านแบบมู่ลี่ พับขึ้นลง ไม่ต้องมีระยะผ้าม่านให้เกะกะด้านข้าง

    ห้องนอนใหญ่นี้จะมีระเบียงในตัว สำหรับใช้งานเล็กๆน้อยๆส่วนตัว เช่น ออกไปยืนสูบบุหรี่ เป็นต้น เพราะระเบียงหลักคงจะใช้ร่วมกันที่ห้องนั่งเล่นแล้ว

    Southpoint-2bed-32

    พื้นที่ระเบียงประมาณ 3.5 ตารางเมตร กว้างประมาณ 1.20 เมตร ยาว 3 เมตร

    Southpoint-2bed-33

    ประโยชน์อีกอย่างคือ ระเบียงห้องนี้ใช้เป็นระเบียงสำหรับเก็บ Compressor แอร์เป็นหลัก จะได้ไม่ต้องไปอยู่รวมกับระเบียงใหญ่

    Southpoint-2bed-29

    พื้นที่ด้านข้างฝั่งที่ติดกับตู้เสื้อผ้า เว้นไว้ให้เปิดตู้สะดวก

    Southpoint-2bed-34

    ตู้เสื้อผ้า ให้มาเป็น 2 ชุด

    Southpoint-2bed-35

    แยกเก็บเสื้อผ้าคนละตู้ก็ได้

    Southpoint-2bed-36

    มีตู้เซฟมาให้เหมือนห้องแรก … นี่ถ้าเราแบกไปทั้งอันเลยทำไงล่ะทีนี้?

    Southpoint-2bed-37

    พื้นที่ห้องน้ำห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องน้ำในห้องนอนเล็ก

    Southpoint-2bed-38

    พื้นที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ยาวเต็มผนังเลย มีพื้นที่วางของเยอะแยะ

    Southpoint-2bed-39

    ตำแหน่งติดโถสุขภัณฑ์ดีกว่า ไม่อึดอัด มีพื้นที่ขยับตัวเยอะหน่อย

    Southpoint-2bed-40

    ห้อง Shower Box ขนาดใกลเคียงกัน

    Southpoint-2bed-41

    พื้นที่ใหญ่กว่าห้องที่แล้วนิดนึง เพราะมีส่วนที่เจอเสาแล้วเป็นผนังเว้าเข้าไป แต่ความยาวก็เท่ากัน

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 May 2014

    • อาคาร A เท่านั้น
    • Studio Type S1/S2/S3 ชั้น 4-15 เนื้อที่ 30 ตร.ม. ราคา 2.2 – 3.4 ล้านบาท หรือ 73,333 – 113,333 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type 1A/1B ชั้น 4-15 เนื้อที่ 41 ตร.ม. ราคา 3.2 – 4.7 ล้านบาท หรือ 78,048 – 114,634 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type 1C ชั้น 14-22 เนื้อที่ 49 ตร.ม. ราคา 5.1 – 6.1 ล้านบาท หรือ 104,081 – 124,489 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom Type 2A ชั้น 4-11 เนื้อที่ 61 ตร.ม. ราคา 6.0 – 7.0 ล้านบาท หรือ 98,360 – 114,754 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom Type 2B ชั้น 4-15 เนื้อที่ 61 ตร.ม. ราคา 5.8 – 7.0 ล้านบาท หรือ 95,081 – 114,754 บาท/ตร.ม.

    • Studio Type S2 ชั้น 7 ห้อง 701 เนื้อที่ 30 ตร.ม. ราคา 2.879 ล้านบาท หรือ 95,983 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type 1C ชั้น 14 ห้อง 1401 เนื้อที่ 49 ตร.ม. ราคา 5.514 ล้านบาท หรือ 112,534 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type 1B ชั้น 15 ห้อง 1515 เนื้อที่ 41 ตร.ม. ราคา 4.74 ล้านบาท หรือ 115,603 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type 1D ชั้น 22 ห้อง 2206 เนื้อที่ 60 ตร.ม. ราคา 7.704 ล้านบาท หรือ 128,404 บาท/ตร.ม.
    • 2 ฺBedroom Type 2F ชั้น 21 ห้อง 2101 เนื้อที่ 97 ตร.ม. ราคา 11.873 ล้านบาท หรือ 122,397 บาท/ตร.ม.

    • Fully-Fitted
    • เพดานสูง 2.6 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • จอง 50,000 บาท
    • ทำสัญญา 10% สำหรับลูกค้าคนไทย 20% สำหรับลูกค้าต่างชาติ
    • ดาวน์ 20% สำหรับลูกค้าคนไทย 30% สำหรับลูกค้าต่างชาติ (ผ่อนดาวน์ 21 งวด)
    • ค่ากองทุน 300 บาทต่อตารางเมตร
    • ค่าส่วนกลาง 25 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลของ Southpoint พัทยา ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนัก เป็นทำเลที่ไม่ได้อยู่ติดหาดเป๊ะๆ แต่ถอยห่างออกมาหน่อย แต่อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปหาดได้ไม่ไกลนัก โดยจะเป็นหาดราชวรุณ (Cozy Beach) ที่อยู่ในเขตเขาพระตำหนักนี่เอง จุดเด่นของตัวทำเลอยู่ที่ที่ตั้งที่อยู่บนที่สูง สามารถมองลงมาเห็นวิวทะเลได้ในมุมที่กว้างกว่าปกติ เทียบกับคอนโดนที่อยู่ระดับพื้นราบทั่วๆไป และความสงบเงียบของทำเล ที่ไม่วุ่นวายเหมือนกับหาดพัทยา หรือตัวเมืองพัทยา แต่ยังตั้งอยู่ในพัทยาอยู่ โดยความเป็นส่วนตัวที่ได้มานั้น ก็แลกมากับการที่ต้องอยู่ไกลออกมาจากตัวเมือง ต้องอาศัยการขับรถลงเขาไปจึงจะเข้าไปยังเมืองพัทยาได้ ระยะทางไม่ไกล แต่เดินไม่ถึง เพราะจะต้องเดินขึ้นเขา-ลงเขา เดินทางสะดวกสู้ทำเลที่อยู่ในเมืองไม่ได้ และมีความอุดมสมบูรณ์สู้ทำเลในเมืองไม่ได้เช่นกัน

    การเดินทางเข้าหรือออกจากโครงการ ต้องอาศัยการขับรถเป็นหลัก เช่น ขึ้นเขา-ลงเขา ออกไปร้านอาหาร ไปหาของกินในเมือง ไปห้าง ก็ต้องขับรถจึงจะสะดวก เพราะรถสองแถวก็ผ่านน้อยกว่าปกติ แท็กซี่ไม่ค่อยมี มอเตอร์ไซค์รับจ้างพอหาได้ แต่ลำพังการเดินเท้า ก็สามารถไปมินิมาร์ทใกล้ๆได้ ไปร้านอาหารใกล้ๆได้ หรือไปที่ชายหาดได้ พวกนี้ก็ไม่ต้องขับรถก็ได้ แต่อาจจะต้องทนร้อน ตากแดดหน่อย

    ตัวโครงการออกแบบมาเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ การจัดวางตึก ให้ตัวตึกสามารถรับวิวทะเลได้โดยไม่บังกันเกินไป และให้แต่ละห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ (มากบ้างน้อยบ้าง ต่างๆกันไป แล้วแต่ตำแหน่งห้อง) จัดการเรื่องความหนาแน่นมาพอใช้ได้ ที่ดิน 4 ไร่เทียบกับ 655 ยูนิต (รวม 2 ตึก) สำหรับคอนโดตากอากาศที่ไม่ค่อยมีคนมาพักพร้อมๆกันตลอดเวลา ก็ถือว่าน่าจะโอเคอยู่ แต่ทั้งนี้ต้องดูในอนาคตด้วย เนื่องจาก รูปแบบของโครงการนี้ค่อนข้างแปลก เพราะตึก A เป็นคอนโดมิเนียม แต่ตึก B ถูกนำไปทำเป็น Apartment แต่ใช้นิติบุคคลเดียวร่วมกัน โดยทั่วๆไปโครงการอยู่อาศัย และโครงการปล่อยเช่า มักจะมีรูปแบบการบริหารจัดการที่ต่างกัน จึงมักจะแยกนิติบุคคล ทีนี้ถ้ามีนิติเดียว การบริหารจัดการจะต้องทำให้ชัดเจน โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง ที่อาจจะมีปัญหากันระหว่างผู้ซื้ออยู่อาศัย กับผู้เช่า

    ห้องแต่ละห้องถูกแบ่งให้มีขนาดใหญ่หน่อย Studio เริ่มที่ 30 ตารางเมตร และ 1-Bed เริ่มต้นที่ 41 ตารางเมตร ซึ่งก็ไม่ค่อยเห็นขนาดนี้โครงการใหม่ๆแล้ว ส่วนใหญ่ 30 ตารางเมตรก็ทำเป็น 1-Bed กันเสียหมด ฟังก์ชั่นห้องเน้นการอยู่อาศัยระยะสั้นมากกว่าระยะยาว เน้นการพักผ่อนแบบตากอากาศ แต่ก็ถ้าใครจะอยู่จริงจังขึ้นมาหน่อยก็ยังสามารถอยู่ได้ โดยจะติดเรื่องครัวหน่อยที่อาจจะทำอาหารจริงจังไม่ค่อยได้นัก เพราะให้ครัวแบบเปิด

    วัสดุอุปกรณ์ในห้องส่วนใหญ่จัดว่าให้มาในเกณฑ์ที่ดี ครัวครบชุด/อ่างฝังเคาน์เตอร์/ท้อปหินสังเคราะห์/เตา Induction/หน้าต่างกระจกลามิเนต บานใหญ่(มาก)/ราวกันตกกระจก Tempered/แอร์ Daikin ฝังฝ้า/พัดลมติดเพดาน/สเป็ควัสดุห้องน้ำก็จัดมาดี มีฉากกั้นอาบน้ำแบบ Tempered Glass/อ่างล้างหน้าเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์/Rain Shower อีก ทั้งหมดนี่เกือบจะดีมากแล้ว แต่ต้องบอกว่ายังไม่สุด เพราะมันจะมีบางจุด บางมุม ที่รู้สึกว่ามันแปลกๆ หรือดูด้อยผิดปกติ เหมือนกับสะดุดขาตัวเอง เช่น ฝ้าเพดาน ที่ไม่ดรอปให้จนสุด ทำให้ซ่อนกล่องไฟ Downlight ไม่ได้, ที่ดูดควันที่ใช้แบบดูดหมุนเวียนในห้อง, หัว Sprinkle ที่ฉีดน้ำที่โผล่ออกมาข้างๆแอร์ แทนที่จะเป็นแบบ Pop-Up ทั้งหมด หรือพื้นห้องน้ำ ที่ไม่มีธรณีประตูให้ และทำเป็น Slope อย่างเดียว แต่โดยรวมก็ถือว่าให้วัสดุอุปกรณ์ในห้องมาดีทีเดียวครับ อ๋อ แต่ไม่เป็น Fully Furnished นะครับ เป็นแบบ Fully Fitted เท่านั้น

    ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็จัดให้มี Sky Facilities แยกตึก ของทั้งตึก A และ ตึก B อันนี้ถือว่าดีครับ ใช้ของใครของมัน ไม่ต้องแย่งกันระหว่างตึก แต่สำหรับตึก A อาจจะต้องแย่งใช้กันเองบ้างแต่ไม่ใช่ตลอดเวลา เป็นเฉพาะช่วง High Season ที่คนอาจจะแห่มาเข้าพักพร้อมๆกัน อาจจะมีติดขัดบ้าง และยังมีพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดที่อยู่ชั้น Ground ที่อยู่ตรง Club House ที่ยังลงไปใช้ได้อีกหน่อย สรุปคือมีมาให้น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานครับ

    Judgement

    โครงการบ้านพักตากอากาศลักษณะนี้ นอกจากจะใช้ความคุ้มค่าทางการเงินเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อแล้ว ยังต้องอาศัยความชอบส่วนบุคคล และความคุ้มค่าทางอารมณ์ในการตัดสินใจด้วย ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าในส่วนนี้ครับ

    BOTTOM LINE

    Southpoint พัทยา เป็นคอนโดที่เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศในพัทยา ไม่จำเป็นว่าต้องได้โครงการอยู่ติดทะเล ยอมถอยออกไปหน่อยแต่อยู่ในระยะที่เดินมาใช้หาดได้ เพื่อให้ราคาจับต้องได้มากขึ้น เป็นคอนชอบวิว และอยากได้คอนโดตึกสูงที่ได้วิวทะเลพัทยา มองหาห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย  ในงบประมาณระดับ 3-7 ล้านบาท

    ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ