รีวิวฉบับที่ 2155 … สวัสดีค่ะทุกคน วันก่อนเราได้ไปดูโครงการ La Habana หัวหิน จากแสนสิริ มา โครงการนี้ถือว่าเป็นคอนโดตากอากาศที่ดีไซน์จัดจ้าน (สไตล์คิวบา) เป็น Low Rise แต่การจัดวางอาคารและออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาสไตล์รีสอร์ทเลยค่ะ เราว่าจุดเด่นของที่นี่เป็นเรื่องทำเลเลย เพราะว่าคอนโดที่เปิดขายส่วนใหญ่จะอยู่อีกฝั่งของถนน แต่ที่นี่สามารถเดินไปหาดได้ (เราลองเดินมาแล้ว) และอยู่ติดกับ Cicada Market และ Tamarine Market ด้วยนะ ส่วนราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท เป็นห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ด้วย ใครที่มีแผนซื้อคอนโดตากอากาศแถวหัวหินอยู่ มาดูตึกสร้างเสร็จกันดีกว่าค่ะ

ข้อมูลโครงการ

1 November 2020

  • La Habana (ลา ฮาบานา)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ซอย หัวถนน 23 ตำบล หนองแก อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
  • คอนโด Low Rise อาคาร 8 ชั้น 3 อาคาร + อาคารสูง 2 ชั้น 1 อาคาร
    จำนวนห้องพักรวม 652 ยูนิต
    อาคาร A = 227 ยูนิต
    อาคาร B = 218 ยูนิต
    อาคาร C = 204 ยูนิต
    อาคาร D (2 ชั้น) = 3 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 34 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ 134 คันคิดเป็น 20% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 6 ไร่
  • 1 Bedroom 25 – 40 ตร.ม.
    – size S ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
    – size M ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom 49.25 – 56.25ตร.ม.
    – ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 2 Bathroom 60.75 – 98.5 ตร.ม.
    – ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ทั้งโครงการ 10x,xxx บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.เริ่มต้น 95,xxx บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 12.5339495 , 99.9652093
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ในหัวข้อทำเล เราเคยได้ทำรีวิวทำเลแบบละเอียดกันเอาไว้แล้วเมื่อปีก่อน สามารถเข้าไปอ่านหัวข้อนี้เพิ่มเติมได้ที่ > รีวิวทำเล La Habana หัวหิน

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ La Habana หัวหิน คือเป็นโครงการที่ราคาเริ่มต้น 2-3 ล้าน แต่ว่าใกล้หาดค่ะ จากที่เราลองดูคอนโดที่เปิดขายกันที่หัวหินแล้ว หรือว่าจะเป็นโครงการของแสนสิริก่อนหน้า La casita เอง โครงการนั้นจะอยู่อีกฝั่งของถนนเพชรเกษม ซึ่งการเข้าถึงชายหาดได้นั้นก็จะต้องใช้รถ จะเดินก็ดูไกลหน่อย (แต่ La Casita ก็จะมีข้อดีเรื่องใกล้ห้าง ใกล้โรงพยาบาลนะคะ ทำเลคนละแบบกัน) แต่สำหรับ La Habana หัวหิน เรามองว่าเหมาะกับคนที่อยากได้ห้องพักริมทะเล วิวอาจจะไม่เห็นชัดมากเพราะไม่ถึงกับติดหาด แต่ว่าเดินไปหาดก็ไม่ลำบากเลยค่ะ สามารถอยู่อาศัย เช้าๆเดินไปหาดได้ มีลูกก็ปล่อยลูกไปวิ่งเล่นได้ เส้นทางไม่อันตรายเลย เราลองเดินไปดูพร้อมกันนะ

พาเดินไปหาด

Image 1/8
ตัวโครงการ La Habana หัวหิน จะอยู่ติดกับซอยหัวหิน 23 ค่ะ อยู่หัวมุมถนนพอดีเลย

ตัวโครงการ La Habana หัวหิน จะอยู่ติดกับซอยหัวหิน 23 ค่ะ อยู่หัวมุมถนนพอดีเลย

รายละเอียดโครงการ

La Habana หัวหิน เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ทค่ะ รูปแบบโครงการนี้จะเป็นอาคาร Low Rise สูงไม่เกิน 8 ชั้น หลายๆอาคารวางตัวเรียงกัน โดยอาคารพักอาศัยของที่นี่จะมีอยู่ 4 อาคาร A, B, C, D และมีอาคารส่วนกลางที่เป็น Lobby อยู่ด้านหน้าค่ะ ทั้งหมดนี้จะตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 6 ไร่ รวมแล้วจะมีห้องพักอาศัยอยู่ 652 ยูนิต

แนวความคิดในการออกแบบโครงการนี้ได้หยิบเอารูปแบบของคิวบามาเป็นองค์ประกอบในโครงการ โดยแรงบันดาลใจจะมาจากเมือง Havana (ที่เดียวกับชื่อเพลงฮิตของน้องคามิลล่านั่นแหละค่ะ) เป็นเมืองที่มีสีสันจัดจ้าน ดูร้อนแรง มาผสมกับความเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลของหัวหินเป็นชื่อ Concept “The happr color of Hua Hin” ค่ะ ดังนั้นเราจะเห็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของโครงการ การออกแบบ Interior และการเลือกของตกแต่งต่างๆทั้ง Indoor และ Outdoor ที่มีสีสันสดใส ทุกจุดเดินผ่านก็สนุกสนาน ไม่ซ้ำกันเลย ได้บรรยากาศเหมือนเราไปเช่า Boutique Hotel อยู่เลยค่ะ

ก่อนจะไปดูตึกสร้างเสร็จ เราขอพาดู Master plan ของที่นี่กันก่อนนะ ใน La Habana หัวหินจะประกอบไปด้วย 4 อาคาร เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น 3 อาคาร และอาคารส่วนกลางสูง 1-2 ชั้น 2 อาคาร วางเรียงรอบนอกของที่ดิน เปิดพื้นที่กลางโครงการเป็นส่วนกลางค่ะ

โดยพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 1 กลางโครงการ ชั้น 2 (ขนานไปกับอาคาร C) และ ดาดฟ้า (ชั้น 3 ของอาคาร D) หลักๆจะเน้นไปที่พื้นที่ Outdoor เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สวน และมุมพักผ่อนใต้ร่มเงากลางแจ้ง ส่วนพื้นที่ Indoor จะอยู่ที่ 2 อาคารเตี้ย อาคารแรกจะอยู่ทางด้านหน้าเป็น Lobby และอีกจุดจะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร D เป็นฟิตเนสค่ะ

ส่วนที่จอดรถนั้นจะอยู่ที่ชั้น 1 เท่านั้น ใต้อาคาร B และ C รวมแล้วราวๆ 20% เมื่อเทียบกับอัตราส่วนของห้องพัก

เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าโครงการเลยค่ะ หน้าโครงการจะหันออกสู่ฝั่งที่เป็นทะเลนะคะ ซึ่งรอบๆอาคารก็มีการจัด Landscape เป็นต้นไม้ ป้ายโครงการก็ใช้ Font ที่ดูเก๋ไก๋ รวมกับสีเขียวของรั้วได้บรรยากาศ Tropical ดีค่ะ

ทางรถเข้า-ออกจะมีอยู่จุดเดียวค่ะ ตรงนี้ก็จะมีพี่รปภ.อยู่ ซึ่งรูปแบบของคอนโดตากอากาศนั้นจะมีความแตกต่างจากคอนโดอยู่อาศัยพอสมควร เช่น ทางเข้า-ออกก็จะไม่ได้มี Key-card ไม้กั้นกระดก แต่พี่รปภ.ที่อยู่ตรงนี้จะเป็นคนคอยดู แลกบัตรกับผู้ที่มาติดต่อให้ค่ะ

เข้ามาส่วนแรกจะเป็น Drop-off ของโครงการนะคะ หันมาทางซ้ายมือจะเจอกับต้นมะพร้าวและของตกแต่งสวนรูประฆังวางเป็นจังหวะดูเก๋ไก๋ไม่เบา

วนขวาจากวงเวียนมาก็จะเป็นทางไปยังที่จอดรถค่ะ

ที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคาร C, B เป็นหลัก รวมแล้วจะมีที่จอดรถประมาณ 20%เท่านั้นค่ะ เป็นการจอดแบบ First come first serve มาก่อนจอดก่อน เราเข้าใจว่าในคอนโดตากอากาศส่วนใหญ่คนมักจะไม่ได้อยู่อาศัยเต็ม Capacity พร้อมกันทั้งโครงการค่ะ แต่ถ้าที่จอดรถไม่พอ เราเห็นว่าถนนหน้าโครงการก็มีรถมาจอดอยู่เหมือนกันนะ ยิ่งช่วงสุดสัปดาห์ที่ Cicada Market และ Tamarine Market เปิดก็มีคนขับมาจอดด้านหน้าและด้านข้างโครงการกัน

บริการที่น่าสนใจที่เราเห็นมาคือ ที่นี่จะมี Shuttle Service เป็นรถกอล์ฟขับวนส่งที่หาดค่ะ และมีจักรยานให้บริการด้วย จากที่สอบถามมาจะให้ยืมได้รอบละ 3 ชั่วโมงนะ เอาไปปั่นไปหาด หรือจะปั่นไปซื้อของเป็นคุณแม่บ้าน หรือว่าจะปั่นเล่นชมเมืองก็ได้ค่ะ ถือว่าเป็นกิจกรรมสนุกระหว่างมาพักผ่อน โดยที่ไม่ต้องขนจักรยานมาเองนะ

กลับมาที่หน้าโครงการกันใหม่ค่ะ จาก Drop-off เราจะเจอกับอาคาร Lobby เป็นส่วนแรกเลย ตรงนี้เป็นอาคารชั้นเดียวแต่ออกแบบให้พื้นที่ภายในสูงกว่าระดับฝ้าเพดานปกติค่ะ ทางเข้าออกแบบเป็นประตูแบบ Over Scale ทำให้ทางเข้าดูอลังการดีนะ

ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะมีแนวทางเดินในร่มแบบนี้ค่ะ เราชอบตรงที่เป็นอีก layer หนึ่งที่ช่วยกรองแสงแดด ความร้อน และพรางสายตาจากคนที่อยู่ด้านหน้า ไม่ให้มองเข้ามาภายใน Lobby ได้ตรงๆ

Image 1/8
ประตูทางด้านหน้าจะตรงกับประตูทางด้านหลังพอดีค่ะ ใครที่ไม่มีธุระอะไรก็เดินตรงไปยังอาคารพักอาศัยของตัวเองได้เลย

ประตูทางด้านหน้าจะตรงกับประตูทางด้านหลังพอดีค่ะ ใครที่ไม่มีธุระอะไรก็เดินตรงไปยังอาคารพักอาศัยของตัวเองได้เลย

ฟังก์ชันภายในห้องนี้จะเป็น Lobby และมี Mail Room อยู่ค่ะ ออกแบบตกแต่งจัดเต็มมาก เราชอบการดีไซน์ที่หยิบเอาเฟอร์นิเจอร์ ลวดลายและสีสันของวัสดุ มาผสมผสานกัน ดูสนุกสนานนะคะ คลิกเลื่อนดูรูปได้นะ

Image 1/3
มองจากสระว่ายน้ำมายังอาคาร Lobby

มองจากสระว่ายน้ำมายังอาคาร Lobby

อีกฝั่งของ Lobby ออกแบบมามีแนวทางเดินเหมือนกับฝั่งด้านหน้านะคะ แต่ว่าจะเดินไปยังที่จอดรถได้ เดินไปใต้อาคาร C ได้และเดินไปยังอาคาร A ได้ค่ะ นอกจากจะเป็นทางเดินแล้ว ที่อาคารนี้ก็จะมีห้องน้ำส่วนกลางอยู่อีก 2 ห้องนะคะ

Image 1/3
สัญลักษณ์ห้องน้ำดูเก๋

สัญลักษณ์ห้องน้ำดูเก๋

ห้องน้ำตรงนี้จะเป็นห้องน้ำรวมนะคะ แต่มีห้องหนึ่งออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนพิการด้วย เหมาะกับการใช้งานของคนที่มานั่งเล่นบริเวณ Lobby ค่ะ

เราขอเดินมาทางอาคาร A นะคะ ทางฝั่งนี้จะมีมุมที่เรียกว่า Entrance Courtyard อยู่ค่ะ

ในแง่ฟังก์ชันก็จะเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor ที่เหมาะสำหรับคนที่อยู่อาคาร A มานั่งเล่น รอเพื่อนหรือครอบครัวก่อนออกไปเที่ยวเล่นได้ เราชอบการตกแต่งที่มีการนำเอาน้ำพุมาประดับ มีร่ม มีต้นไม้ เป็นบรรยากาศที่ดูแล้วสามารถมานั่งเล่นได้จริงแม้จะอยู่ในช่วงกลางวันค่ะ

เข้ามายัง Lift Lobby ของอาคาร A นะ ทุกอาคารจะมีการตกแต่งโถงหน้าลิฟต์ที่ชั้น 1 ด้วยสีสันที่ล้อไปกับ Concept ของอาคาร มีมุมนั่งเล่นเล็กๆดูสวยงาม และไม่ใช่แค่ชั้น 1 นะคะ โถงหน้าลิฟต์ที่ชั้นอื่นๆก็มีการตกแต่งเช่นกัน

หน้าลิฟต์ก็ตกแต่งด้วยกรอบไม้ ส่วนภายในลิฟต์ก็มีการตกแต่งไปในโทนสีจัดจ้านเข้ากับ Concept ของโครงการ

กลับมาดูพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางกันค่ะ เมื่อเดินจาก Lobby ออกมาจะเห็นอีกบรรยากาศนึงที่มีมุมนั่งเล่นเยอะเลย และมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางนะคะ คลิกเลื่อนดูรูปข้างล่างเพิ่มเติมได้นะคะ

Image 1/4
ระหว่างสระว่ายน้ำกับอาคาร Lobby จะมีสวนคั่นอยู่ค่ะ เวลาที่เราเดินเข้ามาจะเห็นบรรยากาศที่ค่อยๆเปลี่ยนไปนะ

ระหว่างสระว่ายน้ำกับอาคาร Lobby จะมีสวนคั่นอยู่ค่ะ เวลาที่เราเดินเข้ามาจะเห็นบรรยากาศที่ค่อยๆเปลี่ยนไปนะ

ตัวสระว่ายน้ำในโครงการนี้ก็มีลูกเล่นอยู่เหมือนกันค่ะ โดยจะออกแบบสระว่ายน้ำไว้ 2 จุดคือ ตรงกลางที่เราเห็นเลย 1 สระ ตัวสระจะมีรูปร่าง Freeform ขนาดประมาณ 800 ตร.ม.ได้ ทางฝั่งอาคาร A จะเป็นอาคารที่เริ่มห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1 ก็จะมีความพิเศษที่ยูนิตที่อยู่ชั้น 1 นี้จะเป็นห้องแบบ Pool Access ด้วยค่ะ

ส่วนอีกสระนั้นจะถูกยกระดับขึ้นมาเท่ากับชั้น 2 และอยู่ติดกับอาคาร C ทำให้ที่อาคาร C นี้ก็จะมีห้องแบบ Pool Access เช่นเดียวกันค่ะ แต่ฝั่งนี้ขนาดสระจะเล็กกว่า อยู่ที่ประมาณ 200 ตร.ม. แต่เรามองว่าจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่านะคะ

Image 1/4
มองจากสวนด้านหลัง Lobby จะเห็นว่าสระว่ายน้ำดูมีขนาดใหญ่มากเลยนะคะ

มองจากสวนด้านหลัง Lobby จะเห็นว่าสระว่ายน้ำดูมีขนาดใหญ่มากเลยนะคะ

เราจะพาเดินไปทางฝั่งอาคาร B และ D ที่อยู่ด้านหลังกันค่ะ ทางเดินก็จะมีลูกเล่นเช่นบางส่วนอยู่ในร่ม มีมุมนั่งเล่น อีกฝั่งมองเห็นน้ำตก ชั้น 2 ตรงที่เห็นเป็นหลังคาก็จะเป็นมุมสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้น 2 ค่ะ

ชื่นชมการเลือกต้นไม้มาลงในโครงการนี้เลยนะคะ ดูหลากหลายพันธุ์ ทั้งไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม หญ้า ดูร่มรื่นมากเลยค่ะ

มองจากฝั่งอาคาร C ไปยังอาคาร A ค่ะ กลางสระก็ออกแบบเป็นเกาะกลาง มีปลูกต้นไม้ดูร่มรื่น และสร้างมุมย่อยๆให้กับคนที่ใช้งานสระว่ายน้ำได้ค่ะ มุมพวกนี้ก็จะเป็นเด็กๆมาว่ายน้ำเล่นมากกว่านะ

ทางเดินยังไม่จบนะคะ ตัวโครงการลึกเข้ามาเยอะพอสมควรเลย และที่เรามองว่าเยอะเพราะการออกแบบที่ดูไม่ซ้ำกันด้วยค่ะ อย่างทางเดินต่อมาเราก็เห็น Slider ด้วยนะคะ บรรยากาศสวนน้ำเลย

สุดทางจะเจอกับอาคาร D ค่ะ อาคารนี้จะพิเศษหน่อยเพราะว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 2 เป็นยูนิตพิเศษ 2 Bedroom Balcony ได้ระเบียงใหญ่มาก (เดี๋ยวเรามีห้องตัวอย่างให้ดูนะ) และยังไม่จบ ที่ชั้นดาดฟ้าจะทำเป็น Sansiri backyard ปลูกพืชผักสวนครัวให้ลูกบ้านกิน

ตัวอาคาร D เองก็เปิดมุมมองเข้ามายังสระว่ายน้ำค่ะ มีลูกเล่นของอาคารที่บริเวณกันสาดทำเป็นรูปร่างคลื่นล้อไปกับโครงการติดทะเล

Image 1/4
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

คลิกเลื่อนดูบรรยากาศสระว่ายน้ำจากหน้าอาคาร D ได้นะคะ

Image 1/5
ห้องน้ำจะแยกชาย-หญิง และมีห้องสำหรับผู้สูงอายุหรือคนใช้ Wheelchair

ห้องน้ำจะแยกชาย-หญิง และมีห้องสำหรับผู้สูงอายุหรือคนใช้ Wheelchair

ใต้อาคาร D ส่วนหนึ่งจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยห้องน้ำฝั่งนี้จะมีทั้ง Locker ห้องสุขา ห้องอาบน้ำแยกสัดส่วนมาให้ครบเลย

Image 1/4
เข้ามาภายในจะเห็นว่าห้องถูกแบ่งเป็น 4 โซนค่ะ ทำให้การใช้งานในแต่ละโซนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะ

เข้ามาภายในจะเห็นว่าห้องถูกแบ่งเป็น 4 โซนค่ะ ทำให้การใช้งานในแต่ละโซนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะ

บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสค่ะ ด้านในถือว่าใหญ่เลยนะคะ มีอุปกรณ์ให้หลากหลายมากนะ

นอกจากมุมสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางแล้ว ระหว่างอาคารต่างๆก็ไม่ได้เว้นว่างเอาไว้ค่ะ มีการจัดฟังก์ชันอย่างเครื่องเล่นเด็กไว้ด้วย เรามองว่าเป็นคอนโดที่คนมีลูกเล็กต้องชอบแน่เลย

เราลองเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 กันบ้างค่ะ ที่ชั้นนี้อย่างที่เล่าไปก่อนหน้าจะมีสระว่ายน้ำอยู่อีกสระ โดยสระนี้จะวางตัวยาวขนาน และติดไปกับอาคาร C เลย เราสามารถเดินขึ้นจากอาคาร D ได้นะ นอกจากนั้นก็จะมีลิฟต์ของอาคาร B ที่เรากดขึ้นมาชั้น 2 ก็เดินเชื่อมออกมายังโซนนี้ได้เช่นกันค่ะ

ตรงนี้จะมีทางเดิน บรรยากาศเป็นสะพานไม้ มีต้นไม้ใหญ่สองฝั่งดูร่มรื่นเลย และมีมุมพักผ่อนจัดไว้ด้วย

บรรยากาศสระว่ายน้ำค่ะ ตัวสระจะไม่ได้ติดกับอาคารเลย แต่จะเว้นระยะไว้ เพื่อให้เป็นช่องแสงลงไปยังสวนที่อยู่ด้านล่างและช่วยเพิ่มความสว่างให้กับโซนพื้นที่จอดรถได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับห้องที่อยู่อาคาร C แบบ Pool Access ด้วยค่ะ ที่จะได้สะพานหน้าห้องเดินมาลงสระได้ ในขณะที่คนใช้งานสระว่ายน้ำก็ไม่ได้อยู่ชิดกับตัวห้อง ไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไปนะ

มาดูส่วนสุดท้าย Sansiri Backyard ที่อยู่บนดาดฟ้าของอาคาร D กันค่ะ

Image 1/4
เราชอบการจัดพื้นที่ดาดฟ้าให้เป็นสวนหรือว่าแปลงผักนะคะ มองจากอาคารรอบๆลงมาก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวด้วย ไม่ใช่หลังคาร้อนๆสะท้อนแดดเข้าห้อง

เราชอบการจัดพื้นที่ดาดฟ้าให้เป็นสวนหรือว่าแปลงผักนะคะ มองจากอาคารรอบๆลงมาก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวด้วย ไม่ใช่หลังคาร้อนๆสะท้อนแดดเข้าห้อง

คลิกเลื่อนดูบรรยากาศของ Sansiri Backyard ได้นะคะ

มาดูบรรยากาศส่วนอื่นๆในอาคารกันค่ะ ตอนนี้เราอยู่ที่ชั้น 2 อาคาร B นะ โถงหน้าลิฟต์อาคารนี้ดูโปร่งมาก มีการออกแบบภายในจัดเต็มไม่ต่างจากโถงชั้น 1 เลย

แนวทางเดินหน้าห้องพักจะมีทั้งส่วนที่เป็น Single Corridor และ Double Corridor ตรงนี้เราชอบการออกแบบที่ไม่ได้เป็นกระจกค่ะ แต่จะเว้นระยะทางเดินเข้ามาจากแนวผนัง เพื่อให้ฝนสาดน้อยลงด้วย แต่ได้บรรยากาศทางเดินที่โปร่ง โล่ง ลมพัดผ่านได้จริงๆ และเห็นพื้นที่สีเขียวระหว่างทางเดินด้วย

Image 1/5
มุมมองจาก Sansiri Backyard ไปยังสระว่ายน้ำกลางอาคาร

มุมมองจาก Sansiri Backyard ไปยังสระว่ายน้ำกลางอาคาร

คลิกเลื่อนดูบรรยากาศของโครงการนี้เพิ่มเติมได้ค่ะ รูปเยอะจริงๆ แต่ก็มีมุมสวยหลายมุมมากๆ อดไม่ได้ที่จะลงภาพให้ทุกคนดูค่ะ

วิเคราะห์ตำแหน่งห้องที่น่าสนใจจากอาคารต่างๆ

ห้อง 1 Bedroom Size S หรือว่าห้องขนาดเริ่มต้นภายในโครงการ จะเป็นห้องสีครีม-น้ำตาลอ่อน ส่วนใหญ่ห้อง Type นี้จะหันหน้าออกไปยังนอกโครงการค่ะ ซึ่งฝั่งที่มีจำนวนมากสุดจะอยู่ที่อาคาร B หันหน้าไปสู่ Tamarine Market นั่นเอง เหตุผลหนึ่งคือเรื่องวิวที่ดูจะด้อยกว่าด้านอื่น ที่พอมองเอียงๆไปสู่ทะเลหรือว่ามองมาส่วนกลางได้ และอีกเหตุผลคือเป็นโซนที่หันหน้าเข้าตลาดค่ะ ดังนั้นช่วงเวลาสุดสัปดาห์ตอนเย็นห้องที่อยู่โซนนี้ก็จะได้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในตลาดนะ เราลองไปดูก็เจอดนตรีสด เรียกได้ว่าเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้ก็จะได้ยินเสียงเพลงฟังเพลินๆเลย สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศแบบนี้ก็เหมาะค่ะ

ห้อง 1 Bedroom Size M เป็นห้องสีน้ำตาลอ่อน จะมีทั้งห้องที่หันเข้าสู่ด้านในโครงการและห้องที่หันออกค่ะ ตำแหน่งที่เราว่าดีจะเป็นโซนอาคาร A และ C ที่หันเข้าสระว่ายน้ำ ส่วนห้องที่หันเข้าแต่อาคาร B ก็อาจจะต้องเลือกห้องที่อยู่ชั้น 4-8 แทน เพื่อที่มุมมองจากระเบียงจะได้ข้ามตัวอาคาร D มายังสระได้ค่ะ

ห้อง 2 Bedroom ทั้งแบบ 1 ห้องน้ำและ 2 ห้องน้ำจะถูกเลือกวางไว้ยังตำแหน่งที่ดีสุดอยู่แล้วค่ะ มักจะเป็นห้องหัวมุมหรือว่าอาคาร B ชั้น 6-8 มองมายังสระว่ายน้ำ โซนนี้ก็สามารถมองเลยไปเห็นทะเลได้อีกด้วย รับวิวรับลมได้เต็มที่ค่ะ

คลิกเลื่อนดูผังทุกชั้นด้านล่างได้เลยนะคะ

Image 1/5
ชั้น 1 La Habana หัวหิน

ชั้น 1 La Habana หัวหิน

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ล็อบบี้
  • สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่และสระเด็ก
  • ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์
  • สนามเด็กเล่น
  • สวนส่วนกลางพร้อมพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง
  • ห้องซักผ้า
  • Free Wi-Fi ที่โถงต้อนรับและห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 109 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 113.5 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 109 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 102 : 1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 134 คันคิดเป็น 20% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card

แบบห้อง

ภายใน La Habana หัวหิน จะมีแบบห้องให้เลือกหลักๆอยู่ 3 แบบค่ะ คือ 1 Bedroom , 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom แต่ว่าในแต่ละแบบก็มีรูปแบบผังที่แตกต่างย่อยกันไปอีกเยอะเลยค่ะ และต้องขอบอกอีกครั้งว่า รีวิวนี้เรามีตัวอย่างห้องให้ดูเยอะมาก แต่จะรีวิวละเอียดใน 2 แบบหลักที่มีขายในโครงการนี้คือ 1 Bedroom Size S และ 1 Bedroom Size M ค่ะ และจะมีห้องอื่นๆให้ดู เป็นผังห้องที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย อย่างห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom Balcony เป็นห้องยูนิตพิเศษที่อาคาร D ได้ระเบียงขนาดใหญ่ เป็นห้องที่แต่งสวย วิวสวยเช่นกันค่ะ เลื่อนลงไปดูได้นะ

จุดที่น่าสนใจของโครงการจากแสนสิริในช่วงหลังคือตัวห้องที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ (Fully Furnished) มีเฟอร์นิเจอร์หลักๆในห้องให้มาครบ นอกจากตัวเฟอร์นิเจอร์แล้วก็ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง TV, ตู้เย็น และไมโครเวฟให้มาด้วยนะ

1 BEDROOM Size S

ขอพาไปดูห้องแรกกันก่อน เป็นห้อง 1 Bedroom Size S ห้องรูปแบบนี้จะมีทั้งอาคาร A,B และ C เลย ฟังก์ชันจะคล้ายกัน มีความแตกต่างเล็กน้อยที่ขนาดห้องค่ะ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2.39 ล้านบาท เป็นห้องที่หันออกยังตลาด Tamarine อยู่ที่อาคาร B ค่ะ ส่วนห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปเป็นห้องขนาด 28 ตร.ม. อยู่ที่อาคาร B แต่หันหน้าเข้าภายในโครงการนะคะ

ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คนค่ะ เป็น 1 Bedroom ที่ได้ครัวปิด สามารถทำอาหารได้ อาจจะไปซื้อของทะเลสดในยามเช้าและมาปรุงทานกันเองได้เลย แต่ว่าส่วนพักผ่อนของห้องนี้จะรวมกันหมด ทั้งมุมนั่งเล่น กินข้าว และวางเตียงนอน ถ้ามองจากผังและรูปแบบห้องที่ขายมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ จะติดเรื่องโต๊ะกินข้าวอยู่ค่ะ เพราะว่าห้องนี้จะไม่มีโต๊ะกินข้าวแบบจริงจังมาให้ แม้จะได้ครัวปิดมาก็ตาม ข้อแนะนำของเราคืออาจจะต้องหาโต๊ะหน้าโซฟาเป็นโต๊ะที่ปรับระดับได้มาใช้ และขยับเตียงให้ใกล้ฝั่งระเบียงมากขึ้นหน่อยก็จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันโต๊ะกินข้าวที่จริงจังมากขึ้นได้ค่ะ เดี๋ยวเราลองดูห้องตัวอย่างกันเลยนะคะ

เริ่มตั้งแต่ทางเข้ากันเลย ประตูห้องภายในโครงการ La Habana หัวหิน จะให้ Digital Door Lock มาค่ะ ตรงทางเข้านี้ก็จะมีลูกเล่นอยู่ตรงเลขที่ห้องที่ดีไซน์มาจาก Concept คิวบาสไตล์ Font ที่ใช้เหมือนกับ Logo โครงการด้วยดูเป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกที่เราจะเจอเลยคือห้องครัวค่ะ

พื้นที่ส่วนนี้ถูกออกแบบให้เป็นครัวปิดค่ะ กว้าง 2.00 เมตร ยาว 2.40 เมตร สูง 2.30 เมตรค่ะ

ทางเดินถือว่ากว้างขวาง เดินได้สบายนะคะ วัสดุปูพื้นส่วนครัวจะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำความสะอาด เช็ดถูคราบได้ง่ายค่ะ

บริเวณนี้เราจะได้ชุดครัวตามที่เห็นเลยค่ะ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นและไมโครเวฟด้วย ส่วนเรื่องยี่ห้อของเครื่องใช้ไฟฟ้ารบกวนสอบถามกับทางโครงการอีกครั้งนะคะ

เคาน์เตอร์ครัวจะได้แบบนี้เลยค่ะ เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันและอ่างล้างจานของ MEX ผนังด้านหลังกรุ Back Splash ให้เป็นกระเบื้องลวดลายแบบที่เห็น ส่วน Top ของเคาน์เตอร์เป็นหินควอทซ์สีขาว ซึ่งมีคุณสมบัติทนทาน กันรอยขีดข่วนได้ ทนต่อกรด ด่าง สารเคมี และดูแลรักษาง่ายค่ะ

ตู้บนและล่างสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควรเลย วัสดุปิดผิวหน้าบานตู้จะเป็นเมลามีนลายไม้นะ มี Soft Close ติดตั้งด้วย เวลาปิดจะไม่กระแทกเสียงดัง

ฝั่งตรงข้ามจะมีมุมเล็กๆขนาดประมาณ 30×90 ซม. เหมาะกับทำ Built-in เป็นชั้นวางของ หรือว่าวางเป็นตู้รองเท้าก็ได้ค่ะ

เข้ามาดูภายในห้องน้ำกันนะคะ ส่วนแรกที่เราเจอเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง

ขนาดก็กว้างอยู่ใช้งานสบาย สุขภัณฑ์ต่างๆเป็นของ Cotto ค่ะ บริเวณอ่างล้างหน้าก็มีปลั๊กไฟให้ด้วย ใครกลัวอันตรายอาจจะหาฝาครอบปลั๊กมาติดตั้งเพิ่มเติมได้นะคะ

ส่วนห้องอาบน้ำจะมีฉากกั้นกระจกให้ด้วย ถือว่าดีเลย เวลาใช้งานน้ำก็จะไม่กระเด็นหรือว่าไหลออกมาเปียกยังพื้นที่ด้านนอกนะ ภายในพื้นที่อาบน้ำก็จะกรุกระเบื้องพื้นและผนังเป็นลวดลายเข้ากับ Concept ของโครงการ มีฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ และมีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำพอดีค่ะ ในห้องตัวอย่างนี้จะได้พื้นที่อาบน้ำ 0.85×1.00 เมตร ถือว่าใช้งานกำลังดีนะคะ ฉากกั้นเป็นแบบบานเลื่อนด้วยไม่เปลืองพื้นที่ค่ะ

ระหว่างห้องครัวและพื้นที่พักผ่อนจะแยกออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ออกแบบมาพอดีกับความกว้างและความสูงของพื้นที่เลย เป็นแบบรางบนและรางล่างด้วย เวลาใช้งานก็ดูแข็งแรง ไม่ตกรางง่ายๆ จุดที่เราชอบคือรางด้านล่างสามารถเดินเหยียบได้ ไม่เจ็บเท้าค่ะ

เข้ามาภายในส่วนพักผ่อนกันบ้าง ส่วนนี้มีขนาดประมาณ 3.65×4.00 เมตร สูง 2.5 เมตรนะคะ

มุมนี้จะได้โซฟา 1 ตัวค่ะ ในกรณีที่เราอยากให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่กินข้าวด้วยก็ลองหาโต๊ะหน้าโซฟาแบบที่ปรับระดับได้มา ก็จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันกินข้าวให้กับห้องแบบนี้ได้นะคะ

ส่วนเตียงก็จะได้มาเช่นกันเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตนะ ดีไซน์จะไม่ได้เหมือนกับห้องตัวอย่าง (เดี๋ยวเรามีห้อง Standard ที่ขายมาให้ดูค่ะ)

ปลายเตียงจะเป็นผนังทึบ เหมาะกับฟังก์ชันตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง วางทีวี (ส่วนทีวีก็จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้มาเป็นมาตรฐานเช่นกัน)

ติดกับห้องนอนจะเจอกับระเบียงของห้องค่ะ ตัวระเบียงก็จะยาวเต็มหน้ากว้างของห้องเลยนะ

ห้องตัวอย่างที่ดูจะอยู่ชั้นสูงหน่อยมองจากระเบียงจะได้วิว Sansiri Courtyard และสระว่ายน้ำที่อยู่กลางโครงการ)

พื้นที่ระเบียงจะแยกส่วน Service ให้ เป็นมุมสำหรับวางเครื่องซักผ้า(มีงานระบบไฟฟ้าและประปาเดินเตรียมไว้ให้) ส่วน Condensing Unit ของแอร์ก็ยกแขวนไว้จุดเดียวกันเลย เป็นมุมที่มองจากในห้องออกมาไม่เห็นค่ะ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ระเบียงกว้าง 80 ซม.ได้ เหมาะกับการออกมายืนสูดอากาศ ชมวิวนะ อาจจะหาไม้กระถางมาปลูกมุมๆเพื่อสร้างความสดชื่นให้กับห้องพักได้

โดยรวมเรามองว่าห้องนี้เป็นห้องเริ่มต้นก็จริง แต่ขนาดไม่ได้ดูแล้วอยู่อาศัยอึดอัดเท่าไหร่ 1-2 คนกำลังดี แต่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ทำอาหารหรือทานอาหารเองเท่าไหร่ ซึ่งถ้ามองว่าหัวหินเป็นเมืองที่ของกินอร่อยๆเยอะ ไปพักผ่อนทีเราก็อยากไปกินข้าวร้านอาหารชื่อดังมากกว่า ห้องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์อยู่นะคะ

ห้อง Standard 1 Bedroom Size S

Image 1/6
ห้อง 1 Bedroom Size S

ห้อง 1 Bedroom Size S

เรามีตัวอย่างห้อง Standard มาให้ดูค่ะ สามารถดูวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้จริงจากห้องนี้ได้นะ คลิกเลื่อนดูรูปได้ค่ะ


1 BEDROOM Size M

สำหรับห้องตัวอย่างอีกแบบที่เราจะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom Size M ค่ะ เป็นอีกแปลนห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดของโครงการเช่นกัน ได้ยินมาว่าเป็นห้องที่ขายดีด้วยนะคะ ส่วนตัวมองว่าเป็นห้องที่เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น จะมาพักผ่อน 2-3 คนก็ยังได้อยู่ และภายในได้ฟังก์ชันครบ แบ่งเป็นสัดส่วนดีค่ะ

ห้องนี้จะได้เป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา ฝั่งแรกเมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ครัว ในห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดนะ แต่เรามองว่าสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้อยู่ ถัดเข้ามาจะเป็น Dining area และ Living area เชื่อมต่อไปยังระเบียงของห้อง ส่วนที่เป็นห้องนอนและห้องน้ำนั้นจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง ซึ่งทั้งฝั่งซ้ายและขวาจะแยกออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้พื้นที่ยังเชื่อมต่อกันได้ทางสายตา เวลาที่เปิดไว้ก็จะได้พื้นที่ห้องที่ดูโปร่งโล่ง แต่ถ้าปิดประตูก็จะแยกสัดส่วน ใช้งานเปิดแอร์ก็ไม่ไหลเปลืองไปพื้นที่ที่ไม่ใช้งานค่ะ

สำหรับห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3.7 ล้านบาทค่ะ แต่ถ้าเป็นห้องที่หันมาเห็นวิวสระมีราคาโปรโมชันที่ 3.99 ล้านบาท (ใครสนใจอาจจะต้องถามกับทางโครงการอีกครั้งนะคะ ทั้งนี้เป็นราคาที่เราได้จากวันที่เข้าไปยังโครงการเท่านั้นค่ะ)

มาดูห้องตัวอย่างกันค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับส่วนครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นครัวเปิดเชื่อมไปยังพื้นที่ด้านในที่เป็นโซนกินข้าว พื้นที่นั่งเล่น และระเบียง

พื้นที่ส่วนครัวนี้แม้จะเป็นครัวเปิด แต่ก็จะแยกฟังก์ชันออกจากส่วนอื่นด้วยวัสดุพื้นที่เป็นกระเบื้องค่ะ

ฝั่งขวามือจะเป็นช่องเหมาะสำหรับวางตู้เย็นนะ ส่วนผนังด้านข้างเรามองว่าจะหาชั้นวางรองเท้ามาไว้ตรงนี้ก็ทำได้เลย

ชุดครัวก็จะได้เคาน์เตอร์ ตู้เก็บของพร้อมหน้าบาน เครื่องใช้ไฟฟ้าครบ

เตาไฟฟ้าได้เป็นแบบ 2 หัว เครื่องดูดควันแบบดูดออกภายนอก และอ่างล้างจาน ทุกอย่างได้ของยี่ห้อ MEX ค่ะ

ใครที่อยากได้ครัวปิด เพื่อที่เวลาทำอาหารไม่อยากให้กลิ่นหรือควันไหลอบอวลไปทั้งห้องเรามองว่าจะติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มเติมก็ทำได้นะ

พื้นที่ส่วนถัดมาจะเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาด 2.45×3.55 เมตร สูง 2.5 เมตรค่ะ ในห้องจริงจะได้โซฟาที่เป็น Sofa Bed นะ กางออกมานอนดูทีวีได้เลย

ติดกับส่วนนี้จะเป็นระเบียงค่ะ ขนาดระเบียงกว้าง 80 ซม. แต่ยาวถึง 3.4 เมตรเลย แยกส่วน Service เข้ามุมเป็นสัดส่วน

ห้องนี้ได้วิวส่วนกลางของโครงการค่ะ ดูดีเลย

ภายในห้องก็จะมีเฟอร์นิเจอร์ให้มาครบฟังก์ชันนะคะ แต่ดีไซน์จะไม่เหมือนกับห้องตัวอย่างนะ

ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะแยกออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

เนื่องจากห้องตัวอย่างจะเป็นห้องที่อยู่หัวมุมเลยได้หน้าต่างอยู่ 2 ฝั่ง แต่สำหรับห้องอื่นๆหน้าต่างที่เห็นทางซ้ายมือจะไม่มีนะคะ ซึ่งก็จะมีข้อดีที่เราสามารถเพิ่มมุมวางโต๊ะหัวเตียงหรือว่ามุมโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย

พื้นที่พักผ่อนนี้จะมีขนาด 2.55×3.75 ปลายเตียงเหลือทางเดิน 40-50 ซม. แต่ด้านข้างเตียงถือว่ากว้างอยู่ค่ะ

หน้าต่างที่อยู่ในห้องนี้จะไม่ได้บานใหญ่มาก ตรงนี้เราชอบนะ เวลานอนแสงแดดไม่แยงตา และไม่ร้อนมากค่ะ ระหว่างเตียงและหน้าต่างก็จะมีมุมเล็กๆ ขนาดประมาณ 90×180 ซม.อยู่เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเพิ่มอีกจุด

ตัวห้องน้ำจะอยู่ด้านในค่ะ ด้านหน้าห้องน้ำเป็นพื้นที่สำหรับว่าตู้เสื้อผ้าได้

ห้องน้ำเมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าทางซ้ายมือ แต่โถสุขภัณฑ์อยู่ตรงกลาง ทั้งหมดจะได้ของยี่ห้อ Cotto

ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่ทางขวามือหลังประตูค่ะ มีประตูบานเลื่อนกระจกเป็นฉากกั้น พื้นที่ภายในมีขนาด 85×125 ซม.

ห้องตัวอย่าง 1 BEDROOM Size M แบบที่ 2

Image 1/13

ในโครงการมีห้องตัวอย่างอีกแบบให้ดูด้วยนะคะ เราเลยจะขอลงเป็น Gallery เอาไว้ เผื่อใครอยากได้เป็นไอเดียเพิ่มเติมในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ หรือตกแต่งห้องก็ลองดูได้ค่ะ คลิกเลื่อนดูรูปเพิ่มเติมได้เลย


** ดู Plan ห้อง 1 Bedroom ทุกแบบ > คลิก


2 BEDROOM 2 BATHROOM

สำหรับห้อง 2 Bedroom ที่จะพาไปดูเป็นแบบที่มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ได้ครัวปิด และได้พื้นที่นั่งเล่นที่กว้างมาก ถือว่าเป็นจุดเด่นของห้องนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ ตัวห้องได้เป็นห้องหน้ากว้าง ซึ่งเปิดวิวไปยังพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ สำหรับอาคาร B ที่เราไปดูนั้น ชั้นบนๆก็ยังเห็นวิวเป็นทะเลอีกด้วยนะคะ สำหรับห้องนี้ถ้าเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ 3-4 คนก็ถือว่าอยู่สบายเลย นอนห้องละ 2 คน ภายในห้องก็ไม่อึดอัดมาก เราลองคลิกเลื่อนดูรูปห้อง Standard จาก Gallery ด้านล่างได้ค่ะ

Image 1/11
เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าวขนาดใหญ่

เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าวขนาดใหญ่


2 BEDROOM 2 BATHROOM

ห้อง 2 Bedroom ต่อมาที่จะพาไปดูเป็นห้องหัวมุมค่ะ อยู่ที่อาคาร C ห้องนี้จะมีระเบียงที่ออกแบบเข้ามุมและดูปาดเฉียง ดูแล้วค่อนข้างแปลกตาพอสมควร เรามองว่าตัวระเบียงเป็นเหมือนพื้นที่ที่บังไม่ให้คนที่อยู่ภายนอกมองเข้ามาส่วนพักอาศัยได้โดยตรง และยังเป็นพื้นที่ที่เราสามารถไปยืมชมวิวรอบๆได้อยู่ค่ะ

ห้องนี้มีจุดที่น่าสนใจคือการแบ่งพื้นที่ Common area แยกจากห้องนอนคนละฝั่ง การจัดแบบนี้นั้นก็จะเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เปิดประตูจากห้องนอนมาเข้าห้องน้ำก็จะไม่เห็นส่วนนั่งเล่นกินข้าวโดยตรงค่ะ

Image 1/18
เข้าห้องมาทางซ้ายเป็น Common area

เข้าห้องมาทางซ้ายเป็น Common area


2 BEDROOM 2 BATHROOM Balcony

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูเป็นห้องยูนิตพิเศษ เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำที่ได้ระเบียงขนาดใหญ่มาก (ในผังที่เห็นจะไม่มีขอบเขตระเบียงให้ดู แต่ว่าขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ภายในห้องเลยค่ะ) ห้องนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 11.5 ล้านบาทนะ เราลองไปดูบรรยากาศภายในกันค่ะ เป็นอีกห้องที่ตกแต่งภายในจัดเต็มมาก

Image 1/16
เข้ามาจะเป็น Common area ค่ะ

เข้ามาจะเป็น Common area ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

1 November 2020

  • 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 8 ขนาด 28.04 ตร.ม.
    ราคาขาย 3.348 ล้านบาท หรือ 119,401 บาทต่อตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 6 ขนาด 33.97 ตร.ม.
    ราคาขาย 4.929 ล้านบาท หรือ 145,099 บาทต่อตร.ม.
  • 2 Bedroom อาคาร C ชั้น 3 ขนาด 62.52 ตร.ม.
    ราคาขาย 8.439 ล้านบาท หรือ 134,981 บาทต่อตร.ม.
  • จองและทำสัญญา 20,000 – 30,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
  • เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม.

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการตั้งอยู่ในซอยหัวหิน 23 ซึ่งเป็นจุดที่มีตลาดนัดสุดสัปดาห์ชื่อดังอย่าง Cicada market และ Tamarine market ตั้งอยู่ เป็นทำเลที่อยู่ฝั่งเดียวกับทะเล และอยู่ฝั่งเดียวกับทะเล สามารถเดินไปยังชายหาดได้ในระยะ 250 เมตร แปลว่าจุดเด่นของที่ตั้งก็คือเรื่องความอุดมสมบูรณ์และการเข้าถึงหาด เหมาะกับการสร้างเป็นคอนโดตากอากาศ หรือบ้านหลังที่ 2 ใกล้ทะเล ที่เดินไปเหยียบทะเลได้จริงๆค่ะ โดยหัวหิน 23 นี้จะอยู่โซนทางขึ้นเขาตะเกียบ อาจจะไม่ได้ใกล้ตัวเมืองมาก แต่ก็ถือว่าไม่ไกลเช่นกัน สามารถขับรถไปยังห้าง ตัวเมือง เพื่อจับจ่ายและหาร้านอาหาร ของกินขึ้นชื่อได้ไม่ยาก

ทางโครงการจะมี Service เกี่ยวกับการเดินทางให้ด้วยคือ 1. Shuttle car ขับไปส่งที่หาด และ 2. บริการให้ยืมจักรยาน รอบละ 3 ชั่วโมงค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
จุดเด่นอีกอย่างของ La Habana หัวหินคือการออกแบบ ด้วยแนวคิดที่นำเอากลิ่นอายและเอกลักษณ์จากเมือง Havana ในประเทศคิวบามาใช้ ทำให้ภายในโครงการมีสีสัน และลวดลายเยอะมาก ได้บรรยากาศที่สดชื่นแต่ก็คงความ Tropical เมืองร้อนเอาไว้ ดูสนุกสนาน ซึ่งเราชื่นชมแสนสิรินะคะ เพราะการที่จะออกแบบองค์ประกอบเยอะๆทั้งลวดลายและสีสันให้ออกมาลงตัวนั้น ทำได้ค่อนข้างยาก ถ้าเลือกสีผิดเฉด หรือลายกระเบื้องผิดขนาด ภายในโครงการแทนที่จะดู Stylish อาจจะออกมาดูไม่สวยได้ง่าย ซึ่งโครงการนี้ทำออกมาได้ดีเลย เทียบกับ Boutique Hotel ได้สบายๆ

ส่วนพื้นที่ใช้สอยนั้น สัดส่วนพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาก็ถือว่าเยอะ ในส่วนของตัวห้องนั้นก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้ง 1 Bedroom size S ที่เหมาะกับการมาพักผ่อน 2 คน หรือว่า Size M และแบบ 2 ห้องนอนที่มาพักอาศัยกันเป็นครอบครัวหรือชวนเพื่อนฝูงมาพักผ่อนด้วยได้

วัสดุ :
โครงการนี้ถือว่าได้วัสดุภายในห้องตามมาตรฐาน พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้และลามิเนต ได้ชุดครัว Built-in ครบชุดพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานของ Mex ในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ของ Cotto แต่สิ่งที่น่าสนใจคือรูปแบบห้องที่ขายเป็น Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆครบเลย พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง ทีวี ตู้เย็นและไมโครเวฟด้วยค่ะ ถ้าซื้อห้องแล้วขี้เกียจตกแต่งก็มานอนเล่นพักผ่อนได้อยู่นะ

สาธารณูปโภค :
ถือว่าจัดเต็มมาก สระว่ายน้ำก็มีอยู่ 2 โซน ลูกเล่นต่างๆอย่างน้ำตก น้ำพุ Slider ดูแล้วเหมือนอยู่สวนน้ำ และที่ต้องเรียกว่าสวนน้ำก็เพราะว่ามีสวนจัดเต็มรอบๆและกลางสระว่ายน้ำด้วยค่ะ นอกจากส่วนกลางที่อยู่ Outdoor ที่เป็นสระว่ายน้ำและมุมนั่งเล่นพักผ่อนหลายจุดแล้ว ส่วนกลางที่อยู่ Indoor ก็ออกแบบมาใหญ่และดีไซน์โดดเด่นไม่แพ้กัน ตั้งแต่ Lobby บริเวณทางเข้า Mail room ห้องน้ำ ฟิตเนสต่างๆ ไม่มีจุดไหนที่ดรอปเรื่องดีเทลการออกแบบเลยนะ นอกจากนั้นก็ยังมี Sansiri Backyard ที่ปลูกพืชผักสวนครัวให้ลูกบ้านได้รับประทานผักสดอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าส่วนกลางจัดเต็มและออกแบบมาเหมือนอยู่ในรีสอร์ทดีๆเลยค่ะ

Judgement

สำหรับโครงการนี้เราขอไม่ให้คะแนนนะคะ เนื่องจากเป็นคอนโดตากอากาศ คนที่ซื้อย่อมมีหลายปัจจัยที่ใช้ตัดสินใจ ทั้งเรื่องงบประมาณ ความคุ้มค่า ทำเล รวมไปถึงสไตล์ในการออกแบบซึ่งเรื่องสไตล์นี้ก็ถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลที่เราไม่สามารถตัดสินแทนผู้ซื้อได้ค่ะ

BOTTOM LINE

โครงการ La Habana หัวหิน เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดตากอากาศในหัวหิน ชอบทำเลที่เดินไปหาดได้ ใกล้ตลาดและไม่ไกลจากตัวเมือง ชอบในคอนโดที่มีสไตล์จัดจ้าน มีส่วนกลางหลากหลาย ออกแบบสวยน่าใช้งาน ในโครงการนี้มีห้องให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก 25 ตร.ม. 2.39 ล้านบาท ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่ เกือบ 100 ตร.ม. ราคาหลักสิบล้านบาท ดังนั้นจึงเหมาะกับคนหลากหลายกลุ่มค่ะ


ThinkLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc